เราสามคนลงความเห็นกันว่า อยากนั่งกระเช้าแบบนั้นจัง ท่าทางจะสนุก 😀
 

นั่งมาก็นานแล้ว ยังไม่ถึงอีกหรอ จะสูงไปถึงไหนกัน….
 

มองไม่เห็นยอดเลย กระเช้าจะพาเราไปถึงสวรรคืเลยรึเปล่าเนี่ย???
 

อ๊ะ เริ่มเห็นอะไรราง ๆ
 

โอ้ สวรรค์หน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง…

มาถึง เก็บของปุปก็บึ่งลงมาสวนสนุก Genting ทันทีไม่รีรอ เสียไปอีก 59 ริงกิต เล่นได้ทั้งวันไม่จำกัด

โรงแรมชื่อ Gay Pride Hotel รึเปล่าเนี่ย สีรุ้งซะเหลือเกิน…


มาถึงก็บึ่งมาเล่นเครื่องเล่นแนะนำ Flying Coaster ก่อนเลย ก็โอเคนะขอรับ แต่มันไม่ค่อย Smooth เท่าไหร่ พอเข้าโค้งทีไรนี่คือแทบหัก เพราะว่าเหวี่ยงกระชากแรงมาก เล่นเอามึนเลย…

 

มาสวนสนุกแล้วไม่กิน Cotton Candy คงจะรู้สึกขาดอะไรไปสักอย่างแน่นอน
 

โครม!!!!
 

เป็นสวนสนุกที่ปิดดึกมาก เปิดถึง 4 ทุ่มแน่ะ

วัดอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่ว่าเขาใช้เซรามิคเป็นชิ้น ๆมาประกอบกันเป็นหุ่น สวยดีนะ 😀

มาถึงสิงคโปร์ ก็มาชมสวนนก จูล่ง กันซะหน่อย (แต่เหมือนว่าเราไม่ได้สนใจมาดูนกกันเท่าไหร่)

 

รูปเรี่ยราดอีกหนึ่งรูป
 

มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด หรือว่าปูเป้จะหลงป่า!!!!
 

อุ๊ย!!! โดนหนุ่มลวนลาม
 

ก็นับว่าเป็นสวนที่ร่มรื่นมากทีเดียว (แต่ก็อบอ้าวมากเช่นกัน)
 

สถานที่แวะตามตำรา สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์

มุมมาตรฐานที่ทุกคนควรมีไว้เมื่อมาเยี่ยมสิงโตพ่นน้ำ
 

เอามั่ง 😀
 

แดดเยอะ แสงดีแบบนี้ ขอสักหน่อย
 

รูปรั่ว ๆ อีกรูป
 

จุดหมายต่อปาย China Town เพื่อแวะซื้อของฝาก

หมูแผ่ยร้านนี้อร่อยมั่ก ๆ ไม่ใช่หมูแผ่นกรอบ ๆ แผ่นบางเหมือนบ้านเรา แต่จะเป็นแผ่นหนานุ่มหอมกลิ่นถ่านไม้ที่ใช้ย่าง (แต่กินเยอะก็เลี่ยนนะ มัน ๆ อยู่เหมือนกัน)


Check Point ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึง China Town ก็คือร้าน Bonjour ที่ขายเครืองสำอาง น้ำหอม ในราคาแสนถูก (น้ำหอมถูกมากกกกกกกกกกกกก) และมีขนาด Sample ของ SKincare แบรนด์ต่าง ๆ มาขายด้วย บางตัวก็ถูกกว่าไทย บางตัวก็แพงกว่า ต้องเช็คราคามาให้ดีก่อน แน่นอนว่าร้านนี้ดูดเงินไปเกือบ 600 เหรียญ T-T

 

ร้านดึ่มดึ้ม สำหรับหนุ่มเหงา สาวเปลี่ยว (แน่นอนว่าต้องแว่บไปเปิดโลกทัศน์ซะหน่อย)

Chek Point สุดท้ายที่ “ต้องแวะ” เมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์ ก็คือมาชิม Macaron (อ่านว่า มา – กา – ฮอง) ของร้าน Canale’ ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยติดอันดับโลก ราคาก็ไม่แพงมาก ชิ้นขนาด 1.5 นิ้ว แค่ 60 บาทเอง (เองหรอ???)

ขนม Macaron ทำมาจากส่วนผสมไม่กี่อย่าง หลัก ๆ ก็คือ อัลมอนด์ป่นละเอียด น้ำตาลไอซิ่ง และอิตาเลี่ยนเมอแรงค์ (น้ำเชื่อม + ไข่ขาว) แล้วก็เติมรสชาติเอาตามใจชอบ ลักษณะของ Macaron ที่ดีคือเปลือกนอกต้องกรุบกรอบ เนื้อในต้อง Chewy และเต็มแน่นเหมือน Spong Cake แน่นอนว่า Macaron ระดับเทพร้านนี้ตรงตามคุณลักษณะที่ดีครบทุกประการ รสชาติไม่หวานจัดเหมือน Macaron ทั่วไปที่เคยกิน รส Dark Chocolate 70% กินแล้วถึงกับแสงพุ่ง อร่อยโค-ต-ร รสอื่น ๆ ที่น่าลิ้มลองก็มี ฮาเซลนัท คาราเมล แล้วก็ Rose อันนี้หอมฟุ้งกลิ่นกถหลาบทั่วปากกันทีเดียว

เฉพาะขนมร้านนี้ก็ควักกระเป๋าจ่ายไปประมาณ 120 เหรียญได้ T-T

 

ขนมอื่นๆ ก็ หะรูหะรา (หรูหรา) ไฮโซ น่าหม่ำ ๆ
 

โฮก!!! แพงแต่ก็น่ากิน
 

ถุงสวยมั่ก กล่องก็น่ารัก 😀