เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมา ปูเป้ได้ร่วมเดินทางไปกับ We Choose Prius “The Eco-Exclusive Trip” กรุงเทพฯ – เกาะช้าง โดยทริปนี้เรานัดกันที่ Toyota TBN แถวลาดกระบังตั้งแต่เช้าตรู่
ภาพรวม ๆ ของทริปนี้ก็จะเป็นการใช้ Toyota Prius ซึ่งเป็นรถ Hybrid สุดไฮเทคเป็นพาหนะในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาะช้างเพื่อพักที่รีสอร์ทสุดหรูหนึ่งคืน ขอออกตัวไว้ก่อนว่าปูเป้ไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องรถยนต์อะไร (ยังแปลกใจเลยที่เขาชวนไป) ดังนั้นเรื่องราวที่จะมาเล่าจะอิงจากความรู้สึกของปูเป้ที่มีต่อทริปนี้ รวมถึงรถยนต์ Toyota PRIUS ด้วย
พอมาถึงสถานที่นัดหมายเราก็ทำการลงทะเบียนเพื่อรับรถที่จะพาเราไปสู่จุดหมายเกาะช้าง คราวนี้ได้ New Prius 2012 รุ่น Standard หมายเลข 7 สีฟ้า True Blue Mica Metallic คันนี้มาล่ะ โดยการออกแบบรูปทรงของรถจะเน้นหลัก Aerodynamic เพื่อลดการเสียดทานของอากาศ ช่วยประหยัดพลังงาน วัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารส่วนใหญ่ก็สามารถนำมารีไซเคิลได้ด้วย
ยังไม่ทันได้เข้าไปข้างในรถก็เจอความไฮเทคอย่างแรกแล้ว ก็คือกุญแจอัจฉริยะ ที่เพียงพกไว้ที่ตัวของเรา พอเข้าใกล้ระยะจับสัญญาณและสัมผัสที่จับประตู ระบบก็จะปลดล็อคให้เองโดยอัตโนมัติ
แต่ใจจริงอยากได้สีแดงคันนี้มากกว่า สีสวยถูกใจ แถมตัวนี้เป็นรุ่น Top Option ด้วย มีทั้ง DVD หน้าจอสัมผัสพร้อม Navigator มีพอร์ท AUX/USB ไว้เชื่อมต่อหรือชาร์จกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ และที่สำคัญ มี Solar Roof ที่ใช้ในระบบระบายอากาศด้วยพลังแสงอาทิตย์ มีระบบปรับอากาศเปิด-ปิดด้วยกุญแจรีโมท และอีกสารพัด (คันที่เราได้ไปไม่มีเลย อิจฉา…)
การเดินทางในทริปนี้เราไม่ได้ตามกันไปเป็นขบวน แต่ต่างคนต่างขับไปกันจนถึงจุดนัดพบเอง โดยเขามีแผนที่คร่าว ๆ แจกเอาไว้ให้แบบนี้…
เนื่องจากรถที่เราได้ไป ไม่ใช่รุ่น Top Option ที่มีระบบ Navigator ในตัว ก็ต้องบอกตามตรงว่า ช่วงแรกมีหลงทาง เลี้ยวผิดกันกระจายเลยล่ะ
จนสุดท้ายต้องใช้ตัวช่วย โดยการใช้ Apps Smart-G Book ของ Toyota เป็นตัวช่วยนำทาง ที่เพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีก ก็คือเราสามารถโทรหา Call Center และบอกสถานที่ที่เราต้องการจะไป ทางศูนย์ข้อมูลจะทำการส่งข้อมูลจุดหมายปลายทางมายังมือถือของเราโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องมานั่ง Search เองเลยล่ะ
แอบแวะพักเติมความสดชื่นระหว่างทางเล็กน้อย 😀 เนื่องจากเราไม่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมขับรถประหยัดน้ำมันกับผู้ร่วมเดินทางในกลุ่ม บวกกับการหลงทางในช่วงแรกทำให้เรากังวลว่าจะไปถึงที่หมายไม่ตรงเวลานัดหมาย ก็เลยเหยียบคันเร่งกันสุด ๆ เลยจ้า
โหมดในการขับขี่ของ Toyota Prius มี อยู่ 3 แบบ
– PWR Mode ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ การเร่งเครื่องจะตอบสนองได้มากที่สุด แน่นอนว่า.=hน้ำมันมากสุดใน 3 Mode
– ECO Mode ระบบจะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าและกำลังจากเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงความประหยัดเป็นหัวใจสำคัญ
– EV Mode ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เหมาะกับการเดินทางในเมืองที่รถติด หรือใช้ความเร็วไม่มาก
เราใช้ ECO Mode แต่ก็เหยียบกันเกือบ 170 มาได้ จุดนี้ลบความเชื่อแบบผิด ๆ ของเราที่เคยคิดว่ารถ Hybrid นั้นเป็นรถเต่า ๆ ไปเลยนะเนี่ย…
หลังจากผ่านมา 250 กม.แรก เราก็มาถึงจุดพักรับประทานอาหารที่ร้านคุณแดง ที่นี่ดูเปียก ๆ แปลว่าฝนพึ่งหยุดตกก่อนหน้าที่เราจะมาถึงได้ไม่นานเอง เจอดอกไม้สวย ๆ ก็gลยถ่ายรูปเก็บไว้
หลังจากอิ่มแล้วก็เดินทางต่อไป วันนี้มีเมฆครึ้มตลอดเลย หวังว่าเราจะไม่เจอฝนที่เกาะช้าง เพราะเขาบอกว่าบนเกาะช้างเป็นทางชันและคดเคี้ยวเพราะต้องไต่ตามหน้าผาไป ถ้าฝนตกจะขับรถลำบากหน่อย
มาถึงจุดแวะเติมน้ำมันเพื่อเช็คว่าเราใช้น้ำมันไปกี่ลิตรแล้วโดยดูจากหัวจ่าย เพื่อวัดอัตราการสิ้นเปลือง และเก็บคะแนนสำหรับผู้ที่ร่วมกิจกรรม ระยะทางทั้งหมดที่เราขับมาคือ 290 กม. เราใช้น้ำมันไป 17.56 ลิตร เฉลี่ยได้ 16.5 กม. ต่อลิตร ซึ่งถือว่าโอเคเลยนะ สำหรับการเหยียบ 140 – 170 มาตลอดทาง (จริง ๆ เขากำหนดให้เราเติมแก๊ซโซฮอล แต่พนักงานดันเติมเบนซินให้และทำหน้ามึน ๆ อีก น่าอัดมาก…)
เดินทางมาต่ออีก 40 กม เราก็มาถึงท่าเรือเฟอรี่ไปยังเกาะช้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ปูเป้จะได้ขึ้นเรือเฟอรี่แบบเอารถเข้าไปด้วย ตื่นเต้น 😀
ระหว่างรอให้มากันครบ ก็มาเดินยืดเส้นยืดสายกันซะหน่อย ยังคงติดใจคันแดงเหมือนเดิม…
พอมากันครบก้ได้เวลาขับรถเข้าไปจอดในเรือ พอเห็นรถ Prius จอดเรียงกันเต็มลำรือก็ดูอลังดีเหมือนกันนะ
สวัสดีเกาะช้าง!!! ฝนพึ่งหยุดตกไปได้สักพัก ถนนยังไม่แห้งเลยล่ะ อย่างที่มีคนบอกไว้เลย ถนนบนเกาะช้าง ทางไปรีสอร์ทชันมาก เลี้ยวลด คดเคี้ยว ไปตามหน้าผา ไหล่เขา ซึ่งสามารถใช้เกียร์ B ในการขับขึ้นไปได้อย่างไม่ยากเย็น ส่วนเราก็นั่งลุ้น ปล่อยให้เพื่อนที่ขับรถแข็งแล้วขับไปแหล่ะดีแล้ว 😀
มาถึง AANA Resort แล้ว เราได้ห้องเป็น Villa ที่ทางเดินไปยังห้องต่างๆ ก็สวยงามเป็นธรรมชาติแบบนี้แหล่ะ
ห้องสวยน่ารักทีเดียว แอร์ไม่ค่อยเย็น แต่ไม่เป้นไร เพราะอากาศที่นี่ดีมาก ไม่ร้อนอยู่แล้ว (แถมฝนตกพร่ำ ๆ ตลอด…)
กรี๊ดดดดด มีอ่างอาบน้ำอยู่ริมระเบียงห้องด้วย เลิศที่ซู๊ดดด!!! ช่วงค่ำก็มีปาร์ตี้เล็ก ๆ สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยจะมีการแจกรางวัลให้กับผู้ที่ชนะเลิศในการขับรถสุดประหยัดในทริปนี้ โดยผู้ที่ประหยัดสูงสุดมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน คือ 27.06 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 1 ลิตร ซึ่งประหยัดสุดๆ เลยล่ะ
VIDEO ก่อนจะปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก STAMP แอบอัดคลิปมาให้ชมกันด้วย เฮียน่ารักม๊ากกกก ฟังไปขำไป
หลังจากนอนหลับสบาย ๆ ก็ตื่นมาพร้อมกับฝนที่ตกกระหน่ำตลอดช่วงเช้า จน 11 โมงก็ยังตกอยู่ พวกเราจึงต้องขับฝ่าสายฝนกระหน่ำไปยังจุดมุ่งหมายต่อไป เป็นอะไรที่แอบน่ากลัวนะ เพราะว่าถนนบางจุดคือน้ำท่วม บางจุดน้ำจากบนเขาก็หลากลงมาเหมือนน้ำตกเลย เรียกได้ว่าทริปนี้ได้ทดสอบประสิทธิภาพของรถ Toyota Prius กันอย่างเต็มที่ทีเดียวล่ะ (แน่นอนว่าเราก็นั่งลุ้นให้เพื่อนขับไปอีกเช่นกัน)
เราขับรถอ้อมเกาะช้างมาอีก 40 กม เพื่อมายังร้านอาหาร สลักเพชร เพื่อทำการมอบแผงโซล่าเซลล์ ให้กับโรงเรียนบ้านสลักเพชร ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายของโรงเรียน โดยมีผู้บริหารจาก Toyota และ คุณสแตมป์ คุณโบ เบญจวรรณ และคุณน๊อต วรฤิทธิ์ เป็นผู้มอบ
อาหารมื้อสุดท้ายของทริปนี้อร่อยมาก ใครแวะมาเกาะช้างควรแวะมาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมนูปลาหมึกแดดเดียว หอยเชลล์อบเครื่องเทศ ที่เลิศมาก 😀
หลังจากนั้นพวกเราก็กลับมายังท่าเรือ เพื่อเอารถขึ้นเฟอรี่กลับมายังแผ่นดินใหญ ก่อนจะแยกย้อนกันเดินทางกลับอย่างปลอดภัย
วันนี้เป็นวันที่ฝนตกมาตลอด เราเห็นรถเกิดอุบัติเหตุเรียงรายมาตลอดทาง ทั้งรถคว่ำ แฉลบตกข้างทาง แต่พวกเราก็กลับมาถึงกทม อย่างปลอดภัยบนรถ Toyota Prius
สรุปแล้วเราเดินทางไปทั้งหมดเกือบ 715 กม ใช้น้ำมันไม่ถึง 1 ถัง ซึ่งถือว่าประหยัดมาก ๆ ทั้งที่ขับแบบเหยียบคันเร่งเต็มที่แบบนี้ และคิดว่าการขับในความเร็วต่ำ ๆ ในเมืองก็น่าจะยิ่งประหยัดมากกว่านี้
อักจุดหนึ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ก็คือความเงียบสนิทยามที่รถเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้า ทำให้การถอยรถเข้า – ออกบ้าน สามารถทำได้โดยไม่รบกวนคนในบ้าน (หรือจะแอบหนีเที่ยวก็ไม่มีใครรู้ 555) การสลับใช้พลังงานไฟฟ้า และ น้ำมัน ทำได้ราบรื่น ไม่มีการสะดุดหรือกระชาก ซึ่งเป็นการพัฒนาจากรถ Hybrid ในยุคเก่า
บางคนบอกกับปูเป้ว่า ถ้าอยากประหยัดเงิน ซื้อรถธรรมดาไปติดแก๊ซจะดีกว่ามั้ย ปูเป้มีความคิดว่า นั่นเป็นเรื่องของการประหยัดเงินในกระเป๋าของเราอย่างเดียว แต่ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสิ่งแวดล้อม หรือลดการใช้พลังงานเลย นอกจากนี้การติดแก๊ซยังเป็นการเอางบประมาณของชาติมาใช้อีกด้วย (ราคาแก๊ซ LPG นั้นถูก เพราะเขาอุ้มราคาเพื่อให้ใช้หุงต้ม ไม่ใช่เพื่อให้คนเอามาขับรถ) ดังนั้นถ้างบถึง ปูเป้คงจะเลือกซื้อรถ Hybrid และถ้างบไม่ถึง ผมคงจะขอใช้ระบบขนส่งสาธารณะต่อไปดีกว่า
สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ ของ Toyota Prius ก็สามารถแวะเข้าไปชมที่ http://www.toyota.co.th/prius/ กันได้ตามสะดวก
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Toyota ที่เชิญปูเป้ไปร่วมทริปสนุก ๆ และได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ Hybrid อย่าง Toyota Prius มากขึ้น ว่านอกจากจะประหยัดน้ำมันสุดๆ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังขับสนุกไม่ต่างจากรถยนต์ทั่วไป ลบความคิดที่เคยมีเกี่ยวกับรถยนต์Hybrid ไปเลยครับ