เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา PHYTO แบรนด์ผลิตภัณพืเพื่อเส้นผมและหนังศีรษะจากประเทศฝรั่งเศสที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติเนิ่นนานก่อนที่กระแสจะบูมในยุคปัจจุบันมาตั้งแต่ปี 1969 ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เคลมว่าดูแลปัญหาผมบางหลุดร่วงแบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า PHYTO : Phytologist 15 

จากประสบการณ์ของตัวเองในเวลาเกือบจะ 10 ปี ที่อยู่ตรงนี้ ในช่วงประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาปูเป้เริ่มเห็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวกับเรื่องปัญหาเส้นผมหลุดร่วงนั้นเข้ามามีบทบาทและเปิดตัวกันมากขึ้น เพราะปัญหาเหล่านี้เริ่มเกิดมากขึ้นในกลุ่มวัยที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ อาจจะเนื่องด้วยจากความเครียดในการทำงาน ความกดดัน สภาพแวดล้อม ประกอบกับตัวเลือกในท้องตลาดบ้านเรายังมีน้อยเมื่อเทยกับในต่างประเทศที่ปูเป้เคยไปเห็นมา ทำให้นี่เป็นจุดที่หลายแบรนด์เห็นว่านี่เป็นช่องว่างที่มีโอกาสเติบโตนั่นเอง

PHYTO : Phytologist 15 มาพร้อมกับการชี้เป้าว่า ทางเลือกของทรีตเมนต์สำหรับปัญหาเส้นผมบางหลุดร่วงนั้นมักจะเข้าไปจัดการกับส่วนที่รู้จักกันดี นั่นคือการยับยั้งเอนไซม์ 5α-Reductase  ไม่ให้แปลงฮอร์โมน Testosterone ให้กลายเป็น Dihydrotestosterone (DHT) จนไปทำให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงไป แต่ต้องดูแลปัจจัยรอบด้านที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเขาบอกว่าปัยจัยรอบข้างที่ต้องเข้าไปดูแลมีทั้งหมด 15 เป้าหมาย (ถึงได้ชื่อว่า Phytologist 15 นั่นเอง)

เราคิดว่าประเด็น 15 เป้าหมายนี่น่าสนใจมากทีเดียวเพราะว่าตัวเราเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนี้เท่าไหร่ และปัญหาผมร่วงเป็นสิ่งที่ไกลตัวเราแบบไม่เคยนึกถึงเลย แต่เราว่าข้อมูลเหล่านี้คงเป็นประโยชน์กับผู้ที่กังวลว่าอนาคตอาจจะมีแนวโน้มตรงนี้อยากจะเตรียมตัวป้องกันไว้ก่อน หรือกำลังมีปัญหานี้อยากรู้วิธีดูแลตัวเอง หรือสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและอยากมีข้อมูลเก็บไว้เผื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จึงขอเอาข้อมูลและอ้างอิงมาเล่าสู่กันฟัง

15 Biological Target oh Hair Loss and Growth

1. Inhibit 5α-Reductase : กลไลยอดนิยมและขาดไม่ได้เนื่องจากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า 5α-Reductase แปลงฮอร์โมน Testosterone ให้กลายเป็น Dihydrotestosterone (DHT) และไปจับกับ Adrogenic Receptors ทำให้รากผมหดเล็กลงจนผมหลุดรวงนั่นเอง

(Source : Genetic analysis of male pattern baldness and the 5alpha-reductase genes.Balding hair follicle dermal papilla cells contain higher levels of androgen receptors than those from non-balding scalp.)

2. Protect the cell nucleus : ลดการสะสมของโปรตีนที่ชื่อว่า Progerin ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเสื่อมชราของเซลล์ Progerin มาจากการสร้างตัวที่ไม่สมบูรณ์ของ Lamin A ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นเหมือนโครงสร้างของผนังนิวเคลียสในเซลล์ (ทำให้นิวเคลียสมีความเถียร และการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งตัว การแสดงออกของยีนส์ การส่งสัญญาณทำได้อย่างไม่มีปัญหา) การผลิตที่ไม่สมบูรณ์นี้มาจากการกลายพันธุ์ของยีนที่ผลิต Laimin A อย่าง LMNA Gene ทำให้ Progerin เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการเกิดความเสื่อมชราก่อนวัย ซึ่ง Progerin นั้นจะมีเกิดขึ้นได้เองจากวัยที่เพิ่มขึ้น แต่จะถูกกระตุ้นให้มีมากขึ้นเมื่อเจอปัจจัยที่มากระตุ้นอย่างเช่นรังสี UVA สรุปง่าย ๆ ว่าการลดการสะสมของ Progerin จะช่วยปกป้องนิวเคลียส์ของเซลล์ และทำให้เซลล์ทำงานในแบบที่มันควรจะเป็นซึ่งส่งผลกับสุขภาพของผิวและรวมถึงหนังศีรษะนั่นเอง

(Source : New look at the role of progerin in skin aging)

3. Improve the interfolicular structure : เป็นที่รู้กันว่ารากผมรับสารอาหารและพลังงานผ่านทางเส้นเลือดฝอยในชั้น Derma Papilla ดังนั้นการยึดเกาะและโครงสร้างของชั้นที่เชื่อมระหว่างผิวชั้นนอกกับผิวชั้นในอย่างเช่นชั้น Derma Epidermal Junction จึงมีผลสำคัญต่อสุขภาพรากผม

4. Detoxifies Cells : ผลกระทบจากอนุมูลอิสระทำให้เกิดเศษซากของโปรตีนเสื่อมสภาพและไม่สมบูรณ์ซึางโดยปกติจะถูกขจัดออกโดยโปรตีนที่มีชื่อว่า Proteosome ซึ่งโปรตัวนี้จะทำงานด้อยลงตามวัย การเสริมการทำงานของโปรตีนชนิดนี้จะช่วยปกป้องการทำงานของเซลล์ให้เป็นปกติ

5. Deminishes folicle micro-irritation : ในรายที่มีปัญหาผมหลุดร่วงจากภาวะพันธุกรรม (Androgenetic alopecia) พบว่า micro-inflammation มีผลทำให้เกิด fibrosis ในรอบ ๆ รูขุมขนทำให้รโครงสร้างรากผมเสียหายและสามารถนำไปสู่การทำลายรูขุมขนนั้นอย่างสิ้นเชิง

(Source : Androgenetic alopecia in males: a histopathological and ultrastructural study.)

6. Prolongs the lifespan of hair follicle cells : การศึกษาพบว่า Prostaglandin D2 ไปขัดขวางการเจริญเติบโตและพัฒนาการของรูขุมขน และในรายที่มีปัญหาผมหลุดร่วงจากภาวะพันธุกรรม ก็พบว่ามี Prostaglandin D2 ในจุดที่ศีรษะล้านมากกว่าจุดที่มีเส้นผมปกคลุมถึง 10 เท่า การยับยั้งการทำงานของ Prostaglandin D2 จะช่วยยืดอายุและการพัฒนาการของรูขุมขนจะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้

(Source : Prostaglandin D2 Inhibits Hair Growth and Is Elevated in Bald Scalp of Men with Androgenetic Alopecia)

7. Protect Stem Cells : อันนี้เราว่าเบสิค คือลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ ลดนุมูลอิสระ เพื่อให้เซลล์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงานของมันอ่ะ

Hair Loss Comb

8. Stimulate growth factor synthesis  : Hepatocyte growth factor มีการทดสอบในเซลล์ทดลองแล้วว่าช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมได้

(Source : epatocyte growth factor (HGF) activator expressed in hair follicles is involved in in vitro HGF-dependent hair follicle elongation.)

9 Act on the production of sirtuins : sirtuins เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการป้องกันตัวเองและอยู่รอดของเซลล์โดยทำหน้าที่ในการรับมือและต่อต้านกับความเครียดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำงานของเซลล์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการของเซลล์ กระบวนการเมตาบอลิซึ่ม การซ่อมแซม DNA และอื่นๆ อีกมากมาย จึงเป็นอีกโมเลกุลที่น่าสนใจในการปกป้องเซลล์อีกทางหนึ่ง

(Source : Sirtuins: A Breakthrough in Antiaging Research)

10. Act to combat fibrosis : การอักเสบการระคายเคืองกระตุ้นให้เกิด fibrosis ซึ่งส่งผลเสียต่อโครงสร้างของโพรงขน การมัดผม รัดผม หรือมีแรงดึงที่กระทำกับเส้นผมเป็นประจำทำให้เกิด fibrosis และส่งผลตอการหลุดรวงและเป็นโรคผมร่วงได้อีกทางหนึ่ง นอกจากจะลดพฤติกรรมดังกล่าวแล้วการขัดขวางกลไกที่ทำให้เกิด fibrosis ในโพรงขนก็เป็นอีกทางหนึ่งที่น่าสนใจ

(Source : Androgenetic alopecia in males: a histopathological and ultrastructural study.Female Pattern Hair Loss and its Relationship to Permanent/Cicatricial Alopecia: A New Perspective)

11. Regenerates ATP : ATP หรือ Adenosine triphosphate เกี่ยวข้องโดยตรงกับพลังงานของเซลล์ เขาเชื่อว่าการที่เซลล์มีพลังงานเต็มเปี่ยมจะช่วยยืดเวลาของช่วง Anagen หรือช่วงที่รากขนยังมีชีวิตและผลิตเส้นขนให้ยาวออกมาเรื่อย ๆ

12. Antioxidant : รังสี UV เพิ่มความเสียหายจากอนุมูลอิสระโดยเฉพาะในรายที่มีปัญหาผมบางหรือหัวล้านจะมีเส้นผมมาปกป้องรังสี UV น้อยลง ซึ่งอนุมูลอิสระส่งผลกระทบต่อเซลล์โดยตรงรวมไปถึงทำให้ปัญหาผมบางผมร่วงแน่ลงด้วย การต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นอีกกลไกที่จำเป็น

13. Improve cellular respiration : เซลล์ต้องการสารอาหาร ออกซิเจน และขับของเสียออกไปผ่านทางเส้นเลือดฝอย การแลกเปลี่ยนเหล่านี้สำคัญต่อการทำงานของเซลล์เช่นกัน

14. Protect cell energy-producing organelles : อนุมูลอิสระส่งผลกระทบต่อเซลล์โดยฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงาน ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ ก็ต้องได้รับการปกป้องเช่นกัน

15 Stimulates growth factor secretion by pre-adipocyte : ชั้นไขมันที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวและเป็นส่วนที่ใกล้กับส่วนของรากขนนั้นมีการหลั่ง Platelet Derived Growth Factor ออกมาโดย Pre-Adipocyte จะไปกระตุ้นให้เกิดวงจนของการเกิดเส้นผมขึ้น ถ้าสามารถไปเพิ่มการหลังของสารตัวนี้ได้กลไลการเกิดเส้นขนหรือเส้นผมก็จะถูกกระตุ้นได้

(Source : Adipocyte lineage cells contribute to the skin stem cell niche to drive hair cycling.)

นี่คือทั้ง 15 เป้าหมายที่ทาง PHYTO บอกว่าจะเป็นการดูแลปัญหาเส้นผมหลุดร่วงอย่างครบวงจร ซึ่งส่วนตัวมองว่าบาอันก็น่าสนใจและเป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับเรา บางอันก็ดูเหมือนพยายามเอามาขยายให้ดูเยอะขึ้น (คือมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่นเรื่อต้านอนุมูลอิสระกับเรื่องการอักเสบของเซลล์อะไรพวกนี้ จะเอามารวมกันก็ได้ แต่เอามาแยกจะเป้าหมายที่ดูเยอะขึ้น ดูเป็นตัวเลขสวย ๆ) ข้อมูลบางส่วนช่วยทำให้เราเข้าใจสาเหตุของการที่เพื่อนผู้หญิงของเราบางคนมีปัญหาหัวเหม่งกันมากขึ้นเพราะการรวบผมบ่อย ๆ ว่ามาจากการเกิด fibrosis ในส่วนของรูขุมขนนั่นเอง

PHYTO : Phytologist 15

PHYTO : Phytologist 15 (3.5ml X 12 Vial / 5,400 Baht)นำส่วนผสมหลัก 4 ชนิดในการเข้ามาตอบโจทย์ทั้ง 15 ประการที่เขาว่ามาด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่เคลมว่ามากถึง 99% เลยล่ะ โดยตัวที่เขาชูโรงมีทั้งหมดมีดังนี้

Theobroma Cacao (Cocoa) Extract หรือสารสกัดจากผลโกโก้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ

Scutellaria Baicalensis Root Extract มีฟลาโวนอยด์จำนวนมากและมีสารสำคัญอย่าง baicalin ทางแบรนด์เคลมว่าถูกผสมเข้ากับ Glycine Soja (Soybean) Germ Extract หรือสารสกัดจากถั่วเหลือง Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract หรือสารสกัดจากจมูกข้าวสาลี ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนเปปไทด์ ลิพิด และแร่ธาตุ เขาเคลมต่อว่าช่วยเพิ่มการสร้าง ATP ปกป้องไมโตคอนเดรียจากอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์คึกคักเปี่ยมพลังยืดอายุช่วงเวลาที่รากขนผลิตเส้นผม

Swertia Chirata Extract เคลมว่าทำงาน pre-adipocyte ที่จะไปกระตุ้นการหลังสารที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นผมใหม่

Globularia Cordifolia Callus Culture Extract คือสารที่มีชือทางการค้าว่า Resistem™ โดยบริษัท Sederma ซึ่งผู้ผลิตเคลมว่าสารตัวนี้จะช่วยปกป้องเซลล์ของเรา เสริมการขจัดของเสียออกจากเซลล์ และกระตุ้นการสังเคราะห์ sirtuins ได้

ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นคำเคลมจากทางแบรนด์รวมไปถึงคำเคลมจากผู้ผลิตสาร คงจะมีในส่วนของคุณสมบัติการเป็นสารต้านอนมูลอิสระและต้านการอักเสบที่ดีที่เราพอจะคุ้นเคยในตรงนี้ ส่วนผสมอื่น ๆ ยังมีอีกมากมายแต่ก็หาข้อมูลได้น้อยแต่ก็มักเป็นส่วนผสมที่เห็นได้บ่อยในผลิตภัณพืเสริมอาหารหรือเครื่องสำอางที่เจาะปัญหาในด้านนี้เช่น Equisetum Arvense มี Silica เยอะและเชื่อกันว่าช่วยเรื่องการงอกของเส้นผมแต่เราก็ยังหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เอามาทาไม่ได้ แต่ที่น่าสนใจและเขาไม่ได้พูดถึงเอาไว้คือ Trifluoroacetyl Tripeptide-2 เป็นเปปไทด์สังเคราะห์ที่มีผลต่อการลดการสร้าง Progerin ซึ่งลดความเสื่อมชราของเซลล์และมักเป็นเปปไทด์ที่อยู่ในสกินแคร์บำรุงผิวหน้ามากกว่าแต่ตัวนี้ใส่มาในผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะด้วย

Ingredients : Equisetum Arvense Extract (Extraction de Prêle), Alcohol Denat. (Alcool de Betterave), Aqua/Water/Eau (Constitutive des Matières Premières), Propanediol, Glycerin, Citrus Limon (Lemon) Peel Oil (Citron), Globularia Cordifolia Callus Culture Extract, Arginine, Lactic Acid, Parfum/Fragrance, Serenoa Serrulata Fruit Extract (Serenoa Repens), Glycine Soja (Soybean) Germ Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract, PVP, Salvia Officinalis (Sage) Oil (Sauge), Theobroma Cacao (Cocoa) Extract, Cupressus Sempervirens Leaf/Nut/Stem Oil (Cyprès), Lentinus Edodes Extract (Shitaké), Melaleuca Leucadendron Cajaput Oil (Cajeput), Scutellaria Baicalensis Root Extract, Panthenol, Pyridoxine HCL, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Oil (Romarin), Swertia Chirata Extract, Maltodextrin, Cananga Odorata Flower Oil (Ylang-Ylang), Limonene, Linalool, Citral, Benzyl Benzoate, Geraniol, Benzyl Salicylate, Farnesol, Gluconolactone, Hydroxypropyl Chitosan, Sodium Benzoate, Potassium Sorbate, Dextran, Trifluoroacetyl Tripeptide-2, Calcium Gluconate.

ใน 1 กล่องจะประกอบไปด้วยทรีตเมนต์ทั้งหมด 12 หลอด แต่ละหลอดมีปริมาณ 3.5 มิลลิลิตร โดยการใช้จะใช้ลงบนหนังศีรษะที่ผ่านการทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งหมาด ๆ แล้ว จึงหยดทรีตเมนต์ทั้งหลอดลงไปให้ทั่วหนังศีรษะและนวดกระจายก่อนทิ้งไว้และเป่าแห้ง จัดแต่งทรงผมได้ตามปกติ เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นของเหลวใสสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยและสมุนไพร ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือมันเหนียวบนหนังศีรษะ

คำแนะนำในการใช้คือใช้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง (วันเว้นวัน) ในหนึ่งกล่องจะใช้ได้ 4 สัปดาห์ ใช้ได้ทั้งชายและหญิงที่มีปัญหาหรือกังวลเรื่องผมร่วงผมบาง โดยทางแบรนด์แนะนำว่าเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดต้องใช้ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์เพื่อให้เส้นผมที่ขึ้นใหม่แข็งแรง เส้นใหญ่ขึ้น และมีความเงางาม

โดยส่วนตัวไม่สามารถที่จะรีวิวผลิตภัณฑ์นี้ได้เพราะไม่มีปัญหาเรื่องเส้นผมบาง แต่คิดว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีการพูดถึงกลไกที่เกี่ยวข้องกับปัหาเรื่องผมบางหลุดร่วงเอาไว้เยอะกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เคยเห็นมา จึงเป็นข้อมูลที่น่าสนใจทีเดียว อย่างน้อยผู้ที่มีปัญหาผมหลุดร่วงหรือต้องการป้องกันจะมีวิธีในการดูแลตัวเองว่าต้องใส่ใจในการปกป้องหนังศีรษะจากรังสี UV ลดปัจจัยที่จะก่ออนุมูลอิสระหรือการอักเสบระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมีกัดสีดัดย้อมหรือการดึงยืดในการจัดทรงผมบ่อย ๆ ก็ส่งผลต่อหนังศีรษะและรากผมในระยะยาว ส่วนใครจะลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาเสริมการดูแลและป้องกันในตรงนี้ก็จะลองแวะไปเยี่ยมร้านของ PHYTO หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook :  PHYTO Thailand ครับผม