ทาง BIODERMA ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มผิวเป็นสิวง่ายอย่าง Sébium Sensitive ในปีนี้ ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์ถูกสื่อสารว่าเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวบอบบางที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายและชูจุดเด่นในเรื่องของการควบคุมความมันบนใบหน้า แต่สิ่งที่ปูเป้สนใจหยิบผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขึ้นมาลองก็คือส่วนผสมที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในต่างประเทศอย่าง Bakuchiol ที่เขาร่ำลือกันว่าเด็ดดวงนักนี่แหล่ะ

ผลิตภัณฑ์ BIODERMA : Sébium Sensitive (30ml / 890 BAHT) เคลมว่าช่วยปรับสมดุลของการผลิตน้ำมัน ช่วยลดการเกิดสิวและรอยแดง เสริมความแข็งแรงของผิว พร้อมให้ความชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมง ในขณะที่  Mattifying Powders ช่วยดูดซับความมัน จริง ก่อนที่จะได้ตัวผลิตภัฑ์มาลองก็แอบกังวลนิดหน่อยตรงเคลมเรื่องควบคุมความมัน มันจะทำให้ผิวดูแห้งไปรึเปล่า (เพราะส่วนตัวไม่ชอบให้ตัวเองดูหน้าแห้ง ) แต่เมื่อได้ลองก็พบว่านี่ไม่ใช่มอยซ์เจอไรเซอร์หน้าแมทจนแห้งแบบที่เคยลองมา แต่มันให้ความชุ่มชื้นได้ในขณะที่ก็ช่วยผิวดูนัว ไม่เยิ้มไปได้อย่างสมดุลเลยล่ะ

Product’s Formula

ในแง่ของส่วนประกอบนั้นเราขอยกส่วนผสมที่ทำให้เราอยากลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาพูดก่อนเป็นอันดับแรกเลยนั่นก็คือ Bakuchiol นั่นเอง  สารตัวนี้เป็นสารที่สกัดมาได้จากธรรมชาติโดยเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่พบมาในต้น Psoralea corylifolia หรือโกฐนษิณี ซึ่งเป็นพืชที่ถูกใช้ในแพทย์แผนอายุรเวชและแพทย์แผนจีนด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและต้านการอักเสบ จากการสืบค้นพบว่ามีการเริ่มศึกษาเกี่ยวกับ Bakuchiol มาเป็นสิบปีแล้ว แต่การนำมาใช้เพื่อทาผิวหนังพึ่งเริ่มมีพูดถึงในช่วง 6 – 7 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการสกัด Bakuchiol ในเชิงพาณิชย์ได้ และเราพึ่งเริ่มเห็นแบรนด์สกินแคร์ในต่างประเทศนำเสนอส่วนผสมตัวนี้มากขึ้นในช่วงปี 2018 และ 2019 นี้เอง

จากข้อมูลพบว่าส่วนผสมตัวนี้มีจุดเด่นตรงที่มีกลไกลหลายอย่างที่ทำงานคล้ายกับ Retinol อย่างเช่นเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อลดริ้วรอย เสริมความกระชับของผิว แต่การจับกับรีเซปเตอร์ในเซลล์ผิวนั้นมีควาต่างกันบ้าง ทำให้ Bakuchiol มีโปรไฟล์ในแง่ของความอ่อนโยนกับผิวมากกว่า และยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านจุลชีพ ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกที่เเหมาะกับผิวเป็นสิวง่าย และมีแนวโน้มว่า Bakuchiol จะไปเสริมประสิทธิภาพกับสารกลุ่มวิตามินเอได้ด้วย

สาร Bakuchiol จึงมีความน่าสนใจและทางบริษัท  NAOS ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ BIODERMA ก็ได้นำ Bakuchiol ไปผสมรวมกับสารสกัดจากใบแปะก๊วย Ginkgo Biloba Extract และ Mannitol จนเป็น BGM Complex เพื่อจดสิทธิบัตร และได้ตีพิมพ์การศึกษาเอาไว้หลัก 2 ชิ้น

ชิ้นแรกคือการใช้ครีม BGM Complex ร่วมกับการใช้ยารักษาสิว  Adapalene 0.1% พบว่ากลุ่มที่ใช้  BGM Complex นั้นช่วนเสริมการทำงานของ Adapalene 0.1% โดยเฉพาะประเภทของสิวอักเสบที่ลดลงอย่างแตกต่างกว่ากลุ่มที่ใช้ Adapalene 0.1% คู่กับครีมที่ไม่มี BGM Complex ถึง 21% ซึ่งน่าจะเป็นผลจากคุณสมบัติในการช่วยต้านการระคายเคืองและต้านจุลชีพที่ไปเสริมกลไกกันและกัน

ชิ้นต่อมาคือการทดสอบ BGM Complex นี้โดยตรง และพบว่าตัวคอมเพล็กนี้ก็ช่วยในเรื่องการต้านจุลชีพ ต้านการอักเสบ และข้อมูลที่น่าสนใจคือส่วนผสมนี้ช่วยปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวที่หลั่งออกมาด้วย

ส่วนผสม Bakuchiol มีความน่าสนใจ แต่ก็ยังถือว่าเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างใหม่ และข้อมูลที่ตีพิมพ์ออกมาก็ยังมาจากทั้งทางผู้ผลิตส่วนผสม และจากเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ซึ่งเราต้องรอดูข้อมูลจากแหล่งอื่นมาสนับสนุนในอนาคตอีกพอสมควร

(Source : Bakuchiol: a retinol-like functional compound revealed by gene expression profiling and clinically proven to have anti-aging effects., A dermocosmetic containing bakuchiol, Ginkgo biloba extract and mannitol improves the efficacy of adapalene in patients with acne vulgaris: result from a controlled randomized trial., Assessment of a new biological complex efficacy on dysseborrhea, inflammation, and Propionibacterium acnes proliferation., Prospective, randomized, double-blind assessment of topical bakuchiol and retinol for facial photoageing., Bakuchiol in the Management of Acne-affected Skin)

นอกเหนือจากคอมเพล็กตัวนี้ ตัวผลิตภัณฑ์ก็มี Glycerin ที่น่าจะมาพอสมควรทีเดียวซึ่งช่วยเรื่องความชุ่มชื้น  และมีผงแป้ง Methyl Methacrylate Crosspolymer และผงแป้งชนิดอื่นมาหลายชนิดเพื่อช่วยดูดซับความมัน มี Zinc Gluconate ช่วยลดการผลิตน้ำมันและเสริมการต้านแบคทีเรีย ส่วน Glycyrrhetinic Acid ที่เป็นส่วนผสมต้านการอักเสบที่ได้มาจากชะเอมเทศก็น่าจะเป็นหนึ่งใน เทคโนโลยี InflaStop Complex ที่เขาเคลมเอาไว้ สารสกัดจากสาหร่าย Laminaria Ochroleuca Extract อันนี้เราไม่แน่จว่าเอามาจากซัพพลายเออร์ไหน

และแน่นอนว่าทุกผลิตภัณฑ์ BIODERMA จะต้องมีส่วนผสมของ Fructooligosaccharides กับ Mannitol กับ Rhamnose และ Xylitol ซึ่งเป็นส่วนผสมตามธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ต้านอนุมูลอิสระ และไวต่อสิ่งกระตุ้นน้อยลงตามที่เขาได้จดสิทธิบัตรเอาไว้

Ingredients : AQUA/WATER/EAU, GLYCERIN, METHYL METHACRYLATE CROSSPOLYMER, DIPROPYLENE GLYCOL, ZINC GLUCONATE, COCO-CAPRYLATE/CAPRATE, VINYL DIMETHICONE/METHICONE SILSESQUIOXANE CROSSPOLYMER, CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLYCERIDE, ARACHIDYL ALCOHOL, BEHENYL ALCOHOL, POLYACRYLATE CROSSPOLYMER-6, SODIUM POLYACRYLATE, GLYCYRRHETINIC ACID, PROPYLENE GLYCOL, ARACHIDYL GLUCOSIDE, BAKUCHIOL, LAMINARIA OCHROLEUCA EXTRACT, MANNITOL, XYLITOL, SODIUM METABISULFITE, RHAMNOSE, GINKGO BILOBA LEAF EXTRACT, TOCOPHEROL, FRUCTOOLIGOSACCHARIDES, FRAGRANCE (PARFUM). [BI 728]

Usage & Result

เนื้อครีมของ Sébium Sensitive มีเนื้อเป็นสีขาวนัว เวลาทาลงไปบนผิวจะรู้สึกถึงการเคลือบผิวและความชุ่มชื้น แต่ในเวลาไม่นานส่วนผสมผงแป้งที่ดูดซับความมันก็จะช่วยเซ็ทตัวให้ผิวดูไม่มันวาว ดูนัว เนียน ได้ในทันที ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมแต่เป็นน้ำหอมที่ไม่มี  Common fragrance allergen ตามกฏหมายของ EU ซึ่งก็คงจะเซฟมากขึ้นอีกหน่อย 

สิ่งที่ปูเป้ประทับใจคือการเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สูตรที่เซ็ทตัวแบบกึ่งแมทแต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้จริงจัง ซึ่งใครที่ติดตามปูเป้มานานจะรู้ว่าตัวปูเป้ไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแมทจนแห้งไม่สบายผิว แต่ตัวนี้สามารถใช้ในตอนกลางคืนคู่กับสกินแคร์อื่น ๆที่ใช้แล้วก็รู้สึกว่ามันให้ความชุ่มชื้นกำลังดี ไม่น้อยไป ผิวไม่รู้สึกแห้งตอนตื่นเช้ามา 

 

จากในรูปด้านบนปูเป้แสดงให้เห็นว่าบนผิวหน้าที่มีน้ำมันบนผิวหลั่งมาเต็มจนมีความมันวาวที่ผิวอย่างเห็นได้ชัด เพียงทา Sébium Sensitive และทิ้งเอาไว้สักพักก็จะเซ็ทตัวและให้เอฟเฟคของผิวที่ดูละมุนไม่มันวาวแต่ไม่ดูแห้งเกินไป

ทางแบรนด์มีส่งของเล่นสนุก ๆ มาให้เป็นแผ่นดูดซับซีบั่มที่ให้เราทดสอบคุณสมบัติในการดูดซับความมันในทันทีของตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าข้างที่ไม่ได้ทาก็จะเห็นความมันกระจายตัวอยู่เยอะ แต่ข้างที่ทาจะเห็นว่าน้ำมันบนผิวส่วนหนึ่งถูกดักจับโดยในอานุภาคผงแป้งที่มีรูพรุนจำนวนมาก ส่วนตัวปูเป้มองว่าเป็นเครื่องมือเอาไว้สื่อสารกับผู้บริโภคแบบง่าย ๆ มากกว่า ทว่าจุดเด่นหลัก ๆ ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ในความเห็นของปูเป้นั้นไม่ใช่การดูดซับความมันอย่างเดียว แต่เป็นการให้ความสมดุลในระหว่างความชุ่มชื้นและการทำให้หน้าดูไม่มันวาวจนเกินไปมากกว่า

ปูเป้ทดอองใช้มาได้เป็นเวลาเดือนกว่าจนเกือบจะหมดหลอดแล้วโดยใช้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ในขั้นตอนสุดท้ายทั้งเวลากลางวันและกลางคืน และมีเสริมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA + BHA ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ พบว่าสิวอุดตันเล็ก ที่ฝังใต้ผิวค้างมาตั้งแต่ทริปญี่ปุ่นและโมรอคโคในช่วงแก้ม กราม และคาง ค่อยๆ ถูกดันขึ้นมาและหลุดออกไปได้ไม่ยาก มีจุดที่อักเสบบ้างแต่ไม่มาก จึงมองว่านี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะคู่ไปกับยารักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เพราะก็มีข้อมูลที่สนับสนุนว่า Bakuchiol นั้นทำงานคู่กับ Salicylic Acid ได้ดี และก็ทำงานกับสารกลุ่มวิตามินเอได้ดีอีกด้วย

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่ปูเป้พบก็คือ การใช้คู่กับผลิตภัณฑ์เซรั่มหรืออะไรที่มีความเป็นเนื้อเจล หรือผลิตภัณฑ์กันแดดบางตัว พอเวลาใช้แป้งปัดแป้งฝุ่นปัดลงไปก็จะเป็นขุยขึ้นมาได้บ้าง ส่วนนี้คิดว่าต้องไปลองทดสอบความเข้ากันของผลิตภัณฑ์ที่ใช้คู่กันดูครับ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Bioderma : Sébium Sensitive เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนที่แสวงหาผลิตภัณฑ์ที่มีความสมดุลทั้งการให้ความชุ่มชื้นกับผิวและการมอบเอฟเฟคดูดซับความมันในทันทีให้ผิวดูนวลเนียนไม่มันวาว ส่วนผสมสำคัญอย่าง Bakuchiol และส่วนผสมอื่น ๆ ก็ช่วยลดปัญหาสิวเม็ดเล็ก ๆ และลดการอักเสบได้ สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์หรือตัวยารักษาสิวที่นิยมในปัจจุบันอย่างสารกลุ่มวิตามินเอ หรือสารกลุ่ม Keratolytic ผลัดเซลล์ผิวอย่าง BHA และ AHA ได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยลดการระคายเคืองและลดโอกาสที่ผิวจะแห้งลอกจากการขาดความชุ่มชื้นได้ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวในวัยผู้ใหญ่ที่มักมีปัญหาผิวมันแต่แห้งกร้านขาดน้ำแฝงอยู่อีกด้วย 

ส่วนตัวปูเป้ค่อนข้างประทับใจและในช่วงที่ทดลองใช้ก็เห็นผลที่ดีในการทำให้สิวที่ฝังอยู่นั้นค่อย ๆ น้อยลง และการตรวจสภาพผิวก็ได้คะแนนของคุณภาพของผิวชั้นนอกที่ดีจนน่าแปลกใจ แต่ปัญหาก็คือการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์บางอย่างโดยเฉพาะกันแดดบางตัวที่อาจเป็นขุยได้เมื่อใช้ร่วมกับแป้งฝุ่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้บ้าง

สำหรับใครที่กังวลเรื่องรอยสิวที่เกิดหลังจากการอักเสบ แม้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีส่วนผสมต้านการอักเสบอยู่หลายชนิดและช่วยลดการอักเสบของสิวที่ไม่รุนแรงที่ค่อนข้างได้ผลดีทีเดียว แต่ในกรณีที่มีการอักเสบค่อนข้างมากและเป็นอยู่นาน จะมีโอกาสเกิด  PIH เป็นรอยสิวจากเมลานินได้ครับ ปูเป้แนะนำว่าหากมีสิวอักเสบที่เม็ดใหญ่หน่อยหรือแตะแล้วเจ็บ ๆ ควรมีตัวแต้มสิวที่ช่วยต้านแบคทีเรียเสริมไปเพิ่มเพื่อให้การอักเสบนั้นทุเลาลงให้ไวที่สุด และถ้าหากมีผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ดการสร้างเมลานินที่มีเนื้อเบาๆ  และอ่อนโยนก็ใช้คู่กันไปได้เลยครับ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Bioderma : Sébium Sensitive
Price :  30ml /890 BAHT
Skin Type : Acne-Prone Skin, Oily Skin, Combination Skin
Outstanding : Anti-Acne / Oil-Absorbing / Hydration

BIODERMA : Sébium Sensitive
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ดูดซับความมันให้ผิวดูไม่มันวาวแต่ให้ความชุ่มชื้นยาวนานและเพียงพอสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวมัน
  • ใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือยารักษาสิวได้เป็นอย่างดี
  • คุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้น สิวที่มีอยู่เดิมลดลง
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
  • ข้อมูลของ Bakuchiol ยังมาจากผู้ผลิตเป็นส่วนใหญ่
3.8Overall Score