ในปีนี้ทาง Bioderma ออก Cleansing Oil ตัวแรกของแบรนด์มาล่ะ โดยทำมาให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่บอบบางตามคอนเซปต์ของแบรนด์เหมือนเดิม
เป็นที่ทราบกันดีว่า Bioderma เป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Micellar Water ออกมาเป็นเจ้าแรกแรกจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงมากไปทั่วโลก และแม้ปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันอยู่เยอะมาก แต่ตัวออริจินอลก็ยังเป็นตัวที่ปูเป้ใช้อยู่เป็นประจำ เพราะมันสะดวก สบายผิว และเมื่อใช้อย่างถูกต้อง โดยชุบสำลีที่นุ่ม ในปริมาณที่เหมาะสม ลูบผิวอย่างเบามือ ก็ไม่ระคายเคืองผิว
ปูเป้คิดว่าเป็นเรื่องดี ที่เขาออกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในรูปแบบอื่น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับความชอบและความต้องการที่แตกต่างกัน เพราะตัวปูเป้เองก็ชอบใช้ Cleansing Oil ในตอนที่ตัวเองมีเวลาจะละเมียดละไมกับการนวดผิวไปด้วยครับ
สูตรของ Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil (ปริมาณ 150ml ราคา 940 บาท) ถูกออกแบบมาเพื่อผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย จึงใช้ส่วนประกอบที่ไม่ซับซ้อน ปราศจากสี น้ำหอม โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้
ส่วนแรกเลยคือเบสน้ำมันอย่างน้ำมันเรพซีด Brassica Campestris (Rapeseed) Seed Oil และ Ethylhexyl Palmitate ที่เอาไว้ช่วยละลายสิ่งสกปรก กันแดด เมคอัพ และยังมีการใส่ส่วนผสมของสารแอคทีฟที่ละลายในน้ำมัน อย่าง Stearyl Glycyrrhetinate ซึ่งเป็นการเอา Glycyrrhetinic Acid ที่ช่วยต้านการระคายเคืองและลดการอักเสบ กับ Laminaria Ochroleuca Extract ที่คาดว่าเป็น ANTILEUKINE 6™ ของบริษัท Seppic ถูกเคลมว่าช่วยปลอบประโลม ต้านการอักเสบ ซึ่งการศึกษาจากหลายแหล่งก็ชี้ว่าสารสกัดจากสาหร่ายชนิดนี้มีคุณสมบัติดังกล่าว
ส่วนที่สองคือ อิมัลซิไฟเออร์ในรูป Polyglyceryl-4 Oleate เป็นตัวช่วยรวมน้ำกับน้ำมันเข้าด้วยกัน และทำให้ออยล์สามารถถูกรวมเข้ากับน้ำเป็นน้ำนมเพื่อล้างออกจากผิวได้
ส่วนที่สาม เบสน้ำจะมีปริมาณไม่มาก ประกอบไปด้วยน้ำ และส่วนผสมเสริมความชุ่มชื้นอย่าง Sodium PCA และ Propanediol
สามส่วนนี้รวมกันจะทำให้เกิดอิมัลชั่นในรูปแบบ Water-in-Oil โดยส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นถูกห่อหุ้มใน Micelle ขนาดเล็กจิ๋วจำนวนมหาศาลแทรกอยู่ในเนื้อออยล์ใสสีเหลืองตามธรรมชาตินี้ เมื่อเราปั๊มออยล์ออกมาแล้วชโลมลงบนผิวหน้า ตัวออยล์จะไปละลายสิ่งสกปรก และเมคอัพ ที่ละลายในน้ำมันให้หลุดออกมาจากผิว ในขณะเดียวกันสารแอคทีฟที่ช่วยปลอบประโลมผิวในตัวออยล์ก็จะช่วยลดการระคายเคือง
พอพรมน้ำลงไป โครงสร้างไมเซล์ Water-in-Oil ที่เคยหุ้มส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นเอาไว้ จะเกิดการกลับด้าน ทำให้ส่วนผสมเติมความชุ่มชื้นถูกปล่อยออกมา ในขณะที่ออยล์ที่ละลายสิ่งสกปรกถูกทำให้เป็นอิมัลชั่นแบบ Oil-in-Water และถูกล้างออกไปจากผิวนั่นเอง
สูตรของออยล์ล้างทำความสะอาดผิวนั้น ถ้าดูที่ส่วนประกอบข้างกล่องนั้นมีหลักการแบบเดียวกัน แตกต่างกันไปบ้างตามการปรุงแต่งตามโจทย์ของแต่ละแบรนด์ครับ ดังนั้นส่วนประกอบบนฉลากทำให้เราสามารถดูคุณสมบัติได้เพียงคร่าว ๆ แต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดนั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดแค่ไหน ดึงน้ำมันออกไปมากหรือน้อยเกินไป ทำให้ผิวแห้งตึงหรือมันเมือกหลังจากล้างออกหรือไม่ เป็นเรื่องของสัดส่วนที่ลงตัวและพอเหมาะในการสร้างสรรค์สูตรขึ้นมา ซึ่งไม่สามารถบอกหรือตัดสินได้จากส่วนประกอบครับ
Ingredietns : Ethylhexyl Palmitate, Brassica Campestris (Rapeseed) Seed Oil, Polyglyceryl-4 Oleate, Aqua/Water/Eau, Sodium PCA, Propanediol, Caprylic/Capric Triglyceride, Benzotriazolyl Dodecyl P-Cresol, Tocopherol, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Laminaria Ochroleuca Extract, Stearyl Glycyrrhetinate.
จากการทดลองใช้ Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil นับเป็นออยล์ที่ละลายพวกรองพื้นได้อย่างรวดเร็ว ส่วนพวกลิปสติกสี ๆ ก็ละลายออกมาได้ไม่ยากครับ และที่สำคัญคือมันอ่อนโยน สามารถนวดทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตาได้โดยไม่รู้สึกแสบตา เพราะสูตรเน้นให้อ่อนโยนจริง ๆ แต่ก็แลกมากับกลิ่นที่ไม่หอม เพราะไม่ใส่น้ำหอมครับ
การใช้ก็เหมือน Cleansing Oil โดยทั่วไป คือลูบกระจายออยล์ลงบนผิวที่แห้ง นวดวนอย่างเบามือเพื่อละลายเมคอัพและสิ่งสกปรกให้หลุดออกมา ตัวออยล์ถูกออกแบบมีความสามารถในการทำละลายเมคอัพและสิ่งสกปรกได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องออกแรงเยอะ ๆ ที่จะไปเพิ่มโอกาสระคายเคืองผิวได้โดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในกับผู้มีผิวบอบบางหรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบ Atopic Dermatitis เพราะมีการศึกษาที่ชี้ว่าแม้แต่การนวดที่ใช้แรงมากไปในขั้นตอนการทำความสะอาดผิวก็ทำให้อาการของผิวแย่ลงได้
หลังจากนั้นก็ใช้น้ำปริมาณสัก 1 อุ้งมือ กระจายให้ทั่วใบหน้า นวดวนเบา ๆ เพื่อทำให้ออยล์เกิดเป็นอิมัลชั่นน้ำนมดึงสิ่งสกปรกออกไป แน่นอนว่าขั้นตอนนี้ก็ยังต้องลูบวนอย่างเบามือและทำอย่างละเมียดละไมหน่อย โดยปูเป้จะใช้เวลาประมาณ 60 วินาที เพื่อให้ออยล์เกิดการอิมัลชั่นอย่างทั่วถึง หลังจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก ๆ ครับ
สัมผัสของผิวหลังล้างน้ำออกจะรู้สึกว่าผิวไม่ตึงฝืด เมื่อซับผิวแล้วจะยังคงมีความรู้สึกนุ่มจากการที่สูตรพยายามคงความชุ่มชื้นและน้ำมันบำรุงผิวเอาไว้บ้าง ตามที่ผลิตภัณฑ์ออกแบบมาว่าสามารถใช้เป็นตัวทำความสะอาดในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องล้างโฟมต่อ เราสามารถเริ่มขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ได้เลย
แต่สำหรับคนที่คุ้นชินในการทำ Double Cleansing ก็สามารถใช้ Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil ร่วมกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดมีฟองได้เหมือนกันครับ ซึ่งปูเป้ก็เป็นคนที่คุ้นชินกับการทำความสะอาดสองขั้นตอนมากกว่า ก็อยากแนะนำ Bioderma : Sensibio Gel Moussant ซึ่งเป็นเจลล้างหน้าที่เลือกสารทำความสะอาดมาได้อ่อนโยนและเหมาะจะใช้กับออยล์ตัวนี้มาก และอยากแนะนำเทคนิคในการใช้เล็กน้อยเพื่อให้ได้สัมผัสในการใช้ที่ดีที่สุด
ก่อนอื่นต้องไปตามหาตาข่ายตีฟองก่อนครับ(ปูเป้ใช้ของ MUJI อันละ 39 บาท) การใช้งานคือปั๊มเจลตัวนี้ลงบนมือที่เปียกสัก 2 ปั๊ม (ควรเป็นมือที่สะอาดด้วย เพราะมือที่สกปรกจะทำให้ฟองเกิดน้อยลง) ทำตาข่ายตีฟองให้เปียกและสะบัดน้ำส่วนเกินออก 1 ครั้งให้เหลือน้ำแค่เพียงหมาด ๆ ก่อนวนบนฝ่ามือจนเจลกลายเป็นฟองที่ละเอียดฟูและแน่นพอสมควร ซึ่งถ้าใช้มือเปล่าจะไม่มีทางตีฟองได้ฟูและแน่นขนาดนี้เลยครับ
เหตุผลที่ปูเป้แนะนำว่า หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดมีฟอง ควรตีฟองก่อนเสมอ เพราะการตีฟองที่ฟูนุ่มแน่นนี้จะช่วยกระจายสารทำความสะอาด ฟองที่นุ่มฟูและแน่นช่วยลดการเสียดสีและให้สัมผัสในการใช้ที่ดีด้วย และปูเป้เชื่อว่าเทคนิคการใช้นี้จะทำให้ Bioderma : Sensibio Gel Moussant กลายเป็นอีกทางเลือกของเจลโฟมล้างหน้าประจำวัน สูตรอ่อนโยน ที่หลายคนจะชอบได้อย่างแน่นอน
ปูเป้มองว่า Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil ก็เป็นอีกทางเลือกของออยล์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย จากสูตรที่เน้นความเรียบง่าย ไม่มีส่วนผสมที่เกินความจำเป็นหรือเพิ่มความเสี่ยงในการระคายเคืองผิว ทำหน้าที่ในการล้างเมคอัพ รองพื้นให้หลุดออกได้ดี สัมผัสของผิวหลังล้างออกด้วยน้ำก็ทำได้ดีทีเดียว คือไม่เมือกลื่นหรือมันเกินไปจนรู้สึกเหมือนไม่สะอาด แต่ก็ไม่น้อยไปจนทำให้ผิวแห้ง แม้กลิ่นก็อาจจะไม่ได้ถึงกับมอบความรื่นรมย์ให้เราได้อย่างเต็มที่เพราะเขาไม่ผสมน้ำหอมหรือส่วนผสมแต่งกลิ่นใด ๆ แต่ก็ปลอดภัยกับผิวที่บอบบางหรือไวต่อการระคายเคืองได้ง่ายครับ
สำหรับใครที่สงสัยว่า Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil กับ Bioderma : Sensibio H2O นั้นต่างกันอย่างไร? นอกเหนือจากรูปแบบและการใช้ที่แตกต่างกันแล้ว การทำความสะอาดโดยรวมก็ทำออกมาได้ดีทั้งคู่ แต่สัมผัสบนผิวหลังใช้และล้างตามด้วยน้ำสะอาดนั้น Bioderma : Sensibio H2O จะให้ความรู้สึกที่ชุ่มชื้นมากกว่าเพราะเป็นเบสน้ำ ในขณะที่ Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil จะรู้สึกนุ่มผิวมากกว่าเพราะเบสน้ำมันครับ
โดยสรุปแล้วปูเป้มองว่าการออก Cleansing Oil ตัวนี้เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะส่วนตัวชอบที่แบรนด์นำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย ให้เราเลือกสิ่งที่เหมาะกับผิว บริบท และรสนิยม มากกว่าการจะบอกว่า รูปแบบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้นที่ดีที่สุด เพราะผิวของเราแตกต่าง ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้ Cleansing Oil แล้วจะรอดหรือจะชอบ และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีปัญหากับ Micellar Water ที่ต้องใช้คู่กับสำลีครับ โดยส่วนตัวปูเป้เองก็มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวอยู่หลายรูปแบบติดบ้านไว้เลือกใช้ตามความเหมาะสมในขณะนั้นมากกว่าจะยึดติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งครับ
สำหรับใครที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ Bioderma ก็มีจำหน่ายในร้านขายยาและโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ อย่าง Watsons / Boots / EVEANDBOY / Beautrium และ KIS Beauty ส่วนช่องทางออนไลน์ ก็มี KONVY และ Central Online หรือในช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการได้ใน Lazada และ Shopee ครับ และหากต้องการปรึกษาขอคำแนะนำการเลือกผลิตภัณฑ์ BIODERMA ก็ติดต่อทีม BA ได้ที่ https://linktr.ee/biodermath
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
Bioderma : Sensibio Micellar Cleansing Oil
Price : 150ml / 940 BAHT
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Deep Cleansing / Moisturizing / Fragrance-Free
- ละลายเมคอัพออกได้เร็ว แต่อ่อนโยนกับผิว และไม่เคืองตา
- สัมผัสหลังล้างออกด้วยน้ำทำออกมาได้ค่อนข้างสมดุล ไม่ลื่นหรือมันไป คงความชุ่มชื้นและนุ่มผิวได้ดี
- ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวบอบบางระคายเคืองง่าย
- กลิ่นอาจจะไม่รื่นรมย์นัก เพราะไม่ผสมน้ำหอมหรือสารแต่งกลิ่นใด ๆ เลย