หลังจากที่ปล่อยให้ไวท์เทนนิ่งเซรั่มของแบรนด์น้องในเครือครองใจเรามาตลอด 7 ปี  แต่ตอนนี้ขอปันใจแล้วจ้า เพราะไวท์เทนนิ่งเซรั่มสูตรล่าสุดจาก Shiseido White Lucent นั่นแจ่มจริง   และในแง่ของเทคโนโลยีนั้นก็อัดแน่น และแนวคิดใหม่ของกลไกในการทำงานนั้นก็เหนือความคาดหมายของเราไปมากเลยล่ะ

สูตรใหม่นี้ใช้เทคโนโลยี SAKURA-Bright System ซึ่งประกอบไปด้วยสารไวท์เทนนิ่ง 4MSK เข้มข้นสูง กับ SAKURA-Bright Complex และ White Sand Lily ในเนื้อสัมผัสใหม่ที่ให้ความชุ่มชื้นมากขึ้น พร้อมกับ ReNeura Technology+ ที่กระตุ้นให้ผิวตอบรับกับการบำรุงได้ดียิ่งขึ้น

Product’s Formula

Shiseido : White Lucent Illuminating Micro-Spot Serum (30ml / 4,800 BAHT) สูตรใหม่นี้เคลมว่าทำงานได้ดีกว่าสูตรเก่าถึง 1.5 เท่าเลยทีเดียว* ซึ่งในแง่ส่วนประกอบนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่านี่เป็นเซรั่มที่ใช้สาร 4MSK หรือ Potassium Methoxysalicylate เข้มข้นที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยล่ะ สารไวท์เทนนิ่งตัวนี้พัฒนาขึ้นโดย Shiseido เอง โดยกลไกในการทำงานของ 4MSK นั้นมุ่งเป้าไปที่การขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส มีความปลอดภัยสูง ข้อมูลจากภายในระบุว่าส่วนผสมตัวนี้มีประสิทธิภาพตามความเข้มข้น ดังนั้นใส่มาเยอะก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากตามไปนั่นเอง

*ทดสอบทางคลีนิคในกลุ่มตัวอย่าง 30 คน โดย IEC Korea ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 – 17 มกราคม 2562

(Source : Quasi-Drugs Developed in Japan for the Prevention or Treatment of Hyperpigmentary Disorders, In Vitro Methods for Predicting Chemical Leukoderma Caused by Quasi-Drug Cosmetics)

เทคโนโลยีใหม่สุดในนี้มีที่มาจากการที่ทาง Shiseido ได้พัฒนาเทคนิคการแสดงภาพสามมิติของโครงข่ายเส้นเลือดฝอยใต้ผิว และแสดงให้เห็นว่าในจุดที่มีการสะสมตัวของจุดด่างดำ ฝ้า กระ จะมีการผิดปกติของโครงข่ายเส้นเลือดฝอย

ซึ่งเป็นผลมาจากรังสี UV ได้ไปกระตุ้นให้เซลล์ผิว หรือ Keratinocyte หลั่งสาร Vascular Endothelial Growth Factor (VEGF-A) ก่อให้เกิดความหนาแน่นของโครงข่ายเส้นเลือดใต้ผิวมากกว่าปกติ ซึ่งก็ไปหลั่งสารที่กระตุ้นการทำงานของ Melanocyte ที่ผลิตเมลานินอีกที ซึ่งเป็นการค้นพบที่ทำให้แนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งของเครือชิเซโดแตกต่างจากคู่แข่งไปเลย

เขาก็หาต่อว่าส่วนผสมใดที่เข้ามาจัดการกลไกตรงนี้ ซึ่งก็พบว่าส่วนผสมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Potentilla Erecta Root Extract ที่เขาเคยขอจดสิทธิบัตรมานานแล้วว่าเอามาช่วยลด VEGF-A ที่ถูกกระตุ้นจากรังสี UV  และใช้ Pyrola Incarnata Extract เพื่อไปลดการทำงานของสารที่ไปกระตุ้น Melanocyte อีกทีนึง  อันนี้เป็นข้อมูลการศึกษาที่ทาง Shiseido นำไปเผยแพร่ในการประชุมทางวิชาการ และยังหาข้อมูลจากแหล่งอื่นมาสนับสนุนหรือให้ความเห็นไปทางเดียวกันไม่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันล้ำและ Unique มากเลย

(Source : Shiseido Succeeds in 3D Visualization of Vascular Malformation in Pigmented Skin, Shiseido Discovers Involvement of Vascular Plexus Malformation in Hyperpigmentation, Vascular endothelial growth factor inhibitor)

ส่วนผสมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งตัวก็คือ Pancratium Maritimum Extract หรือ White Sand Lily ซึ่งน่าจะเป็นส่วนผสมที่มีชื่อทางการค้าว่า Neurolight.61 G ของบริษัท Codif ซึ่งเคลมถึงคุณสมบัติในการลดความยาวของ Dendrite หรือแขนของเซลล์เมลาโนไซต์จึงลดการส่งผ่านเมลานินไปยังเซลล์ผิวได้

สำหรับส่วนผสมอื่น ก็จะเป็นกลไกที่รู้จักและเคยผ่านตามาบ้างแล้ว อย่างเช่นการดูแลในเรื่องของโทนแดงและโทนเหลืองของผิว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ Crataegus Monogyna Flower Extract ในการลดโทนแดงของผิว และใช้ Prunus Yedoensis Leaf Extract หรือสารสกัดจากใบซากุระในการลด Carbonylation ที่ทำให้เกิดการคล้ำเหลืองของโปรตีนผิว แต่นอกเหนือจากเคลมของแบรนด์แล้วเรายังไม่พบข้อมูลอื่น ๆมายืนยันตรงนี้  Crataegus Monogyna มีข้อมูลว่าถูกใช้เกี่ยวกับหลอดเลือดแต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อนำมาทาแล้วให้ผลอย่างไรบ้าง ส่วนใบซากุระมีข้อมูลเล็กน้อยว่าอาจใช้เป็นไวท์เทนนิ่งได้

Artemisia Princeps Leaf Extract ที่ทางเครือชิเซโด้ได้จดสิทธิบัตรเอาไว้ว่าเสริมการแสดงออกของโปรตีน Ki-67 เพื่อช่วยเร่งการขจัดจุดด่างดำอันเกิดมาจากการที่บริเวณที่มีจุดด่างดำ เซลล์ Keratinocyte จะมีการแสดงออกของโปรตีน Ki-67 เยอะ และมีการแบ่งตัวช้าลง ทำให้จุดด่างดำจางช้าลงด้วยนั่นเอง

ส่วนผสมของสารบำรุงอื่น อย่าง วิตามินซีเสถียรในรูป 2-O-Ethyl Ascorbic Acid กับสารสกัดจากรากชะเอม Dipotassium Glycyrrhizate กับ Rehmannia Chinensis Root Extract มาเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและเสริมการเป็นไวท์เทนนิ่งได้

(Source : Melanin Uptake Reduces Cell Proliferation of Human Epidermal KeratinocytesSkin whitening method and screening method for factors for skin wrinkle formation suppression and/or removal, Studies of cuticle drugs from natural sources. II. Inhibitory effects of Prunus plants on melanin biosynthesis., Polyphenolic Composition of Crataegus monogyna Jacq.: From Chemistry to Medical Applications)

สำหรับ ReNeura Technology+™ เขาบอกว่ามันจะช่วยให้ผิวเราตอบสนองกับการบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ในที่นี้คือส่วนผสมของ Angelica Keiskei Leaf/Stem Extract กับ Ziziphus Jujuba Fruit Extract และโพลิเมอร์ อันนี้เราบอกตามตรงว่าเรายังไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่ เนื่องจากเคลมของมันเกี่ยวข้องกับ Neuroscience ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการสื่อสาร สื่อประสาท และเรายังหาข้อมูลที่อธิบายเรื่องนี้ให้เราเข้าใจแบบชัด ไม่ได้ล่ะ แต่โดยทั่วไปแล้วสารสกัดจากพืชพวกนี้ก็มีประโยน์ในแง่ของการต้านอนุมูลอิสระได้

โดยรวมแล้วสูตรใหม่มีการเพิ่มความเข้มข้นของสารไวท์เทนนิ่งมากขึ้น เพิ่มส่วนผสมใหม่ และมีการตัดส่วนผสมของสารสกัดบางตัวออก แต่โดยรวมถือว่ามันทำงานในกลไกที่ครบมากขึ้น

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Dipropylene Gycol, Potassium Methoxysalicylate, Dimethicone, Behenyl Alcohol, Triethylhexanoin, Diphenylsiloxy Phenyl Trimethicone, Talc, Batyl Alcohol, Diisostearyl Malate, Phenoxyethanol, PEG-6, PEG-32, Behenic Acid, PEG-60 Glyceryl Isostearate, PEG-10 Dimethicone, Sodium Metaphosphate, Disodium EDTA, PEG/PPG-17/4 Dimethyl Ether, Tocopheryl Acetate, Phytostearyl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Silica, Sodium Citrate, Alumina, Potassium Hydroxide, Succinoglycan, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Dipotassium Glycyrrhizate, 2-O-Ethyl Ascorbic Acid, Xanthan Gum, Titanium Dioxide (CI 77891), Alcohol, Fragrance (Parfum), Caffeine, Sodium Metabisulfite, Citric Acid, Linalool, Tocopherol, Citronellol, Geraniol, Angelica Keiskei Leaf/Stem Extract, Crataegus Monogyna Flower Extract, Limonene, Cellulose, Pancratium Maritimum Extract, Rehmannia Chinensis Root Extract, Artemisia Princeps Leaf Extract, Prunus Yedoensis Leaf Extract,  Ziziphus Jujuba Fruit Extract, Pyrola Incarnata Extract, Potentilla Erecta Root Extract.

Usage & Result

ในแง่ของ Sensory ของผลิตภัณฑ์ได้รับการเปลี่ยนแบบรื้อใหม่หมดทั้งเนื้อสัมผัสและกลิ่นหอม เนื้อสัมผัสเปลี่ยนจากเซรั่มบาง มาเป็นเซรั่มที่เข้มข้นขึ้น แต่ไม่เหนอะนะ ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นผิวดี และปริมาณ Alcohol ในสูตรก็น้อยลงจากสูตรก่อนมาก

กลิ่นหอมก็มีความหวานละมุนกว่าเดิม และเขายังเคลมว่ากลิ่นหอมนี้ยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ด้วย โดยใช้องค์ประกอบของกลิ่นที่มีอยู่ในดอกลีลาวดี หรือ Plumeria ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลพบว่าชิเซโดมีการยื่นจดสิทธิบัตรในการจดสารประกอบของน้ำหอมอย่าง Phenylethyl Cinnamate ในการเป็นไวท์เทนนิ่งเอาไว้

จากการทดลองใช้บอกได้คำเดียวว่าเราประทับใจเลยล่ะ เพราะมันช่วยให้ผิวของเรามีความกระจ่างใสมากขึ้น ความ Clarity คือเห็นชัดมาก ถ้าให้เทียบคือมันเหมือนกับเราส่องกระจกบานนึงจนชินจนไม่รู้ว่ามันมีความขุ่นมัวอยู่จนกระทั่งเราเอาผ้าเช็ด มันให้ผลของโทนผิวที่สวยถูกใจเรามาก เห็นผลดีกว่าเซรั่ม White Lucent สูตรก่อนหน้านี้แบบชัดเจน สำหรับผลในเรื่องของการลดจุดด่างดำและรอยสิวนั้น จุดด่างดำที่มีอยู่เดิมยังคงทรงตัว ไม่เข้มข้นไปกว่าเดิม อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ถึงจะดูผลได้ชัดขึ้น

เทคนิคในการใช้ที่เราอยากจะแนะนำ ก็คือให้ใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Tranexamic Acid เพราะว่ามันเสริมการทำงานของ 4MSK ได้ดี หรือจะลองใช้คู่กับ Shiseido : Ultimune Power Infusing Concentrate ก็ช่วยเสริมกันได้ ลองอ่านรายละเอียดในรีวิวที่เคยทำไว้เพิ่มเติมได้จ้า

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Shiseido : White Lucent Illuminating Micro-Spot Serum เป็นเซรั่มไวท์เทนนิ่งแรกในรอบ 7 ปีของแบรนด์ Shiseido ที่เราประทับใจมากจริง ๆ ทั้งนี้ส่วนตัวเราคิดว่าต้องขอบคุณการอัด 4MSK ในความเข้มข้นสูงสะใจ  เนื้อสัมผัสที่ชุ่มชื้น กลิ่นที่หอมถูกจริตมากขึ้น (แถมมีคุณสมบัติเสริมการเป็นไวท์เทนนิ่งไปอีก)

ในแง่ส่วนผสม เรามองว่าถ้ามี Tranexamic Acid ผสมมาด้วยมันจะยิ่งครบเครื่องมากขึ้น แต่ก็คิดว่าเขาคงจะแยกเอาไว้เพื่อให้ขายผลิตภัณฑ์อื่นมาใช้เสริมกันไปได้ หรือเผื่อเอาไว้ใส่เพิ่มเป็นสูตรอัพเกรดใหม่ในอนาคต ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเหตุผลเรื่องของการตลาดแหล่ะ

สำหรับเรื่อง Fragrance with benefit หรือน้ำหอมที่มีสารประกอบอะโรมาติกเพิ่มคุณสมบัติเป็นไวท์เทนนิ่งด้วยก็เป็นอีกมุมที่น่าสนใจทีเดียว แต่นอกเหนือจากสารประกอบที่ว่านั้น ในน้ำหอมก็ยังคงมี Fragrance Component อื่น ๆ ที่อาจเป็นปัญหากับในบางคนที่มีผิวไวต่อส่วนผสมเหล่านั้นอยู่ดี แต่จะให้ผลิตภัณฑ์ของชิเซโดไม่มีน้ำหอมก็คงจะผิดวิสัยของแบรนด์แหล่ะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Shiseido : White Lucent Illuminating Micro-Spot Serum
Price :  30ml / 4,800BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Skin Clarity / Brightening / Hydration

Shiseido : White Lucent Illuminating Micro-Spot Serum
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • 4MSK เข้มข้นที่สุดเท่าที่เครือชิเซโด้เคยมีมา และกลไกในการทำงานที่หลากหลาย
  • ให้ความกระจ่าง ความใส และโทนผิวที่สวย
  • แนวคิดของน้ำหอมที่ช่วยเป็นไวท์เทนนิ่งได้ด้วย น่าสนใจมาก
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
  • เทคโนโลยีส่วนผสมบางชนิดยังมีเพียงข้อมูลจากผู้ผลิตเท่านั้น
4.1Overall Score