หลังจากที่ Life Plankton Essence ได้สร้างกระแสจนแบรด์ Biotherm กลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมาในเดือนมกราคม ปี 2016 นี้ก็มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง Biotherm : Life Plankton Mask มาให้เราได้เสียเงินกันอีกแล้ว ว่าแต่มาสก์นี้ต่างจากเอสเซนส์อย่างไร ควรค่าแก่การเสียเงินหรือไม่ มามะ มาอ่านรีวิวกัน หรือใครอยากดูแบบวีดีโอก็จิ้มชมได้ตามสะดวกเลยฮะ

ปูเป้ได้มาสก์กระปุกมานี้มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเรียกว่าเป็นกระปุกแรกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยความเห่อก็รีบลองและใช้เกือบทุกวันจนใกล้จะหมดกระปุกแล้วจึงต้องรีบมาทำรีวิวก่อนที่เกลี้ยง!!!

Product’s Formula

ส่วนประกอบหลักของ Biotherm : Life Plankton Mask (75ml / 2,100 Baht) นั้นไม่มีอะไรแตกต่างจาก Biotherm : Life Plankton Essence เลย ยังคงยืนพื้นที่สารสกัดจากแพลงก์ตอนแบคทีเรียในน้ำแร่ร้อน หรือ Life Plankton ความเข้มข้น 5% ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างสารแอนติออกซิแดนท์ตามธรรมชาติของเซลล์อย่าง Manganese Superoxide Dismutase เพื่อปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระทั้งภายในและภายนอกอย่างเช่นรังสี UV และยังรวมไปถึงคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและการระคายเคืองที่ปูเป้ยอมรับว่ามันเวิคร์จริง ๆ และยังมี Adenosine เป็นสารตั้งต้นที่สำคัญต่อการสร้างพลังงานของเซลล์ผิวใหม่ และช่วยลดเลือนริ้รอย (สามารถย้อนไปอ่านรายละเอียดได้ที่รีวิว Biotherm : Life Plankton Essence )

ขอเสริมข้อมูลให้เล็กน้อยเพราะว่ามีคนเคยมาถามเอาไว้ว่า จะใช้ Life Plankton คู่กับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียได้ไหม? เพราะเห็นว่า Life Plankton เป็นแบคทีเรียเหมือนกัน กลัวว่าใช้คู่กันแล้วมันจะไปฆ่า Life Plankton ทำให้ไม่ได้ผล

อันนี้ไม่ต้องกังวลเลยเพราะว่า Life Plankton ไม่ใช่ตัวแบคทีเรีย Life Plankton ไม่ได้มีชีวิตอยู่ เจ้า Life Plankton ในผลิตภัณฑ์นี้เป็นเพียง Biomass ที่อยู่รอบเซลล์ของแบคทีเรียที่ปั่นแยกออกมาและทำให้บริสุทธิ์แล้ว ดังนั้นจึงใช้คู่กับส่วนผสมต้านแบคทีเรียได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยล่ะ

สิ่งที่แตกต่างกันหลัก ๆ เลยคือ Biotherm : Life Plankton Mask มีรูปแบบของเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิด Hydrogel ซึ่งทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่านี่เป็นไฮโดเจลแบบ Time-Release ด้วยเทคโนโลยีการหุ้มส่วนผสมของสารออกฤิทธิ์ไว้ในแคปซูลขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ทำให้การปล่อยสารสำคัญออกมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า

เนื้อมาสก์จะมีชิมเมอร์วิ้ง ๆ ประกายทอง ๆมาด้วย ซึ่งอาจจะใส่มาเพื่อให้เอฟเฟคเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวในทันที คือมาพิจารณาดูเนื้อเจลแล้วมันก็ดูสวยดีนะ แต่ไปใส่สารที่มันมีประโยชน์กับการบำรุงผิวมาแทนน่าจะดีกว่า

มาสก์ตัวนี้ยังคงมีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกับเอสเซนส์ ดังนั้นใครที่คุ้นเคยแล้วก็คงจะรู้สึกเฉย ๆ แต่ใครที่เป็นมือใหม่ไม่เคยลองใช้ก็ต้องทำใจกับกลิ่นหอมตุ่ย ๆ นิดนึงนะฮะ

Ingredients : Aqua/Water, Glycerin, Alcohol Denat., Dimethicone, Butylene Glycol, Tin Oxide, Carbomer, Dimethiconol, Sodium Hydroxide, Adenosine, Disodium EDTA, Caprylyl Glycol, Vitreocilla Ferment, Phenoxyethanol, CI 77891 / Titanium Dioxide, Mica, Linalool Geraniol Limonene, Citronella, Benzyl Alcohol, Benzyl Benzoate, Benzyl Salicylate, Parfum/fragrance (F.I.L. B178835/1).

 

Usage & Result


ทางแบรนด์ยังมีการออก Life Plankton Mask Applicator ซึ่งเป็นแปรงซิลิโคนที่ทาง Biotherm มีขายแยกเอาไว้ให้ (อันละ 300 บาท) สามารถใช้แปรงจุ่มลงไปในกระปุกแล้วปาดจากกึ่งกลางใบหน้าออกด้านข้างได้เลย เขาบอกว่าการจิ้มแปรงลงในกระปุก 1 ครั้ง เท่ากับ 1 โดส (แต่ไม่ได้หมายความว่าการใช้ 1 ครั้งจะใช้แค่ 1โดสนะ เพราะปูเป้จิ้มมันประมาณ 2 – 3 ครั้งได้ถึงจะฉ่ำผิวสะใจ) แปรงซิลิโคนนี้นุ่มนวลกับผิวดีและมันทำความสะอาดง่ายกว่าแปรงที่เป็นขน ๆ โอเคมาก ๆ เลยล่ะ แต่ถ้าไม่มีแปรงอันนี้ก็สามารถใช้นิ้วมือเกลี่ยวมาสก์ให้ทั่วใบหน้าบาง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาโดยปริมาณในการใช้แต่ละครั้งของปูเป้นั้นอยู่ขนาด 1 ผลเชอรี่ขนาดเล็ก

มาสก์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้เป็น Leave-on mask ไม่ต้องล้างออก สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ในขั้นตอนหลังจากลงเอสเซนส์หรือเซรั่มเป็นชั้นบาง ๆ แต่ส่วนตัวปูเป้ใช้เป็น Sleeping Mask ในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวตอนกลางคืนเป็นประจำทุกวันและรู้สึกแฮปปี้กับมันทีเดียว ปูเป้พบว่า Life Plankton Mask เด่นมากในเรื่องของการให้ความรู้สึก Soothing ผิว และการให้ความชุ่มชื่นที่ยาวนานและดีกว่า Life Plankton Essene จากการใช้เทียบกันคนละครึ่งหน้า ช่วงที่หน้ารู้สึกขาดความชุ่มชื่นเพราะนอนน้อยหรือทายาสิว ตรงที่ทา Mask จะยิบ ๆ ใช้ได้เลย (และยิบ ๆ นานด้วย) แต่ว่าตื่นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกว่าผิวมันชุ่มชื่นกว่า ส่วนในเรื่องการการลดการระคายเคือง ลดรอยแดง การอักเสบ ปูเป้พบว่าทั้ง Life Plankton Mask และ Life Plankton Essence ไม่ได้เห็นผลที่แตกต่างกัน

ทาให้ฉ่ำ ๆ ประมาณนี้ รอให้เซ็ทตัวแล้วก็ไปนอนได้เลยฮะ

 

ข้อดีของ Life Plankton Mask ที่ปูเป้ชอบคือมันเป็น Leave-on mask ที่เนื้อสัมผัสทำออกมาได้ดี คือฉ่ำผิวเมื่อแรกทา (ฉ่ำประมาณในรูปด้านบนนี้) แต่เมื่อเซ็ทตัวแล้วจะเป็นเหมือนชั้นบางๆ บนผิวที่ไม่เหนอะหนะเลอะเทอะติดหมอน และไม่เป็นขุยเจลด้วย (เมื่อใช้ในปริมาณที่แนะนำนะฮะ ถ้าปาดหนักมากก็มีเหนียว ๆ เหมือนกัน) ซึ่งที่กล่าวมาเป็นปัญหาของ Sleeping Mask หลายตัวที่เคยลองมาเพราะมันทำให้หมอนและผ้าห่มพินาศมากเนื่องจากเราเป็นคนที่จะพลิกไปมาเพื่อหาท่าจะหลับในวันนั้น ๆ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

สำหรับคำถามว่าจำเป็นไหมที่จะต้องใช้ Life Plankton Mask คู่กับ Life Plankton Essence?

ปูเป้คงจะไม่พูดคำว่า “จำเป็น” แต่จะบอกว่ามัน “สามารถใช้ได้” มากกว่านะ คือถ้าคุณใช้ Life Plankton Essence อยู่แล้วและแฮปปี้กับมันดี อยากจะใช้ Life Plankton Mask เสริมไปสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ทำได้ หรือจะใช้เป็น Sleeping Mask คู่กันทุกวันก็ได้อีกเหมือนกัน แต่ถ้าจะไม่ใช้ก็ไม่ได้ผิดอะไร

หรืออีกทางเลือกนึงคือจะใช้ Life Plankton Essence กลางวัน และใช้ Life Plankton Mask ในตอนกลางคืนเพราะมันชุ่มผิวมากกว่า เหมาะกับตอนกลางคืนมากกว่าก็ทำได้

หรือจะผันตัวมาใช้แต่ Life Plankton Mask อย่างเดียวเลยเพราะสะดวกที่ใช้ในรูปแบบของ Sleeping Mask มากกว่า Essence ก็ทำได้อีกเหมือนกัน (ปูเป้เลือกแบบหลังเพราะว่าปกติแล้วมีเอสเซนส์น้ำตบผิวที่ชอบและใช้ประจำเยอะแล้วล่ะ)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

นอกจากนี้ Life Plankton Mask ยังสามารถเอาไปแช่เย็นก่อนใช้เพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายผิวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวที่ตากแดดมาทั้งวันมีการสะสมความร้อนไว้ หรือผิวที่รู้สึกระคายเคืองก็ได้ความเย็นไปจะรู้สึกสบายขึ้น ถ้าใครมีทักษะในการนวดหน้า อาจจะใช้ Life Plankton Mask เป็นขั้นตอนหลังจากลงเอสเซนส์น้ำ นวดหน้าเสร็จแล้วค่อยเอาทิชชู่ซับส่วนเกินออก หลังจากนั้นก็ลงบำรุงตามขั้นตอนปกติได้เลย

Conclusion

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

โดยสรุปแล้ว Biotherm : Life Plankton Mask  เป็นมาสก์ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดี แถมยังเด่นในเรื่องของการปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ เสริมการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ แถมพ่วงคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยมาอีกเล็กน้อย เนื้อผลิตภัณฑ์ทำออกมาได้ดี ฉ่ำผิวแต่เซ็ทตัวแบบไม่เหนอะหนะเลอะเทอะ ผลหลังการใช้น่าพึงพอใจ ผิวชุ่มชื่นขึ้น แข็งแรงขึ้น ยืดหยุ่น และรอยแดงหรือรอยกดสิวก็แห้งตกสะเก็ดไว

สิ่งที่เราคิดว่าเขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้คือเพิ่มส่วนประกอบหลักขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนมากขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ คือการใช้ระบบนำพาสารที่แตกต่างกับตัวเอสเซนส์มันก็ฟังดูดีนะ แต่ถ้าไม่บอกเราก็ไม่รู้ หรือถึงรู้แล้วเราก็ต้องมานั่งคิดอยู่ดีว่าเราจะจ่ายเงินในปริมาณต่อหน่วยที่มากกว่าเพื่อระบบนำพาที่ดีขึ้นรึเปล่า? และสิ่งที่เราไม่ชอบเลยก็คือชิมเมอร์ คือเราว่ามันไม่มีประโยชน์อ่ะ ถึงจะบอกว่าให้เอฟเฟคผิวกระจ่างใสในทันที แต่นี่เราทาเสร็จแล้วไปนอนเราจะไปเป็นนารีกระจ่างให้ใครดู? คือใช้แล้วชอบนะ แต่มันก็มีจุดที่ขัดใจ แบบถ้าไม่มีตรงนี้หรือเพิ่มอะไรตรงนั้นมาบ้างเราว่ามันจะเก๋กว่านี้ล่ะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

 ***Sponsored Item***

– Biotherm Life Plankton Mask

Biotherm : Life Plankton Mask
Formula
Gentleness
Sensory
Result
PuPe Love It
Pros
  • เนื้อสัมผัสดี เซ็ทตัวค่อนข้างไว เมื่อแห้งแล้วจะไม่เหนอะหรือเลอะเปื้อนปลอกหมอน
  • ลดการระคายเคืองอักเสบของผิวได้ดี รู้สึกสบายผิวหลังใช้
  • ผิวรู้สึกชุ่มชื่นจนถึงเช้า
Cons
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
  • ไม่มีส่วนผสมใหม่ ๆ
  • มีชิมเมอร์ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็น
4.0Overall Score