Search
Home

คราวก่อนเขียนถึงแชมพูและครีมนวดที่ไม่มีซิลิโคนไป แต่ราคาแพงจนหลายคนต้องร้องเจี๊ยก (ไม่แปลกหรอกฮะ ปูเป้เองก็ร้อง…) คราวนี้เลยมีอีกตัวเลือกนึกที่ราคาพอถูไถและหาซื้อได้ง่ายกว่าตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปมาให้ลองเก็บเป็นข้อมูลนะฮะ

The Body Shop มีไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมอยู่เยอะแยะเลยทีเดียว และเมื่อช่วงปลายปีก่อนก็ได้ออกผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่ปราศจากซิลิโคนออกมา เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยไปซื้อมาลองใช้ชุดนึงเลยเลือกสูตร Radiance สำหรับผมทำสี (เพราะตอนนั้นทำสีผมอยู่) เปิดใช้ได้ไม่กี่ครั้งก็ทิ้งลืมเอาไว้ เดือนที่แล้วนึกได้ว่าเปิดไว้ปีนึงก็จะหมดอายุเลยต้องรีบเอามาใช้ให้หมด (เสียดายเงิน) ก็เลยจะเอามารีวิวให้ชมกัน

จุดขายของไลน์ Rainforest Hair Care จะชูเรื่องความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะกับระบบนิเวศของแหล่งน้ำ โดยส่วนประกอบที่นำมาใช้ต้องไม่เป็นพิษกับสิ่งมีชีวิต สารทำความสะอาดและสารก่อฟองทั้งหมดจะต้องสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ส่วนเรื่องจะปราศจาก Paraben สี หรือซัลเฟตรึเปล่านั้นไมได้สนใจเท่าไหร่ (คือไม่มีก็ดี แต่มีก็ยังใช้ได้) แต่ที่โดนใจปูเป้คือมันไม่มี “ซิลิโคน” ที่มักจะทำให้สิวขึ้นหัวอยู่เป็นประจำ

The Body Shop : Rainforest Radiance Shampoo (250 ml / 490 บาท) ใช้สารทำความสะอาดชนิดอ่อนโยนอย่าง Disodium Cocoyl Glutamate และ Lauryl Betaine เป็นหลัก ร่วมกับสารทำความสะอาดรองอื่น ๆ เนื้อแชมพูใส ฟองไม่มากเท่าไหร่ Feel ที่ได้หลังล้างคือผมจะรู้สึกเหมือนมีอะไรลื่น ๆ เคลือบติดอยู่เล็กน้อย ซึ่งก็จำเป็นสำหรับคนที่ทำสีผมหรือไม่ก็ไว้ผมาวหน่อยเพราะถ้าล้างแล้วฝืดสนิทผมจะพันกัน แต่ถ้าใครที่ชอบความรู้สึกฝืด ๆ หลังใช้คงจะต้องมองข้ามตัวนี้ไป กลิ่นน้ำหอมเป็นกลิ่นออกเบอรี่แอบฉุนเล้กน้อยตอนบีบออกมาแต่พอล้างแล้วก็จะเหลือติดผมจาง ๆ ส่วนตัวใช้แล้วไม่มีปัญหาอะไรสำหรับตัวนี้

Ingredients : Water, Sucrose, Disodium Cocoyl Glutamate, Lauryl Betaine, Laureth-5 Carboxylic Acid, Sodium Chloride, PEG-55 Propylene Glycol Oleate, Propylene Glycol, Polyglyceryl-4 Caprate, Glycerin, Parfum, Sucrose Laurate, Sodium Benzoate, Isopropyl Alcohol, Polyquaternium-6, Salicylic Acid, Citric Acid, Pentaclethra Macroloba Seed Oil, Vaccinium Myrtillus Fruit Extract, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Linum Usitatissimum Seed Oil, Sodium Hydroxide, Tocopherol.

The Body Shop : Rainforest Radiance Conditioner (250 ml / 490 บาท) คอนดิชันเนอร์ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนและใช้ส่วนผสมของ Cetearyl Alcohol และน้ำมันถั่วเหลืองในการเคลือบปรับสถาพเส้นผม และ Distearoylethyl Hydroxyethylmonium Methosulfate เพื่อไม่ให้ผมพันกัน ส่วนคำเคลมที่ว่ามีสารกรองรังสี UV เพื่อช่วยปกป้องสีผมนั้นก็ใส่ Ethylhexyl Methoxycinnamate มาอยู่จริง แต่มันไมได้ช่วยปกป้องสีผมจากแสงแดดได้หรอก

เนื้อคอนดิชันเนอร์ข้นมากจนต้องคว่ำขวดเอาไว้ตลอดการใช้ และควรผสมคอนดิชันเนอร์กับน้ำเล็กน้อยก่อนชโลมลงบนเส้นผมจะทำให้การกระจายตัวทำได้ดีขึ้น และเนื่องจากมันไม่มีซิลิโคน ก็จะต้องทิ้งเอาไว้นานหน่อย อย่างน้อยสัก 2 – 3 นาทีถ้าอยากให้ผมนุ่ม ๆ หรือจะทิ้งเอาไว้นานกว่านั้นก็ได้ตามต้องการ

Ingredients : Water, Cetearyl Alcohol, Glyceryl Stearate, Distearoylethyl Hydroxyethylmonium Methosulfate, Glycine Soja Oil, Polyglyceryl-4 Caprate, Glycerin, Parfum, Sodium Benzoate, Sucrose Laurate, Hydroxypropyl Guar, Linum Usitatissimum Seed Oil, Salicylic Acid, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Pentaclethra Macroloba Seed Oil, Citric Acid, Vaccinium Myrtillus Fruit Extract, Tocopherol.

สรุปสั้น ๆ ว่า The Body Shop : Rainforest Radiance Shampoo และ Conditioner ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลองมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน หาซื่้อได้ไม่ยาก และมีราคาที่ไม่แพงโหดจนเกินไปนัก ส่วนตัวปูเป้เองคิดว่ามันก็โอเค คือใช้แล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่ส่วนตัวชอบคอนดิชันเนอร์สำหรับผมทำสีของ Kiehl’s มากกว่าตัวนี้ (แต่มันก็แพงกว่าอีกเท่าตัว) ส่วนแชมพูก็คิดว่าโอเคนะแต่ก็คิดว่า Pantene : Nature Care Shampoo นั้นให้ Feel ที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ (แต่ของ THB ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยนกว่า และมันก็ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ) แอบบ่นอีกเล้กน้อยเรื่องความข้นของเนื้อคอนดิชันเนอร์ที่บีบออกมายากจนต้องคว่ำขวดตลอดเวลาเพื่อให้บีบออกมาง่าย ซึ่งบางครั้งมันก็เซหล่นตกลงพื้นบ้างทำให้ฝาขวดแตกเลย =_=a

สุดท้ายแล้วก็ต้องให้ทุกคนไปตัดสินใจกันเอาเองว่าจากข้อมูลที่ให้มานั้น Rainforest Hair Care จะมีความน่าสนใจพอที่จะหามาลองใช้กันรึเปล่า ก็หวังข้อมูลที่ให้ในครั้งนี้ก็จะเป็นประโยชน์เช่นเคยนะคร้าบบบบ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539