หากใครที่ยีงพอจะจำได้ ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่แบรนด์ Dove เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้นเริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว อย่าง Dove Beauty Bar ที่มีส่วนผสมของ Moisturizing Milk ถึง 1 ใน 4 ส่วน และในปี 2012 นี้ Dove ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ Body Wash ใหม่ที่นำเสนอเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าในการคงความชุ่มชื้นให้ผิวระหว่างอาบน้ำ

ในชีวิตประจำวันของเราต้องเจอกับสิ่งสกปรก มลภาวะ ฝุ่นละออง คราบเหงื่อไหล และคราบมันทั้งจากไอน้ำมันภายนอกและน้ำมันที่ผิวผลิตขึ้นมาเอง การทำความสะอาดผิวจึงเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อการมีผิวสุขภาพดี โดยตัวที่ทำหน้าที่ในการดึงสิ่งที่ตามปกติไม่ละลายน้ำอย่างเช่นพวกน้ำมันต่าง ๆ ให้สามารถลอยหลุดติดออกมากับน้ำได้ก็คือ “สารลดแรงตรึงผิว” หรือ “Surfactants” (ซึ่งปูเป้จะขอเรียกง่าย ๆ ว่าสารทำความสะอาด หรือ Detergent ละกัน)

แต่เดิมทีในสมัยโบราณนั้นการทำความสะอาดจะใช้สบู่ก้อนแบบโบราณที่เกิดจากการต้มไขมันกับด่าง (Soap) ซึ่งมีค่าความเป็นด่างสูงและมีโอกาสทำให้ผิวแห้งจึงและระคายเคืองหลังใช้ จึงมีการพัฒนาเพื่อค้นหาวิธีในการทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและรบกวนผิวให้น้อยที่สุด หรือแม้แต่เพิ่มคุณสมบัติในการบำรุงผิวในขณะทำความสะอาดลงไปด้วย

ทำไมการทำความสะอาดจะต้องอ่อนโยน? สารทำความสะอาดมีบทบาทอย่างไร?
การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ “ผิวชั้นนอก” หรือ “Stratum Courneum” (SC) ของเรานั้นเป็นกลไกปกป้องผิวทางชีวภาพที่มีความสมดุลอันละเอียดอ่อนอยู่ ผิวของเราจะประกอบไปด้วย เซลล์ Corneocytes ที่เปรียบเสมอกับ “ก้อนอิฐ” และเชื่อมต่อกันด้วย Intercellular Lipids ที่เปรียบเสมือน “ปูน” ทั้งหมดนี้รวมตัวกันเสมือนกำแพงที่บางเท่าแผ่นฟิลม์เพื่อช่วยปกป้องผิวของเราจากสิ่งรบกวนภายนอกและกันการระเหยออกของน้ำและความชุ่มชื้นภายใน

ผิวชั้นนอกสุดของเราประกอบไปด้วยโปรตีนจำนวนมากถึง 75% โดยโปรตีนส่วนใหญ่อยู่ในรูปของ “เคราติน” หรือ “ก้อนอิฐ” ส่วนโปรตีนอื่น ๆ จะอยู่ในรูปของ “ไกลโคลโปรตีน” ที่ช่วยในการยึดติดกันระหว่างเซลล์ กับ “เอนไซม์” ต่าง ๆ ที่ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว หรือแม้แต่การสังเคราะห์ “เซราไมด์” (Ceramide) ที่เป็นหนึ่งใน Lipid ที่สำคัญต่อความแข็งแรงของผิวชั้นนอก

Lipid หรือน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว เป็นส่วนประกอบประมาณ 15% ของผิวชั้นนอก โดยส่วนใหญ่เป็น เซราไมด์ (Ceramide) 45% กับ คลอเรสเตอรอล (Cholesterol) 24% กับ กรดไขมัน (Fatty Acid) 11% และ Cholesterol Esters อีก 18% ซึ่ง Lipid เหล่านี่จะเรียงตัวกันกันเป็นแผ่น 2 ชั้น (Lipid Bilayer) และซ้อนกันหลายชั้น (Lipid Lamellar) การทำลายโครงสร้าง Lipid นี้จะทำให้ผิวอ่อนแอลง โดยความชุ่มชื้นสามารถระเหยออกไปได้ ผิวสูญเสียความสามารถในการเก็บความชุ่มชื้นไว้ และสารที่อาจก่อปัญหากับผิวสามารถแทรกเข้าสู่ผิวมากขึ้น จึงก่อปัญหาผิวมากมายตามมา

 

(วีดีโอช่วยให้เห็นภาพง่ายขึ้นว่าสารทำความสะอาดที่รุนแรงจะก่อปัญหากับผิวอย่างไร)
สารทำความสะอาดนั้นสามารถก่อปัญหาให้กับทั้ง “โปรตีน” (ก้อนอิฐ) และ “Lipid” (ปูน) ของผิวเรา โดยสารทำความสะอาดสามารถไปจับกับโปรตีนและทำให้เกิดการบวม (Swelling) ที่ทำให้สารทำความสะอาดยิ่งแทรกตัวลงไปได้ลึกขึ้น รวมถึงปรากฏการณ์ Hyperhydration ของเซลล์เคราตินที่เมื่อน้ำระเหยออกไปเซลล์ก็หดแห้งลง ผิวจึงเสียความสามารถในการเก็บกักความชุ่มชื้น การที่สารทำความสะอาดไปจับกับโปรตีนไปผิวยังทำให้เกิด Protein Denaturation ส่งผลให้ความแข็งแรงของปราการปกป้องผิวลดลง โดยสารทำความสะอาดที่มีประจุลบ (Anionic) จะมีโอกาสทำให้เกิด Protein Denaturation มากกว่าสารทำความสะอาดชนิดที่มีประจุบวกและลบ (Amphoteric)

ในขณะที่สารทำความสะอาดชนิดประจุบวกและลบ (Amphoteric) นั้นก่อการระคายเคืองและความเสียหายกับโปรตีนได้น้อย แต่ก็ยังคงก่อปัญหากับ Lipid ได้ เพราะสารทำความสะอาดจะไปดึง Lipid ของผิวออกมา (Lipid Extraction) ส่งผลทำให้โครงสร้าง Lipid Bilayer เสียหาย ผิวจึงสามารถสูญเสียความชุ่มชื้นและอ่อนแอลงได้อีกเช่นเดียวกัน

ในช่วงที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะมีการผสมสารทำความสะอาดทั้งประจุบวก (Anionic) กับชนิดประจุบวกและลบ (Amphoteric) เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้คุณสมบัติในการก่อฟองที่ดีแต่ในขณะเดียวกันก็ก่อการระคายเคืองน้อยลง และมีการผสมสารให้ความชุ่มชื้น น้ำมัน หรือสารเคลือบผิว (Occlusive) เพื่อพยายามช่วยให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นหลังจากอาบน้ำ

แต่การใส่ส่วนผสมของสารเคลือบและสารให้ความชุ่มชื้นที่มากก็ส่งผลกระทบกับ Feel หรือความรู้สึกหลังใช้ โดยเฉพาะคนไทยหรือชาวเขตร้อนที่ไม่ชอบความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเคลือบผิวลื่น ๆ หลังอาบน้ำ นอกจากนี้การใช้สารเคลือบผิว (Occlusive) ในปริมาณเยอะเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่ในขณะเดียวก็มีประสิทธิภาพไม่เต็มที่เพราะสารเคลือบจะถูกล้างออกเป็นส่วนใหญ่ในระหว่างการใช้ ปัญหานี้เป็นที่มาของการคิดค้นเทคโนโลยี NutriumMoisture™ ของ Dove

NutriumMoisture™ เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของการทำความสะอาดผิว เพราะแทนที่จะใช้ปริมาณของน้ำมันและสารเคลือบผิวในปริมาณมาก เขาเลือกที่จะเติม C18:0 Fatty Acid หรือ Stearic Aicd ที่มีอยู่แล้วใน Lipid ของผิวตามธรรมชาติ ลงไปรวมกับสารทำความสะอาดชนิดที่อ่อนโยนกับโปรตีนของผิว และ Lipid Bilayer เป็นพิเศษ อย่าง Sodium Cocoyl Isethionate หรือ Sodium Lauroyl Isethionate ส่งผลให้โครงสร้างไมเซล (Micell) ของสารทำความสะอาดนั้นเต็มไปด้วย Fatty Acid มันจึงทำหน้าที่เป็น Buffer ลดการดึง Fatty Acid ในชั้น Lipid Bilayer ของผิว และในขณะเดียวกัน ก็สามารถเติมเต็ม Fatty Acid ในส่วนที่ขาดได้

เมื่อโครงสร้าง Lipid ของผิวถูกปกป้องไว้ และลดโอกาสที่สารทำความสะอาดจะไปเกาะกับโปรตีนของผิวได้ ผลก็คือผิวยังคงความชุ่มชื้นหลังทำความสะอาดและมีความชุ่มชื้นมากขึ้นเมื่อใช้ติดต่อกัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกในการใช้ผลิตภัณฑ์เพราะมีสารเคลือบผิวจำนวนมากมาทำให้ผิวรู้สึกหนักหรือลื่นหลังล้างออกนั่นเอง การทดสอบเทคโนโลยี NutriumMoisture™ นี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารแบบ Peer-Reviwed อย่าง Cosmetic Dermatology ฉบับเดือนมิถุนายน ปี 2009 อีกด้วย นับเป็นครั้งแรกที่เห็นพวกครีมอาบน้ำมีงานวิจัยเป็นรูปเป็นร่างตีพิมพ์ออกมาเลยล่ะ (ซึ่งเนื้อหาที่นำมาให้อ่านปูเป้สรุปสั้น ๆ มาจากการวิจัยชิ้นนี้และอันอื่น ๆ รวมกันจ้า สนใจก็คลิกลิงก์ด้านล่างอ่านเอาได้เลย)

(Source : Cleansing without compromise: the impact of cleansers on the skin barrier and the technology of mild cleansing., Hydration disrupts human stratum corneum ultrastructure, Surfactant-induced stratum corneum hydration in vivo: prediction of the irritation potential of anionic surfactants., Cleansing Formulations That Respect Skin Barrier Integrity, A Novel Technology in Mild and Moisturizing Cleansing Liquids)

สำหรับการเปิดตัว Dove : Body Wash ที่ใช้เทคโนโลยี NutriumMoisture™ ในประเทศไทยนี้มีทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน โดยขนาด 200 มิลลิลิตร ราคา 72 บาท และขนาด 550 มิลิลลิตร ราคา 175 บาท

Dove : Deeply Nourishing Body Wash เป็นกลิ่นออริจินอลตามแบบฉบับของ Dove โครงสร้างส่วนผสมนั้นใช้สารทำความสะอาดชนิดอ่อนโยนทั้ง ทั้งประจุบวก (Anionic) กับชนิดประจุบวกและลบ (Amphoteric) ปนกัน โดยใช้ Sodium Lauroyl lsethionate + Stearic Acid หรือเทคโนโลยี NutriumMoisture™ ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นหลักคือ Glycerin และมีส่วนของกรดอะมิโนอย่าง Glycine มาช่วยเสริมบ้าง ที่เหลือคือ น้ำหอม สารกันเสีย ส่วน Zinc Oxide กับ Zinc Oxide และ CI 77891 (Titanium Dioxide) ใช้เพื่อเพิ่มความทึบแสงห้กับตัวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการให้เป็นน้ำนมสีขาวขุ่น

การทำความสะอาดนั้นอ่อนโยนอย่างไม่ต้องสงสัย ใช้แล้วผิวไม่แห้ง ที่สำคัญคือล้างออกไม่ยาก ผิวจะไม่มีคราบลื่น ๆ จนน่ารำคาญ แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ฝืด ๆ ตึง ๆ จนไม่สบายผิว

Ingredients : Water, Cocamidopropyl Betaine, Sodium Laureth Sulfate, Sodium Cocoyl Glycinate, Sodium Chloride, Glycerin, Fragrance, Sodium Hydroxide, Sodium Lauroyl lsethionate, Stearic Acid, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, PPG-9, Styrene/Acrylates Copolymer, Lauric Acid, DMDM Hydantoin, BHT, Sodium Palmitate, Sodium Benzoate, Tetrasodium EDTA, Sodium lsethionate, Coconut Acid, Glycine, Sodium Stearate, Citric Acid, Sodium Palm Kernelate, Methylisothiazolinone, Zinc Oxide, Tetrasodium Etidronate. Alumina, CI 77891.

Dove : Gentle Exfoliating Nourishing Body Wash มีความแตกต่างจากรุ่นกลิ่นออริจินอลเพียงเล็กน้อย นั่นก็คือเพิ่มส่วนผสมของเม็ดขัดผิว ซึ่งทาง Dove เลี่ยงที่จะใช้เม็ดขัดผิวจากพลาสติก แต่เปลี่ยนมาใช้ Silica แทน เม็ดขัดผิวค่อนข้างละเอียด แต่มีในปริมาณที่ไม่หนาแน่นนัก น่าจะเป็นการใส่เพื่อเพิ่มจุดขายและเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ซื้อมากกว่าจะหวังเรื่องการผลัดเซลล์แบบจริงจัง สามารถใช้เป็นประจำทุกวันได้

Ingredients : Water, Cocamidopropyl Betaine, Sodium Laureth Sulfate, Sodium Cocoyl Glycinale, Sodium Chloride, Glycerin, Fragrance, Silica, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Sodium Hydroxide, Sodium Lauroyl lsethionate, Stearic Acid, PPG-9, Styrene/Acrylates Copolymer, Lauric Acid, DMDM Hydantoin, BHT, Sodium Palmitate, Sodium Benzoate, Tetrasodium EDTA, Sodium lsethionate, Coconut Acid, Glycine, Sodium Stearate, Citric Acid, Sodium Palm Kernelate, Methylisothiazolinone, Zinc Oxide, Tetrasodium Etidronate. Alumina, CI 74160, CI 77891.

Dove : Go Fresh “Fresh Touch” Nourishing Body Wash และ Dove : Go Fresh “Revive” Nourishing Body Wash มีโครงสร้างส่วนผสมที่คล้ายกับรุ่นกลิ่นออริจินอล สิ่งที่แตกต่างกันมีเพียงเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความแวววาวเป็นประกายมุกมากขึ้น จากการเพิ่มส่วนผสมของ Glycol Distearate ที่ทำให้เกิดผลึกขนาดเล็กมาก ๆ ในเนื้อผลิตภัณฑ์จนทำให้เนื้อมีความทึบและให้เอฟเฟคแบบมุกแวววาวน่าใช้

“กลิ่น” เป็นสิ่งที่ไลน์ Go Fresh ค่อนข้างจะโดดเด่น เพราะขอบอกไว้เลยว่าหอมมาก กลิ่น “Fresh Touch” ขวดสีเขียวจะหอมเย็น ๆ แนวชาเขียวผสมแตงกว่า สำหรับสีชมพูสูตร “Revive” เป็นกลิ่นที่ปูเป้กรี๊ดมากกกกกก!!! หอมแนวผลไม้ สดชื่นมาก ๆ เลย ที่สำคัญหลังล้างออกแล้วกลิ่นจะติดผิวอ่อน ๆ แบบว่าดมใกล้ ๆ แล้วจะมีกลิ่นกรุ่นออกมาจากผิวบาง ๆ ซึ่งจะติดผิวอยู่ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงทีเดียว

อ้อ… ที่เมืองนอกมีกลิ่น Nectarine ด้วย แหล่งข่าวบอกว่าหอมสุด ๆ ซึ่งปูเป้สั่งซื้อมาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะเดินทางมาถึงในปลายเดือนนี้ 😀

Fresh Touch” Ingredients : Water, Cocamidopropyl Betaine, Sodium Laureth Sulfate, Sodium Cocoyl Glycinate, Sodium Chloride, Glycerin, Fragrance, Glycol Distearate, Sodium Cocoyl lsethionate, Sodium Hydroxide, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, PPG- 9, Stearic Acid, Coconut Acid, Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer, Lauric Acid, DMDM Hydantoin, Laureth-4, BHT, Sodium Benzoate, Citric Acid, Tetrasodium EDTA, Glycine, Sodium lsethionate, Lactic Acid, Methylisothiazolinone, Sodium Sulfate, Cl 19140, Cl 61570.

“Revive” Ingredients : Water, Cocamidopropyl Betaine, Sodium Laureth Sulfate, Sodium Cocoyl Glycinate, Sodium Chloride, Glycerin, Fragrance, Glycol Distearate, Sodium Cocoyl lsethionate, Sodium Hydroxide, Acrylates/C10-30Alkyl Acrylate Crosspolymer, PPG-9, Stearic Acid, Coconut Acid, Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer, Lauric Acid, DMDM Hydantoin, Laureth-4, BHT, Sodium Benzoate, Citric Acid, Tetrasodium EDTA, Glycine, Sodium lsethionate, Lactic Acid, Methylisothiazolinone, Punica Granatum Fruit Juice, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Trideceth-9, Tocopherol, Potassium Sorbate, CI 17200.

โดยรวมแล้ว Dove Body Wash ใหม่นี้ถือเป็นตัวเลือกในการทำความสะอาดผิวกายที่อ่อนโยนและคงความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยี NutriumMoisture™ มีความน่าเชื่อถือ และเป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายได้มีการทำการวิจัยและตีพิมพ์ในวารสารที่น่าเชื่อถือระดับนานาชาติ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นหอม ๆ แนวผลไม้ ปูเป้แนะนำให้ไปสอยกลิ่น Dove : Go Fresh “Revive” Nourishing Body Wash มาได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง

เคล็ดไม่ลับเล็กน้อยในการอาบน้ำก็คือ อุณหภูมิของน้ำอุ่น น่าจะอยู่ที่ 36 – 38 องศาเซลเซียส เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ดี แต่ก็ไม่ร้อนไปจนทำร้ายผิว การอาบน้ำไม่ควรอาบเกิน 10 นาทีเพื่อลดการเกิดภาวะ Hyperhydration จนเป็นผลผิวเสียความชุ่มชื้นทีหลัง และการทามอยซ์เจอไรเซอร์หลังจากเช็ดผิวหมาด ๆ จะเป็นการเก็บล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ดีที่สุด ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมซาบได้ดี และใช้ในปริมาณที่น้อยลงด้วยจ้า

อ้อ… ถ้าอยากให้ได้ฟองเยอะ ๆ หน่อยจากการใช้ Dove Body Wash ล่ะก็ ให้ใช้คู่กับใยขัดผิวนะครับ จะได้ฟองเต็มที่ แถมได้ผลัดเซลล์ผิวไปด้วยในตัวอีกต่างหาก

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

– สารทำความสะอาดอ่อนโยน
– ทำความสะอาดผิวได้ดี ล้างออกได้ง่าย
– หลังล้างไม่ทิ้งคราบลื่น เหนียว หรือทำให้ผิวแห้งตึง
– เทคโนโลยี NutriumMoisture™ มีเครดิตที่ดีรองรับ
– กลิ่นหอมมาก (สำหรับไลน์ Go Fresh)
– ราคาไม่แพง และหาซื้อได้ง่ายตามห้างร้านทั่วไป

ข้อเสีย

– แม้กลิ่นจะหอม แต่น้ำหอมก็จัดเป็น Common Allergen ที่พบได้บ่อย หากมีตัวเลือกที่ปราศจากน้ำหอมสำหรับผิวแห้งและ Sensitive น่าจะดีมาก ๆ

***Sponsored Item***

– Dove : Deeply Nourishing Body Wash
– Dove : Gentle Exfoliating Nourishing Body Wash
– Dove : Go Fresh “Fresh Touch” Nourishing Body Wash
– Dove : Go Fresh “Revive” Nourishing Body Wash