ใครที่ตามปูเป้มาเรื่อย ๆ จะรู้ดีว่าปูเป้ชอบ IPSA : Serum 0 มาก ทั้งที่ดูสูตรส่วนผสมเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไร แต่ใช้แล้วเฮ้ย~~~ย หน้าไม่บวมน้ำอืดอึ่งได้ง่ายเหมือนเคย หนังหน้าดูสดใสสุขภาพดี แถมมีเนื้อบางเบาจนเอาเข้าไปใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่มีอยู่ได้ง่าย จนกลายเป็นเซรั่มพื้นฐานประจำตัวอยู่สองปี
แต่หลังจากเทคโนโลยีเรื่องการเสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียนใต้ผิวอันเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ถูกแชร์ไปให้แบรนด์อื่นในเครือ ก็ทำให้ปูเป้ตั้งคำถามว่าแล้วเซรั่มตัวนี้จะมีที่ยืนได้ยังไง? เขาก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ IPSA : Serum 0 e ที่เพิ่มส่วนผสมมายกระดับการทำงานในกลไกที่ครอบคลุมมากขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งปูเป้อยากเอาข้อมูลที่หามาได้และข้อคิดเห็นของปูเป้มาแชร์ให้อ่านกันครับ
ก่อนอื่นต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนว่า IPSA : Serum 0 ที่ออกมาในปี 2019 นั้นเปิดตัวด้วยการค้นพบว่า ระบบการขจัดของเสียออกจากผิวอย่างระบบท่อน้ำเหลืองนั้นสามารถรั่วซึมได้มากขึ้นจากความเสียหายโดยรังสี UV และวัยที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการที่เครือชิเซโด้ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าบทบาทและความสัมพันธ์ของระบบไหลเวียนใต้ผิวต่อคุณภาพผิวในแง่มุมต่าง ๆ มานับสิบปี และเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสกินแคร์ของเครือนี้ที่แตกต่างจากที่อื่น
โดยสรุปแบบสั้น ๆ คือระบบไหลเวียนที่อยู่ใต้ผิวนั้นมีสองส่วน อันแรกคือระบบไหลเวียนโลหิตที่ใช้หัวใจทำหน้าที่ปั้มเลือดลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและผิวหนัง และอีกอันคือระบบน้ำเหลืองเป็นหนึ่งในระบบของภูมิคุ้มกัน คอยรักษาสมดุล ขับของเสียต่าง ๆ รวมไปถึงโปรตีนเสื่อมสภาพออกไป การรั่วซึมของระบบขับของเสียและระบบลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนจึงส่งผลต่อการทำให้ผิวทำงานได้แย่ลง และเกิดการบวมคั่ง และทำให้เกิดการอักเสบ เกิดปัญหาผิวที่ตามมา
ท่อน้ำเหลือง / Lymphatic Vessel (รวมถึงหลอดเลือดฝอย) นั้นถูกยึดติดกันด้วยโปรตีนที่ยึดอุดรอยรั่วระหว่างเซลล์ (Tight-Junction Protein) อย่าง Claudin‐5 และ Zonula Occludens Protein 1 โดยการศึกษาพบว่าการแสดงออกของโปรตีน Claudin‐5 นั้นเกี่ยวข้องกับโมเลกุลสำคัญสองตัว นั่นก็คือ ANGPT1 (Angiopoietin-1) และ Tie2 (Endothelium-Specific Receptor Tyrosine Knase 2) ซึ่งโปรตีน Tie2 นั้นลดน้อยลงไปตามวัย และยิ่งผิวที่เจอแดดทำร้าย มีความเสียหายจาก UVB จะไปลดการแสดงออกของ ANGPT1 ที่ส่งผลต่อการลดลงของ Claudin‐5 ตามมา ซึ่งการด้อยประสิทธิภาพลงของระบบไหลเวียนและขับของเสียใต้ผิวนี้ ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการอักเสบและการเสื่อมชราของผิวในมิติต่าง ๆ
(Source : A Novel Mechanism of Cutaneous Photo-Aging Mediated by the Impairment of Lymphatic Function and the Protective Role of a Lymphatic-promoting Compound, The Molecular Basis of Skin Aging Triggered by Lymphatic and Blood Vascular Dysfunction, Promotion of lymphatic integrity by angiopoietin-1/Tie2 signaling during inflammation., Claudin-5 haploinsufficiency exacerbates UVB-induced oedema formation by inducing lymphatic vessel leakage., Shiseido Wins First Prize and Two Second Prizes for Excellent Research Papers at the 12th China Cosmetics Academic Research Conference)
IPSA Serum 0 e (50ml / 3,800 BAHT) สูตรใหม่ล่าสุดนี้มีการอัพเดท 0 Complex โดยเพิ่มส่วนผสมใหม่ 1 ชนิด และเปลี่ยนส่วนผสมอีก 1 ชนิด โดยยังคงยืนพื้นด้วย Averrhoa Carambola Leaf Extract หรือ สารสกัดใบมะเฟือง ส่วนผสมสำคัญจากสูตรเก่า ซึ่งน่าจะเป็นสารจากบริษัท Maruzen ของญี่ปุ่น ที่จดสิทธิบัตรว่าทำหน้าที่เป็น Tie2 Activator เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงลดการรั่วของท่อน้ำเหลือง แต่ส่วนผสมนี้ก็ถูกนำไปให้แบรนด์อื่นในเครือใช้กันแล้ว แต่เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นเหนือกว่า สูตรใหม่ล่าสุดของ IPSA Serum 0 e ในปี 2022 จึงมีการเพิ่มส่วนผสมของ Nuphar Japonicum Root Extract หรือ สารสกัดจากรากของบัวญี่ปุ่น ซึ่งการศึกษาในปี 2018 พบว่า สารตัวนี้เพิ่มการแสดงออกของ ANGPT1 ได้
ส่วนผสมสารสกัดใบมะเฟืองและรากบัวญี่ปุ่น นำมารวมกันเพื่อให้ทำงานในกลไกที่ครอบคลุมทั้ง ANGPT1 และ Tie2 โดย ANGPT1 จะไปทำงานโดยจับกับ Tie2 อีกทีนึงเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตัวและความแข็งแรงของระบบท่อน้ำเหลืองและหลอดเลือดฝอยนั่นเอง
การศึกษาชิ้นนี้ยังพบอีกว่า ANGPT1 ที่สำคัญต่อความแข็งแรงของหลอดระบบไหลเวียนใต้ผิว เป็นหนึ่งในยีนที่ทำงานสอดประสานกับนาฬิกาทางชีวภาพ (Circadian Rhythm) โดย ANGPT1 จะแสดงออกมากในช่วงเวลากลางวัน และรอบในการแสดงออกจะอยู่ที่ 4 ชั่วโมง จากการค้นข้อมูลก็พบว่าเขาเคยจดสิทธิบัตรว่า Nuphar Japonicum Root Extract ในการเป็น Clock Gene Expression Regulator เพื่อช่วยรักษาสมดุลของนาฬิกาชีวภาพของผิวอีกด้วย แต่โดยพื้นฐานแล้วการทำให้ระบบไหลเวียนและระบบขจัดของเสียให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยทำให้การทำงานของผิวกลับมามีสมดุล (Homeostasis)
ในสูตรยังคงมี Houttuynia Cordata Extract หรือสารสกัดจากต้นพลูคาวหรือผักคาวตอง พืชตัวนี้มีโปแตสเซียมสูงซึ่งตามหลักการก็ช่วยลดการบวมน้ำผ่านการไปแทนที่เกลือโซเดียม แต่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ทาง Shiseido ได้มีการจดสิทธิบัตรเอาไว้ว่าเป็น APJ Activator ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญในการกระตุ้นให้หลอดเลือดฝอยมีความแข็งแรง โดยการศึกษาว่ายังมีคุณสมบัติเป็น VE-cadherin Activator ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญที่ทำให้โครงสร้างหลอดเลือดฝอยแข็งแรงอีกด้วย
แม้ว่าทาง IPSA จะไม่ได้เคลมเอาไว้ แต่จากการค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าการศึกษาของ Shiseido ได้แสดงให้ห็นว่า โครงข่ายเส้นเลือดฝอยมีผลต่อความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว โดยในคนผิวอายุน้อยที่มีเส้นเลือดฝอยใต้ผิวที่หนาแน่นและแข็งแรงกว่า จะมีความกระชับของผิวที่มากกว่า การค้นพบนี้ทำได้เพราะการพัฒนาเทคนิคการแสดงภาพระบบหลอดเลือดใต้ผิวแบบ 3D ที่เครือ Shiseido เป็นผู้พัฒนานั่นเอง
ส่วนผสมของสารสกัดใบชาเดิมถูกเปลี่ยนมาใช้เป็น Theanine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่พบได้ในใบชาเขียว การเปลี่ยนมาใช้รูปแบบกรดอะมิโนบริสุทธิ์นี้เพื่อให้สูตรสามารถปราศจากแอลกอฮอล์ได้ (สารสกัดจากใบชาเขียวที่ใช้สูตรเดิมนั้นถูกสกัดและทำละลายด้วยแอลกอฮอล์) การเปลี่ยนรูปแบบนี้มีประโยชน์กับผลิตภัณฑ์ทั้งในแง่ของคุณสมบัติในการต้านการอักเสบที่ดีขึ้น โดยมีการศึกษาที่พบว่าช่วยต้านการอักเสบจากโปรตีนเสื่อมสภาพที่สะสมใต้ผิว และจากสิทธิบัตรของเครือชิเซโด้ระบุว่า สารตัวนี้ยังมีคุณสมบัติเป็น Parakeratosis Inhibitor ช่วยลดความหยาบกร้านของผิวและทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น
Parakeratosis เป็นความผิดปกติของการพัฒนาตัว (differintiation) ของเซลล์เคราติน ซึ่งตามปกติแล้วเมื่อเซลล์เคราติโนไซด์แบ่งตัวและพัฒนาตัวจนถูกดันขึ้นมาเป็นเคราตินบนผิวชั้นหนังกำพร้าจะต้องไม่มีส่วนของนิวเคลียสอยู่ การศึกษาของชิเซโด้ที่ตีพิมพ์เอาไว้ตั้งแต่ปี 2005 ได้พบว่า ในกลุ่มคนที่กังวลเรื่องรูขุมขน แท้ที่จริงอาจไม่ได้มีรูขุมขนขนาดใหญ่ แต่ส่วนปลายของรูขุมขนนั้นบานออกเป็นทรงกรวย สาเหตุมาจากสัดส่วนกรดไขมันในน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Oleic Acid ในปริมาณสูง กรดไขมันนี้กระตุ้นให้เกิดการอักเสบจากตัวชี้วัด IL-1α (interleukin 1α) ที่เพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อแคลเซียมอิออนจนทำให้เกิดความผิดปกติในการพัฒนาตัวของเซลล์เคราติน จนเกิดความหยาบกร้านและการสะสมกันหนาตัว และส่งผลให้เกิดปัญหาปลายรูขุมขนถ่างออกเป็นทรงกรวย
ส่วนผสม Theanine ถูกจดสิทธิบัตรจากการค้นพบคุณสมบัติในการคุมระดับแคลเซียมในเซลล์เคราติโนไซด์และลด IL-1α (interleukin 1α) ที่แสดงถึงคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ เพื่อช่วยลดความหยาบกร้านและการสะสมตัวผิดปกติของหนังกำพร้า โดยมีข้อดีในแง่ของการนำมาทำสูตรได้ง่ายและมีความเสถียรที่ดี
นอกจาก 0 Complex ที่อัพเกรดใหม่แล้ว ก็ยังมีส่วนผสมที่ถูกเพิ่มเข้ามาได้แก่ Dipotassium Glycyrrhizate สารต้านการระคายเคืองที่ได้มาจากรากชะเอมเทศ และ Panthenyl Ethyl Ether เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ Pro-Vitamin B5 แต่มาในรูปแบบของเหลวที่ใช้ในสูตรง่ายและไม่เพิ่มความเหนอะหนะ ช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้นของผิว
โดยรวมคืออัพเกรดคุณสมบัติที่ช่วยเสริมระบบไหลเวียนและขับของเสียให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มส่วนผสมต้านการอักเสบ และเพิ่มคุณสมบัติในการลดความหยาบกร้านและทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น
Ingredients : Water, Dipropylene Glycol, PEG/PPG-17/4 Dimethyl Ether, Butylene Glycol, Glycerin, PEG-8, Sodium Chloride, PEG-32, PEG-400, PEG-6, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Phenoxyethanol, Gellan Gum, Theanine, Chlorphenesin, Sodium Citrate, Hydrogenated Dimer Dilinoleyl PEG-44/Poly(1,2-Butanediol)-15 Dimethyl Ether, Dipotassium Glycyrrhizate, Disodium EDTA, Panthenyl Ethyl Ether, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Calcium Chloride, Menthol, Menthoxypropanediol, Citric Acid, Menthyl Lactate, Sodium Metabisulfite, Potassium Hydroxide, Averrhoa Carambola Leaf Extract, Nuphar Japonicum Root Extract, Houttuynia Cordata Extract, Tocopherol.
สูตรใหม่นี้ตัดส่วนผสมของ Alcohol ออกไปแต่ยังคงมีสารกลุ่มเมนทอลเช่นเคย ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกว่าทาแล้วเย็นผิวจนระคายเคือง ปูเป้ใช้สูตรเก่าได้โดยไม่เจอปัญหาและก็ใช้สูตรใหม่นี่ได้สบาย ๆ เหมือนเดิม โดยรวมคือสูตรมีความอ่อนโยนกับผิวมากขึ้นสำหรับคนที่กังวลเรื่องแอลกอฮอล์ โดยสามารถคงเนื้อที่บางเบาอยู่
วิธีในการใช้คือ หลังจากล้างหน้า และเช็ดโลชั่นที่ช่วยทำความสะอาดหรือขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ (เช่น IPSA : Clear Up Lotion) ก็กด IPSA : Serum 0 e ปริมาณ 3 ปั๊ม ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ และนวดกระตุ้นการไหลเวียนและขจัดของเสียใต้ผิวแบบง่ายๆ ด้วย ZERO Method ตามวิธีที่อธิบายไว้ด้านล่าง หลังจากนั้นก็สามารถใช้พวกเอสเซนส์ น้ำตบ (เช่น IPSA : The Time Reset Aqua) เซรั่มบำรุงผิวได้ตามปกติ
ท่านวดกระตุ้นการไหลเวียนใต้ผิวแบบ ZERO Method มาเพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้คีบปลายคางไว้ ก่อนออกแรงกดเบา ๆ ส่งผ่านทางหัวแม่มือระหว่างที่ลากไปตามกรอบหน้าจนถึงตำแหน่งใต้ใบหู (ทำซ้ำ 3 ครั้ง)
2. กำมือ และแตะลงตรงใต้โหนกแก้มตำแหน่งใกล้ปีกจมูก จากนั้นจึงออกแรงกดระหว่างดันกำมือตรงขึ้นไปหาสันแก้ม ต่อเนื่องจนถึงด้านหน้าใบหู (ทำซ้ำ 3 ครั้ง)
3. ใช้นิ้วกลางแตะลงตรงตำแหน่งต่อมน้ำเหลืองด้านหน้าใบหู แล้วออกแรงกดเบา ๆ ระหว่างเคลื่อนมือไปสู่ด้านหลังใบหู ก่อนลากนิ้วลงไปตามลำคอลงสู่ตำแหน่งต่อมน้ำเหลืองตรงไหปลาร้า (ทำครั้งเดียว)
ขั้นตอนทั้งหมดทำตามได้ง่ายและใช้เวลาเพียง 1-2 นาที ซึ่งส่วนตัวปูเป้จะทำขั้นตอนที่ 1 หรือ 2 ในจำนวนครั้งที่มากกว่าที่เขาแนะนำ ถ้าต้องการเน้นการลดการบวม ขับของเสียในจุดนั้นเป็นพิเศษครับ
โดยส่วนตัวปูเป้ก็ยังชอบความบางเบา ใช้ง่าย และทำให้ผิวดูสดใส ผิวไม่บวมอืดง่าย เหมือนกับสูตรเก่า ในระยะ 2 สัปดาห์แรกยังไม่รู้สึกว่าแตกต่างเท่าไหร่ แต่หลังจากเข้าสัปดาห์ที่ 3 – 4 ก็รู้สึกว่าเวลาล้างหน้าลูบผิวแล้วมันละเอียดเนียนขึ้น ผิวมีโทนผิวที่สดใสขึ้น จากรูปที่ถ่ายเทียบกันปูเป้ใช้กล้องตัวเดิม สภาพแสงเดิม และการตั้งค่าเดิม จะเห็นได้ชัดเจนว่าโบนผิวเปลือยเปล่าหลังล้างหน้าและซับให้แห้ง มีโทนแดงจากการระคายเคืองและการอักเสบที่น้อยลง
โดยในระหว่างที่ทดลอง IPSA : Serum 0 e นั้นสกินแคร์หลัก ๆ ที่ปูเป้ใช้ยังคงเหมือนเดิม มีเพียงโลชั่นน้ำที่เปลี่ยนจาก d Program : Vital Act Lotion MB มาใช้เป็น d Program : Moist Care Lotion MB (เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดใบมะเฟืองซ้ำกันกับเซรั่มที่ทดลองในครั้งนี้) และเปลี่ยนตัวล้างหน้ามาใช้ IPSA : Cleansing Moisture Foam จึงรู้สึกว่าการปรับสูตรและเพิ่มส่วนผสมของ Theanine ในการต้านการอักเสบและช่วยลดความผิดปกติของเซลล์เคราติน น่าจะมาเห็นผลในช่วงสัปดาห์หลัง ๆ ตามวงจรการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวจากชั้นล่างขึ้นมาข้างบนนั่นเองครับ
โดยสรุปแล้ว IPSA : Serum 0 e นั้นมีการอัพเกรดในแง่ของส่วนผสมที่ทำให้คุณสมบัติของการเสริมระบบการไหลเวียนใต้ผิวให้แข็งแรงขึ้นได้อย่างครบวงจรมากขึ้น ในแง่ผลที่ได้ในแง่ของการลดการบวมหรือดีท็อกซ์ขับของเสียนั้นไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากรุ่นเก่านัก ถ้าใช้แล้วชอบสูตรเก่ายังไงก็จะต้องชอบสูตรใหม่อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่รู้สึกคือตัวใหม่นี้ช่วยให้ผิวดูละเอียดขึ้น เป็นความรู้สึกเวลาลูบผิว จับผิว ล้างหน้าทุกวันมันสัมผัสได้อ่ะ และแม้ว่าปูเป้จะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสูตรเก่า แต่สูตรใหม่นี้น่าจะตอบโจทย์และถูกใจคนที่อยากได้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์
จุดที่คิดว่าปรับปรุงได้อีก ปูเป้คิดว่าคงเป็นเรื่องของการเอาส่วนผสมของสารกลุ่มเมนทอลออกครับ แม้ว่าใช้แล้วจะไม่ได้รู้สึกว่าเย็นผิว และไม่ได้รู้สึกว่าระคายเคืองผิว เข้าใจว่าใส่มาเพื่อให้ได้กลิ่นบาง ๆ รู้สึกถึงความสดชื่น แต่ก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่
ปูเป้มองว่า IPSA : Serum 0 e เป็นสิ่งที่ทางแบรนด์พยายามปั้นให้เป็นเหมือนเซรั่มที่ทุกคร ทุกสภาพผิว ใครก็ใช้ได้ เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ในแง่ของเทคโนโลยี คอนเซปต์ และเนื้อสัมผัสแล้วก็สมเหตุผล เพราะกลไกสำคัญอย่างความแข็งแรงของระบบไหลเวียนใต้ผิวเป็นสิ่งที่ด้อยลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ทุกคนต้องเจอปัญหานี้ และการดูแลเรื่องนี้มีประโยชน์กับทุกสภาพผิว ส่วนปัญหาเรื่องรูขุมขนดูกว้างเป็นปัญหาผิวอันดับต้น ๆ ที่หลายคนกังวล ทำให้เซรั่มตัวนี้น่าจะตอบโจทย์กับผู้ใช้สกินแคร์เป็นกลุ่มใหญ่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ปูเป้คิดว่าเป็นปราการสำคัญคือเรื่องของราคาที่คิดว่าถ้าทำให้ต่ำลงมากว่านี้ก็น่าจะดีครับ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
IPSA : Serum 0 e
Price : 50ml / 3,800 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Skin-Depuffing / Pore-Reducing / Skin Smoothing / Fragrance-free & Alcohol-Free
- สูตรใหม่อัพเกรดการเสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียน และเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยต้านการอักเสบและช่วยลดความหยาบกร้าน ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น โทนแดงของผิวจากการระคายเคืองและการอักเสบดูน้อยลง
- สูตรใหม่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม
- มีส่วนผสมของเมนทอลและอนุพันธ์