ในปีนี้ทาง BIODERMA ออกกันแดดสูตรใหม่ Photoderm XDefense Ultra-Fluid ซึ่งปรับปรุงให้เนื้อบางเบายิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยีในการปกป้องผิวที่ครบยิ่งกว่าเดิม โดยมาทั้งในรูปแบบ Invisible ไร้สี และแบบ Tinted เจือสีเนื้อบาง ๆ เพื่อปรับผิวให้เรียบและผ่องขึ้นในทันที ซึ่งส่วนตัวปูเป้ก็ค่อนข้างคาดหวังมากเลยครับ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กันแดดที่ปูเป้ใช้และแนะนำบ่อยที่สุดตัวหนึ่งก็คือ BIODERMA : Photoderm Aquafluide นั่นเอง
หลังจากลองใช้มาสักระยะหนึ่ง วันนี้จะขอมาพูดถึง BIODERMA : Photoderm XDefense Ultra-Fluid SPF50+ PA++++ Invisible กันแดด Detox ผิว ที่เคลมถึงการปกป้องที่มากกว่า UVA-UVB แต่ยังครอบคลุมไปถึง Infrared กับ Visible Light และ Pollution ด้วยส่วนผสมที่อ่อนโยน ทำงานสอดคล้องไปกับกลไกของผิวตามธรรมชาติ ตามแนวทางของ Ecobiology หรือ ศาสตร์แห่งชีวนิเวศวิทยา อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
ในแง่ของส่วนประกอบนั้น BIODERMA : Photoderm XDefense Ultra-Fluid SPF50+ PA++++ Invisible (ปริมาณ 40 มิลลิลิตร ราคา 1,190 บาท) ปูเป้แบ่งสารสำคัญเป็นอยู่ 4 ส่วนตามเคลมของผลิตภัณฑ์ดังนี้
1. Detox Science – การ Detox ในที่นี้เกี่ยวกับ Nrf2 (Nuclear Factor Erythroid 2–Related Factor 2) ซึ่งเป็นตัวหลักในการควบคุมหลักของเซลล์ในการตอบสนองต่อความเครียดอย่างเช่นอนุมูลอิสระ (ROS) โดยจะไปจับกับ Antioxidant Response Element (ARE) ที่ไปเพิ่มการทำงานของยีนที่เกี่ยวข้องกับการต้านอนุมูลอิสระ และ Detoxification Enzymes ในเซลล์มากกว่า 200 ชนิด การศึกษาชี้ว่า Nrf2 ในเซลล์ของผิวชั้นนอกอย่าง เคราติโนไซด์ เมลาโนไซด์ และเซลล์ Langerhans ทำหน้าที่สำคัญในการตอบสนองกับความเสียหายที่มาจากรังสี UV
โดยทาง BIODERMA พบว่า Trimethoxybenzyl Acetylsinapate (TMBA) มีคุณสมบัติในการเสริมกลไก Nrf2 ในเซลล์ ช่วยให้เซลล์สร้างเอนไซม์ดีท็อกซ์และเสริมการต้านอนุมูลอิสระและปกป้องตัวเองของเซลล์ได้เพิ่มขึ้น +164% และทำการจดสิทธิบัตรเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย
จากข้อมูลในสิทธิบัตรทำให้ทราบว่า TMBA ในที่นี้คือสารที่มีชื่อว่า INACLEAR® ของบริษัท INABATA เป็นสารไวท์เทนนิ่งกลุ่ม Biomimetic ที่เลียนแบบกลไกตามธรรมชาติ ช่วยให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ผลิตสาร DKK-1 ออกมา โดย DKK-1 นั้นมีข้อมูลว่าสามารถกดการสร้างเม็ดสีในหลายกลไก รวมไปถึงลดการดูดกลืนเม็ดสีของเซลล์เคราติน จึงมีคุณสมบัติเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่ชี้ว่าตัว Nrf2 ยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการ Melanogenesis ผ่านการกระตุ้นกลไก PI3K/Akt ซึ่งไปเร่งการสลายของเอนไซม์ MITF อันเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อการทำงาน การพัฒนาตัว และการอยู่รอดของเซลล์เมลาโนไซด์ จึงส่งผลในการลดเมลานินได้
สารที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้น Nrf2 มีอยู่หลายตัว แต่บ้างก็มีปัญหาเรื่องความเสถียรในสูตรเครื่องสำอาง (อย่างเช่น Sulforaphane) ดังนั้นสาร TMBA ที่มีความเสถียรจึงน่าจะเป็นอีกเหตุผลที่ทางแบรนด์เลือกใช้ครับ
2. UV Protection – ในส่วนของการปกป้องผิวจากรังสี UVA-UVB ทางแบรนด์เลือกใช้สารกลุ่ม Organic UV Filter สามชนิดเป็นตัวหลัก ได้แก่ Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine หรือ Tinosorb S เป็นสารดูดซับรังสี UVB และ UVA ที่เสถียร กับ Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate หรือ Uvinul A Plus เป็นสารกัน UVA ที่เสถียร และ Butyl Methoxydibenzoylmethane หรือ Avobenzone เป็นสารกรองรังสี UVA ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่มีปัญหาเรื่องความเสถียร ซึ่งข้อมูลในปัจจุบันมีวิธีแก้ปัญหานี้อยู่หลายทาง โดยในสูตรนี้ใช้ Tinosorb S กับ Uvinul A Plus ร่วมไปกับ Ethylhexyl Methoxycrylene หรือ SolaStay® S1 ในการเสริมความเสถียร
โดยภาพรวมของสารกันแดดในสูตรนั้นเด่นในแง่ของการกรอง UVA ซึ่งทางแบรนด์ชี้ว่าได้ค่า PPD สูงถึง 35.9 ในส่วนของค่า SPF นั้นมาจาก Tinosorb S ที่เสริมประสิทธิภาพด้วยสารกลุ่ม Antioxidant ที่ทำหน้าที่เป็น SPF Booster เพื่อให้วัดค่าแบบ In-Vivo ได้ค่า SPF 50+ ครับ
3. Antioxidant & SPF Booster – รังสีในช่วงคลื่นของ Visible Light กับ Infrared ก่ออนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิวและทำให้ผิวหมองคล้ำได้ (อ่านรายละเอียดเชิงลึกได้ในบทความ How Visible Light Impacts Our Skin) แต่เกินขอบเขตในการปกป้องของสารกรองรังสี Organic UV Filter ในปัจจุบัน ทาง BIODERMA จึงใช้ส่วนผสมเชิงซ้อนของสารต้านอนุมูลอิสระสามชนิด ที่จดสิทธิบัตรไว้เป็น SPF Booster ช่วยให้ได้ค่า SPF ที่สูงขึ้น
– Methoxyphenylimino Dimethylcyclohexenyl Ethyl Glycinate ตามข้อมูลในสิทธิบัตรคือ Sensisorb® BIOMIM เป็นสารกลุ่ม Mycosporine-like Amino Acids (MMA) มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Vitamin E ถึง 10 เท่า และยังเสริมประสิทธิภาพของกันแดด จึงช่วยเพิ่มค่า SPF โดยไม่ต้องเพิ่มสารกันแดด หรือสามารถลดสารกันแดดในสูตรโดยคงค่า SPF เอาไว้ได้ ข้อมูลในปัจจุบันชี้ว่าสารกลุ่ม MMA ที่พบได้ในสาหร่ายและสิ่งมีชีวิตในน้ำนั้นสามารถเป็นทั้งตัวดูดซับรังสี UV และต้านผลกระทบจากรังสี UV ด้วยการทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงการกระตุ้น Nrf2 อีกด้วย
– Ectoin เป็นหนึ่งในสารกลุ่ม Extremolyte ซึ่งสิ่งมีชีวิตบางจำพวกสร้างมาเพื่อใช้ในการปกป้องเซลล์ให้สามารถดำรงชีวิตในสภาพสุดโต่งอย่างเช่นแล้งจัด ร้อนจัด หรือเต็มไปด้วยสารพิษได้ การศึกษาในช่วงที่ผ่านมาสรุปได้ว่าสาร Ectoin นั้นมีคุณสมบัติในการอุ้มความชื้นได้สูงและยาวนาน ช่วยคงความแข็งแรงของ Skin Barrier และมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยลดผลกระทบจากการเผชิญรังสี UV และอีกมากมาย
– Mannitol สารกลุ่มน้ำตาลชนิดหนึ่ง ให้ความชุ่มชื้น ช่วยต้านการอักเสบ และการต้านอนุมูลอิสระ
ทาง BIODERMA ได้มีการวิจัยและตีพิมพ์ผลการศึกษาเมื่อปี 2023 พบว่าเมื่อผสม Ectoin กับ Mannitol เข้าไปในสูตรผลิตภัณฑ์กันแดด จะช่วยรักษาระดับของกลูต้าไธโอนในเซลล์ ลดความเสียหายของ DNA ที่มาจากอนุมูลอิสระ ช่วงคงสภาพของเซลล์ Langerhans ที่เป็นระบบภูมิคุ้มกันของผิวได้อย่างมีนัยสำคัญ
4. Pollution Protection – ในส่วนของการปกป้องผิวจากมลภาวะนั้นนอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระข้างต้นมาช่วยลดผลกระทบแล้ว ยังมี Biosaccharide Gum-4 หรือ Glycofilm® จากบริษัท Solabia ซึ่งเป็นสารกลุ่มแซคคาไรด์ที่นอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวแล้วยังฟอร์มตัวเป็นม่านเพื่อปกป้องผิวไม่ให้อนุภาคฝุ่นมลภาวะสัมผัสกับผิวโดยตรง คุ้มครองปราการผิวให้แข็งแรง
Ingredients : Aqua/Water/Eau, C12-15 Alkyl Benzoate, Silica, Glycerin, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Butyl Methoxydibenzoylmethane, Ethylhexyl Methoxycrylene, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate, Diisopropyl Sebacate, Lauroyl Lysine, Propanediol, Dicaprylyl Carbonate, 1,2 Hexanediol, Polysorbate 60, Cetyl Phosphate, Arginine, Bentonite, Hydroxyacetophenone, Fragrance (Parfum), Citric Acid, Ectoin, Mannitol, Methoxyphenylimino Dimethylcyclohexenyl Ethyl Glycinate, Sodium Phytate, Xanthan Gum, Xylitol, Rhamnose, O-cymen-5-ol, Biosaccharide Gum-4, Trimethoxybenzyl Acetylsinapate, Sodium Hyaluronate, Tocopherol.
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางและเหลวเหมือนน้ำของ BIODERMA : Photoderm XDefense Ultra-Fluid SPF50+ PA++++ Invisible นั้นปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์จึงไม่ทำให้ผิวแห้ง แต่ในขณะเดียวกันผงแป้งอย่าง Silica และ Bentonite เพื่อช่วยลดความเงาหรือมันวาวยามเซ็ทตัวบนผิว โดยในการใช้ ‘ต้องเขย่าขวดก่อนใช้’ ทุกครั้งเพื่อกระจายผงแป้งเหล่านี้ให้เข้ากัน (เพราะการทำกันแดดให้มีเนื้อที่เหลวเหมือนน้ำ จึงไม่มีสารทำให้ข้นหนืดในสูตรที่มากพอเพื่อตรึงผงแป้งให้กระจายตัวโดยไม่ตกตะกอน)
เนื่องจากกันแดดตัวนี้ใช้สารกลุ่ม UV Absorber ล้วน จึงไม่มีสีและไม่เพิ่มความขาวบนผิว สามารถทาในปริมาณที่มากได้โดยไม่ทำให้ขาวลอย จึงเหมาะกับทุกสีผิว คุณสมบัติทนน้ำและเหงื่อระดับ Water Resistant จึงสามารถใช้ในชีวิตประจำวันในสภาพอากาศร้อนชื้นในบ้านเราได้อย่างสบาย ๆ และสามารถทาเพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมทางน้ำได้ (ต้องทาซ้ำหลังขึ้นจากน้ำหรือซับเหงื่อ) สูตรที่เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญจึงเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยช่วงอายุที่ทางแบรนด์แนะนำให้ใช้คืออายุ 13 ปีขึ้นไปครับ
จากที่ลองใช้มา BIODERMA : Photoderm XDefense Ultra-Fluid SPF50+ PA++++ Invisible ถือว่าเป็นกันแดดที่เนื้อดี เกลี่ยง่าย และให้การปกป้องที่ดีครับ ส่วนตัวชอบเนื้อที่บางเบาของสูตรนี้ มากกว่ารุ่น Aquafluide ที่ใช้หมดมาหลายหลอด
ปูเป้จะติดอยู่ประเด็นเดียวคือเรื่องน้ำหอมครับ แม้ว่าปูเป้จะไม่ได้แพ้หรือระคายเคืองกับน้ำหอมในสูตร ซึ่งเป็นกลิ่นที่ปราศจาก Common Fragrance Allergen ตามมาตรฐานของ EU (ที่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 82 ชนิด) แต่ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นมันติดนานเกินไปหน่อย อยากให้กลิ่นติดไม่ทน หรือเป็นสูตรปราศจากน้ำหอมก็จะดีมากครับ
โดยสรุปแล้ว BIODERMA : Photoderm XDefense Ultra-Fluid SPF50+ PA++++ Invisible เป็นกันแดดที่เนื้อสัมผัสที่บาง เกลี่ยง่าย เบาสบายผิว ทำให้ผิวเป็นสิวง่ายก็ใช้ได้ ทาเยอะก็ไม่ทำให้ผิวขาวลอยจึงใช้ได้กับทุกสีผิว แถมยังกันน้ำและเหงื่อด้วย จึงเหมาะกับสภาพอากาศของไทย ผิวบอบบางก็ใช้ได้เพราะตัวสูตรถูกออกแบบด้วยแนวทาง “น้อยแต่มาก” ใช้ส่วนผสมที่น้อยชนิดแต่ให้ประโยชน์ที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้หรือระคายเคือง ตามสไตล์ของ BIODERMA ส่วนตัวจึงให้กันแดดตัวนี้ผ่านความคาดหวังของตัวเองแทบทุกข้อครับ ยกเว้นเรื่องเดียวจริง ๆ คือกลิ่นน้ำหอมที่ติดทนไปหน่อยอย่างที่กล่าวไปข้างต้น (ซึ่งความชอบเรื่องกลิ่นเป็นสิ่งที่แตกต่างไปในแต่ละคน ต้องไปลองกันดูนะฮะ)
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาและโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ อย่าง Boots / Beautrium / EVEANDBOY /Konvy / Watsons ส่วนใครที่สะดวกทางออนไลน์ ปูเป้แนะนำให้สั่งจากร้านออฟฟิเชียลของแบรนด์ ใน Lazada และ Shopee ครับ นอกจากนี้ถ้ามีข้อสงสัยใดเพิ่มเติม ยังสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มกับทาง BA ได้ที่ https://linktr.ee/biodermath ได้อีกด้วย
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
BIODERMA : Photoderm XDefense Ultra-Fluid SPF50+ PA++++ Invisible
Price : 40 ml / 1,190 BAHT
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : UV Protection / Antioxidant / Light-Weight / Water-Resistant
- เนื้อบางเบา ไม่ขาวลอย เหมาะกับทุกสีผิว
- สารกันแดดเสถียร และมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัวมาเสริมการปกป้อง
- สูตรที่เน้นความเรียบง่าย อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบาง
- กลิ่นน้ำหอมติดทนไปหน่อย







