วงการเครื่องสำอางมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง มีผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย เมื่อราว 3 ปีเป็นช่วงที่บูมมากของเครื่องสำอางที่เป็น Pre-Serum / Pre-Essene ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มักจะเคลมว่าช่วยเสริมการบำรุงให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้หลังจากนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือดูดซึมได้ดีขึ้น ในปี 2015 นี้ แม้ว่าจะช้ากว่าคนอื่นไปสักหน่อย ในที่สุด OLAY ก็เปิดตัว OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence (40ml / 899 THB) ที่มีจำหน่ายเฉพาะในแถบเอเชียแปซิฟิคเท่านั้นด้วยนะ

สำหรับใครที่อยากดูรีวิวในรูปแบบวีดีโอก็สามารถคลิกดูได้ตามสะดวกจ้า

 photo OLAY RG PreEssence 01.png
OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence ถูกนำเสนอออกมาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเตรียมผิวเพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงและซึมซาบที่ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายๆ แบรนด์ก็เคลมแบบนี้แหล่ะ และเป็นคำถามที่เราก็สงสัยว่ามันจะไปช่วยให้การดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ดีขึ้นได้อย่างไรก็มักไม่ค่อยมีใครตอบคำถามเราได้นะ แต่ว่า OLAY มีคำตอบให้เรา

พอดีว่าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปูเป้ได้ไปที่ P&G Singapore Innovation Center ซึ่งก็มีนักวิจัยของเขามาตอบคำถามว่าเจ้าเอสเซ็นส์ขวดนี้ช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทาลงไปนั้นดูดซึมดีขึ้นได้อย่างไร ซึ่งปูเป้จะสรุปให้ฟังง่าย ๆ ตามนี้

 photo Skin Absorption.png
คือเขาบอกว่าจาก Insight ของผู้บริโภคที่เขาสำรวจมามักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเมื่ออายุเยอะขึ้นนั้นเวลาทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้วรู้สึกว่ามันซึมเข้าสู่ผิวได้ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน นั่นเป็นเพราะว่าเมื่ออายุเราเยอะขึ้นการทำงานของผิวเราก็จะไม่ดีเหมือนแต่ก่อน กระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ผิวด้อยลงจากการที่เซลล์ผิวมีพลังงานที่น้อยลง ส่งผลให้เกิดการสะสมตัวของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพบนชั้นขี้ไคลที่มากขึ้น ทำให้ผิวชั้นนอกสุดของเราไม่เรียบเนียน หยาบกร้าน เก็บกักความชุ่มชื้นได้น้อยลง และในขณะเดียวกัน เซลล์เสื่อมสภาพที่สะสมจนหนาตัวผิดปกตินี้ก็ขัดขวางการดูดซึมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวด้วย ประมาณนี้แล

ทีนี้การที่จะลดความหนาของเซลล์เสื่อมสภาพที่สะสมบนชั้นขี้ไคลนั้นมันก็มีหลายวิธีไง ไม่ว่าจะเป็นการขัดผิว หรือผลัดเซลล์ทางเคมีด้วยกรด หรือเอนไซม์ แต่ทาง OLAY เลือกที่จะตอบโจทย์ตรงนี้ด้วยวิธีอื่นด้วยส่วนผสมของสาร Active ยอดฮิต นั่นก็คือ Niacinamide หรือ Vitamin B3 นั่นเอง (อีกแล้วหรอ!!!! <—เสียงอิชั้นตะโกนในใจ)

 photo NADPH.png
Niacinamide หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า Nicotinamide เป็นสารตั้งต้นที่สำคัญของ Niacinamide Adenine Dinucleotide (NAD) กับอนุพันธ์ของ NAD อย่าง Niacinamide Adenine Dinucleotide Phosphate (NADP) และรวมไปถึง reduce form ของมันอย่าง NADH และ NADPH สารกลุ่มโคเอนไซม์เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม เพื่อผลิตพลังงานของเซลล์ และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

เมื่ออายุเรามากขึ้น กระบวนการสร้างสารโคเอนไซม์เหล่านี้ก็ลดลงจึงส่งผลให้เซลล์ผลิตพลังงานได้น้อยลงตามไป ทีนี้ก็มีการศึกษาพบว่า Nicinamide มีคุณสมบัติในการดูดซึมสู่ผิวได้เป็นอย่างดีและสามารถเพิ่มปริมาณของโคเอนไซม์ที่ว่านี้ให้สูงขึ้นได้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลในการสนับสนุนคุณสมบัติสำคัญของ Niacinamide ในการเสริมความแข็งแรงของชั้น Skin Barrier เพราะกระบวนการเมตาบอลิซึ่ที่ดีขึ้นจะช่วยให้การพัฒนาตัวของเซลล์เคราติโนไซด์เป็นไปอย่างปกติที่ควรจะเป็น รวมถึงการเพิ่มการสร้าง Ceramide ซึ่งเป็นไขมันสำคัญในการเชื่อมกำแพงปกป้องผิวให้ดียิ่งขึ้น

นี่เป็นเหตุผลที่มาอธิบายว่าผลิตภัณพ์ตัวนี้สามารถช่วยให้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นซึมซาบสู่ผิวดีขึ้นได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวปูเป้เองก็มองว่ามันก็น่าสนใจดีนะ แต่นั่นจะแปลว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ OLAY ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ก็ให้ผลแบบนี้กันด้วยรึเปล่า? ก็คงต้องมาดูที่ตัวเบสหรือเนื้อของผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยต่อไป

(Source : Nicotinic acid/niacinamide and the skin., How Much Do We Really Know About Our Favorite Cosmeceutical Ingredients?, Topical Niacinamide and Barrier Enhancement.)

ส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ ในเซรั่มตัวนี้ก็คงหนีไม่พ้น Palmitoyl Pentapeptide-4 หรือ Pal-KTTKS หรือในอีกชื่อก็คือ Matrixyl โดยบริษัท Sederma ที่ปัจจุบันใช้ได้เฉพาะแบรนด์ในเครือ P&G เท่านั้น (เพราะว่า P&G ดันเอาไปจดสิทธิบัตรการใช้งานของ Palmitoyl Pentapeptide-4 คู่กับส่วนผสมออกฤิทธิ์หลักอื่น ๆ อีกเยอะแยะตาแป๊ะไก่ จนกลายเป็นว่าผู้ผลิตอื่นไม่สามารถเอาไปใช้ได้อีกเลย ทำให้ Sederma ต้องผลิต Matrixyl 3000 Palmitoyl Oligopeptide + Palmitoyl Tetrapeptide-7 มาขายแทน)

Pal-KTTKS เป็นเปปไทด์ที่ประกอบไปด้วยกระอะมิโนที่เป็นเหมือนสารตั้งต้นของคอลลาเจน ประสิทธิภาพของเปปไทด์ตัวนี้ในการลดเลือดริ้วรอยนั้นแต่เดิมมีแต่การวิจัยของ P&G เท่านั้น ซึ่งเขาก็แสดงให้เห็นว่ามันมีประสิทธิภาพดีเลยล่ะ (แหงสิ) ทำให้ข้อมูลในเรื่องของประสิทธิภาพตรงนี้ยังคงมีข้อกังขา

 photo palKTTKS.png
แต่ล่าสุดมีข้อมูลจากปี 2013 โดย University of Reading ที่ทำการทดสอบและพบว่าเจ้า Pal-KTTKS มันสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้จริง และผลที่ได้แปรผันไปตามความเข้มข้นของสารที่ใช้อีกด้วย ทำให้เปปไทด์ตัวนี้มีเครดิตดีขึ้นมาอีกหน่อยในแง่ของการเป็นสารต่อต้านริ้วรอย

สำหรับคำถามที่เจอบ่อยว่า OLAY ไทยใส่เปไทด์มาน้อยกว่า OLAY ของเมืองนอกอย่างอเมริการึเปล่า? เพราะในส่วนประกอบของไทยมันห้อยมาเป็นติ่งรั้งท้ายเลย ตรงนี้ต้องอธิบายว่า ไอ้ Raw material ของ Matrixyl เนี่ยประกอบไปด้วย [Glycerin, Butylene Glycol, Aqua, Carbomer, Polysorbate 20 (and) Palmitoyl-Pentapeptide-4]

การใส่ Matrixyl มา 1% เท่ากับมีเปปไทด์ Pal-KTTKS อยู่ 1PPM หรือ หนึ่งส่วนในล้านส่วน ต่อให้เราใส่ Matrixyl มา 10% พอแยกปริมาณเปปไทด์ในสูตรออกมาจริงๆ แล้วมันก็ยังเป็นตัวเลขที่น้อยมากอยู่ดี ดังนั้นเมื่อเอามาแสดงในส่วนผสมตามลำดับ “มากไปน้อย” ตามจริง มันก็จะเป็นแบบฉลากที่เราเห็นในประเทศไทยนี่แหล่ะ แต่ฉลากของอเมริกาที่เห็นเรียงสวย ๆ ดูเหมือนมีสารบำรุงเข้มข้นกว่านั้น เขาใช้ข้อยกเว้นที่ว่าส่วนผสมที่มีปริมาณน้อยกว่า 1% ไม่จำเป็นต้องเรียงตามความเข้มข้นที่แท้จริง เขาก็เลยจับเอาพวกสารบำรุง เปปไทด์มาเรียงไว้นำหน้าสารกันเสียนั่นเองจ้า

(Source : NEW RESEARCH SHOWS ANTI-WRINKLE CREAM CHEMICAL WORKS, Collagen stimulating effect of peptide amphiphile C16-KTTKS on human fibroblasts., A randomized, controlled comparative study of the wrinkle reduction benefits of a cosmetic niacinamide/peptide/retinyl propionate product regimen vs. a prescription 0·02% tretinoin product regimen.)

ส่วนผสมที่ส่วนตัวคิดว่าแปลกก็คือ Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate หรือสารที่มีชื่อทางการค้าว่า Olivem โดยบริษัท HallStar โดยเขาจำหน่ายเป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุบวกที่ได้จากน้ำมันมะกอก (ใช้เป็นสารทำความสะอาด) แต่ทาง OLAY บอกว่านี่เป็น Olive Extract และช่วยเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ ด้วยความสงสัยเราเลยไปค้นต่อและพบเอกสารในการจดสิทธิบัตรของเขาที่อธิบายว่า น้ำมันมะกอกมีสาร Oligogalactomannans เยอะ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสารที่มีฤิทธิ์ทางชีวภาพ เขาจึงเลือก Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate (Olivem 460) มาใช้เพื่อการนี้ แต่ไม่ได้อธิบายเพิ่มว่ามันมีผลดีกับผิวอย่างไร ด้วยกระบวนการไหน

(Source : Method of improving the appearance of aging skin)

ข้อมูลที่ได้มาจาก Press Release นั้นบอกว่าเอสเซนส์ตัวนี้มีส่วนผสมของ Lys’Lastine ซึ่งเขาเคลมว่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกระชับให้กับผิว นี่เป็นส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่ม Regenerist รุ่นใหม่ตั้งแต่ปีก่อน (แน่นอนว่าเขาจดสิทธิบัตรเรียบร้อย) 

Lys’Lastine เป็นสารสกัดจากเมล็ดผักชีลาว (Dill Seed Extract) โดยบริษัท BASF ซึ่งเคลมว่าช่วยเสริมการสร้างเส้นใยอีลาสตินผ่านการกระตุ้นการสร้างโปรตีน LOXL (lysyl oxidase-like) ที่ทำหน้าที่รวม Microfibrils และ Tropoelastin ให้กลายเป็นเส้นใยอีลาสตินเพื่อคงความยืดหยุ่นกระชับให้กับผิวนั่นเอง แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลจากผู้ผลิตสารเท่านั้น

ประเด็นคือในส่วนประกอบข้างกล่องกลับไม่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมล็ดผักชีลาวที่ว่าเลย (Peucedanum Graveolens (Dill) Extract) หลังจากทีได้แจ้งกลับไปทางแบรนด์ก็ได้ตรวจสอบและพบว่าข้อมูลใน Press Release นั้นผิดพลาด ส่วนผสมของ Lys’Lastine นี้จะมีอยู่ในกลุ่มของ Regenerist Micro-Sculpting เท่านั้นจ้า

ส่วนผสมอื่น ๆ ก็มี วิตามินอี อนุพันธ์วิตามินซีนิดหน่อย สารสกัดจากพืชเป็นแอนติออกซิแดนท์ มี่วนผสมอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจอย่าง Inositol ซึ่งช่วยเรื่อความชุ่มชื้นของผิว ตัวนี้ถูกรวมอยู่ในสิทธิบัตรเกี่ยวกับไวท์เทนนิ่งของ P&G ด้วย

Ingredients : Water, Niacinamide, Glycerin, Butylene Glycol, Hexylene Glycol, Dimethicone, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, PEG-32, Phenoxyethanol, Benzyl Alcohol, Sodium Hydroxide, Methylparaben, Dimethiconol, Disodium EDTA, Inositol, Isopropyl Isostearate, Sodium Metabisulfite, Tocopheryl Acetate, PEG-100 Stearate, Fragrance, Sodium Ascorbyl Phosphate, Morus Alba Root Extract, Glyceryl Acrylate/Acrylic Acid Copolymer, PVM/MA Copolymer, Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate, Lilium Candidum Flower Extract, Palmitoyl Pentapeptide-4, Lonicera Japonica (Honeysuckle) Flower Extract.

 photo OLAY RG PreEssence 02.png
สิ่งที่ OLAY ภูมิใจนำเสนออีกอย่างก็คือดรอปเปอร์แบบอัตโนมัติ ซึ่งกะปริมาณในการใช้แต่ละครั้งให้เราเสร็จสรรพเลย ให้สังเกตที่ส่วนหัวของฝาให้ดีก่อนที่เราจะหมุนเปิดมันจะล็อคแน่นอยู่

 photo OLAY RG PreEssence 03.png

แต่พอเราบิดเปิดฝาปุ๊ป ส่วนปลายของฝาขวดจะเด้งขึ้น และดูดเนื้อผลิตภัณฑ์เข้าไปในหลอดหยดทันที

 photo OLAY RG PreEssence 04.png



หลังจากนั้นก็กดที่ปลายฝาเพื่อหยดผลิตภัณฑ์ลงบนปลายนิ้วและทาเป็นขั้นตอนหลังเช็ดโทนเนอร์หรือโลชั่นน้ำ ก่อนเซรั่มบำรุงผิวตัวอื่น ๆที่ใช้อยู่

 photo OLAY RG PreEssence 05.png


เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเซรั่มโปร่งแสงไม่มีสี เกลี่ยได้ง่าย ซึมแห้งไปกับผิวในระยะเวลาไม่นาน และเมื่อแห้งแล้วก็จะไม่มีความรู้สึกเหนอะหนะหรือเหนียวบนผิว

ปูเป้พบว่านี่เป็นเอสเซนส์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากใช้เซรั่มของ OLAY Regenerist แต่อาจจะไม่ชอบเนื้อเซรั่มเบสซิลิโคนลื่น ๆ เท่าไหร่ ตัวนี้ตอบโจทย์แบบสุด ๆ เลย

สำหรับผลที่ได้หลังจากการทดลองใช้ต่อเนื่องเช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ก็ไม่พบข้อเสียอะไร ไม่มีปัญหากับการใช้คู่กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้อยู่แล้ว จึงทำให้เอสเซ็นส์ขวดนี้สามารถแทรกเข้าไปในขั้นตอนการบำรุงผิวได้ง่าย รู้สึกเนื้อผิวเรารู้สึกว่ามันละเอียดและยืดหยุ่น โทนผิวดูสดใสดีแม้จะลดการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มไวท์เทนนิ่งจากเช้า – เย็น เป็นเหลือแค่ตอนเช้าอย่างเดียวก็ตาม

 photo OLAY RG PreEssence 06.png
โดยสรุปแล้ว OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essenceเป็นเอสเซนส์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว และสามารถนำเข้าไปเสริมในขั้นตอนการบำรุงผิวที่มีอยู่ได้ง่าย และเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นอย่างบ้านเราอีกด้วย ผลที่ได้ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ สามารถคาดหวังในคุณสมบัติของการเพิ่มพลังให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผิวชุ่มชื้น ละช่วยในเรื่องของการชะลอการเกิดริ้วรอยไปพร้อม ๆ กัน

ข้อเสียก็คงจะมีแต่การมีส่วนผสมของน้ำหอม แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่ากลิ่นไม่แรงเกินไป ค่อนข้างอ่อน และจางไปอย่างรวดเร็ว อยู่ในระดับที่รับได้

ความเห็นส่วนตัวที่มีต่อผลิตภัณฑ์โดยภาพรวมคิดว่าคอนเซปต์ในการเสริมพลังให้กับผิวนั้นน่าสนใจ ในแง่ของผู้ที่สนใจในศาสตร์ของเครื่องสำอางนั้นเรารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นทุกครั้งที่ได้รู้ว่า Niacinamide นั้นมีสรรพคุณที่แสนวิเศษซ่อนอยู่มากมายรอให้ค้นพบ แต่ในมุมที่เป็นผ้บริโภคของเรานั้น ก็มีความคิดว่าในเมื่อทุกผลิตภัณฑ์ของ OLAY ก็มีสารตัวนี้อยู่แทบทั้งหมด ทำไมเราต้องใช้เอสเซนส์ตัวนี้มากกว่าเซรั่มตัวอื่นของ OLAY หรือถ้าใช้เอสเซนขวดนี้แล้วยังจำเป็นต้องใช้เซรั่มของ Regenerist อีกหรือไม่? มันจะซ้ำซ้อนหรือเกินความจำเป็นไปรึเปล่า? ก็เป็นสิ่งที่เราคิดอยู่เหมือนกันนะ

อีกคอมเมนต์นึงที่อยากจะฝากถึงฝ่ายการตลาดของ OLAY คือเรารู้สึกกว่า ช่วงราคาของ OLAY ในไทยมันสูงไปนะ เทียบราคาขายปลีกของผลิตภัณฑ์ที่มีขายทั้งในไทยและอเมริกา กลายเป็นว่าราคาขายปลีกในอเมริกายังถูกกว่าราคาตอนลดแล้วของไทยเลย คือถ้าของที่ขายในไทยเป็นของนำเข้าทั้งหมดก็คงจะไม่บ่น แต่นี่ Made in Thailand ล่ะ

สำหรับใครที่สนใจ OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence จะเริ่มวางจำหน่ายในไทยในช่วงต้นเดือน กรกฎาคม 2558 ที่จะถึงนี้ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต บิวตี้สโตร์และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

– มีปริมาณของสารออกฤิทธิ์สำคัญในระดับที่คาดหวังผลได้
– เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา เหมาะกับทุกสภาพผิว
– บรรจุภัณฑ์ใช้สะดวก

ข้อเสีย

– มีส่วนผสมของน้ำหอม

***Sponsored Item***

– OLAY : Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence