เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีสินค้าจากแบรนด์ BK ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทยส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้เป็นกระเช้าใหญ่โตโดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พึ่งวางจำหน่ายช่วงปลายปีก่อนอย่าง BK : Acne Expert Bright ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เคลมว่าช่วยลดทั้งรอยสิวและจุดด่างดำและไม่ก่อให้เกิดสิวใหม่
ส่วนตัวบอกตามตรงว่าเคยเห็นแบรนด์แต่ยังไม่เคยใช้ อ่านส่วนผสมดูแล้วเอ๊ะก็น่าสนใจ แต่จะใส่มาตามนั้นจริงรึเปล่าก็ดูว่าใครเป็นคนผลิตให้ พบว่าบริษัทไมลอทท์เป็นผู้ผลิตให้เราก็วางใจในระดับหนึ่งเพราะถือว่าเป็นเจ้าใหญ่ทีเดียว ประจวบกับมีสิวอักเสบค้างเติ่งเป็นสัปดาห์และทิ้งรอยเอาไว้ก็ได้เอามาลองใช้ดูพอดี
ในแง่ของส่วนประกอบนั้นก็มีความน่าสนใจเพราะว่า BK : Acne Expert Bright (30g / 389 Baht) ใช้ส่วนผสมที่เป็นที่รู้จักและเราค่อนข้างคุ้นเคยถึงคุณสมบัติในการเป็นไวท์เทนนิ่งและต้านการอักเสบ ส่วนผสมหลักของสารไวท์เทนนิ่งหลักคือ Phenylethyl Resorcinol หรือ SymWhite® 377 ผลิตโดย Symrise หลักการทำงานของส่วนผสมตัวนี้จะเข้าไป ขัดขวางการทำงานของ Tyrosinase เพื่อลดการสร้างเมลานิน และยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบจากการขัดขวาง IL-1-a และ TNF-a ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่เราชอบหลายตัวก็มีสารตัวนี้ป็นหลัก มีการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารตัวนี้อยู่บ้าง แต่ในผลิตภัณฑ์ทดสอบจะผสมกับสารแอคทีฟอื่นๆ ซึ่งไม่เหมือนกับในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวนั้นเราเห็นผลที่ค่อนข้างดีกับสารตัวนี้
(Source : Clinical and instrumental evaluation of the efficacy of a new depigmenting agent containing a combination of a retinoid, a phenolic agent and an antioxidant for the treatment of solar lentigines, Efficacy of a novel hydroquinone-free skin-brightening cream in patients with melasma., Efficacy of hydroquinone-free skin-lightening cream for photoaging.)
Ascorbyl Tetraisopalmitate เป็นอนุพันธ์วิตามินซีเสถียรในรูปแบบที่ละลายในน้ำมันซึ่งจะต้านอนุมูลอิสระในส่วนของไขมันได้ดี มีข้อมูลที่พบว่าความเข้มข้น 1% จะช่วยต้านการอักเสบจากการระคายเคืองที่เข้ามากระทบผิว และความเข้มข้น 3% พบว่าช่วยลดการผลิตเมลานินที่ถูกกระตุ้นจากรังสี UVB ได้ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็น่าจะมีความเข้มข้นที่ประมาณ 2 – 3 % ได้จากการคาดเดาจากส่วนประกอบ
(Source : A new lipophilic pro-vitamin C, tetra-isopalmitoyl ascorbic acid (VC-IP), prevents UV-induced skin pigmentation through its anti-oxidative properties. , Antioxidant-based topical formulations influence on the inflammatory response of Japanese skin: A clinical study using non-invasive techniques., In vitro antioxidant activity and in vivo efficacy of topical formulations containing vitamin C and its derivatives studied by non-invasive methods.)
Niacinamide หรือ Vitamin B3 มีประโยชน์ค่อนข้างหลากหลายทั้งในแง่ของการเป็นสารไวท์เทนนิ่งและการลดการอักเสบของสิว แต่ในสูตรน่าจะมีอยู่ในความเข้มข้นประมาณ 2% หรือน้อยกว่า เราจะคาดหวังในเรื่องของการเสริมการสร้างเซราไมด์และทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้นมากกว่า
(Source : Niacinamide: A Topical Vitamin with Wide-Ranging Skin Appearance Benefits.)
Madecassoside เป็นสารออกฤิทธิ์สำคัญใน Centella asiatica หรือบัวบกซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบที่ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยสมานแผล และมีข้อมูลที่ทดสอบในโมเดลผิวหนังจำลองพบว่าช่วยลดการเกิดจุดด่างดำหลังจากการอักเสบที่กระตุ้นโดยรังสี UVB ได้ ซึ่งกลไกในการทำงานคือสารตัวนี้จะไปลดการแสดงออกของโมเลกุลที่เกี่ยวข้องกับกลไกการอักเสบหลายตัวอย่างเช่น Cyclooxygenase-2 (COX-2) กับ Prostaglandin E2 (PGE2) ซึ่งเจ้า PGE2 ก็เป็นหนึ่งในตัวสำคัญที่ทำให้การอักเสบของสิวทิ้งรอยดำเอาไว้ ดังนั้นรอยหลังการอักเสบของสิวตัวนี้ก็น่าจะช่วยได้เหมือนกัน
(Source : Centella asiatica in cosmetology, Burn wound healing properties of asiaticoside and madecassoside, Madecassoside inhibits melanin synthesis by blocking ultraviolet-induced inflammation.)
Thymus Serpillum Extract หรือสารสกัดจากไทม์ป่า เป็นส่วนผสมที่มีชื่อทางการค้าว่า CinderellaCare โดยบริษัท Ichimaru Pharcos ซึ่งจดสิทธิบัตรสารสกัดจากพืชเพื่อใช้เป็นสารไวท์เทนนิ่งด้วยกลไกในการขัดขวางการทำงานของโปรตีน Kinesin ซึ่งเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องในการลำเลียงถุงเม็ดสี (melanosome) ไปยังแขน (Dendrite) ของเซลล์เมลาโนไซต์ก่อนจะปล่อยออกไปเพื่อเข้าไปสู่เซลล์ผิว
(Source : Kinesin participates in melanosomal movement along melanocyte dendrites., Kinesin inhibitor)
สารแอคทีฟตัวสุดท้ายคือ Lepidum Sativum Sprout Extract หรือ SulforaWhite จากบริษัท Mibelle Biochemistry เป็นสารสกัดจากต้นอ่อนของ Swiss Garden Cress ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพแต่ทว่าไม่ค่อยเสถียรอย่าง Sulforaphane ส่วนผสมตัวนี้จึงถึงเก็บรักษาไว้ในไลโปโซมที่ทำมาจาก Lecithin ทางผู้ผลิตเคลมว่าช่วยต้านอนุมูลอิสระและขัดขวางไม่ให้ α-MSH เข้าไปจับกับเซลล์ผลิตเม็ดสีจึงช่วยขัดขวางการส่งสัญญาณเพื่อไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน นอกเหนือจากคำเคลมของผู้ผลิตก็มีข้อมูลการทดสอบในเซลล์ทดลองว่า Sulforaphane ยังอาจขัดขวางการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ไทโรซิเนสอีกด้วย
โดยรวมแล้วตัวแอคทีฟเน้นไปที่การลดการอักเสบและและขัดขวางกลไกการส่งสัญญาณของการอักเสบที่นำไปสู่การผลิตเมลานิน รวมไปถึงการยับยั้งการผลิตเมลานินในเซลล์เมลาโนไซต์ และขัดขวางการส่งลำเลียงเม็ดสีไปยังเซลล์ผิวอีกด้วย ตัวผลิตภัณฑ์ก็ยังมี Salicylic Acid ที่อาจจะใช้เคลมในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตันและต้านแบคทีเรียได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าความเข้มข้นดูไม่น่าจะเยอะ และสูตรที่ผสม Nicinamide มักจะมีค่า pH ที่ไม่เอื้อต่อการผลัดเซลล์ของ Salicylic Acid อยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าถูกใส่มาเพื่อช่วยเป็นสารกันเสียให้ผลิตภัณฑ์มากกว่า
Ingredients : Water, Isopropyl Palmitate, Capryic/Capric Triglyceride, Glycerin, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Cetearyl Alcohol, Hydrogebated Vegetable Glycerides, Niacinamide, Butylene Glycol, Dimethicone, Squalane, Glyceryl Stearate, Phenoxyethanol, PEG-100 Stearate, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Phenylethyl Resorcinol, Ceteth-10 Phosphate, Dicetyl Phosphate, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer, Madecassoside, Polyacrylamide, Xanthan Gum, Chlorphenesin, C13-14 Isoparaffin, Disodium EDTA, Tocopheryl Acetate, Pentylene Glycol, Biosaccharide Gum-2, Lecithin, Laureth-7, Salicylic Acid, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Maltodextrin, Potassium Hydroxide, Thymus Serpillum Extract, Lepidum Sativum Sprout Extract, BHT, Potassium Sorbate, Sodium Benzoate.
เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมสีขาวทึบ เมื่อเกลี่ยและกระจายตัวบนผิวแล้วจะเซ็ทตัวแบบเคลือบผิวเล็กน้อย ในส่วนผสมตัวเบสของผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วย Emollients หลายชนิดรวมไปถึง Squalane ด้วย จึงเหมาะที่จะใช้เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสี ส่วนผสมโดยรวมค่อนข้างที่จะเซฟและดูอ่อนโยนพอที่ผิว Sensitive ก็สามารถใช้ได้
ในความเห็นของปูเป้นั้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว คนที่เป็นสิวและมีอาการลอกแห้งและระคายเคืองจากยาหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวสามารถใช้ตัวนี้เพื่อบรรเทาอาการแห้งลอกได้ ส่วนคนที่ผิวมันมากต้องเข้าใจว่าตัวนี้ไม่ได้ช่วยคุมความมันหรือเซ็ทตัวแบบแมท
สำหรับผลในการใช้นั้นปูเป้ทดสอบโดยการทาลงบนผิวบริเวณที่เป็นรอยหลังจากการอักเสบของสิวซ้ำ ๆ มาอย่างยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ และพบว่ารอยมีความจางลงเล็กในหลังผ่านไป 1 สัปดาห์ แต่ในระหว่างนี้ก็มีสิวอักเสบที่พึ่งขึ้นใหม่และถูกกดเอาหัวสิวออกไปและป้ายครีมตัวนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ พบว่าหลังจากที่ผิวสมานตัวดีแล้วรอยแดงของสิวจางลงไวพอสมควร จากตรงนี้เรามองว่าด้วยกลไกในการต้านการอักเสบต่างๆของสารแอคทีฟที่ใช้ก็ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ตั้งแต่มีการอักเสบหรือหลังจากที่กดเอาหัวสิวออก เพื่อช่วยลดการเกิดรอยสิวให้น้อยลงได้นั่นเอง ส่วนผลหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์นั้นรอยสิวยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะรอยของสิวที่อักเสบมานานกว่า 2 สัปดาห์ค่อนข้างที่จะลงไปในผิวชั้นที่ลึก ต้องใช้เวลามากกว่านี้ครับ
โดยสรุปแล้ว BK : Acne Expert Bright เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ใช้สารแอคทีฟที่น่าสนใจในการลดผลกระทบจากการอักเสบของผิวไม่ว่าจะมาจากสิวหรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ และช่วยลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ ทั้งที่มาจากสิวหรือแสงแดดก็ได้ สูตรผสมที่ไม่มีส่วนผสมของสีและน้ำหอม เหมาะกับเกือบทุกสภาพผิวรวมถึงผิว Senstivie บรรจุในแพคเกจแบบที่ลดการปนเปื้อนและปกป้องความเสถียรของผลิตภัณฑ์ได้ดีและมีราคาที่เข้าถึงง่าย สำหรับคนที่กำลังเป็นสิวอักเสบ ถ้าแต้มสิ่งนี้ที่หัวสิวไปควบคู่ไปด้วยตั้งแต่เริ่มอักเสบ และหลังหัวสิวหลุดออกไปแล้ว จะช่วยลดการเกิดรอยแดง รอยดำหลังการอักเสบหายไปได้ดีกว่าการมาเริ่มทาหลังจากเหลือแต่รอยสิวที่ทิ้งไว้จากการอักเสบครับ
ส่วนตัวคิดว่าผลิตภัณฑ์ตันี้ไม่ได้มีข้อเสียอะไรนอกเหนือไปจากเนื้อผลิตภัณฑ์อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์คนที่มีผิวค่อนข้างมันมากเท่าไหร่ เนื่องจาก Emollients ในสูตร หากมีตัวเลือกของเนื้อสัมผัสที่บางเบาขึ้นหรือเป็นเจลครีมก็ดูจะเป็นอีกออพชั่นที่น่าสนใจและสามารถทำได้ คอมเมนต์ส่วนอื่น ๆ ก็คงจะเป็นแค่เรื่องการเก็บงานและการเลือกแบบวัสดุของแพคเกจจิ้งที่ถ้าทำมาเนี้ยบกว่านี้ก็จะดูดีเลยล่ะ เพราะส่วนผสมข้างในถือว่าทำมาดีอยู่แล้ว ส่วนตัวถ้าปรับได้ก็อยากจะปรับรูปแบบของอนุพันธ์วิตามินซีเป็น 3-O-Ethyl Ascorbic Acid เพราะเราชอบรูปแบบนี้มากกว่า
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
BK : Acne Expert Bright
Price : 30g , 389 BAHT
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Anti-Inflammation / Whitening / Antioxidant / Barrier Repair / Fragrance-Free
- สารแอคทีฟทำงานในหลายกลไกที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของผิวและขัดขวางการผลิตเมลานินในหลายจุดสำคัญ
- ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม มีความอ่อนโยนดี
- บรรจุภัณฑ์ที่สะอาดและเก็บรักษาตัวผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี
- ไม่เชิงว่าเป็นข้อเสีย แต่อยากให้มีตัวเลือกของเนื้อสัมผัสที่เบากว่านี้สำหรับวัยุร่นผิวมันถึงมันมาก