Lancôme : Blanc Expert เป็นกลุ่มไวท์เทนนิ่งที่มีมายาวนานมาก (จำได้ว่าตอนแรกไมไ่ด้ชื่อนี้ด้วยนะ) และเป็นไวท์เทนนิ่งตัวแรก ๆ ที่ปูเป้ได้ลองใช้เลยล่ะ ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาส่วนผสมหลักและเทคโนโลยีที่ถูกจูเป็นจุดเด่นก็มีเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และหลังจากปล่อยภาพ Before-After ผลหลังการใช้ 1 เดือนของ Lancôme : Blanc Expert Melanolyser [AI] ตัวใหม่ทั้ง 2 ตัวให้ดูเป็นน้ำจิ้มไปก่อนหน้านี้ในแล้วใน Facebook ก็มีเสียงเรียกร้องให้รีบทำรีวิวก็เลยรีบทำมาให้อ่านกันนะจ๊ะ
Essence in Lotion ตัวนี้เป็นขั้นตอนหลังจากการใช้ Toner หรือโลชั่นเช็ดผิว และก่อนที่จะใช้เซรั่มหรือทรีตเมนต์อื่น ๆ ส่วนผสมของสารออกฤิทธิ์หลัก ๆ ที่น่าสนใจตัวแรกคงจะหนีไม่พ้น วิตามินซีเสถียรในรูปของ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ซึ่งใส่มาเกือบ 2% เลยทีเดียว วิตามินซียังเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่ดีอีกด้วย
ส่วนผสมของสารสกัดจากพืชสามชนิด ได้แก่ ใบเปปเปอร์มินต์ (Mentha Piperita) ดอกกุหลาบ (Rosa Centifolia) และรากเหล่งตาเช่า (Gentiana Lutea) เน้นไปที่การลดการอักเสบ (Anti-Inflammation) เพื่อลดการส่งสัญญาณไปกระตุ้นการผลิตเมลานิน ในใบมิ้นต์นั้นมีสารประกอบจำนวนมากมาย แต่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้อาจจะเป็นการสกัดเอาสาร Eriocitrin เพื่อกระตุ้นการหลั่งของ β-endorphin เพื่อลดผลกระทบของรังสี UVB ซึ่งสารที่มีชื่อว่า CALMISKIN® ของบริษัท SILAB เคลมเอาไว้ในแบบเดียวกัน ส่วนสารสกัดจากดอกกุหลาบและรากเหล่งตาเช่านั้นก็ใช้กันมาแต่โบราณเพื่อคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ
(Source : Phenolic profile and antioxidant evaluation of Mentha x piperita L. (peppermint) extracts., Chemical Composition and Anti-Inflammatory, Cytotoxic and Antioxidant Activities of Essential Oil from Leaves of Mentha piperita Grown in China., Skin β-endorphin mediates addiction to UV light., Evaluation of Anti-inflammatory and Wound Healing Activity of Gentiana lutea Rhizome Extracts in Animals.)
ตัวเบสมีส่วนผสมของ Alcohol Denat. เป็นอันดับที่สี่ แต่ว่าเอสเซนส์ตัวนี้ให้ความฉ่ำและชุ่มชื้นผิวค่อนข้างดี เพราะมีส่วนผสมของ PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin หรือที่ทาง L’Oreal เรียกว่า Aquatoryl นั้น เมื่อใส่มาคู่กับ Glycerin จะทำให้ยิ่งมีประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นที่มากขึ้น (เคลมแบบเดียวกับสารที่มีชื่อว่า WILBRIDE™ S-753 ของ NOF ก็คิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน)
เนื้อเอสเซนส์น้ำใส ๆ จะให้ความรู้สึกหนึบผิวเล็กน้อยเมื่อใกล้จะแห้ง มีกลิ่นน้ำหอมแนวฟลอรัลอันเป็นเอกลักษณ์ของไลน์ Blanc Expert ระดับกลิ่นของน้ำหอมอยู่ในระดับเล้กน้อยถึงปานกลาง การใช้ตบลงไปบนผิวตามปกติจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่ถ้าเอามาชึบสำลีทำ Lotion Mask โดยส่วนตัวรู้สึกว่ากลิ่นเริ่มเยอะไปหน่อย
Ingredients : Aqua/Wate, Propylene Glycol, Glycerin, Alcohol Denat., PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin, 3-O-Ethyl Ascorbic Acid, Mentha Piperita (Peppermint) Leaf Extract, PEG-6-Decyltetradeceth-30, Rosa Centifolia Flower Extract, Potassium Hydroxide, Sodium Citrate, Disodium EDTA, Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol, Citric Acid, Xanthan Gum, Gentiana Lutea Root Extract, Salicylic Acid, Phenoxyethanol, Linalool, Benzyl Alcohol, Benzyl Salicylare, Parfum/Fragrance. (F.I.L. B170450/1)
Spot Eraser เป็นผลิตภัณฑ์ตัวหลักที่มีมาอย่างยาวนานของ Lancôme ซึ่งตัวใหม่ล่าสุดนี้ก็เหมือนกับการเอาส่วนผสมเด่น ๆ ของในแต่ละรุ่นมาผสมรวมกันนั่นเอง สารไวท์เทนนิ่งหลักก็คือ Ellagic Acid ซึ่งไม่ค่อยเห็นค่ายอื่นใช้กันเท่าไหร่ จะมีแต่เครือ L’Oreal อย่าง Lancôme นี่แหล่ะใช้มาเป็นสิบปีได้แล้วมั้ง ซึ่งใครที่ใช้ไวท์เทนนิ่งตัวอื่นแล้วได้ผลไม่เป็นที่พอใจก็จะลองเปลี่ยนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Ellagic Acid ก็อาจจะมีโอกาสเห็นผลที่ดีกว่าได้
ในสูตรใหม่นี้มีส่วนผสมของวิตามินซีในรูป Ascorbyl Glucoside ซึ่งเคยถูกใช้แทน Ellagic Acid ตอนรุ่น Blanc Expert MelanoCX เมื่อหลายปีก่อนและก็หายไปเลย (อาจเป็นเพราะลำพังวิตามินซีอย่างเดียวอาจจะให้ผลได้น้อยกว่า Ellagic Acid ก็เป็นไปได้ แต่ผสมมันมาทั้งคู่เลยก็แจ่มกว่า!!!)
สารไวท์เทนนิ่งอีกตัวหนึ่งก็คือ Palmaria Palmata หรือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงที่มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยว่าช่วยในเรื่องของการลดการส่งผ่านเม็ดสีเข้าสู่เซลล์ผิว โดยทางบริษัท Sialb ก็นำสารสกัดจากสาหร่ายชนิดนี้มาจำหน่ายภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Whitonyl
สารสกัดจากพืชนอกจาก มิ้นต์ ดอกกุหลาบและรากเหล่งตาเช่าแล้ว ก็ยังมีที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือสารสกัดจากรากชะเอม (Glycyrrhiza Glabra) ซึ่งนำมาเสริมเรื่องการลดการอักเสบและเป็นไวท์เทนนิ่งได้ ส่วนสารสกัดจากใบแปะก๊วยก็คงเป็นแอนติออกซิแดนท์ไปตามประสา
สารสกัดจากถั่วเหลืองหรือ Hydrolyzed Soy Flour น่าจะเป็นสารที่มีชื่อทางการค้าว่า Raffermine ของบริษัท Silab (อีกแล้ว) เพราะสารสกัดตัวนี้ในเอสเซนส์ Derm Crystal ที่เลิกผลิตไปนำมาเคลมในเรื่องของการปกป้องโปรตีนในผิวชั้นในเพื่อลดโทนเหลืองของผิว ซึ่งสาร Raffermine ก็เคลมในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับปรุงโทนผิวพอดี เลยคิดว่าน่าจะใช่ตัวนี้แหล่ะ
สารออกฤิทธิตัวสุดท้ายคือ Yeast Extract ที่ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยเร่งการเสื่อมสลายของเมลานินส่วนเกินได้ ส่วนตัวยังหาข้อมูลไม่เจอเกี่ยวกับส่วนผสมตัวนี้
โดยภาพรวมส่วนผสมหลักจะเน้นไปที่การต้านการอักเสบเพื่อลดการส่งสัญญาณจากเซลล์ผิวไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ขัดขวางการการผลิตเมลานิน ลดการส่งผ่านเมลานินที่ผลิตมาแล้วไปยังเซลล์ผิว ส่วนเรื่องการผลัดเซลลืผิวนั้นคงจะหวังจาก Salicylic Acid ไม่ได้นักเพราะค่า pH อยู่ที่ 5.5 ซึ่งมากเกินกว่าระดับที่ส่วนผสมจะทำงานได้ดี
(Source : Innovatory approach fights pigment disturbances, In vitro and in vivo evaluation of ellagic acid on melanogenesis inhibition., http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2904932/, Silab Create Depigmentation Ingredient)
Ingredients : Aqua/Water, Propylene Glycol, Glycerin, Diisopropyl Sebacate, Methyl Gluceth-20, Dimethicone, Ascorbyl Glucoside, Octyldodecanol, C13-14 Isoparaffin, Alcohol, Tocopherol, Sodium Citrate, Hydrolyzed Soy Flour, Hydroxyisohexyl 3-Cyclohexane Carboxyaldehyde, Stearic Acid, Phenoxyethanol, Faex/Yeast Extract, PEG-100 Stearate, PPG-5Ceteth-20, Palmitac Acid, Ellagic Acid, Polyacrylamide, Salicylic Acid, Palmaria Palmata Extract, Xanthan Gum, Gentiana Lutea Root Extract, Benzyl Salicylate, Ginko Biloba Leaf Extract, Linalool, Benzyl Alcohol, Mentha Piperita (Peppermint) Leaf Extract, Caprylyl Glycol, Alpha-isomethyl Ionone, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Rosa Centifolia Flower Extract, Cetyl Alcohol, Potassium Hydroxide, Tetrasodium EDTA, Citric Acid, Butylphenyl Methylpropionol, Laureth-7, Glyceryl Stearate, Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract, Parfum/Fragrance, Sodium Benzoate. (F.I.L. B167040/1)
วิธีการทาผลิตภัณฑ์ของปูเป้คือจะใช้ Essence in Lotion หลังจากโลชั่นน้ำหรือโทนเนอร์ตัวอื่น ๆ โดยใช้ปริมาณเท่าเหรียญ 5 บาทในตอนเช้า และ 10 บาทในตอนกลางคืน ตบลงบนผิวจนซึมดีแล้วค่อยตามด้วย Spot Eraser ทาทั่วใบหน้า และบีบเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อแต้มและนวดเบา ๆ บริเวณจุดด่างดำที่กังวลเป็นพิเศษ
ผลหลังจากการใช้จะเห็นได้ว่าความเข้มของจุดด่างดำที่กระจายเป็นปื้นใหญ่ซึ่งเกิดจากการเป็นสิวอักเสบซ้ำๆ บริเวณเดิมบ่อย ๆ นั้นจางลงอย่างเห็นได้ชัด และโทนสีผิวโดยรวมดูกระจ่างขึ้นอีกด้วย
*รูปได้จาก RAW File จากกล้อง ไม่มีการปรับแสง สี หรือตกแต่งภาพใด ๆ ทั้งสิ้น*
สิ่งที่ปูเป้ไม่ค่อยชอบในผลิตภัณฑ์ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของกลิ่นน้ำหอม ซึ่งมันก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมากหรอก แต่ถ้าไม่มีน้ำหอมเลยเราคงจะแฮปปี้มากกว่านี้ โดยเฉพาะกับ Essence in Lotion ที่เราคงจะสะดวกใจเอามาทำเป็น Lotion Mask เป็นประจำได้บ่อย ๆ หากไม่ต้องมาทนกับกลิ่นของน้ำหอม เอาเป็นว่าเรื่องกลิ่นนี่เป็นสิ่งที่แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ก็ต้องลองไปทดสอบกันเอาเองนะฮะว่ารับได้หรือไม่ได้
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
ข้อดี
– มีส่วนผสมของารไวท์เทนนิ่งหลายชนิดที่ทำงานสอดประสานกัน
– จากการทดลองใช้ เห็นผลในการลดเลือนจุดด่างดำและปรับโทนสีผิวได้ดีมาก
– ผิวชุ่มชื้น และนุ่มนวลขึ้น
ข้อเสีย
– มีส่วนผสมของน้ำหอม
***Sponsored Item***
– Lancôme : Blanc Expert Melanolyser [AI] Brightening Diffusing Essence in Lotion
– Lancôme : Blanc Expert Melanolyser [AI] Intense Whitening Spot Eraser