รีวิวไวท์เทนนิ่งแบรนด์นอกมาเยอะแล้ว ขอพักมาเป็นแบรนด์ในประเทศที่ทั้งหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพงอย่าง Cute Press กันซะหน่อย ส่วนจะมีความน่าสนใจยังไงบ้างก็ต้องอ่านกันเอาเองนะฮะ
เริ่มแรกที่สังเกตเห็นก่อนที่จะดูส่วนผสม เราก็แอบแปลกใจอยู่ว่าทำไมราคาของ “มอยซ์เจอไรเซอร์” ถึงได้สูงกว่า “เซรั่ม” ไปได้ล่ะนี่? หลังจากที่กรองดูส่วนประกอบทั้งหมดแล้ว โดยรวมนั้นมีการเลือกใช้สาร Actives ที่คล้ายกับในเซรั่มเป็นอย่างมาก ซึ่งได้แก่ Niacinamide (Vitamin B3), Medicago Sativa Extract (Alfalfa), Opuntia Ficus-Indica Flower Extract, Alpha-Arbutin, Octadecenedioic Acid และ 1-Methylhydamtoin-2-Imid โดยรายละเอียดว่าสารแต่ละชนิดนั้นทำงานอย่างไร สามารถแวะกลับไปอ่านรีวิวของ Cute Press : Alpha Arbutin Plus O.D.A White Miracle Brightening Essence ได้ที่นี่
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือสาร DICTYOPTERIS MEMBRANACEA EXTRACT ซึ่งเป็นสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาลจากมหาสมุทรแอตแลนติค โดยผู้ผลิตสารคือบริษัท Codif และมีชื่อทางการค้าว่า 3M3 Whiteris G ซึ่งมีเพียงข้อมูลจากผู้ผลิตสารที่บ่งชี้ว่า สารตัวนี้จะเข้าไปทำงานกับยีนส์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Melanogenesis ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการเจริญเติบโต ลดปริมาณ ของแคปซูลเม็ดสี และลดการกระจายตัวของเม็ดสีเข้าสู่เซลล์ผิว ผลที่ได้จึงทำให้สีผิวและจุดด่างดำจางลงได้ ความเข้มข้นของสารชนิดนี้ที่แนะนำให้ใช้คือ 3% ซึ่งดูแล้วก็ดูมีความเป็นไปได้อยู่ว่าจะใส่มาถึง
เนื้อครีมเข้มข้นระดับคว่ำกระปุกและเขย่าเบาๆ ก็ยังไม่หก แต่เมื่อเกลี่ยลงบนผิวก็ไม่ได้รู้สึกเหนอะหรือเหนียวหน้าแต่อย่างใด คราวนี้ทางแบรนด์เคลมเรื่องการมอบความชุ่มชื้นยาวนาน 8 ชั่วโมง ปูเป้ก็เลยขอทดสอบด้วยเครื่องวัดระดับความชุ่มชื้นที่มีอยู่เสียหน่อย โดยการทดสอบนั้นจะเป็นการแบ่งครึ่งหน้า ครึ่งซ้ายจะทาผลิตภัณฑ์ลงบนผิวที่ทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งแล้วทิ้งไว้ 5นาที หลังจากนั้นก็ทาผลิตภัณฑ์ลงไปและทิ้งอีก 5 นาทีจึงวัดผล และก็เข้านอนเป็นเวลา 9 ชั่วโมง (พอดีตื่นสายไป 1 ชั่วโมง) และจึงวัดค่าที่ได้อีกครั้ง ส่วนแก้มข้างขวาจะไม่ทาผลิตภัณฑ์ใด ๆ เลย เพื่อเป็นตัวควบคุมผล
สรุปในแง่ของประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นถือว่าทำได้พอใช้ได้ เพราะส่วนตัวคาดหวังว่าควรที่จะได้ค่าของความชุ่มชื้นที่มากกว่านี้ อย่างไรก็ดีปูเป้เชื่อว่าหากมีการใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างเช่นโลชั่นเช็ดผิว และเซรั่ม/เอสเซ้นส์ ควบคู่ไปด้วย น่าจะทำให้ค่าความชุ่มชื้นที่ได้นั้นมากขึ้นกว่าการใช้ครีมเดี่ยว ๆ
Ingredients : WATER, GLYCERIN, ETHOXYDIGLYCOL, DICTYOPTERIS MEMBRANACEA EXTRACT, NIACINAMIDE, DICAPRYLYL CARBONATE, DICETYL PHOSPHATE/ CETETH-10 PHOSPHATE, POLYGLYCERYL-3 METHYLGLUCOSE DISTEARATE, HYDROGENATED SOY POLYGLYCERIDES/ C15-23 ALKANE, CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLYCERIDE, CETEARYL ALCOHOL, ISONONYL ISONONANOATE, ALPHA-ARBUTIN, OCTADECENEDIOIC ACID, BUTYLENE GLYCOL, SCUTELLARIA BAICALENSIS ROOT EXTRACT, MEDICAGO SATIVA (ALFALFA) EXTRACT, HYDROLYZED OPUNTIA FICUS-INDICA FLOWER EXTRACT, ACETYL TYROSINE, 1-METHYLHYDANTOIN2-IMIDE, BUTYROSPERMUM PARKII (SHEA BUTTER), TOCOPHERYL ACETATE, DIMETHICONE, ALOE BARBADENSIS LEAF JUICE, PHENOXYETHANOL, DIPOTASSIUM GLYCYRRHIZATE, ACRYLATES/ C10-30 ALKYL ACRYLATE CROSSPOLYMER, TRIETHANOLAIVIINE, METHYLPARABEN, XANTHAN GUM, PROPYLPARABEN, DISODIUM EDTA, BHT, FRAGRANCE.
อย่างไรก็ดีการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบกระปุกนั้นมีปัญหาในแง่ของการเก็บรักษาส่วนผสมของสาร Active ที่ไวต่อแสงและออกซิเจน ทำให้สารบำรุงอาจมีโอกาสเสื่อมสลายและลดประสิทธิภาพลงเมื่อใช้ไปนาน ๆ รวมถึงยังมีโอกาสที่ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกจะลงไปสัมผัสกับเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ ส่วนตัวคิดว่าเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้ข้นเกินไปที่จะใส่ในหลอดบีบทึบแสง หรือขวดปั้มสุญญากาศ (แม้จะเข้าใจว่ากระปุกเป็นแพคเกจที่ดูสวย มีราคา ต้นทุนไม่สูง และบรรจุง่าย ซึ่งเป็นข้อดีในเชิง marketing ก็ตาม)
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
ข้อดี
– ส่วนประกอบของสาร Active มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาจุดด่างดำ
– ราคาไม่แพง หาซื้อได้ไม่ยาก และมีโปรโมชั่นบ่อยครั้ง
– ใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว
ข้อเสีย
– มีน้ำหอม
– บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก
– ผิวที่แห้งมาก ๆ อาจจะชุ่มชื้นไม่เพียงพอ
***Sponsored Item***
– Cute Press : Alpha Arbutin plus O.D.A Brightening Night Cream