จะบอกว่าอัพเดท… ก็คงไม่ใช่เพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่จะเอามาพูดถึงในวันนี้ได้มาลองเกือบสองเดือนแล้ว (แต่ออกงานบ่อย + ไปเที่ยวจนไม่มีเวลามานั่งเขียน) ช่วงนี้แบบว่ากำลังเก็บตัวอยู่บ้านเพราะร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ออกไปข้างนอกกลัวจะติดไข้หวัดใหญ่มาคงงานเข้า… ทำให้มีเวลามานั่งเขียนนี่แหล่ะคร้าบ

พอดีคุณแอ๋ม PR ของ Shu Ueamura ได้ชวนปูเป้เข้าร่วม Workshop และงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Stage Performer เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในหมวดของ Skincare แต่ก็ให้คุณสมบัติในเชิง Make-up ได้ด้วย (ฟังดูน่าสนใจไม่น้อย ;D )

แรงบันดาลใจเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ Stage Performer นั้นออกแบบมาสำหรับผู้หญิงสมัยใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วในการเยียวยาผิวที่ดูเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับนางแบบเบื้องหลังเวทีแฟชั่นโชว์ที่ต้องการปรับผิวให้อยู่ในสภาพดีที่สุดเพื่อยกระดับของการแต่งหน้าให้สมบูรณ์แบบภายใต้กรอบเงื่อไขว่าต้องใช้เวลาที่น้อยที่สุดเช่นกัน

ในวันงานเปิดตัวปูเป้ก็โอกาสพูดคุยและซักถามข้อสงสัยกับ อ. ยูอิจิ อาซาโน่ ที่บินตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นเพื่องานนี้โดยเฉพาะอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ของ Shu Ueamura ชิ้นเดียวที่ปูเป้เคยใช้และกำลังใช้อยู่ก็คือ UV Under Base Mousse นั่นเอง แต่ในบางครั้งผมก็จะประสบกับปัญหาว่าใช้แล้วลอกเป็นขุยหรือเป็นคราบไม่เรียบเนียนอย่างที่ผู้อ่าน Blog หลายคนก็ถามผมมา ก็ได้คำตอบว่าตัวผลิตภัณฑ์นั้นออกแบบมาให้ใช้ได้ง่ายมาก (เพราะว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ชายก็ใช้ได้) แค่กดเนื้อมูสลงบนฝ่ามือและละเลงบนผิวหน้าให้ทั่วได้เลย แต่บางครั้งเนื้อเบสมูสตัวนี้อาจจะไม่เข้ากันกับผลิตภัณฑืบำรุงผิวหรือครีมกันแดดที่ทาลงไปก่อนหน้านั้น จึงหลุดออกมาเป็นคราบได้

ส่วนตัวแล้วผมจะมีปัญหากับมูสตัวนี้เมื่อลงครีมกันแดดบางตัวซึ่ง วิธีแก้ก็คือวันที่จะใช้เบสมูสตัวนี้ผมก็จะบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเต็มที่ (เพราะมูสตัวนี้ดูดซับความมันด้วย ถ้าผิวแห้งเกินไปจะดูด้าน ๆครับ) หลังจากนั้นก็ใช้มูสตัวนี้อย่างเดียวโดยไม่ต้องลงกันแดดเพราะตัวผลิตภัณฑ์มีมีค่า SPF 30 PA+++ อยู่แล้ว แต่ปูเป้ก็จะใช้แบบนี้เฉพาะในวันที่ต้องไปออกงานสังคมและต้องไม่โดนแดดจัดเท่านั้นครับ

กลับมาที่เจ้า Stage Performer Instant Glow Immediet Radiance Skin Perfecting Cream ที่เป็นพระเอกในงานนี้ต่อดีกว่า เปิดตัวที่ราคา 1950 บาท ปริมาณ 50 ml ก็ไม่ได้แตกต่างกับราคาของมอยซ์เจอไรเซอร์ในแบรนด์ระดับนี้เท่าไหร่ เมื่อมาดูในแง่ของส่วนผสมก็พบว่าประกอบไปด้วยน้ำทะเล ซิลิโคน และ Wax ที่ประกอบขึ้นเป็นเบสครีม และส่วนผสมของเม็ดสีและตัวกระจายแสงที่ให้ผลเชิงเมคอัพ สารบำรุงอย่างพวกสารสกัดจากใบแปะก๊วยและอื่น ๆ นั้นมีอยู่จริงแต่ในปริมาณที่น้อยกว่าสารกันเสียมากนักจึงอย่าคาดหวังประสิทธิภาพอะไรจากมันจะดีกว่า เมื่อมองในเชิงของ Skincare แล้วนั้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็จัดอยู่ในระดับธรรมดาที่ไม่ได้ให้อะไรมากไปกว่าการเคลือบผิวและเติมความชุ่มชื้น

Ingredients : Maris Aqua/Sea Water, Dimethicone, Hydrogenated Polyisobutene, Dimethicone/PEG-10/15 Crosspolymer, Dipropylene Glycol, Synthetic Wax, Polybutene, CI 77891/Titanium Dioxide, Methylsilanol/Silicate Crosspolymer, Magnesium Sulfate, Phenoxyethanol, Mica, Ethylhexylglycerin, CI 77491, CI 77492, CI 77499/Iron Oxide, Boron Nitride, Acrylates/Ammonium Methacrylate Copolymer, p-Anisic Acid, Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid, PEG-6 Isostrarate, Triethyl Citrate, Disodium Stearoyl Glutamate, Limonene, Ginko Biloba Leaf Extract, Linalool, Aluminum Hydroxide, Hesperetin Laurate, Rosa Gallica Flower Extract, Citrus Aurantium Amara (Bitter Orange) Flower Extract, Thermus Thermophillus Ferment, Parfum/Fragrance.

 

แต่ถ้ามองในมุมของการเป็นกึ่งเมคอัพแล้วนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว ภายในเนื้อครีมสีขาวจะประกอบไปด้วยแคปซูลเม็ดสีจำนวนมากซึ่งจะแตกตัวเวลาเกลี่ยลงไปบนผิว

เวลาทาลงไปบนผิวจะไม่เห็นสีหรอกครับ แต่ถ้าลองเอามาขยี้ลงบนสำลีหรือกระดาษที่เป็นสีขาวอย่างที่ปูเป้สาธิตให้ดูในรูปด้านซ้ายก็จะเห็นว่าเมื่อทาลงไปบนผิวแคปซูลเม็ดสีเหล่านี้จะแตกตัวผสมรวมกันจนออกมาเป็นสีเนื้ออย่างที่เห็น

ผลที่ได้คือผิวจะมีความชุ่มชื้นและดูกระจ่างขึ้นในทันที ร่องรอยบกพร่องอย่างความหมองคล้ำ จุดด่างจำจางๆ และเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ ก็สามารถ “ดู” จางลงได้ อีกจุดที่น่าสนใจคือผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ไม่ว่าจะผิวขาวหรือผิวสีเข้ม (เขาบอกว่าคนผิวดำยังใช้ได้เลย)

เคล็ดไม่ลับเล็กน้อยในการใช้ก็คือเจ้า Stage Performer Instant Glow ต้องใช้เวลาในการเซ็ทตัว จึงควรรอประมาณ 2 – 3 นาทีหลังจากทาผลิตภัณฑ์ลงเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด อ้อ…. การใช้ Stage Performer Instant Glow เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนทาครีมกันแดดก็จะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและทำให้ผิวหน้าดูไม่มันเยิ้มด้วยนะครับ (แต่ก็ไมได้ช่วยให้ผิวสามารถดู Matte ได้ทั้งวัน)

คะแนนในเรื่องของการบำรุงผิวค่อนข้างธรรมดา แต่ผลทางคอสเมติคนั้นน่าชื่นชมไม่น้อย ก็ตัดสินใจลำบากกันหน่อย… แต่หากไม่คิดอะไรมาก เราก็ไปเน้นบำรุงในขั้นตอนของการใช้ Serum แทนก็ได้อยู่นะครับ

สุดท้ายนี้ปูเป้ก็ต้องขอขอบคุณทีมงาน Shu Uemura ทุกท่านที่ใจดีชวนปูเป้ไปร่วมกิจกรรมและมอบผลิตภัณฑ์มาให้ทดลองใช้อีกด้วบนะคร้าบ