d program : Power Vital Solution

ผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ที่เราชอบมาแล้ว กับ d program : Power Vital Solution ซึ่งต่อยอดจากความสำเร็จของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Vital Act ขวดสีม่วงที่เน้นเรื่องการดูแลปัญหาริ้วรอยแห่งวัย โดยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้เคลมว่าเป็นเซรั่มในรูปแบบครีมเพื่อใช้เสริมการบำรุงเป็นพิเศษในยามค่ำคืนให้ครบเครื่องมากขึ้น ปูเป้ได้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมของปีก่อนและพกไปใช้ที่โตเกียวในช่วงหน้าหนาวด้วย และพบแง่มุมที่น่าสนใจจึงอยากเอามาแชร์ข้อมูลให้อ่านกัน

โดยภาพรวมของส่วนผสมนั้น d program : Power Vital Solution (25g / 1,890 BAHT) ใช้พื้นฐานของส่วนผสมและเทคโนโลยีใน d program : Vital Act แต่มีการเพิ่มส่วนผสมเข้ามา 2 ชนิดที่เติมเต็มและเพิ่มประสิทธิภาพในการเป็น Anti-Aging และ Whitening ให้ชัดขึ้น ทำให้สามารถจำแนกสามเป้าหมายหลักที่ผลิตภัณฑ์มุ้งเน้นได้แก่ 

1. ความแข็งแรงและชุ่มชื้นของผิว

ส่วนที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ d program อยู่แล้ว อย่าง Erythritol และ Glycerin ซึ่งทางแบรนด์ตั้งชื่อว่า H-Stabilizing A ซึ่งทางเครือชิเซโดตีพิมพ์การศึกษาว่าการพัฒนาตัวของ Cornified Envelopes หรือ CE ที่สมบูรณ์นั้นจะทำให้ปราการผิวหรือ Skin Barrier ของเรานั้นดีตามไปด้วย และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ H-Stabilizing A ทำให้การพัฒนาตัวของ CE ดีขึ้นใน 3 สัปดาห์ จึงทำให้ปราการผิวแข็งแรงขึ้น ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น ส่วนผสมของ Squalane และสารกลุ่ม Dimethicone หลายชนิดทำหน้าที่เป็นตัวเคลือบและเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิว

(Source : Identification of immature cornified envelopes in the barrier‐impaired epidermis by characterization of their hydrophobicity and antigenicities of the components, Improvement of Mild Inflammatory Changes of the Facial Skin Induced by Winter Environment with Daily Applications of a Moisturizing Cream, Cosmetics and treatment method for promoting maturation of cornified envelopes)

2. การลดเลือนริ้วรอยและเสริมความกระชับของผิว

เทคโนโลยีในนี้เน้นไปที่เรื่องของ Basement Menbrane ที่อยู่คั่นระหว่างผิวชั้นในและผิวชั้นนอกซึ่งมีผลต่อความยืดหยุ่นของผิวและการเกิดร้ิวรอย จากการสืบค้นข้อมูลพบการจดสิทธิบัตรของส่วนผสมต่าง ๆโดยใช้ Thymus Serpyllum Extract เป็นตัวที่ช่วยต้านเอนไซม์ Matrix Metalloproteinase (MMP) ที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นฐานนี้ และเสริมโมเลกุลสำคัญอย่าง Laminin-5 ด้วย Ononis Spinosa Root Extract และส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง Fagus Sylvatica Bud Extract มีคุณสมบัติในการเสริม Collagen IV และ Collgen VII ที่เป็นโครงสร้างหลักของชั้น Basement Menbrane Rosa Roxburghii Fruit Extract เป็นส่วนผสมที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดริ้วรอย

(Source : Skin vitalizing composition for external use anti-aging preparation, Material for promoting skin basement formation, Collagenase inhibitor, Antiaging agent)

3. การมอบความกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ

นั้นใช้ Tranexamic Acid ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนนิ่งจากการต้านการอักเสบและกดการทำงานของ Endothelin-1 (ET-1) ซึ่งเป็นสารที่เซลล์ผิวหลังออกมาเมื่อถูกทำร้ายจากรังสี UV และมีส่วนกระตุ้นกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน สารตัวนี้ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและทาง shiseido ได้จดสิทธิบัตรที่เคลมว่าช่วยลดความหยาบกร้านของผิวได้อีกด้วย ทางด้าน Dipotassium Glycyrrhizate เป็นสารสำคัญที่มีอยู่ในรากชะเอมเทศ มีคุณสมบัติในการต้านการระคายเคืองและเสริมการเป็นไวท์เทนนิ่งด้วย 

ส่วนผสมใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในผลิตภัณฑ์นี้อย่าง Angelica Acutiloba Root Extract หรือโสมตังกุยญี่ปุ่น ซึ่งถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งของญี่ปุ่นมานาน ปัจจุบันมีข้อมูลใหม่ที่ออกมาสนับสนุนว่าสารสกัดจากพืชชนิดนี้มีคุณสมบัติในการเป็นไวท์เทนนิ่งโดยมีกลไกในการช่วยสลายเมลาโนโซม และการทดสอบในเซลล์พบว่าช่วยลดเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ จึงอาจเป็นส่วนผสมที่เสริมการต้านร้ิวรอยได้ด้วย ยังมีสิทธิบัติที่ชี้ว่าพืชในตระกูล Angelica ยังมีคุณสมบัติเป็น Vascular endothelial growth factor (VEGF) จึงอาจเสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียดใต้ผิวอีกด้วย แต่ในสิทธิบัติไม่ได้ระบุสายพันธ์เป็น Angelica Acutiloba เราเลยไม่แน่ใจว่ามันอาจให้ผลเหมือนกันหรือไม่

(Source : Efficacy and possible mechanisms of topical tranexamic acid in melasma., Angelica acutiloba Root Extract Improves Hyperpigmentation via the Mechanism of Digestion of Melanosome Complexs, Anti-Photoaging Effects of Angelica acutiloba Root Ethanol Extract in Human Dermal Fibroblasts, Vascular endothelium growth factor (vegf) expression promoter)

โดยรวมแล้วผลิตภัณฑ์นี้คือการนำเทคโนโลยีใน Vital Act มาเติมส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มกลไกในการต่อต้านริ้วรอยและการเป็นไวท์เทนนิ่งให้ครบมากขึ้นนั่นเอง

Ingredients :  Water, Cyclopentasiloxane, Glycerin, Butylene Glycol, Cetyl Ethylhexanoate, Dimethicone, Dipropylene Glycol, Squalane, Disteardimonium Hectorite, Tranexamic Acid, PEG-10 Dimethicone, PEG-150, PEG-400, Trimethylsiloxysilicate, Phenoxyethanol, Erythritol, Dipotassium Glycyrrhizate, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Sodium Metaphosphate, Sodium Metabisulfite, Tocopherol, Angelica Acutiloba Root Extract, Thymus Serpyllum Extract, Fagus Sylvatica Bud Extract, Ononis Spinosa Root Extract, Rosa Roxburghii Fruit Extract.

บรรจุภัณฑ์ของ d program : Power Vital Solution เป็นลักษณะ Airless Jar ที่ต้องกดฝาปั้มให้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา ปาดเนื้อครีมออกมาทา และก็เช็ดที่ฝาปั้มเพื่อความสะอาดก่อนปิดเก็บ บรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้ค่อนข้างเก็บรักษาเนื้อผลิตภัณฑ์ข้างในได้ดีกว่ากระปุกแบบธรรมทั่วไป แต่เราก็ต้องขยัดเช็ดทำความสะอาดหลังใช้กันหน่อย  ส่วนตัวมองว่าถ้าไม่ติดในเรื่องของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูสวยงาม ดูเหมือนกระปุก เราว่าใช้เป็นขวดปั้มแบบ Airless ยาว ๆ ก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเช็ดฝาปั้มทุกรอบนะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ที่กดออกดูเหมือนเซรั่มที่มีบอดี้หน่อย เหมือนจะบางเบาแต่เมื่อทาไปบนผิวแล้วมันเคลือบผิวดีทีเดียว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ออกแบบมาให้ใช้ตอนกลางคืน ซึ่งสามารถใช้แทน d program : Vatal Act Emulsion ไปได้เลย หรือถ้าคุณมีผิวแห้งมาก หรือเดินทางไปอยู่ในพื้นที่มีอากาศแห้งหรือมีการเปิดฮีตเตอร์ ก็สามารถใช้ d program : Vatal Act Emulsion ก่อน แล้วเคลือบปิดตามด้วย d program : Power Vital Solution เป็นขั้นตอนสุดท้ายได้ โดยปริมาณในการใช้ที่แนะนำคือ 1 ปั้ม

ปูเป้ลองนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไปใช้ที่โตเกียวในช่วงคริสมาสและปีใหม่ที่ผ่านมาซึ่งอากาศหนาวและแห้งมาก คืนที่ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์อย่างเดียว หรือ d program : Power Vital Solution อย่างเดียว รู้สึกว่าตื่นมาแล้วหน้ายับเป็นรอยเพราะนอนตะแคงข้าง แต่พอใช้ d program : Power Vital Solution เคลือบปิดทับมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ลงก่อนหน้าอีกชั้น จะช่วยเก็บล็อคความชุ่มชื้นได้ดีมากขึ้น ตื่นมาหน้าไม่ยับแล้ว แต่ในสภาพอากาศปกติที่บ้านตัวเองในกรุงเทพ รู้สึกว่าใช้เพียง ใช้ d program : Power Vital Solution เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์ตัวเดียวก็พียงพอแล้ว แต่ถ้าวันไหนนอนดึกมาก หรือตอนที่ท้องเสียจนผิวเหี่ยวแห้ง ก็ใช้เป็นตัวปิดท้ายหลังลงมอยซ์เจอไรเซอร์เลย ได้ผลดีมาก ช่วยให้ผิวอิ่มเอิบ ยืดหยุ่น ดูดีขึ้น

โดยสรุปแล้ว d program : Power Vital Solution เป็นการอัพเกรดในส่วนของกลไกในการเสริมความแข็งแรงของผิวชั้น Basement Menbrane ให้ครบเครื่องมากขึ้น และยกระดับคุณสมับติในการเป็นไวท์เทนนิ่งให้มากขึ้น หรือพูดง่ายๆ  ก็คือเป็นตัวที่แอดวานซ์กว่าของ d program : Vatal Act Emulsion นั่นเอง ทำออกมาสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มการดูแลให้มากขึ้น หรือใช้เสริมการบำรุงเป็นพิเศษในยามค่ำคืนสำหรับคนที่ผิวแห้งมากหรืออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งกว่าปกติ จะทำหน้าที่เป็นเมหือนตัวซีลเคลือบอีกชั้นเพื่อคงความชุ่มชื้นและนุ่มนวลให้กับผิวได้มากขึ้นไปอีก

ส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไรกับผลิตภัณฑ์ มันทำออกมาได้ค่อนข้างดีตามมาตรฐานของ d program คือทั้งอ่อนโยน แพคเกจจิ้งดี และสูตรผสมที่ใช้เทคโนโลยีของเครือชิเซโดอย่างเต็มที่ ผลที่ได้คือผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นคืนตัวดี สิ่งที่สะดุดนิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องที่ปริมาณเมื่อเทียบกับราคาแล้วค่อนข้างแรงโดดออกมาจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเขาพอสมควร แต่อย่างน้อยช่วงจังหวะโปรโมชั่นดี ๆ ใน Watson เราอาจจะซื้อได้ในราคาสุดคุ้มชนิดที่คนญี่ปุ่นยังต้องเหลือบมองด้วยความอิจฉาอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์นี้วางจำหน่ายใน Watsons และ Watsons Online เท่านั้นเหมือนเดิมจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

d program : Power Vital Solution
Price :  25g / 1,890 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Barrier Repair / Hydration / Anti-Aging / Brightening / Fragrance-Free