ซีรั่มชิ้นนี้บรรจุอยู่ในขวดปั้มทึบแสงสีแดงเข้มที่เข้ากับฝาสีเงินดูหรูหราได้เป็นอย่างดี นอกจากบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่สวยงามแล้ว ส่วนประกอบซีรั่มล่าสุดจาก OLAY ก็อุดมไปด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวอยู่หลากหลายชนิด
เริ่มต้นจาก Niacinamide หรือวิตามินB3 ที่ช่วยเพิ่มปริมาณ Ceramide ในผิวชั้นนอกเพื่อเสริมความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของปราการปกป้องผิว ยังช่วยสื่อสารกับเซลล์ให้เซลล์ทำงานดีขึ้น และยังช่วยลดเลือนสีผิวไม่สม่ำเสมอด้วยการขัดขวางการส่งผ่าน Melanosome ได้อีกด้วย Panthenol หรือโปรวิตามินB5 ช่วยเสริมความชุ่มชื้น และ Tocopheryl Acetate หรือวิตามินอีช่วยต้านอนุมูลอิสระ ข้อมูลจากทางแบรนด์ที่ให้มายังระบุว่าซีรั่มชิ้นนี้มีปริมาณ Palmitoyl Pentapeptide-4 มากกว่า OLAY : Regenerist Micro-Sculpting Cream ถึง 66% ทีเดียว
Ingredients : Water, Cyclopentasiloxane, Glycerin, Niacinamide, Aluminum Starch Octenylsuccinate, Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Panthenol, Polyethylene, Polyacrylamide, Titanium Dioxide, Tocopheryl Acetate, C13-14 Isoparaffin, Mica, DMDM Hydantoin, Allantoin, Laureth-4, Dimethiconol, Laureth-7, Carnosine, Sodium Hyaluronate, Fragrance, BHT, Disodium EDTA, PEG-100 Stearate, Citric Acid, Butylene Glycol, Camellia Sinensis Leaf Extract, Iodopropynyl Butylcarbamate,Tin Oxide, Palmitoyl Pentapeptide-4.
โดยรวมแล้ว OLAY : Regenerist Micro-Sculpting Serum เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์กับผิวจริง และสามารถช่วยให้ผิวที่ถูกทำร้ายจากปัจจัยลบภายนอกอย่างมลภาวะ แสงแดด สามารถฟื้นฟูและเยียวยาตัวเองให้มีสภาพที่ดีขึ้น ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้คือผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ สามารถจางลงได้ (ข้อแม้คือต้องใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเป็นประจำ) แต่จะสามารถให้ผลลัพธุ์ทดแทนการทำเลเซอร์ได้หรือไม่? คำตอบแน่นอนก็คือ “ไม่ได้ครับ”
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม (กลิ่นเหมือน Pantene สูตรเก่า) ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่มีผิว Sensitive จะต้องระวังเอาไว้ จึงขอแนะนำให้ทำ Patch Test ก่อนซื้อหรือใช้ด้วยนะครับ
โปรยสรรพคุณว่าช่วยปกป้องผิวได้ลึกถึงระดับ DNA … ฟังดูเว่อร์เหลือหลาย… จะทำได้จริงหรอ? แต่หลักการนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้หวือหวาขนาดนั้นเพราะว่าครีมกันแดดที่ดีจะช่วยปกป้องเซลล์และ DNA จากการถูกทำร้ายโดยรังสี UV ได้อยู่แล้ว และหากมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระด้วยแล้วก็ยิ่งสามารถปกป้อง DNA ได้มากขึ้นอีก
ทำให้คำโปรยของ OLAY : Regenerist DNA Superstructure Cream SPF30 นั้นไม่ถือว่าเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง เพราะส่วนผสมของสารกรองรังสีที่ใส่มานั้นสามารถปกป้องรังสี UV ได้ครบทั้ง UVA และ UVB และยังมีความเสถียรอีกด้วย (Butyl Methoxydibenzoylmethane เป็นตัวกรองรังสี UVA และใช้ Octocrylene เป็นตัวเสริมความเสถียรของสารกันแดด) เมื่อรวมเข้ากับวิตามิน B3 และวิตามิน E ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถลดความเสียหายจากรังสี UV ที่จะส่งผลต่อคอลาเจนในชั้นผิว (แน่นอนว่ารวมถึง DNA ด้วย)
Ingredients : Water, Homosalate, Glycerin, Niacinamide, Butyl Methoxydibenzoylmethane, Isopropyl Lauroyl Sarcosinate, Octocrylene, Nylon-12, Phenylbenzimidazole Sulfonic Acid, Dimethicone, Isopropyl Isostearate, Triethanolamine, Sodium Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Isohexadecane, Stearyl Alcohol, Benzyl Alcohol, Cetyl Alcohol, Panthenol, Pentylene Glycol, Tocopheryl Acetate, Titanium Dioxide, Behenyl Alcohol, Sorbitan Stearate, Carbomer, Polysorbate 80, Dimethiconol, PEG-100 Stearate, Allantoin, Ethylparaben, Fragrance, Methylparaben, Propylparaben, Carnosine, Cetearyl Alcohol, Cetearyl Glucoside, Sodium Ascorbyl Phosphate, Disodium EDTA, Stearic Acid, PEG-4 Dilaurate, PEG-4 Laurate, Iodopropynyl Butylcarbamate, PEG-4, Camellia Sinensis Leaf Extract, Ammonium Polyacrylate, Palmitoyl Pentapeptide-4.
สรุปแล้ว OLAY : Regenerist DNA Superstructure Cream SPF30 ก็เป็นครีมบำรุงผิวในตอนกลางวันที่มีค่า SPF สูงกำลังดี มีส่วนผสมของสารบำรุงมาให้ในปริมาณที่น่าพอใจ (แต่ราคาแอบน่าตกใจไปนิดนึงนะ) ก็เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันอย่าเช่นการไปเรียนหรือทำงานในออฟฟิส (หากทำกิจกรรม Outdoor หรือเล้นกีฬาควรหาครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่านี้นิดนึง และเป็นแบบ water-Resistance ด้วย)
แน่นอนว่าผิวของทุกคนแตกต่างกัน การแพ้และการระคายเคืองเป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน ผมจึงไม่สามารถบอกหรือยืนยันได้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองชิ้นนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ 100% (เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกแบบนั้น) และเรื่องของการอุดตันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องของสภาพผิว การดูแลผิวโดยรวมที่ทุกคนก็แตกต่างกันไปอีกเช่นกัน จึงจำเป็นที่ต้องทดลองใช้ด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ทุกครั้งด้วยนะครับ
ก่อนจะจบการรีวิวก็ขอพูดปิดท้ายหน่อยว่า… ปัจจัยลบที่ทำร้ายผิว ทำร้ายเซลล์ และทำร้าย DNA ไม่ได้มาจากภายนอกอย่างเดียว แต่รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การสูบบุหรี่ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ความเครียด ก็ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระ และความไม่สมดุลของฮอร์โมน และน้ำในร่างกาย ส่งผลให้เซลล์อ่อนแอ และทำให้ผิวพรรณเสื่อมโทรมด้วยเช่นกัน หากต้องการมีสุขภาพผิวที่ดีก็ต้องดูแลผิวให้ครบวงจรทั้ง “ภายนอก” และ “ภายใน” ด้วยนะครับ