เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาปูเป้ได้ไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Kiehl’s ซึ่งจัดขึ้นไกลถึงนิวซีแลนด์เพราะส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากจากที่นี่ โดยการเดินทางไปครั้งนี้ก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากมายรวมไปถึงเทรนด์ที่น่าสนใจบางจากคนละฟากโลกติดไม้ติดมือมาด้วย

ผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดอย่าง Kiehl’s : Pure Vitality Skin Renewing Cream (50ml / 2,500 Baht) ไม่ได้เคลมว่าจะบรรดาลให้ผิวคุณไร้ริ้วรอยหรือสมบูรณ์แบบ แต่จะทำให้ผิวมีความเปล่งปลั่ง  โกลว์ นุ่มละมุน และแข็งแรง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ครีมในกระปุกสีเหลืองสวยดึงดูดใจนี้สะท้อนให้เห็นทิศทางของเทรนด์ความงามและสุขภาพที่พร้อมจะโอบกอดวัยและเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป (อารมณ์แบบ Age Gracefully คือถึงจะแก่ลงแต่ฉันก็ยอมรับได้อย่างมีความเพราะฉันได้ทำทุกอย่างนชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว) อยากจะใช้ชีวิตย่างเต็มที่ด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมและสดใสโดยใช้แรงบันดาลใจจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติละกระแสของ Super Food จึงเป็นการนำส่วนผสมที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อนในเครือ L’Oreal อย่าง “น้ำผึ้งมานูก้า” และ “สารสกัดจากโสมแดง” มารวมกันเป็นครั้งแรกในสูตรที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติมากที่สุดถึง 99.6%

ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเครื่องสำอางจากฝรั่งเศสได้มีการเซ็นสัญญากับหนึ่งในผู้ผลิตน้ำผึ้งมานูก้ารายใหญ่ของประเทศนิวซีแลนด์อย่าง Watson & Son เอาไว้ตั้งแต่ปี 2009 โดยมีการร่วมมือในการวิจัยและค้นคว้าหาสรรพคุณต่าง ๆในน้ำผึ้งที่พิเศษไม่มีใครเหมือนนี้มาอย่างต่อเนื่อง และในการเดินทางครั้งนี้เราก็ได้ไปเยี่ยมชมทุกกระบวนการตั้งแต่การเลี้ยงผึ้ง การเก็บรักษาารังผึ้ง การสกัดน้ำผึ้ง รวมไปถึงการแปรรูปไปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของการพัฒนาเอาน้ำผึ้งมานูก้ามาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อใช้การรักษาบาดแผลที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่หายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

Product’s Formula

Kiehl’s : Pure Vitality Skin Renewing Cream มีส่วนประกอบที่น่าสนใจได้แก่

Mel (Honey) Extract ในที่นี้คือน้ำผึ้งที่มาจากดอกมานูก้า (Manuka Honey) เป็นหนึ่งในน้ำผึ้งที่ถูกพูดถึงและได้รับการศึกษาถึงสรรพคุณด้านสุขภาพกันอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมที่ถูกใช้เพื่อความงามและการบำบัดมาอย่างยาวนานนับพันปีในวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลกในการช่วยเยียวยาบาดแผล ช่วยต้านการอักเสบและการติดเชื้อ และทำให้ผิวพรรณสวยงาม โดยทั่วไปแล้วน้ำผึ้งมีส่วนประกอบหลักคือน้ำตาล (โดยหลักจะเป็น Fructose และ Glucose) ซึ่งช่วยให้ความชุ่มชื่น มีกรดอะมิโนที่ช่วยโอบอุ้มความชุ่มชื่น วิตามิน แร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิว และโปรตีน เอนไซม์ที่มีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพ มีสารกลุ่มฟีนอลจากพืชที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แต่สิ่งที่ทำให้น้ำผึ้งที่มาจากดอกมานูก้าแตกต่างจากน้ำผึ้งชนิดอื่นคือสาร Methylglyoxal ซึ่งพบได้ในปริมาณที่น้อยมากในน้ำผึ้งอื่นแต่กลับมีอยู่ในปริมาณที่สูงในน้ำผึ้งดอกมานูก้า

Methylglyoxal เป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำผึ้งชนิดนี้มีสรรพคุณในการต้านแบคทีเรียและต้านเชื้อราได้เป็นอย่างดีโดยปริมาณความเข้มข้นของ Methylglyoxal จะเป็นตัวแบ่งเกรดของน้ำผึ้งซึ่งใช้หลัก MGS ที่มีค่าตั้วแต่ 5+ ถึง 8+ จะใช้สำหรับบริโภคทั่วไป ส่วนที่มีค่าตั้งแต่ 10+ จนถึง 20+ จะมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพที่สูงกว่ามากแต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้นมากมาย

Mr.Denis Watson นักวิทย์ศาสตร์และเจ้าของอาจักรน้ำผึ้งมานูก้าเแห่งนี้เล่าให้ฟังว่า ที่น่าแปลกคือแม้ว่าจะเอาต้นมานูก้า (Leptospermum Scoparium) ไปขยายพันธุ์ที่อื่นและให้ผึ้งมาเก็บเกสรจนเป็นน้ำผึ้ง แต่น้ำผึ้งที่เก็บจากดอกมานูก้านอกประเทศนิวซีแลนด์จะมีปริมาณของ Methylglyoxal ที่น้อยจนอาจไม่ต่างจากน้ำผึ้งธรรมดาเลย อาจเป็นเพราะสภาพทางภูมิศาสตร์ของนิวซีแลนด์ที่ทำให้ต้นมานูก้าผลิตสารที่เฉพาะเจาะจงอันนี้ออกมามากเป็นพิเศษก็เป็นได้ล่ะ

การศึกษาของน้ำผึ้งดอกมานูก้าในเชิงของการบำบัดรักษาแผลและการติดเชื้อนั้นมีมากพอสมควรทีเดียว แต่ในเชิงของการนำมาใช้เพื่อความงามนั้นยังมีข้อมูลอยู่เล็กน้อย แต่หลัก ๆ แล้วคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านจุลชีพก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับผิวพรรณอยู่แล้ว ทางแบรนด์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ส่วนผสมของสารที่สกัดมาจากน้ำผึ้งมานูก้าอีกทีจึงมีความเข้มข้นของสารออกฤิทธิ์มากกว่าการใส่น้ำผึ้งดิบที่ไม่ผ่านกระบวนการสกัดให้เข้มข้นลงไปตรง ๆ ล่ะ

(Source : Honey in dermatology and skin care: a review.Therapeutic Manuka Honey: No Longer So AlternativeHoney: its medicinal property and antibacterial activityTraditional and Modern Uses of Natural Honey in Human Diseases: A Review)

panax-ginseng-root-dried

Panax Ginseng Root Extract เป็นส่วนผสมที่ใหม่สำหรับเครือนี้และแบรนด์นี้ แต่เป็นส่วนผสมที่เราค่อนข้างคุ้นเคยกันพอสมควร โสมแดงเป็นพืชที่มีคุณสมบัติบำรุงผิวที่ดีเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย สารออกฤิทธ์ในโสมอย่างพวก Saponin กลุ่ม Ginsenoside นั้นช่วยเสริมการฟื้นฟูเซลล์ผิวชั้นนอก ช่วยต้านผลกระทบและความเสียหายที่มาจากรังสี UV ช่วยปกป้องคอลลาเจนจากการถูกทำลายและยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อีกด้วย อันนี้เป็นคุณสมบัติรวม ๆ จากสารกลุ่มซาโปนินต่าง ๆ ที่พบในโสมแดง ถ้าทางแบรนด์มีการเจาะจงมากขึ้นว่าสารสกัดจากโสมแดงที่ใช้มีสาร Ginsenoside อะไรบ้างเราก็จะเจาะจงคุณสมบัติได้มากกว่านี้ (เพราะสารกลุ่มนี้บางตัวเป็นไวท์เทนนิ่งได้ด้วยนะ)

(Source : Bioactive compounds from natural resources against skin agingEpidermis proliferative effect of the Panax ginseng ginsenoside Rb2.Effects of Ginsenoside Rb1 on Skin ChangesTherapeutic Effect of Total Ginseng Saponin on Skin Wound HealingEffects of ginseng saponins isolated from red ginseng on ultraviolet B-induced skin aging in hairless miceRed ginseng root extract mixed with Torilus fructus and Corni fructus improves facial wrinkles and increases type I procollagen synthesis in human skin: a randomized, double-blind, placebo-controlled study.)

Chenopodium Quinoa Seed Extract หรือสารสกัดจากเปลือกคีนัว ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในผลิตภัณฑ์ Kiehl’s : Dermatologist Solutions Nightly Refining Micro-Peel Concentrate ซึ่งเป็นการสกัดเอาสาร Saponin ที่ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน

Leuconostoc (Radish) Root Ferment Filtrate มีชื่อทางการค้าว่า Leucidal Liquid เป็นส่วนผสมของเปปไทด์ที่มาจากการหมักบ่มกิมจิซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพได้ค่อนข้างกว้างจึงถูกใช้เป็นสารกันเสียที่ปลอดภัยและมาจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีคุณวมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย ต้องขอบคุณโครงสร้างเปปไทด์ที่มีคุณสมบัติพื้นฐานในการเป็น Humectant

Adenosine เป็นสารตั้งต้นที่สำคัญต่อการสร้างพลังงานของเซลล์ ส่งผลให้สารตัวนี้ช่วนเสิมการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยนและไม่ระคายเคือง และมีข้อมูลมันช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ด้วย

(Source : Effects of adenosine 5′-monophosphate on epidermal turnover.Quasi-Drugs Developed in Japan for the Prevention or Treatment of Hyperpigmentary DisordersEvaluation of anti-wrinkle efficacy of adenosine-containing products using the FOITS technique.)

ส่วนที่เหลือก็จะเป็น Tocopherol หรือวิตามินอีเพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสละและช่วยเก็บรักษาส่วนผสมที่เป็นบัตเตอร์ละน้ำมันในสูตรให้หืนช้าลง  Salicylic Acid เป็นสารกันเสียให้กับผลิตภัณฑ์มากกว่าจะชวยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ส่วนของของน้ำมันหอมระเหยต่าง ๆ ช่วยแต่งกลิ่นและบางตัวมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพจึงช่วยเสริมในเรื่องการเป็นสารกันเสียจากธรรมชาติให้ผลิตภัณฑ์อีกด้วย

ส่วนผสมอีก 0.4% ที่เป็นสารสังเคราะห์น่าจะเป็น Potassium Sorbate ซึ่งเป็นสารกันเสียที่ใช้กับอาหารและเครื่องสำอาง กับ Citric Acid ที่ใช้ปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์ (แม้ว่า Citric Acid จะมีอยู่ในพืชตระกูลส้มตามธรรมชาติ แต่สารชนิดนี้ที่ใช้กันโดยทั่วไปในอาหารและเครื่องสำอางล้วนแต่สังเคราะห์ขึ้นมาทั้งนั้น)

โดยรวมแล้วในแง่ของสารออกฤิทธิ์หลักของผลิตภัณฑ์นั้นเข้าใจได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้คงเป็นการใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติให้มากที่สุด จึงไม่สามารถมีพวกโพลิเมอร์สังเคราะห์ ซิลิโคน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้การสร้างสูตรผลิตภัณฑ์จากส่วนผสมธรรมชาตินั้นยากมากเพราะมันไม่มีตัวช่วยที่จะทำให้เนื้อสัมผัสออกมาดีได้เท่าไหร่

Ingredients : Aqua/Water, Propanediol, Glycerin, Dicaprylyl Ether, Udecane, Glyceryl Stearate, Laurel Lysine, Hydrogenated Lecithin, Tridecane, Cetearyl Alcohol, Chenopodium Quinoa Seed Extract, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Mel (Honey) Extract, Mica, Panax Ginseng Root Extract, Cera Alba (Beeswax), Tocopherol, Sclerotium Gum, Xanthan Gum, Cedrus Atlantica Bark Oil, Salicylic Acid, Potassium Sorbate, Leuconostoc (Radish) Root Ferment Filtrate, Glycein Soja (Soybean) Oil, Cananga Odonata Flower Oil, Vanilla Plantifolia Fruit Extract, Adenosine, Bulnesia Sarmiento Wood Oil, Citrus Uranium Dulcis (Orange) Peel Oil, Citric Acid, Pelargonium Graveolens Flower Oil, Limonene, Benzyl Benzoate, Farnesol, Linalool, Helianthus Annus (Sunflower) Seed Oil.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมที่เนียนละเอียดเข้มข้นสีนวลอมน้ำตาลอ่อน ๆ กลิ่นที่หอมหวานแบบขนมกับเนื้อสัมผัสที่ช่างคล้ายกับ Dulce de Leche (นมข้นหวานที่มาตุ๋นเคี่ยวจนเป็นสีคาราเมล) ที่ดูน่าปาดเข้าปากมากกว่าทาลงบนผิว

เนื้อสัมผัสเข้มข้นมากจนตอนแรกเราคิดว่าต้องมันเยิ้มจนเราใช้ไม่ไหวแน่ ๆ แต่ผิดคาด เพราะหลังจากที่ปาดเกลี่ยลูบลงบนผิวและทิ้งไว้สักพักมันจะซึมและเซ็ทตัวคลุมผิวแบบไม่เหนอะหรือมันเยิ้มอย่างที่คิดไว้ (ไปหาข้อมูลมาและพบว่า Udecane กับ Tridecane เป็น Volatile Emollient จึงช่วยให้เนื้อสัมผัสไม่หนักหรือมันเยิ้มนั่นเอง) ดูได้จากรูปด้านล่างที่เราถ่ายมาให้ดูว่าก่อนกับหลังที่ทาครีมแล้วปล่อยให้เซ็ทตัวผิวจะดูโกลว์ขึ้น แต่ไม่เยิ้ม ขอใแค่เราใช้ในปริมาณที่เหมาะกับผิวและขั้นตอนของสกินแคร์ทั้งหมดที่เราใช้

เนื้อครีมตัวนี้เหมาพสำหรับคนผิวธรรมดาค่อนไปทางแห้ง สำหรับผิวผสมค่อนทางมันแบบเราเหมาะที่จะใช้ในตอนกลางคืนที่นอนให้ห้องแอร์มากเพราะว่ามันอยู่จนถึงเช้าและหลังล้างหน้าเรารู้สึกว่าผิวเราลื่นและนุ่มจนสัมผัสได้ เราประทับใจในจุดนี้ทีเดียว

จากการทดลองใช้ 4 สัปดาห์พบว่า texture ของผิวดูเรียงเป็นระเบียบขึ้น สัมผัสผิวแล้วรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้นและดูใส  การนำมาใช้ตอนกลางวันสำหรับเรานั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ถ้าทาวันที่ไปออกกำลังกายในฟิตเนสเราพบว่ามันจะมีอุดตันโผล่ขึ้นมาบ้างเนื่องจากความเข้มข้นและความร้อนกับเหงื่อที่ผสมปนเปกันเละเทะในระหว่างออกกำลังกาย

คำแนะนำของเราคือให้หาผลิตภัณฑ์ที่อัดความชุ่มชื่นแต่เนื้อบางเบาอย่างเช่นพวกเอสเซนส์น้ำหรือเซรั่มลงไปก่อน แล้วล็อคสิ่งที่เราอัดเอาไว้ด้วยครีมตัวนี้เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนไปนอนทุกอย่างจะออกมาสวย

Conclusion

โดยภาพรวมแล้ว Kiehl’s : Pure Vitality Skin Renewing Cream เป็นการนำส่วนผสมจากสองทวีปมารวมเข้าด้วยกันในสูตรที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่มากถึง 99.6% แต่ยังคงทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ดี (และน่ากินมาก) ผลิตภัณฑ์นี้ไม่จำกัดอายุของผู้ใช้ อายุเท่าไหร่ก็ได้ใช้หากต้องการผิวที่แข็งแรง โกลว์ เปล่งปลั่ง นุ่มมือ ดูสุขภาพดี เราค่อนข้างประทับใจเพราะมันทำได้ตามคำเคลมที่วางไว้ แต่จะเหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่นั้นก็คงไม่เชิง ในประเทศไทยที่ค่อนข้างชื้นอาจจะไม่เหมาะกับผิวที่มันเท่าไหร่นัก สำหรับผิวผสมค่อนไปทางมันสามารถใช้เป็นครีมตอนกลางคืนได้อย่างไม่มีปัญหา (โดยเฉพาะคนที่นอนห้องแอร์) สำหรับผิวค่อนไปทางแห้งสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลย

ในแง่ของเนื้อสัมผัสนั้นถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ทั่วไปหรือแม่แต่กับผลิตภัณฑ์ของ Kiehl’s ด้วยกันเองนั้น เนื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้อาจจะไม่เลิศที่สุด หากมองในแง่ของการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติในปริมาณที่สูงขนาดนี้และมีข้อจำกัดมากมาย ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ถือว่าทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ดีทีเดียวล่ะ ตัวนี้จึงให้คะแนนค่อนข้างยากว่าจะเทียบกับอะไรดี เราเลยขอหารคะแนนมาไว้ตรงกลางละกัน

ส่วนผสมของสารสกัดน้ำผึ้งดอกมานูก้านั้นมีความปลอดภัยสูง แต่อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีประวัติแพ้น้ำผึ้ง ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง หรือเกสรดอกไม้ ควรทดสอบอาการแพ้ให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีปัญหา ส่วนผสมจากน้ำมันหอมระเหยอาจกระตุ้นการระคายเคืองและอาการแพ้ได้ในบางคนที่ไวต่อส่วนผสมเหล่านี้เป็นพิเศษ ใครที่สนใจสามารถแวะเข้าไปที่ร้าน Kiehl’s ทุกสาขาเพื่อขอรัผลิตภัณฑ์ทดลองใช้ได้ฟรีแบบไม่มีเงื่อนไขจ้า ใครใกล้สาขาไหนก็ไปสาขานั้นโดยสามารถไปเช็คข้อมูลสาขาต่างๆ ได้ที่ www.kiehls.co.th (หรือจะช็อปปิ้งออนไลน์ก็ได้นะ)

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

  • Kiehl’s : Pure Vitality Skin Renewing Cream
Kiehl’s : Pure Vitality Skin Renewing Cream
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ส่วนผสมจากธรรมชาติในปริมาณสูง และเนื้อสัมผัสที่ทำออกมาได้ดีภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด
  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น นุ่มขึ้น ผิวเรียงตัวเป็นระเบียบ และเปล่งปลั่ง
CONS
  • บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก
  • มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย
3.6Overall Score

Related Posts