เมื่อเดือนกุมพาพันธ์ที่ผ่านมาปูเป้ได้ห้อยติดตาม ผจก ของปูเป้ไปเวิคร์ช็อปสอนทำขนมที่จัดขึ้นสำหรับลูกค้า BOSCH และก็ได้ทำวีดีโอขำ ๆ เล่าเรื่องราวและวิธีทำขนมสูตรเพื่อคนแพ้กลูเต็นและแพ้นมเนยเอาไว้ ในวีดีโอได้ให้รายละเอียดของเครื่องล้างจาน และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไปเจอมาไว้อย่างคร่าว ๆ และมีผู้ที่สนใจสอบถามกันมาทางหลังไมค์ค่อนข้างเยอะ ปูเป้จึงอยากนำรายละเอียดของข้อมูลที่ปูเป้ได้รวบรวมมาทำเอาไว้เป็น Blog เลยทีเดียวน่าจะสะดวกกับทุกคนที่สนใจ (และตัวเอง) มากกว่า แต่ถ้าใครที่ยังไม่ได้ชมวีดีโอที่ว่ามานี้ สามารถคลิกชมด้านล่างได้เลยจ้า

Dishwasher

พูดถึงเครื่องล้างจานแล้วสำหรับปูเป้เองก็เคยคิดว่ามันเป็นเหมือนของเล่นคนรวย ราคาสูง และคงต้องเปลืองน้ำเปลืองไฟ (น่าจะคล้าย ๆ กับที่หลายคนคิดกับเครื่องอบผ้านั่นแหล่ะ) แต่หลังจากที่ลองหาข้อมูลดูคร่าว ๆ ก็พบว่าในต่างประเทศมีประเด็นดีเบตกันเรื่องนี้มานานแล้ว และเขาพบว่าเครื่องล้างจานสมัยนี้ประหยัดน้ำและประหยัดพลังงานแถมยังสะอาดกว่ากว่าการล้างด้วยมืออีกด้วย!!!

เมื่อรู้แบบนี้แล้วเราจะมาล้างจานเป็นอีแจ๋วหน้าซิ้งค์อยู่ทำไมกัน ของมันต้องมีสิแบบนี้ ดังนั้นเครื่องล้างจานเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปูเป้ตั้งใจมาเก็บข้อมูลมากที่สุด เพราะตั้งใจเอาไว้แต่แรกแล้วว่าหลังจากรีโนเวทบ้านในสองชั้นล่างที่เหลือจะต้องทำห้องครัวใหม่ สิ่งที่จะต้องมีเพิ่มเข้าไปคือเครื่องล้างจานนี่แหล่ะ โดยหวังว่าสิ่งนี้จะมาช่วยประหยัดเวลาในชีวิตและแรงงานไปได้อย่างน้อยก็วันละชั่วโมงที่ไม่ต้องยืนล้างจานกองเบ้อเริ่มของคนทั้งบ้าน (ยิ่งวันไหนที่ทำขนมโดยเฉพาะพวกชีสเค้กนี่คือนรกชัด ๆ เพราะครัวที่บ้านไม่มีก๊อกน้ำร้อนไว้ล้างจาน) 

การมีตัวช่วยที่แค่ยัดจานชามหม้อไหมันเยิ้มลงไป กดปุ่ม แล้วเปิดตูดเดินขึ้นห้องมานอน มาอ่านหนังสือ มาดูหนังนั้นคือนิพพาน เพราะการที่เราต้องล้างจานเองทุกวัน วันละชั่วโมง เท่ากับเวลาที่หายไปในชีวิตต่อปีก็ปาเข้าไปประมาณ 15 วัน หรือครึ่งเดือนเลยนะ!!! ก็มานั่งคิดว่าเวลาครึ่งเดือนต่อปีเนี่ยเราเอามาทำงานหาเงินได้ตั้งเท่าไหร่ ตัวปูเป้เองจึงมองว่าการมีเครื่องทุ่นแรงที่ประหยัดเวลาตรงนี้ไปคือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของตัวเอง (แต่สำหรับคนอื่นก็อาจจะคิดต่างไปก็ได้ คือเวลาของเรามีเท่ากัน แต่ว่าคนเราคงตีมูลค่าของเวลาของตัวเองที่มีไว้ไม่เท่ากันล่ะ)

BOSCH เป็นตัวเลือกของเครื่องล้างจานที่ปูเป้จะเอาเข้าบ้านอย่างแน่นอน เพราะหาข้อมูลมาแล้วว่าเขามียอดขายเบอร์หนึ่งของวงการเครื่องล้างจาน และเมื่อดูในแง่ของหลักการทำงานของเครื่องล้างจานแล้วนั้นก็เป็นลูกผสมระหว่างเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าอยู่กลาย ๆ ตรงที่ต้องใช้การออกแบบพลังน้ำและสารทำความสะอาดในการล้าง และใช้การให้ควาใร้อนและควบแน่นของ Condenser เพื่ออบหม้อไหจานชามหลังล้างให้แห้ง ซึ่งที่บ้านก็ใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าของเครือนี้อยู่ ก็เห็นว่าใช้งานได้อย่างดี  ประหยัดไฟ ก็มั่นใจมากขึ้นว่าเครื่องล้างจานก็ต้องทำมาได้ดีสิ และมองว่าเวลาที่เราต้องบำรุงรักษาเราก็ติดต่อศูนย์บริการเดียวกันด้วยแหล่ะ

เครื่องล้างจานของเขามีหลายรุ่นแต่ก็มีเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือแบบที่ฝังไปกับเฟอร์นิเจอร์บิ้วด์อิน กับอีกแบบคือ แบบตั้งพื้น หรือ Freestanding (ในรูปด้านบน) ที่การติดตั้งนั้นง่ายดายไม่ต่างอะไรกับการติดตั้งเครื่องซักผ้า ขอแค่มีปลั้กไฟ ท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้ง (อันนี้ปูเป้ก็พึ่งทราบว่ามันมีแบบนี้ด้วย เพราะเข้าใจมาตลอดว่าเครื่องล้างจานมันต้องเป็นบิ้วด์อิน) โดยส่วนตัวปูเป้จะเลือกแบบ  Freestanding หรือแบบตั้งพื้นมากกว่าเพราะคิดว่าถ้าต้องทำการปรับเปลี่ยนเลย์เอ้าท์ของห้องครัว หรือต้องย้ายจุด มันทำได้ง่ายกว่าแบบบิ้วด์อิน แต่ก็ยอมรับว่าแบบบิ้วด์อินจะกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ครัวมากกว่า อันนี้แล้วแต่คนจะเลือกว่าจะให้  Piority กับเรื่องไหนมากกว่า

สำหรับรุ่นของเครื่องล้างจาน BOSCH นั้นก็มีตั้งแต่  Entry-level อย่าง Series 2 ราคาที่ประมาณเกือบสองหมื่น ไปจนถึงตัวท็อป Series 8 ที่ห้าหมื่นนิด ๆ  ซึ่งโดยส่วนตัวปูเป้เองเล็งตัวท็อป Series 8 เอาไว้เพราะฟังก์ชั่นตอบโจทย์กับตัวเองในหลายด้านหากนำมาเทียบรุ่นที่เล็กลงมา

ความแตกต่างสำคัญในแง่ของการใช้งานคือ Rack  หรือตะกร้าที่มากับเครื่อง เครื่องรุ่นล่างจะมีตะกร้าที่ปรับไม่ได้ รุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อยจะปรับได้เพิ่มขึ้น แต่ตัวท็อปคือปรับรูปแบบการใช้งานได้เยอะที่สุด ซึ่งประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของเครื่องล้างจานสัมพันธ์กับการวางภาชนะที่เอาไปล้างให้ถูกต้องตามหลักการใช้งานที่ถูกต้อง การวางภาชนะให้ไม่มีจุดบอดที่สเปรย์น้ำจะเข้าไปไม่ถึงนั้นสำคัญมาก ดังนั้นการมีตะกร้าที่ปรับได้จะเหมาะกับการใช้งานของปูเป้เองที่มีพวกอุปกรณ์ทำขนม พิมพ์ขนม โถปั่น และอะไรรูปทรงแปลก ๆ นอกเหนือไปจากจานชามปกติ 

รุ่น Series 8 มีเซนเซอร์ และโปรแกรมทำงานอัตโนมัติที่หลากหลายที่สุด เครื่องจะสามารถปรับการทำงานโดยใช้เซนเซอร์วัดว่ามีสิ่งที่ต้องล้างมากแค่ไหน และมีความสกปรกแค่ไหน การใช้งานง่ายเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะกับคุณแม่ เราอยากให้เข้าใจง่าย กดปุ่มออโต้แล้วจบ จะดีกว่า

รุ่นท็อปสุดใน Series 8 เป็นเครื่องรุ่นเดียวที่มี Perfect Dry by Zeolith สามารถอบพวกภาชนะพลาสติก อย่างกล่องพลาสติกที่ใช้เก็บอาหารได้อย่างแห้งสนิท ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเครื่องล้างจานส่วนใหญ่ที่ล้างภาชนะพลาสติกได้แต่อบแห้งไม่ได้ โดยใช้หลักการของการปั้มอากาศที่มีความชื้นหลังจากล้างจานเข้าไปในตัวเก็บแร่ Zeolith ซึ่งเป็นแร่ธรรมชาติ โดยแร่ตัวนี้เมื่อเจอความชื้นจะปล่อยความร้อนออกมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแร่ Zeolith นี้ไม่ต้องเปลี่ยน ใช้ได้ไปตลอดอายุการใช้งานของเครื่อง (ซึ่งเขาบอกว่าเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของเขาเท่านั้น)

แล้วรุ่น Series 8 นี้ก็จะมี  Heat Exchanger ที่เอาความร้อนที่เหลือในการล้างและอบแห้งของเครื่องมาทำให้น้ำในแท้งค์ที่เก็บไว้ข้างตัวเครื่องอุ่นขึ้น เป็นการหมุนเวียนความร้อนในตัวเครื่องมาใช้เพื่อลดการใช้ไฟในการทำน้ำให้ร้อนเพื่อมาล้างจาน การรวมของ Heat Exchanger และการใช้แร่ Zeolith นี้ช่วยประหยัดไฟในการทำงานและทำให้รุ่นนี้ได้รับฮลากประหยัดไฟระดับ A+++ ตามมาตรฐานยุโรป และยังประหยัดไฟได้มากกว่ามาตรฐานไปอีกถึง 10%

คือเรื่องประหยัดไฟเป็นสิ่งที่ปูเป้ให้ความสำคัญ เพราะอุปกรณ์พวกนี้เราไม่ได้ซื้อมาใช้ประเดี๋ยวประด๋าว แต่เราลงทุนแล้วใช้ยาวกันหลักสิบปี เงินที่ประหยัดได้จากการใช้งานในแต่ละวันรวมกันตลอดระยะเวลานี้ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มที่จะลงทุน ไม่อยากเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

นอกจากจากการหาข้อมูลก็พบว่าเครื่องล้างจานยังประหยัดน้ำกว่าการล้างจานด้วยมืออย่างมาก เครื่องล้างจานสมัยนี้ที่ประหยัดน้ำ ใช้น้ำไม่ถึง 8 ลิตร  อย่างของ  BOSCH ในโหมดประหยัดสุด ๆ ใช้น้ำเพียง 6.5 ลิตร ในขณะที่เปิดน้ำก็อกล้างจานให้ไหลเกิน 1 นาทีก็ใช้น้ำมากกว่า 8 ลิตรแล้ว และก็ไม่ได้เปลืองไฟอย่างที่คิดหากเทียบกับความสะอาดและสุขอนามัยที่ได้มา เพราะการล้างและอบด้วยความร้อนช่วยกำจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ได้ และการเป็นระบบปิดของเครื่องล้างจานก็ช่วยลดปัญหากลิ่น แมลง และสัตว์รบกวน ในระหว่างที่จานยังไม่ได้ล้าง และหลังล้างแล้วอีกด้วย

แต่จะใช่ว่าเครื่องล้างจานจะมีแต่ข้อดี  เราก็พบว่าการใช้เครื่องล้างจานก็มีข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายที่เราต้องตระหนักไว้ด้วย

อย่างแรกเลยคือการใช้เครื่องล้างจานไม่ใช่ว่าใส่จานชามไปยังไงก็สะอาด มันมีหลักการในการวางจานชามลงในตะกร้า ถ้าทำไม่ได้ ผลที่ได้ก็จะออกมาไม่ดี ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจถึงหลักพื้นฐานในการโหลดภาชนะเข้าตะกร้าล้างจาน

อย่างที่สองคือ เครื่องล้างจานใช้แรงดันน้ำที่สูงมากในการทำความสะอาดภาชนะเคลือบอย่างเช่นพวกหม้อหรือกระทะเทฟล่อนจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ พวกแก้วหรือจานหรือเซรามิคที่มีเคลือบเงิน เคลือบทอง ตัวเคลือบก็อาจถูกแรงดันฉีดจนหลุดร่อนได้ ต้องพึงระวังว่าของบางอย่างเข้าเครื่องล้างจานไม่ได้ ภาชนะพลาสติกบางอย่างไม่ทนความร้อนและไม่สามารถเข้าเครื่องล้างจานได้ ต้องเช็คให้ดีก่อนเสมอโดยดูจากสัญลักษณ์ Dishwasher Safe ที่ภาชนะ

อย่างสุดท้ายคือ เครื่องล้างจานไม่สามารถใช้น้ำยาล้างจานที่มีขายทั่วไปได้ เครื่องล้างจานถูกออกแบบมาให้ใช้กับผงล้างจาน หรือเม็ดล้างจาน รวมไปถึงน้ำยาแวววาว (ใช้เพื่อลดการเกิดคราบน้ำแห้งติดแก้วหรือภาชนะหากต้องการให้ทุกอย่างอบแห้งแล้วใสกิ้งงงง) ผงหรือเม็ดล้างจานที่วางจำหน่ายกันตอนนี้คือนำเข้ามา ทำให้ราคามันจะสูงกว่าน้ำยาล้างจานทั่วไปที่ผลิตในประเทศอยู่พอสมควรเลยล่ะ (แต่ถ้าใครปกติใช้พวกน้ำยาล้างจานสูตรธรรมชาติที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศอยู่แล้วก็คงไม่รู้สึกว่าราคามันจะต่างกันเท่าไหร่)

 

Refrigerator

การได้มาทำเวิคร์ช็อปที่ BOSCH Experience Center ก็ทำให้ได้เห็นผลิตภัณฑ์ของเขาแบบเห็นภาพรวมมากขึ้น เพราะปกติเวลาเดินห้างเราจะเจอไม่ครบทุกอย่าง ทุกรุ่น หรือถูกตั้งแยกตามประเภทสินค้าซึ่งอยู่คนละที่กัน และบางอย่างก็ได้ทดลองใช้งานด้วยตัวเองด้วย

ส่วนตัวเราใช้ตู้เย็นของเครือนี้อยู่แล้ว ก็ได้มาเห็นว่าเขามีให้เลือกมากมายหลายขนาด และเราพึ่งเห็นว่าเขามีตู้เย็นรุ่นที่เปลี่ยน Cover ของประตูตู้เย็นได้โดยมีให้เลือกตั้ง 19 สีเชียวนะ เรียกว่าอยากได้มู้ดแทนโทนหรือจะแมชกับการออกแบบห้องได้สารพัดรูปแบบ ทำให้ตู้เย็นกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นนึงได้เลย ซึ่งข้างในก็เป็นโมเดลมาตรฐานของตู้เย็น  BOSCH ซึ่งเน้น Bottom-Freezer เป็นหลัก 

ด้านในรุ่นของที่เปลี่ยน Cover ได้และรุ่นที่เปลี่ยนไม่ได้แต่เสป็คเดียวกันก็จะเป็นแบบรูปด้านซ้าย ซึ่งโดยรวมแล้วรุ่นที่ปูเป้เคยซื้อไปเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน ซึ่งเป็นรูปด้านขวา

สิ่งที่รุ่นเก่าของปูเป้ไม่มีน่าจะเป็นในส่วนของช่องเก็บผัก ผลไม้ และเนื้อ รุ่นใหม่ ๆ ที่เราเห็นจะมีเพิ่มในส่วนของเทคโนโลยี VitaFresh (รูปซ้าย) ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นในการเลือกควบคุมระดับความชื้นที่เหมาะกับกับการเก็บผัก หรือเก็บผลไม้ และเนื้อสัตว์ เพิ่มเข้ามา แต่รุ่นที่บ้านเราเป็นแค่ลิ้นชักแต่ไม่มีตัวเลือกคุมระดับความชื้นล่ะ (รูปขวา) โดยเทคโนโลยี VitaFresh อีกสองระดับคือ VitaFresh Plus และ VitaFresh Pro ที่เขาเคลมว่าช่วยรักษาความสดใหม่ได้นานกว่าปกติ 2 และ 3 เท่าตามลำดับ

เหตุผลที่เราเปลี่ยนตู้เย็นที่บ้านเป็น Bottom-Freezer ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนเพราะว่าแต่ละสิ่งอย่างที่เราต้องหยิบใช้บ่อย มักจะเป็นของในช่องแช่ปกติ ซึ่งเมื่อช่องแช่ปกติอยู่ด้านบนก็ทำให้ไม่ต้องก้มเพื่อหยิบของพวกนี้ ทำให้ใช้งานสะดวกและดีกับสุขภาพหลังของคนแก่ที่บ้านล่ะ ซึ่งโดยรวมก็แฮปปี้นะ อยู่มานานไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ทำงานเงียบด้วย ก็คงจะอยู่กับเราไปอีกนาน ไม่มีท่าทีจะพังง่ายๆ  

Oven

ในเวิคร์ช็อปก้ได้ทดลองใช้เตาอบแบบบิ้วด์อินของเขาดู และก็พบว่านอกจากฟังก์ชั่นหลัก ๆในการเป็นเตาอบทั่วไป ไฟบน ไฟล่าง หรือพัดลมความร้อน ที่เราต้องใช้ในการทำขนมตามปกติแล้ว เราพบว่ามีโหมดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่เป็นมือสมัครเล่น ก็คือเทคโนโลยี  PerfectBake ผ่านโหมด Assit หรือตัวช่วย ซึ่งเขาจะใช้เซนเซอร์ในการตรวจจับระดับความชื้น เพื่อปรับเวลา ความร้อนในการอบขนมให้อัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องมาคอยดูเตาว่ามันสุกดีรึยังหรือไหม้แล้วรึเปล่า ซึ่งใช้ง่ายมากเพียงเลือกว่าเราจะอบอะไร อบเค้ก? อบขนมปัง? และใช้ถาดอบขนมแบบไหน ถาดก้นลึก? ถาดทั่วไป? หรือถาดก้นตื้น? นอกจากนี้เครื่องก็ยังให้คำแนะนำว่าควรจะวางถาดอบขนมเอาไว้ที่รางอบชั้นไหนขนมถึงจะสุกพอดีและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อะไรประมาณนี้ แล้วเครื่องก็จะจัดการทุกอย่างให้หมดเลย  

เป็นฟังก์ชั่นที่ตัวปูเป้เองอาจจะไม่ได้ใช้เพราะเราก็เชฟทำขนมเก่านะ แอดวานซ์ (ฮา) แต่ก็ทึ่งในเทคโนยีว่าเดี๋ยวนี้มันทำได้ขนาดนี้เลยนะเนี่ย คิดว่าน่าสนใจเลยมาเล่าให้ฟังเผื่อใครที่อยากทำขนมเองยังไม่มั่นใจในฝีมือแล้วอยากใช้พลังเงินเข้าช่วยก็เก็บไปเป็นตัวเลือกได้

Laundry Area

และสำหรับใครที่โดนปูเป้ป้ายยาและมีเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าอยู่ที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ศูนย์ BOSCH Experience Center ก็มีจำหน่ายไอเทมที่จำเป็นอย่างยิ่งในการรักษาเครื่องซักเครื่องอบผ้าของเราให้มีประสิทธิภาพและคงทนยาวนาน นั่นก็คือผงล้างเครื่องซักผ้า (ใช้ปีละ 2 ครั้ง) กับผงล้างคราบตะกรันในเครื่องซักผ้า (ใช้ปีละครั้ง) เพื่อยืดอายุการใช้งานและทำให้ผ้าที่เราซักสะอาดเอี่ยมอยู่เสมอ กับอีกไอเทมนึงก็คือน้ำยาล้างเครื่องอบผ้าที่จะช่วยล้างพวกขุยและเศษผ้าออกจากระบบ Condenser เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่เปลืองไฟ (แล้วก็ยังมีน้ำยาล้างตู้เย็น กับน้ำยาล้างเตาอบที่เป็น  Food Grade ไม่เป็นพิษ และปลอดภัยกับสิ่งที่ต้องใช้เก็บหรือสัมผัสกับอาหารด้วยล่ะ) เขามีโปรโมชั่นรายเดือนที่เปลี่ยนไปเรื่อย สามารถโทรมาสอบถามได้ หรือถ้าไม่สะดวกมาสั่งทางโทรศัพท์ก็ได้จ้า

ส่วนใครที่ยังไม่มีเครื่องซักผ้าฝาหน้าเลิศ ๆ กับเครื่องอบผ้าที่อัพเกรดคุณภาพชีวิตแบบสุดพลัง ขออย่าได้รีรอ มันดีจริง ๆ เทคโนโลยีเยอรมันไม่ทำให้เราผิดหวัง ใครที่ต้องกล่อมคนที่บ้านหรือคนใกล้ตัวก็สามารถเอา Blog ที่ปูเป้ทำขึ้นมาเพื่ออธิบายความดีงามของการมีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าที่เข้าชุดกัน ได้ที่บทความ My New Laundry Area ได้เลยจ้า

สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาสัมผัสด้วยตัวเอง BOSCH สามารถเนรมิตห้องครัวและโซนซักผ้าของคุณให้เป็นสวรรค์ในบ้านได้อย่างไร ก็สามารถแวะมาที่ BOSCH Experience Center ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 17.30 นะฮะ

สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณทาง  BOSCH Thailand ที่ตอบคำถามของปูเป้พร้อมข้อมูลอย่างละเอียดและให้ปูเป้ถ่ายวีดีโอเพื่อนำเรื่องราวมาบอกต่อ หวังว่าเมื่อปูเป้เริ่มรีโนเวทห้องครัวก็อาจจะมาขอสปอนเซอร์กับทาง BOSCH แล้วก็จะได้รับความกรุณาไม่มากก็น้อย #ขอกันซึ่งๆหน้า #รักBOSCHนะจุ๊บๆ

Related Posts