เริ่มต้นในปี 2009 และสยายปีกสู่นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกสู่ประเทศไทยในปี 2013 แบรนด์ THREE ที่สร้างขึ้นด้วยคอนเซปต์ของการดูแลผิวแบบองค์รวมที่ ผิวพรรณ ร่างกาย และ จิตใจ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถดูแลแยกจากกันได้ ก่อกำเนิดเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยปรับสมดุลของทั้งสามสิ่งให้ทำงานสอดประสานกันเพื่อให้ได้ผิวพรรณที่สวยงาม และในปี 2018 นี้ THREE จะนำเสนอสกินแคร์ที่สะท้อนปรัชญาของแบรนด์ในทุกแง่มุม และนั่นถึงเป็นเหตุผลที่ปูเป้ได้เดินทางไปสู่ในที่ ๆ เป็นเหมือนจุดกำเนิดของแบรนด์
เมื่อช่วงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมาปูเป้ได้รับเชิญให้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อที่จะสัมผัสกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ตัวใหม่ก่อนใคร และยังได้เข้าไปซึมซับถึง DNA ของแบรนด์นี้อย่างเต็มที่ เป็นทริปที่น่าประทับใจอย่างมาก ประเทศญี่ปุ่นต้อนรับการมาถึงของเราด้วยท้องฟ้าที่สดใสที่สุดเท่าที่เราเคยไปประเทศนี้ เป็นครั้งแรกที่ปูเป้สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากชินจูกุใจกลางกรุงโตเกียว ถือเป็นการเริ่มทริปอย่างสดใสแม้จะหนาวจนสะท้านไปนิดก็เถอะ
การที่เราต้องเดินทางมาในช่วงเวลานี้ก็เพราะว่านี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการที่เราจะได้ไปยังแหล่งกำเนิดของส่วนผสมที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญของ THREE และเรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของแบรนด์เลยก็ว่าได้นั่นก็คือ น้ำมันเมล็ดชา ซึ่งทางผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Yasushi Ishibashi ได้มองเห็นความสำคัญของเมล็ดชาที่เคยถูกปล่อยทิ้งอย่างไร้ค่าให้กลายมาเป็นน้ำมันที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ลดการใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น
น้ำมันเมล็ดชานี้มาจากเมือง Makinohara จังหวัด Shizuoka เมืองชายทะเลที่ห่างจากโตเกียวไป 3 ชั่วโมง มีการปลูกต้นชามากที่สุดของประเทศและให้น้ำมันเมล็ดชาที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดอีกเช่นกัน โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคมก็เป็นช่วงที่เมล็ดชาพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวแล้วนั่นเอง และนี่เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่ปูเป้ได้เห็น ได้สัมผัส เมล็ดชาจริง ๆ และได้เก็บเอามาเป็นที่ระลึกด้วย เพราะสิ่งนี้ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป (เราจะเอามาเป็นพร็อบถ่ายรูปล่ะ)
การมาเยือนครั้งนี้เราได้รับการต้อนรับจากทางทีมของ JA HEINAN ซึ่งเป็นศูนย์ใหญ่ของจังหวัดนี้ และได้รับรู้ถึงความจริงจังของระบบสหกรณ์การเกษตรของประเทศญี่ปุ่น (JA) ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้เข้มแข็งขึ้น การสนับสนุนทางด้านการเงิน เงินกู้ การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริม การพัฒนา การวิจัย และอีกมากมาย เราได้รับฟังเรื่องราวของความพยามในการสนับสนุนและผลักดัน ‘ชา’ ในฐานะเครื่องดื่มจากโลกยุคเก่าเพื่อให้คงอยู่อย่างยั่งยืนในโลกยุคอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงกระบวนการปลูกโดยใช้การคลุมตาข่ายกรองแสงเพื่อให้ใบชามีความเขียวมากขึ้น มีรสอูมามิที่เข้มข้น สามารถชงได้ในน้ำเย็นได้ ให้น้ำชาสีเขียวสวยและสดใส ดื่มง่ายโดยใจคนรุ่นใหม่ และมีการตั้งมาตรฐานของชาที่เขาพัฒนากระบวนการปลูกขึ้นมาว่า NOZOMI ซึ่งแปลว่าความหวัง โดยจะวัดจากปริมาณของไนโตรเจนและกรดอะมิโนต่าง ๆ ของชา เป็นการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างความแตกต่าง
ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารของตัวเองและอาชีพเกษตรกรในอนาคตอย่างมาก ทาง JA HAINAN พยายามสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่อยากมาทำเกษตรกรรมกันมากขึ้น อย่างในเมืองมากิโนฮาระนี้ก็มีการจัดการแข่งขัน Tea Hero ที่เป็นการค้นหาเด็กรุ่นใหม่ที่มีความหลงไหลและความสนใจในเรื่องของชา (และเขาเล่าอย่างภาคภูมิใจว่าหนึ่งในนักเรียนที่ชนะการแข่งขันเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานของเขาแล้ว) ทาง JA HAINAN ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่อีกด้วย อยากชมไร่ชา ทัศนศึกษากระบวนการผลิตใบชา ขอให้บอกมาเขายินดีจัดให้!!!
อีกอย่างหนึ่งที่เราเห็นว่าเป็นอะไรที่แสนจะญี่ปุ่นมาก ๆ นั่นคือการทำวงไอดอลชาเขียวขึ้นมาที่มีชื่อว่า NEed โดยสาว ๆ ไอดอลชาเขียวจะเรียกว่า Nozomi Girl ที่จะคอยไปทำกิจกรรม เต้น ร้องเพลง ตามงานต่าง ๆ เพื่อช่วยโปรโมทเรื่องชาเขียว NOZOMI ของจังหวัดนี่ จะเห็นได้ว่าขอบข่ายงานของ JA นั้นเรียกได้ว่าทำกันอย่างครบวงจร ทำกันอย่างจริงจัง และตั้งใจให้ไปไกลกว่าแค่ในประเทศแต่หวังจะให้ไปยังตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังเลยก็ว่าได้
กลับมาที่ใจกลางกรุงโตเกียวในย่านสุดฮิปอย่าง Omotesando ก็เป็นที่ตั้งของ THREE Aoyama ซึ่งเป็นแฟลกชิปสโตร์ของแบรนด์ นี่เป็นสถานที่เราจะซึมซับตัวตนของแบรนด์ได้มากที่สุดผ่านทุกรายละเอียดที่นำเสนอ ในตึกประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือส่วนของร้านค้า ร้านอาหาร และสปา
โซนร้านค้าของ THREE Aoyama ไม่ได้มีเพียงผลิตภัณฑ์ของ THREE ที่เราพบในเคาน์เตอร์เท่านั้น แต่ยังมีสินค้าที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ร้านแห่งนี้เท่านั้น เช่นเมคอัพมีสีสันพิเศษเฉพาะสาขานี้ กล่องเก็บอุปกรณ์ สินค้าจากดีไซเนอร์ที่มีคอนเซปต์ร่วมกัน ในส่วนของร้านยังมีตารางของ Workshop ที่นกจากจะมีโปรแกรมสอนการดูแลผิว สอนแต่งหน้า จัดดอกไม้แล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษที่เปลี่ยนไปในแต่ละเดือนอีกด้วย ช่างน่าอิจฉาคนที่อยู่ที่นี่จริง ๆ การตกแต่งใช้วัสดุจากธรรมชาติและให้โทนที่อบอุ่นและสงบ เคาน์เตอร์กลางของร้านทำจากแม้แท้ที่ตัดเป็นก้อนเพื่อวางเป็นโตีะก่อนแปะด้วยท็อปกระจก สวยมาก ๆ
โซนร้านอาหาร REVIVE KITCHEN นำเสนอเมนูอาหารเพื่อสุขภาพด้วยวัตถุดิบที่ดีที่สุดทั้งจากในและต่างประเทศ วัตถุดิบตามฤดูกาลถูกนำมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารที่หน้าตาดีและอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เมนูในร้านจะเป็นวัตถุดิบแบบออร์แกนิค ผ่านกระบวนการน้อย และถ้าเป็นพวกอาหารที่เป็นแป้งอย่างขนมปังหรือเส้นพาสต้า ก็จะเป็นแบบปราศจากกลูเต็น เราพึ่งเคยกินขนมปังแบบไม่มีกลูเต็นเป็นครั้งแรกและพบว่าเนื้อมันแน่นและทำให้อิ่มกว่าขนมปังจากแป้งสาลีปกติล่ะ
โซนที่เรารักที่สุดอย่าง RHYTHM SPA เหมือนกับการนำเราออกจากโลกอันวุ่นวาย และแม้ว่าสปาที่นี่จะไม่ได้ใหญ่โตอลังการ แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบ พื้นไม้สีอ่อน ผนังสีขาวนวลเรียบแมท และไฟสีโทนสบายตา ความอบอุ่นจากอุณหภูมิของฝ่ามือ น้ำหนักที่กด ท่วงท่าที่เหมือนกับมีการร่ายรำอยู่บนใบหน้าและร่างกาย เพลงเสียงธรรมชาติ กลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ทุกอย่างเหมือนสวิตช์ที่รีเซ็ทจังหวะชีวิตอันยุ่งเหยิงจากภาระหน้าที่ทุกอย่างที่เราแบกให้หยุดนิ่งและเริ่มเดินใหม่อีกครั้งอย่างที่ควรจะเป็น
เราบอกได้แค่ว่าถ้าคุณพูดภาษาญี่ปุ่นได้และมีการวางแผนมาล่วงหน้า ขอให้โทรมาจองเวลาและลองมานวดหน้าหรือนวดตัวที่นี่ดูสักครั้ง มันดีมากถึงมากที่สุดทั้งความสบาย ความผ่อนคลาย และผลที่ได้ ก่อนที่จะเข้าห้องนวดเรายังดูเหนื่อย ๆ อยู่เลย แต่พอออกจากห้องนวดมาดูเหมือนเป็นคนละคน ผิวดูสดใส ดูตื่น แก้มมีสีระเรือดูมีเลือดฝาด ไหล่ คอ แผ่นหลังที่รู้สึกตึงกลับเบาสบาย อยากจะกราบเธอราพิสงาม ๆ ในความเทพของพวกนางสักรอบ เราทราบมาว่าเธอราพิสที่นี่ทุกคนจะต้องจบมาด้านสุขภาพโดยตรง และสปาที่จะเปิดในเมืองไทยก็มีมาตรฐานเดียวกัน เราตื่นเต้นมากเลยล่ะ
จะเห็นได้ว่า THREE Aoyama นำเสนอพื้นที่ 3 ส่วน ที่สะท้อนปรัชญาของแบรนด์ในการดูแลทั้ง ร่างกาย จิตใจ และ ผิวพรรณ ไปพ้อมกัน ผ่านผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาหาร และ สปา ที่อัดแน่นไปด้วยแนวคิดในการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ วัตถุดิบจากในพื้นที่ วัตถุดิบที่ปลอดสารพิษ
และในที่สุดก็ถึงเวลสำคัญกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์ใหม่ของ THREE มีชื่อว่า THREE นั่นแหล่ะ เขาตั้งใจว่านี่คือตัวตนของแบรนด์ สิ่งพื้นฐานที่จะนำพาพวกเราเข้าสู่โลกของ THREE ที่โอบกอดเราทั้งผิวพรรณ์ ร่างกาย และจิตใจ เพื่อนการดูแลแบบองค์รวม (Holistic)
หลายคนอาจจะร้อง เอ๊ะ!?! ก็แบรนด์เขาเข้ามีกลุ่มดูแลผิวพื้นฐานอย่างกลุ่ม Balancing อยู่แล้วไม่ใช่รึ? หรือว่าไลน์ THREE จะมาแทนที่?
แรกเริ่มเดิมทีเขาก็ตั้งใจแบบนั้นแหล่ะ คือกลุ่ม Balancing เป็นสกินแคร์ที่บุกเบิกมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งแบรนด์โดยรังสรรค์ขึ้นมาภายใต้แนวคิดของการปรับสมดุลของ ผิว ร่างกาย และจิตใจ ด้วยความที่ว่าในตอนนั้นเรื่องของการใช้ชีวิตอันรีบเร่ง การทำงาน ความเครียด เป็นปัญหาใหญ่ของของคนเราและทำให้เกิดการเสียสมดุลไป การใช้น้ำมันหอมระเหยและส่วนผสมจากพืชต่าง ๆ มาช่วยปรับสมดุลให้เกิดภาวะธำรงดุลย์ของร่างกายขึ้นอีกครั้งเป็นความตั้งใจของสกินแคร์ชุด Balancing
แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ปัญหาที่ก่อความไม่สมดุลจากภายนอกมีมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของมลภาวะทางอากาศ ก๊าซพิษ และอานุภาค PM2.5 ที่ทำให้ผิวอ่อนแอ และเกิดปัยหาระคายเคือง อักเสบได้ง่าย เขาจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม THREE ขึ้นมาเพื่อที่เสริมพลังในการต่อต้านผลกระทบจากมลภาวะ เสริมความแข็งแรงของผิว ควบคู่ไปกับการใช้ส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลให้เกิดเพื่อให้ผิวสวยสุขภาพดีนั่นเอง
สรุปง่าย ๆ ก็คือ สกินแคร์ในกลุ่ม Balancing ที่มีอยู่เดิม เน้นในเรื่องของการสร้าง Inner Balance คืนสมดุลให้ร่างกายจากภายในสู่ผิวพรรณที่สวยสดใสภายนอก ส่วนไลน์ THREE ที่ออกใหม่จะมีการเพิ่มในเรื่องของการ Strengthen หรือเสริมเพิ่มความแข็งแรงของผิวชั้นนอก เพื่อให้ผิวสามารถรับสิ่งที่จะเข้ามากระทบจากภายนอก อย่างเช่นมลภาวะได้มากขึ้น จนผิวสามารถคงสมดุลอยู่ได้
อ้อ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Balancing จะยังคงมีจำหน่ยอยู่ เนื่องจากเขาได้รับความนิยมมาก ในอนาคตจะเป็นอย่างไรนี่ต้องมาตามดูกันอีกที
ความเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ในแง่ของส่วนผสมนั้นคือด้วยเทคโนโลยีที่ดีขึ้นทำให้มีตัวเลือกในการใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติที่สูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอยู่ที่ 96-99% เลยทีเดียว ถือว่าทำมาได้สูงกว่ากลุ่ม Balancing เดิม และชนิดของน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ก็จะเปลี่ยนไป ทำให้โทนกลิ่นของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม THREE จะมีโทนออกแนว Spice / Herbal มากขึ้น โดยยังคงกลิ่นฐานที่คุ้นเคยอย่าง Frankincense ซึ่งนอกจากจะหอมแล้วยังมีสารประกอบของ Boswellic Acids ที่มีคุณสมบัติที่ดีมากในการต้านการอักเสบ และยังมีการศึกษาที่พบว่าสารสกัด Boswellic Acids 0.5% สามารถฟื้นฟูผิวเสียหายและมีริ้วรอยจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ Laurus Nobilis Oil หรือ Laurel Leaf Oil ซึ่งมีมีกลิ่นหอมหวานแซมเผ็ดซ่าแบบใบกระวาน นอกจากกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และต้านแบคทีเรียได้
ถ้าให้เราบอกจากความรู้สึก เรารู้สึกว่าโทนกลิ่นของ Balancing จะมีความสดใส และ Up-Lifting มากกว่า แต่โทนกลิ่นของไลน์ THREE จะรู้สึกลุ่มลึก มีความโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบ
(Source : Anti-inflammatory activities of the triterpene acids from the resin of Boswellia carteri., Boswellia resin: from religious ceremonies to medical uses; a review of in-vitro, in-vivo and clinical trials., Topical Boswellic acids for treatment of photoaged skin., Effect of Laurus nobilis L. Essential Oil and its Main Components on α-glucosidase and Reactive Oxygen Species Scavenging Activity)
แพคเกจจิ้งของไลน์ THREE คือความงามแบบมินิมอลอย่างแท้จริง ราวกับงานศิลปะบนโต๊เครื่องแป้ง การออกแบบโดย Tokujin Yoshioka ศิลปินและนักออกแบบชื่อดังระดับโลกชาวญี่ปุ่นที่ฝากผลงานไว้กับแบรนด์ดังมากมาย ความพอดี ไม่มากเกินและไม่น้อยไป ความลงตัวของขนาดตัวอักษร ผิวสัมผัส มันสวยจนแบบไม่ต้องการสิ่งใดมาเติมแต่งเลย เราแค่วางมันลงบนกระดาษสีเทา เล่นกับแสงธรรมชาติ และใช้เมล็ดชาที่เก็บมาจากญี่ปุ่นวางลงไปเพื่อสร้างเงาและเล่าเรื่องราวของส่วนประกอบอันเป็นที่มาของแบรนด์ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม THREE เป็นสกินแคร์ขั้นพื้นฐาน 5 ชนิดดังนี้
THREE : Cleansing Oil (185ml / 1,900 Baht) เนื้อออยล์มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น กลิ่นหอมที่แตกต่างจากออยล์สูตรเดิมที่เราหลงรัก มีความเป็น Herbal มากขึ้น แต่ยังให้สัมผัสที่ดี และล้างออกโดยคงเเหลือน้ำมันเอาไว้บนผิวบางส่วนเพื่อที่จะให้การล้างตามด้วยโฟมได้อย่างพอดิบพอดี ทางแบรนด์เคลมว่าออยล์สูตรใหม่นี้นอกจากจะทรงประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการชะล้างอานุภาค PM 2.5 ออกจากผิวได้ ดังนั้นแม้จะไม่ได้แต่งหน้าแต่ถ้าอยู่ในเขตที่มีมลพิษทาอากาศสูงก็ใช้สิ่งนี้ได้ล่ะ
Ingredients : Caprylic/Capric Triglyceride, Propanediol Dicaprylate/Caprate, Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil, Squalane, Polyglyceryl-2 Caprate, Polyglyceryl-2 Sesquioleate, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Isotridecyl Isononanoate, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Citrus Aurantium Dulcis (Orange) Peel Oil, Laurus Nobilis Oil, Crambe Abyssinica Seed Oil, Pouteria Sapota Seed Butter, Lavendula Angustifolia (Lavender) Oil, Camellia Sinensis Seed Oil, Rosa Canina Fruit Oil, Boswellia Carterii Oil, Tocopherol, Gaultheria Procumbens (Wintergreen) Leaf Oil, Rhododendron Ferrugineum Extract, Oryza Sativa (Rice) Barn Oil.
(98% Natural)
THREE : Cleansing Foam (100g / 1,600 Baht) นอกจากเบสของสารทำความสะอาดที่ได้มาจากการทำปฏิกิริยาของกรดไขมันกับ Potassium Hydroxide แล้วนั้น โฟมตัวนี้มีการใส่ Sapindus Trifoliatus Fruit Extract ซึ่งน่าจะเป็นสารที่มีชื่อว่า Sapindin® จากบริษัท Sabinsa โดยเป็นการสกัดเอาสารซาโปนินเพื่อเป็นสารทำความสะอาดอ่อน ๆ ทางผู้ผลิตสารยังเคลมถึงคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบด้วย ยังมีการเพิ่ม Lauramidopropyl Betaine เพื่อปรับให้ฟองโฟมที่เบาหยุ่นกว่ารุ่นเดิม และคงความชุ่มชื้นหลังล้างได้มากกว่า กลิ่นโฟมจะมีความ Herbal / Spice ชัดกว่าออยล์ เนื้อโฟมบีบง่ายและกระจายตัวเข้ากับน้ำได้ง่ายดีด้วย
Ingredients : Water, Glycerin, Stearic Acid, Myristic Acid, Potassium Hydroxide, Lauric Acid, Lauramidopropyl Betaine, Propanediol, Polyglyceryl-10 Laurate, Betaine, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Lavendula Angustifolia (Lavender) Water, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Coral Powder, Laurus Nobilis Oil, Sapindus Trifoliatus Fruit Extract, Lavendula Angustifolia (Lavender) Oil, Citrus Limon (Lemon) Fruit Water, Crambe Abyssinica Seed Oil, Boswellia Carterii Oil, Phenoxyethanol, Camellia Sinensis Seed Oil, Cellulose Gum, Malaleuca Alternifolia (Tea Tree) Leaf Oil, Citrus Urantium Amara (Bitter Orange) Leaf/Twig Oil, Pentasodium Pentetate, Polyquaternium-7, Yeast Extract, Tephrosia Purpurea Seed Extract, Rhododendron Ferrugineum Extract, 1,2-Hexanediol, Caprylyl Glycol,
(96% Natural)
THREE : Treatment Lotion (125ml / 2,600 Baht) ทรีตเมนต์โลชั่นนี้ใช้ส่วนผสมของน้ำแร่จากภูเขาไฟ Sakurajima แห่งเมือง Kagoshima ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าช่วยปลอบประโลมผิวและทำให้สารบำรุงซึมซาบได้ดีขึ้นเรื่องจากน้ำแร่ที่นี่มีคุณสมบัติที่ช่วยรวมน้ำกับนำ้มันให้เข้ากันได้ ในเอสเซนส์น้ำมีมีส่วนผสมของมะเขือม่วงญี่ปุ่นจากโอซาก้าที่อุดมไปด้วย Anthocyanin ที่เคลมว่าช่วยกระชับผิวให้ยืดหยุ่น และสารสกัดแตงโมจากจังหวัดยามากาตะเคลมว่าช่วยรักษาความชุมชื้นของผิว เอสเซนส์น้ำไม่เหนียวเหนอะหนะและให้ความชุ่มชื้นกำลังดี
Ingredients : Water, Lavendula Angustifolia (Lavender) Water, Propanediol, Glycerin, Rosa Alba Flower Water, Alcohol, Pentylene Glycol, Butylene Glycol, PPG-6-Decyltetradeceth-30, Bis-Ethoxydiglycol, Cyclohexane, 1,4-Dicarboxylate, Diglycerin, Phenoxyethanol, Laurus Nobilis Oil, Sodium Citrate, Boswellia Carterii Oil, Xanthan Gum, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Oil, Citrix Acid, Pentasodium Pentetate, Yeast Extract, Opuntia Ficus-Indica Stem Extract, Solanum Melongena (Eggplant) Fruit Extract, Rhododendron Ferrugineum Extract, Tephrosia Purpurea Seed Extract, Origanum Majorana Leaf Oil, Citrullus Lanatus (Watermelon) Fruit Extract, 1,2-Hexanediol, Caprylyl Glycol, Tocopherol.
(97% Natural)
THREE : Treatment Emulsion (90ml / 2,900 Baht) อีมัลชั่นนี้มี Squalane และน้ำมันจากพืชอย่าง Meadowfoam และ Argan ซึ่งเป็นน้ำมันบำรุงผิวอย่างดีผสมอยู่ ทางแบรนด์ว่ามีการใช้น้ำสกัดจากผลส้ม Kobosu จากจังหวัดโออิตะ ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดอินทรีย์ตามธรรมชาติเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้ผิวกระจ่างใส และมีสารสกัดจากตะบองเพชร Opuntia Ficus-Indica Stem Extract ซึ่งน่าจะเป็นส่วนผสมที่มีชื่อว่า AquaCacteen โดยบริษัท Mibelle Biochemistry ที่เคลมว่อุดมไปด้วยโมเลกุลโอบอุ้มความชุ่มชื้นและช่วยลดการระคายเคือง
Ingredients : Water, Squalane, Glycerin, Propanediol, Lavendula Angustifolia (Lavender) Water, Rosa Alba Flower Water, Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil, Pentylene Glycol, Citrus Sphaerpcapra Fruit Juice, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Polyglyceryl-2 Stearate, Glyceryl Stearate, Argania Spinosa Kernel Oil, Stearyl Alcohol, Laurus Nobilis Oil, Citrus Auratium Bergamia (Bergamot) Fruit Oil, Phenoxyethanol, Carbomer, Crambe Abyssinica Seed Oil, Citrullus Lanatus (Watermelon) Seed Oil, Boswellia Carterii Oil, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Ethylhexylglycerin, Xanthan Gum, Potassium Hydroxide, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Oil, Tocopherol, Camellia Sinensis Seed Oil, Yeast Extract, Tephrosia Purpurea Seed Extract, Opuntia Ficus-Indica Stem Extract, Pentasodium Pentetate, Rhododendron Ferrugineum Extract, 1,2-Hexanediol, Caprylyl Glycol.
(99% Natural)
THREE : Treatment Cream (26g / 3,700 Baht) มีส่วนผสมส่วนใหญ่คล้ายกับอิมัลชั่น เพียงแต่ครีมตัวนี้มีปริมาณและชนิดของน้ำมันบำรุงผิวที่หลากหลายกว่า และเป็นตัวเดียวที่ทางแบรนด์เคลมว่าเมื่อใช้แล้วจะเป็นเหมือนฟิลม์ที่ปกป้องผิวจาก PM 2.5 ไม่ให้เกาะเข้าไปทำร้ายผิวได้โดยตรง และมีส่วนผสมที่ไม่มีในผลิตภัณฑ์อื่นเลยอย่าง Rosa Rugosa Fruit Extract ซึ่งเป็นสารสกัดจากผลกุหลายญี่ปุ่นที่ปลูกบนเกาะฮอกไกโด อุดมไปด้วยสารกลุ่มโฟลีฟีนอลที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มความกระชับยืดหยุ่นให้กับผิว
Ingredients : Water, Squalane, Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil, Glycerin, Lavendula Angustifolia (Lavender) Water, Propanediol, Polyglyceryl-2 Stearate, Rosa Alba Flower Water, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Glyceryl Stearate, Stearyl Alcohol, Citrullus Lanatus (Watermelon) Seed Oil, Beeswax, Pentylene Glycol, Crambe Abyssinica Seed Oil, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Argania Spinosa Kernel Oil, Laurus Nobilis Oil, Phenoxyethanol, Carbomer, Camellia Sinensis Seed Oil, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Oil, Boswellia Carterii Oil, Pelargonium Graveolens Oil, Ethylhexylglycerin, Xanthan Gum, Tocopherol, Potassium Hydroxide, Yeast Extract, Tephrosia Purpurea Seed Extract, Opuntia Ficus-Indica Stem Extract, Rosa Rugosa Fruit Extract, Pentasodium Pentetate, Rhododendron Ferrugineum Extract, 1,2-Hexanediol, Caprylyl Glycol.
(99% Natural)
แลดูแล้วคอนเซปต์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม THREE ดูตอบโจทย์ของเราในช่วงเวลานี้อย่างพอดิบพอดี เพราะในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้นั้นมีการตื่นตัวปัญหาเรื่องมลภาวะ PM 2.5 กันมากขึ้น เพราะปัญหาเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบกับสุขภาพกายและสุขภาพผิวของเราอย่างชัดเจน ดังนั้นออกจากบ้าน เลือกที่จะสวมหน้ากากที่กัน PM2.5 ได้แล้ว ก็คงจะดีที่จะปกป้องผิวเราจากสิ่งเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับใครที่สนใจ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม THREE จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 นี้ที่เคาน์เตอร์ THREE ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเติมได้ทาง Facebook : THREE Thailand
***Sponsored Item***
THREE : Cleansing Oil
Price : 185ml / 1,900 Baht
Skin Type : All Skin Type
THREE : Cleansing Foam
Price : 100g / 1,600 Baht
Skin Type : All Skin Type
THREE : Treatment Lotion
Price : 125ml / 2,600 Baht
Skin Type : All Skin Type
THREE : Treatment Emulsion
Price : 90ml / 2,900 Baht
Skin Type : Normal / Combination
THREE : Treatment Cream
Price : 26g / 3,700 Baht
Skin Type : Dry / Normal