วันนี้ปูเป้จะมารีวิวผลิตภัณฑ์น้ำตบบำรุงผิวที่เคลมถึงคุณสมบัติและส่วนผสมอลังการว่ามีวิตามินซี 4 รูปแบบ สารที่ทำงานคล้าย Growth Factor 2 ชนิด  กรด AHA 3 ชนิด กรดอะมิโน 19 ชนิด สารแอนติออกซิแดนท์ที่พิเศษ 1 ตัว และส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นของผิวอีกหลายตัว เคลมกันหนักขนาดนี้อยากรู้กันไหมว่ามันอัดมาขนาดนี้แล้วจะราคาเท่าไหร่ มันเวิร์คจริงรึเปล่า ก็ต้องอ่านต่อสิจ๊ะ

Dr.Ci:Labo : VC100 Essence Lotion (150ml / 2,180 Baht) เป็นสูตรใหม่ที่มีการอัพเกรดมาจากผลิตภัณฑ์ตัวเก่า (VC100 Pore White Lotion) โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปคือเขาบอกว่าสูตรใหม่นี้มีปริมาณของวิตามินซีมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าตัวเลยล่ะ แต่นั่นหมายความเราจะรีบคว้าไปซื้อหามาใช้กันเลยไหม? ต้องมาดูกันต่อยาว ๆ

Product’s Formula

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ชูจุดขายที่ส่วนผสมหลักของวิตามินซี 4 รูปแบบซึ่งได้แก่

Trisodium Ascorbyl Palmitate Phosphate หรือ APPS (Trisodium Ascorbyl 6-Palmitate 2-Phosphate Salt) เป็นอนุพันธุวิตามินซีที่พิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือมีลักษณะเป็น Amphiphilic หรือละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน ทางผู้ผลิตเคลมว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีการแทรกผ่านเข้าผิวได้ดีมาก มีการตีพิมพ์การศึกษาที่ชี้ว่ามันแทรกเข้าสู่ผิวได้ดี และมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนนิ่งได้

Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) อนุพันธ์วิตามินซีอีกหนึ่งตัวที่เป็นที่นิยมใช้กัน ละลายในน้ำ และค่อนข้างเสถียรมาก


Ascorbyl Tetraisopalmitate (VC-IP)เป็นอนุพันธุ์วิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน หลั ก ๆจะช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระในส่วนของน้ำมันและ Lipid ได้ดีกว่าวิตามินซี MAP

Ascorbyl Glucoside (AA2G) เป็นอนุพันธุ์วิตามินซีที่ต้องใช้เอนไซม์บนผิวในการแตกตัวเพื่อทำงานในผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้ และไม่ระคายเคือง

วิตามินซีทุกตัวในนี้ล้วนมีประโยชน์ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ชัดเจนคือในแง่ของความเข้มข้นที่ใส่ลงมาในผลิตภัณฑ์จะมากแค่ไหนกันแน่ การอยู่ในส่วนผสมลำดับต้น ๆ ไม่ได้การันตีว่าจะมีการใส่มามากหรือเข้มข้นเสมอไป บางทีส่วนผสมหลังจาก Glycerin ไปอาจจะน้อยกว่า 1% ทั้งหมด ซึ่งกฏหมายได้เปิดช่องทางไว้ว่าส่วนผสมที่น้อยกว่า 1% จะเรียงลำดับมาอย่างไรก็ได้ ทำให้ทางผู้ผลิตสามารถเอาส่วนผสมมาเรียงให้ดูสวย ๆ ดูเหมือนมีความเข้มข้นเยอะมากได้แม้ว่าในความเป็นจริงส่วนผสมที่ใส่มาอาจจะมีแค่ 0.001% ก็ตาม

อย่างไรก็ดีเขาเคลมว่าส่วนผสมของวิตามินซี 4 ชนิด รวมเข้ากับสารสกัดจากเปลือกส้มที่เขาใส่มาจะทำงานแบบสอดประสานกันเพื่อทวีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้เราไม่เห็นข้อมูลหรืองานวิจัยนะ เป็นคำเคลมของเขาเฉย ๆ

(Source : Skin atrophy in cytoplasmic SOD-deficient mice and its complete recovery using a vitamin C derivative.Perifollicular pigmentation is the first target for topical vitamin C derivative ascorbyl 2-phosphate 6-palmitate (APPS): randomized, single-blinded, placebo-controlled study.In vitro antioxidant activity and in vivo efficacy of topical formulations containing vitamin C and its derivatives studied by non-invasive methods.Vitamin C in dermatology)

ส่วนผสมที่ทำงานคล้าย Epidermal Growth Factor สองชนิดก็คือ


Soluble Proteoglycan ตัวนี้น่าจะหมายถึงสารที่ได้มาจากกระดูกอ่อนส่วนจมูกของปลาแซลมอน ซึ่งก็มีผู้ผลิตหลายราย แต่หนึ่งในนั้นเป็นของญี่ปุ่นโดยบริษัท Ichimaru ซึ่งเคลมว่าส่วนผสมตัวนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นขึ้น มีการทดสอบในสัตว์ทดลองว่าส่วนผสมนี้ช่วยเสริมการเยียวยาบาดแผลได้ไวขึ้น

(Source : Proteoglycan from salmon nasal cartridge [corrected] promotes in vitro wound healing of fibroblast monolayers via the CD44 receptor.)

Oligopeptide-24 หรือ CG-EDP3 โดยบริษัท Caregen ตัวนี้เคลมว่าทำงานเลียบแบบ Growth Factor เพื่อช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย แต่เพราะเราเห็นเปปไทด์นี่แหล่ะเราเลยคิดว่าส่วนผสมที่เรียงมาเหล่านี้จะต้องน้อยกว่า 1% แน่ ๆ เพราะว่าเปปไทด์ในเครื่องสำอางจะใส่กันมาน้อยมาก ถ้าเรียงตามปริมาณของเปปไทด์ที่ใส่มาตามจริงในส่วนประกอบน่าจะอยู่รั้งท้ายสุดเลย

fullerenes

Fullerenes เป็นโมเลกุลสังเคราะห์ที่มีคาร์บอน 60 อะตอมก่อตัวเป็นทรงลูกบอล เป็นโมเลกุลที่ถูกศึกษาเพื่อพัฒนาไปใช้ได้หลายทางไม่ว่าจะในทางการแพทย์และในเครื่องสำอาง  Fullerenes เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นไวท์เทนนิ่งได้ด้วย ผู้ผลิตระบุว่าผลิตภัณฑ์ใดที่ใส่ fullerenes มามากกว่า 1% สามารถระบุโลโก้เครื่องหมายทางการค้าของเขาบนฉลากได้ด้วย ซึ่งตัวนี้ไม่ได้ระบุไว้ก็มีความเป็นไปได้ว่าใส่มาไม่ถึงอีก 1% อีกเหมือนกัน

กรด AHAs 3 ชนิดได้แก่ Malic Acid กับ Glycolic Acid และ Lactic Acid  ซึ่งเป็นสารผลัดเซลล์ผิวที่ไม่มีข้อกังขา แต่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีค่า pH อยู่ที่ราว 7.0 ซึ่งทำให้ AHAs ไม่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้ แต่ก็เป็นตัวให้ความชุ่มชื้นได้ เหตุผลในการที่มันมีค่า pH 7.0 เพราะเจ้าอนุพันธ์วิตามินซีที่ใส่มามันเสถียรที่ค่า pH เท่านี้ ถ้าเป็นกรดหรือ pH ต่ำพอที่ AHAs จะผลัดเซลล์ผิวได้จะส่งผลต่อความเสถียรของวิตามินซีในสูตรที่ลดลง)

กรดอะมิโน 19 ชนิด (Valine, Leucine และอื่น ๆ อีกมากมาย) มีคุณสมบัติเป็นตัวอุ้มความชุ่มชื่นที่ดี

ส่วนผสมที่เหลือมักเป็นสารให้ความชุ่มชื่น และวิตามินกับสารแอนติออกซิแดนท์ที่พบได้ในผลิตภัณฑ์ทั่วไป

ผลิตภัณพ์ตัวนี้เคลมว่าเป็น Fragrance-Free หรือปราศจากน้ำหอม แต่ใช้น้ำมันหอมระเหยจากส้มใส่มาแทนซึ่งมันหอมดีนะ เป็นกลิ่นที่เราชอบ แต่การบอกว่าเป็น Fragrance-Free นั้นเรามองว่ามันไม่ถูกต้องซะทีเดียว และน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติไม่ได้การันตีว่าจะปลอดภัยกว่าน้ำหอมสังเคราะห์แต่อย่างใด

Ingredients : WATER, DIPROPYLENE GLYCOL, 1.2-HEXANEDIOL, GLYCERIN, TRISODIUM ASCORBYL PALMITATE PHOSPHATE, MAGNESIUM ASCORBYL PHOSPHATE, ASCORBYL TETRAISOPALMITATE, ASCORBYL GLUCOSIDE, SOLUBLE PROTEOGLYCAN, OLIGOPEPTIDE-24, FULLERENES, CITRUS AURANTIUM DULCIS (ORANGE) PEEL EXTRACT, MALIC ACID, GLYCOLIC ACID, LACTIC ACID, VALINE, LEUCINE, ISOLEUCINE, PHENYLALANINE, THREONINE, LYSINE HCL, GLYCINE, ALANINE, SERINE, HISTIDINE, HISTIDINE HCL, GLUTAMIC ACID, PROLINE, TYROSINE, TAURINE, ARGININE, ASPARTIC ACID, SODIUM ASPARTATE, ECTOIN, OLEYL ALCOHOL, PEG/PPG/POLYBUTYLENE GLYCOL-8/5/3 GLYCERIN, SODIUM HYALURONATE, HYDROLYZED HYALURONIC ACID, HYDROXYPROPYLTRIMONIUM HYALURONATE, HYDROLYZED COLLAGEN, POTASSIUM COCOYL HYDROLYZED COLLAGEN, SOLUBLE COLLAGEN, POLYQUATERNIUM-51, UBIQUINONE, CYCLIC LYSOPHOSPHATIDIC ACID, CAMELLIA JAPONICA LEAF EXTRACT, TOCOPHERYL ACETATE, CAMELLIA SINENSIS LEAF EXTRACT, SEA WATER, ALLANTOIN, DISODIUM GUANYLATE, DISODIUM INOSINATE, SODIUM LACTATE, SODIUM PCA, PCA, GLUCOSE, PEG-32, BUTYLENE GLYCOL, PHYTOSTERYL/OCTYLDODECYL LAUROYL GLUTAMATE, MENTHYL LACTATE, HYDROGENATED LECITHIN, PEG-30 GLYCERYL COCOATE, POLYSORBATE 80, POLYGLYCERYL-10 LAURATE, CYCLODEXTRIN, CITRIC ACID, SODIUM CITRATE, PVP, CITRUS GRANDIS (GRAPEFRUIT) PEEL OIL, CITRUS AURANTIUM DULCIS (ORANGE) PEEL OIL, PHENOXYETHANOL

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นของเหลวใส มีความหนืดเล็กน้อย ปริมาณในการใช้แต่ละครั้งอยู่ที่ปริมาณเท่าเหรียญ 5 – 10 บาท โดยเมื่อประคบลงบนผิวแล้วจะรู้สึกหนึบผิวในช่วงที่กำลังจะแห้งสนิท แต่เมื่อแห้งแล้วจะไม่ค่อยเหนียวหน้าเท่าไหร่ (เคยใช้สูตรก่อนมันหนึบกว่านี้)

นอกจากการเอามาเป็นน้ำตบบำรุงผิวแล้ว การนำมาหยดใส่สำลีหรือแผ่นมาสก์อัดเม็ดทำเป็นมาสก์หน้าก็สามารถทำได้และสดชื่นดีด้วย กลิ่นส้มเป็นกลิ่นที่เราชอบ ผลในการให้ความชุ่มชื่นถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ

Conclusion

โดยภาพรวมแล้ว Dr.Ci:Labo : VC100 Essence Lotion ถือเป็นเอสเซนส์น้ำบำรุงผิวที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและดูสดใสขึ้นได้ เอามาทำมาสก์หน้าจะได้ฟีลที่ดีมากและมีกลิ่นที่หอมถูกใจเรา (แต่เรื่องจะแพ้หรือไม่แพ้ต้องไปทดสอบกันดูอีกที)

เอสเซนส์มีส่วนผสมของวิตามินซีที่น่าสนใจและใส่มาหลายรูปแบบ แต่ปูเป้ไม่มีข้อมูลว่ามันถูกใส่มาในความเข้มข้นเท่าไหร่กันแน่ดังนั้นปูเป้คงไม่กล้าฟันธงว่านี่เป็นเอสเซนส์ที่มีวิตามินซีเข้มข้นมากได้

สำหรับใครที่สนใจสามารถไปลองมองดูได้ตาม Tsuruha, Matsumoto Kiyoshi กับ Isetan หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสถานที่จำหน่ายได้ที่  Facebook : Dr.Ci:Labo Thailand กันเลยนะฮะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

– Dr.Ci:Labo : VC100 Essence Lotion

Dr.Ci:Labo : VC100 Essence Lotion
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • มีส่วนผสมบำรุงผิวหลากหลายชนิด
  • ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดี
  • เหมาะกับทุกสภาพผิว ในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอมในรูปของ Essential Oil
  • ไม่ระบุความเข้มข้นที่ชัดเจนของวิตามินซี
3.8Overall Score