เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ปูเป้ได้รับเชิญจากทางบริษัท COSMEGA ให้ไปร่วมงานเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “Bliss” ที่จะเข้ามาวางจำหน่ายในเมืองไทยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเราก็ต้องเดินทางลัดฟ้าบินไปถึงประเทศฮ่องกงกันเลยจ้า (กำลังอยากไปพอดี)
ที่พักของเราในคราวนี้ก็คือ W Hotel ซึ่งอยู่บนเกาะเกาลูน ด้านใต้มีสถานีรถไฟฟ้า Kaoloon ผ่านพอดีเป๊ะ เดินทางแสนสะดวกมากมาย โรงแรมชิคกิ๊บเก๋และหรูสุด ๆ เตียงนอนเลิศมว๊ากกกกก หลับแล้วแทบไม่อยากตื่น
หลังจากพักผ่อนเพื่อควายความเมื่อยจากการเดินทางมา เราก็มาทาอาหารที่อยู่ในห้าง Elements ที่อยู่ตึกเดียวกับโรงแรมนั่นเอง ร้านอะไรไม่รู้เพราะชื่ออ่านไม่ออก แต่อยู่ข้าง ๆ ร้าน Full Moon
เมนูแรกที่ได้หม่ำคือหมูหัน ซึ่งที่นี่เขาจะไม่กินแต่หนังแบบบ้านเรา แต่กินทั้งเนื้อไปด้วย เนื้อนุ่มอร่อยมาก หนังกรอบกร๊อบ ไม่เหนียว ไม่เลี่ยน ไก่ทอดที่นี่ก็ทอดได้หนังกรอบมาก อร่อยสุด ๆ ผัดเป๋าฮื้อก็กลมกล่อม
ซุปรังนก อันนี้หลายคนว่าอร่อย แต่เราเฉย ๆ และผัดอะไรอีกหลายๆ อย่าง มื้อนี้ถือจัดเต็ม กินกันจนพุงแตกเลยทีเดียว
หลังจากเดินเล่นในห้างเพื่อย่อยอาหาร ก็ถึงเวลาอาบน้ำเข้านอน เหตุผลที่เรามาพัก W Hotel เพราะว่าโรงแรมในเครือนี้ จะใช้ Amenities ของ Bliss ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสบู่ก้อน เจลอาบน้ำ แชมพู คอนดิชันเนอร์ บอดี้บัตเตอร์ เจลล้างหน้า ที่สำคัญคือกลิ่นหมอมาก และใช้ดีไม่หยอก
มาฮ่องกงทั้งที ก็ต้องทำการบ้านก่อนนอนซะหน่อย ซาลาเปาไส้ไหลอันลือชื่อ ถ้ามาคราวนี้ไม่ได้กินจะไม่ยอมกลับเมืองไทยเด็ดขาด!!!
ตื่นตอน 7 โมงเช้ามาอาบน้ำแต่งตัวและลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรมกันหน่อย ห้องอาหารของที่นี่ตกแต่งสวยดีนะ ใส่ใจในรายละเอียดมาก ๆ
แต่ที่เด็ดที่สุดก็คือตัวเลือกของอาหารเช้าเยอะมาก โดยเฉพาะในส่วนของ Bakery & Pastry กว่า 20 ชนิดให้เลือกกินได้ไม่อั้น กรี๊ดดดดดดด
ออมเล็ทที่นี่มีท้อปปิ้งเป็นสิบ ๆ อย่างให้เลือก แต่ปูเป้ก็เลือกอะไรเบสิค อยากชีส แฮม เบคอน ทานคู่กะเครื่องเคียงอื่น ๆ กับขนมเท่าที่พุงกะทิของเราจะพอยัดได้ อร่อย เปรม 😀
ช่วง สาย ๆ ก็ต้องไปลงทะเบียนเพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ Bliss กันหน่อย งานนี้มีเซอไพรซ์ พี่นิกกี้มาเป็น MC ให้กับ Bliss ด้วยแหล่ะ (เราเจอกันตอนอัดรายการ My Play Lady ทางช่อง PLAY Channel ทุกเดือนมาเกือบปีได้แล้วเนอะ)
คุณก้อย ผู้บริหารคนสวย เจ้าของบริษัท COSMEGA ก็มากล่าวต้อนรับสื่อมวลชนทุกคน ก่อนจะเปิดโอกาสให้พวกเราได้รับรู้และซึมซับว่า Bliss มีความเป็นมาอย่างไร
Bliss (บลิส) ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 ได้ปฏิวัติวงการสปาให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งยังได้มีการขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์รวมถึงประเทศไทยด้วย
ผลิตภัณฑ์บลิส แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 กลุ่มหลักได้แก่ ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลผิวหน้า (Face), ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลผิวกาย (Body) และผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก (Lips) โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลผิวหน้าที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ กลุ่ม Triple O (Oxygen)
ในส่วนของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มของดาราและเซเลบริตี้ฮอลลีวูดคือกลุ่ม FatgirlSlend ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการช่วยขจัดเซลลูไลท์ทำให้คุณอวดหุ่นสวยเพรียว พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างความยืดหยุ่น เพิ่มความกระชับและเรียบ
นอกจากนี้ยังมีชุดผลิตภัณฑ์ดูแล/บำรุงผิวกายขั้นพื้นฐานที่ประกอบไปด้วย สครับเนื้อเนียนละเอียด, ครีบอาบน้ำ, แชมพูและครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นได้ครบทุกขั้นตอนพร้อมผสานพลังกลิ่นบำบัดอย่าง Lemon+Sage, Blood Orage+White Pepper และ Vanilla+Bergamot ให้เลือกดูแลผิวได้ตามใจชอบ
เสร็จแล้วก็ต้องมีการถ่ายรูปหมู่ตามธรรมเนียม 🙂ในช่วงบ่ายเราจะได้ไปลองทำทรีตเมนต์กับ Bliss Spa กัน แต่ก่อนจะไปทำสวย ท้องก็ต้องอิ่มกันก่อนนะฮะ ก็มีอาหารรองท้องเบา ๆ ให้เราทานกันในห้องประชุมเลย
Bliss Spa จะอยู่ในชั้นที่เกือบจะสูงที่สุดของโรงแรม เป็นสปาที่มีบรรยากาศสนุกสนาน แต่ก็ยังคงหรูหรา ตกแต่งอย่างสวยงาม
ในขณะที่ Spa ที่เรารู้จัก จะเน้นโทนสีทึม ๆ หรือสีแนวธรรมชาติ ให้ทานชาหรือน้ำสมุนไพร เคล้าเพลงเนิบ ๆ ชวนหลับ แต่ที่ Bliss Spa นั้นมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นอกจากบรรยากาศและอุปกรณ์สุดไฮเทคแล้ว เพลงที่เปิดก็เป็นเพลงอัพบีทที่ให้เรารู้สึกครึกครื้น แถมทำสปาเสร็จแล้วก็ยังมีน้ำเลมอนเย็นๆ กับบราวนี่ให้กินได้ไม่อั้นอีกด้วย อารมณ์แบบว่า มาเสวยสุข ปล่อยตัว ปล่อยใจ กันเต็มไปไปเลย
หลังจากทำสปาเสร็จแล้วเราก็มีเวลาว่างเดินเล่นไปเรื่อยจนถึงเวลาอาหารเย็น เรามาแวะทานที่ร้านอาหารสิ้นคิดของนักท่องเที่ยวชาวไทย นั่นก็คือ Sweet Dynasty ตรงข้าม Ocean Terminal ร้านนี้เคยกินมาก่อนหน้านี้แล้วล่ะ วันนี้ก็เลยว่าจะลองกินเมนูที่ไม่เคยกินดูบ้าง
รสชาตโดยรวมไม่ถือว่าแย่ แต่ก็ไม่ได้อร่อยเลิศอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้ ซาลาเปาไส้ครีมที่นี่ไม่ใช่แบบไส้ไหล กินเมืองไทยยังหาอร่อยได้มากกว่านี้อีก แอบรู้สึกดีขึ้นหน่อยตอนได้กินต่านทาร์ตใส่รังนก ที่รสชาติโอเคทีเดียว
หมดเวลาของงานแล้ว ต่อไปเป็นเวลาที่เราจะตะลุยราตรีอันยาวไกลของฮ่องกง ปุเป้ก็ออกสำรวจเครื่องสำอางตาม Drugstore เป็นหลัก โดยเล็งไอเทมที่น่าสนใจ ก่อนจะไล่เทียบราคาทุกร้านหลัก ๆ อย่าง Sasa, Bonjour, ColourMix, Mannings, Watson
ก็ว่าเช็คดีแล้วนะ แต่ก็พลาดไปนิด ดันซื้อ OLAY ProX จาก Bonjour มาแพงกว่าที่ Mannings เกือบ 20HK$ เลยลงโทษตัวเองด้วยการเอาส่วนต่างค่าแท๊กซี่กลับโรงแรมประมาณ 20HK$ มาชดเชย และเดินเท้ากลับโรงแรม ไม่กี่กิโลหรอก แต่แบกเครื่องสำอางประมาณ 10 กิโลมาด้วยก็แทบตายอยู่นะ…
วันนี้เดินขาลาก แบกของหนักด้วย ขอนอนแช่น้ำอุ่นให้สบายตัวซะหน่อยดีกว่า ใช้ Bliss : Soapy Suds กลิ่น Lamon & Sage มาเทใส่อ่างเพื่อตีฟอง แช่ไปก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นตลอดเวลา ฟินมาก ราวกับขึ้นสวรรค์เลย >_<
ก่อนจะนอนก็แอบแพ็คกระเป๋าไว้ก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องเช็คเอ้าท์ออกตอนเที่ยง มาส์กหน้าให้ผิวชุ่มชื้นเต็มที่ก่อจะเข้านอน หมดไปอีก 1 วัน
วันนี้แอบตื่นสายนิดหน่อย แต่ก็ต้องตื่นมาเพื่อหม่ำอาหารเช้าของโรงแรมแสนอร่อย (ไม่พลาดอยู่แล้ว) เช้านี้ก็กินของคล้าย ๆ เดิม แต่เห็นมีวาฟเฟิล กับเบอรี่สดอยู่ใกล้ๆ กัน เลยเอาจานมาหยิบ ๆ วาง ๆ เรียง ๆ อยู่ตรงเคาน์เตอร์บุฟเฟห์จนฝรั่งที่ยืนตักอยู่ข้าง ๆ มองแล้วแอบหัวเราะ (ในความเยอะของเรา?) วาฟเฟิลอร่อยมากฮับ มีม๊อกเทลรสออกส้ม ๆให้กินด้วย เลิศที่สุดอ่ะโรงแรมนี้
ตอนเที่ยงเรามีนัดทานซาลาเปาไส้ไหลกัน แต่ยังเหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการบึ่งไป IFC Mall ที่สถานี Hong Kong เพื่อไปตามหาป๊อปคอร์น Garrets ที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในสามโลก!!! ไม่ผิดหวังจริง ๆ คาราเมลเคลือบทั่วทั้งชิ้น ถั่วแมคคาดาเมีย อัลมอนด์ ก็อัดมาให้เต็มที่ รสคาราเมลมีความขมเล็ก ๆ อร่อยมว๊ากกกกกกกก รสชีสก็สะใจมาก โคตรพ่อโคตรแม่ชีสถล่มทลาย สำหรับใครที่รักชีสแล้วนั้น หากท่านพลาดสิ่งนี้ไปถือว่าเสียชาติเกิดนะเธอว์
กลับมาที่ Elements มาหม่ำร้าน Tasty ที่มีหลายสาขากระจายตามที่ต่าง ๆ ในฮ่องกง ที่นี่เองที่เราได้ลองซาลาเปาไส้ไหลเป็นครั้งแรก ซาลาเปาครีมมีรสของไข่แดงอยู่ด้วย ทำให้รสหวาน มัน เค็ม เข้ากันดีเหลือเกิน น้ำตาไหลอาบแก้ม เบิ้ลไป 3 เข่งจ้า!!! (ภาระกิจบรรลุแล้ว กลับเมืองไทยได้ 555)
ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปาท่องโก่ราดซอส เมนูที่ด๔ธรรมดาจนไม่น่าเชื่อว่าจะอร่อย!!! มันเลิศตรงแป้งปาท่องโก่ที่ฟู กรอบนอก ข้างในเบานุ่มนี่แหล่ะ ไข่ขนซีฟู๊ดแบบจีนก็อร่อย ไข่ออกมัน ๆ นิดนึง รสเค็มกำลังดี กุ้งตัวใหญ่มากกกก โจ๊กฮ่องกงที่ใครหลายคนบอกว่าเมืองไทยอร่อยกว่า แต่เชื่อว่าเมืองไทยไม่มีทางมีตับที่หวาน นุ่มลิ้น และไข่เยี่ยวม้าเลิศรสแบบนี้แน่นอน
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เวลากลับมาเมืองไทยกันแล้ว ทริปนี้นอนจากจะได้ลองสัมผัสกับแบรนด์ Bliss แล้ว ยังได้หม่ำของอร่อยๆ และช็อปปิ้งเบา ๆ เป็นของแถมอีกด้วย ไว้ขยันเมื่อไหร่จะเอามาเล่าให้ฟังกันอีกที
สำหรับผลิตภัณฑ์ Bliss มีอะไรน่าสนใจบ้าง ก็ต้องขอบอกว่าชุดบำรุงผิวกายนั้นเลิศมาก กลิ่นหอมเลิศ แชมพูครีมนวดผมนุ่มมีน้ำหนักตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และมาส์กพอกหน้า Triple Oxygen™ Instant Energizing Mask ก็มีกิมมิคที่น่าสนใจให้ลองใช้กัน จะเริ่มวางจำหน่ายเมื่อไหร่ เปิดที่ไหนเป็นที่แรกนั้น ปูเป้จะเอาข่าวคราวมาอัพเดทกันให้อย่างแน่นอนจ้า
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง COSMEGA ที่ให้โอกาสปูเป้ได้ไปสัมผัสกับแบรนด์ Bliss อย่างเจาะ ในทริปสุดวิเศษ (และอร่อยมาก) ครั้งนี้ด้วยนะฮะ
ps. ดูรูปขนาดใหญ่ได้ในอัลบั้มบน Facebook “คลิกที่นี่”