เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทาง BOSCH เปลี่ยนเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าให้ปูเป้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดล่ะ  ซึ่งบอกตามตรงว่าเขาอยากเปลี่ยนให้ปูเป้มาหลายปีแล้ว แต่ปูเป้ขอรอจนกว่าจะมีรุ่นที่ใส่ฟังก์ชั่นที่อยากได้อย่าง i-DOS และ HomeConnect มาด้วยกัน ซึ่งก็ได้แก่เครื่องซักผ้า BOSCH Series 8 WGB254A0TH ความจุ 10 กิโล เครื่องนี้นี่เอง

โดย i-DOS นั้นเป็นระบบอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับปริมาณผ้า ระดับของสิ่งสกปรก เพื่อเอามาคำนวณปริมาณน้ำ น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่เหมาะสมให้เราโดยอัตโนมัติ ส่วน HomeConnect จะต่อเชื่อมกับแอพในสมาร์ทโฟนที่ช่วยเราดึงศักยภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าออกมาได้มากที่สุด แต่เครื่องซักผ้าตัวนี้ก็ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย และปูเป้อยากเอามาสรุปให้อ่านกันตามนี้ครับ

ซักผ้าแสนง่ายเมื่อมี i-DOS และ โปรแกรมซักอัตโนมัติ

การกะปริมาณน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นเป็นสิ่งที่บรรดาพ่อบ้านแม่บ้านต้องใช้การคาดเดาไปเองมาโดยตลอด การใช้ในปริมาณที่น้อยไปก็ทำให้การซักนั้นไม่มีประสิทธิภาพ การใส่ในปริมาณที่มากไปก็ทำให้สิ้นเปลืองน้ำยา แถมยังเปลืองพลังงานและเปลืองน้ำในการล้างออก เกิดคราบน้ำยาตกค้างบนเสื้อผ้าซึ่งอาจก่อให้เกิดภูมิแพ้และสะสมอยู่ในเครื่องซักผ้าจนเกิดกลิ่นอับตามมา

ระบบ i-DOS ของเครื่องซักผ้า BOSCH จะมีแท้งค์มาให้สองช่องโดยช่องแรก (i-DOS 1) เอาไว้ใส่น้ำยาซักผ้า ส่วนช่องที่สอง (i-DOS 2) สามารถเลือกได้ว่าจะใส่เป็นน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือ น้ำยาซักผ้า  ส่วนตัวปูเป้เป็นคนไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มครับ ก็เลยเลือกให้ i-DOS 1 เป็นน้ำยาซักผ้าแบบออร์แกนิคไม่ค่อยมีกลิ่น ส่วน i-DOS 2 เป็นน้ำยาซักผ้าแบบขจัดคราบและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เอาไว้เลือกใช้ตามความเหมาะสม

(Note : สำหรับคนที่เคยใช้น้ำส้มสายชู / กรดซิตริก แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มมาก่อนหน้านี้ ต้องบอกว่าไม่สามารถใส่ลงไปในช่อง i-DOS 2 ครับ เพราะความเป็นกรดจะสามารถกร่อนชิ้นส่วนที่เป็นโลหะของระบบปั้มน้ำยาได้)

ระบบ i-DOS จะโดดเด่นที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับโปรแกรมซักอัตโนมัติ 40°C (Automatic 40°) เพราะเครื่องซักผ้าจะใช้เซนเซอร์และอัลกอริทึมในการตรวจจับปริมาณของผ้า ประเภทของผ้า ระดับของความสกปรก ตรวจวัดความกระด้างของน้ำ เพื่อคำนวณปริมาณน้ำ  น้ำยาซักผ้า และ น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่เหมาะสม แล้วก็ปั้มน้ำยาใส่ในรอบซักให้เองเลย 

โปรแกรมซักอัตโนมัติ 40c เป็นสิ่งที่ทำให้การซักผ้าในชีวิตประจำวันนั้นสะดวก ง่าย แถมยังประหยัด เพียงแค่โยนผ้าเข้าเครื่อง ปิดประตู เลือกและกดเริ่มโปรแกรมอัตโนมัติ เครื่องซักผ้าจะจัดการให้เราทุกอย่าง พอซักเสร็จแล้วเดี่ยวมันก็แจ้งเตือนผ่านแอพให้เอง

ในกรณีที่เลือกใช้โปรแกรมซักอื่น ๆ อย่างเช่นการซักผ้าฝ้าย การซักผ้าสังเคราะห์ ผ้าหลายชนิด ผ้านวม ตัวระบบ i-DOS จะปั้มน้ำยาในปริมาณที่เราตั้งค่าเอาไว้ ซึ่งเราสามารถปรับปริมาณได้ทั้งทางหน้าปัดเครื่องและผ่านแอพ HomeConnect ครับ

เราสามารถปิดระบบ i-DOS ในกรณีที่ต้องการใช้ผงซักฟอก หรือน้ำยาชนิดพิเศษสำหรับการซักผ้าบางประเภท โดยใช้ช่องใส่ทางด้านซ้ายสุดได้เหมือนกับเครื่องซักผ้าโดยทั่วไป

ส่วนใครจะใช้พวกน้ำยาซักผ้าที่เป็น แคปซูล เจลบอล หรือผงซักฟอกแบบแท่ง ก็ใส่เข้าไปในตัวถัง ปิดระบบ i-DOS และเลือกโปรแกรมซักด้วยตัวเองครับ

Home Connect 

อุปกรณ์ของ BOSCH ที่รองรับ HomeConnect จะสามารถเชื่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าของเราเข้ากับอินเตอร์เน็ตผ่าน Wifi Router ของบ้าน โดยเราสามารถควบคุม ตั้งค่า ได้รับการแจ้งเตือนที่จำเป็น และทำอะไรได้อีกมากมายผ่านแอพในสมาร์ทโฟน

ข้อดีของ HomeConnect ก็คือเราสามารถเข้าถึงการตั้งค่าและตัวเลือกเสริมที่มีนอกเหนือจากบนแผงหน้าจอเครื่องซักผ้าครับ อย่างเช่นโปรแกรมซักในแอพก็จะมีให้เลือกมากขึ้นอย่างเช่นโปรแกรมซักผ้าม่าน ซักผ้าสีเข้ม/ผ้ายีนส์ เป็นต้น และยังสามารถโหลดโปรแกรมซักมาเพิ่มได้ อย่างโปรแกรมซักเสื้อผ้าและผ้าอ้อมเด็ก

นอกจากมีโปรแกรมซักที่มากขึ้นแล้ว ตัวแอพยังทำให้สามารถปรับแต่งโปรแกรม (Option) ได้มากขึ้นหรือละเอียดขึ้น อย่างเช่น

– ระบบ AntiStain ที่จะไปปรับแต่งโปรแกรมซักให้เหมาะกับชนิดของคราบสกปรก ในแอพจะมีให้เลือกมากถึง 16 ชนิด ในขณะที่บนหน้าจอของเครื่องซักผ้าจะมีให้เลือกแค่ 6 ชนิด

– ตัวเลือก Extra Rinse หรือเพิ่มรอบการล้างน้ำหลังการซัก ในแอพสามารถเลือกจำนวนรอบที่จะเพิ่มในการล้างได้สูงสุดถึง 3 ในขณะที่ถ้าเราเลือกบนหน้าปัดเครื่องจะเพิ่มได้แค่รอบเดียวครับ

– ตัวเลือก Water Plus หรือการเพิ่มปริมาณน้ำในการซักเพื่อช่วยถนอมผ้ามากขึ้น คุณสมบัตินี้เคยมีอยู่ในเครื่องซักผ้ารุ่นเก่าของเขาและถูกตัดออกไปเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องปุ่มบนแผงหน้าจอเครื่องซักผ้า แต่พอมี HomeConnect ก็สามารถใส่คุณสมบัติที่เครื่องสามารถทำได้มาอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องถูกจำกัดด้วยเรื่องปุ่มบนแผงหน้าจออีกต่อไป

นอกจากนี้ถ้าเราใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าที่รองรับ HomeConnect ทั้งคู่ ก็จะสามารถใช้คุณสมบัติของ Smart Dry ในเครื่องอบผ้าได้ โดยเมื่อเรากดปุ่มนี้เครื่องอบผ้าจะทำการคุยกับเครื่องซักผ้าของเราว่าผ้าที่แกพึ่งซักเสร็จมาอ่ะ ควรเอามาอบด้วยโปรแกรมอะไรต่อถึงจะเหมาะ  ซึ่งปูเป้เคยเขียนเอาไว้ในรีวิวเครื่องอบผ้า BOSCH Series 8 Tumble Dryer – WQB245B0TH แล้วครับ

โดยรวมปูเป้ชอบการปรับแต่งที่มากขึ้นเมื่อเชื่อมกับแอพ HomeConnect เพราะมันมีโปรแกรมเอาไว้ซักของที่ต้องดูแลแตกต่างจากเสื้อผ้าปกติในชีวิตประจำวัน  และในกรณีที่คาดไม่ถึงที่เนทล่ม เซิฟเวอร์ล่ม จนเราไม่สามารถเข้าถึงโปรแกรมหรือการปรับแต่งบางอย่างที่มีให้เลือกเฉพาะในแอพได้  การใช้งานในชีวิตประจำวันโดยทั่วไปก็สามารถใช้งานจากโปรแกรมพื้นฐานจากบนแผงหน้าปัดเครื่องได้ครับ

Mini Load & Iron Assist

เครื่องซักผ้าตัวนี้ยังมีอีกสองคุณสมบัติที่ปูเป้ยังไม่เคยใช้มาก่อน อย่างแรก Mini Load ซึ่งเป็นตัวเลือกเสริมที่เข้าถึงได้จากแอพ Home Connect จะปรับแต่งโปรแกรมซักที่เลือกนั้นเหมาะสมกับการซักผ้าปริมาณน้อยไม่เกินครึ่งกิโล โดยลดการใช้น้ำและพลังงานจากการซักปกติได้สูงสุด 40%

ปูเป้คิดว่าสิ่งนี้เหมาะกับการซักชุดที่ไม่อยากดองเก็บไว้ อย่างเช่นชุดออกกำลังกายที่เปียกเหงื่อชุ่มโชก หรือเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบสกปรก ซึ่งถ้าหมกไว้จะมีกลิ่นเหม็นอับหรือคราบอาจแห้งติดแน่นยิ่งขึ้น  หรือในกรณีของปูเป้ที่เป็นคนไม่ค่อยใส่เสื้อผ้าสีขาวเท่าไหร่ ก็สามารถแยกซักผ้าขาวปริมาณเล็กน้อยด้วย Mini Load เพื่อประหยัดพลังงานได้ครับ

ส่วน Iron Assist เป็นโปรแกรมที่ใช้ไอน้ำในการช่วยให้ผ้าที่แห้งและสะอาดแต่ยับยู่ยี่คลายตัวออก หลังจากจบโปรแกรมตัวผ้าจะมีความชื้นอยู่เล็กน้อยและสามารถนำไปรีดต่อได้ง่ายขึ้น แต่ข้อจำกัดคือโปรแกรมนี้สามารถใส่ผ้าได้ไม่มาก (เสื้อยืด 1-2ชิ้น เสื้อเชิ้ตทำงานไม่เกิน 5 ชิ้น) แถมยังใช้เวลาถึง 23 นาทีในการทำงาน ปูเป้คิดว่าโปรแกรมนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่กับคนที่มีเตารีดไอน้ำดี ๆ อยู่ที่บ้านครับ

การดูแลรักษาเครื่องซักผ้าของ BOSCH

ปูเป้จะดูแลเครื่องซักผ้าตัวนี้ในแบบที่เคยทำกับครื่องซักผ้า BOSCH ตัวเก่าที่อยู่ด้วยกันมา 6 ปีโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาน้องไม่เคยมีปัญหาที่ต้องเรียกช่างมาจัดการจะมีก็แค่ปัญหาเล็กน้อยอย่างมีเศษเหรียญลงไปขัดกับใบพัดของระบบปั้มน้ำทิ้งซึ่งเราสามารถจัดการแก้ไขด้วยตัวเองครับ

และแม้จะไม่เคยแกะเครื่องล้างถัง (เพราะเครื่องซักผ้าแบรนด์นี้ทำไม่ได้) แต่ว่าปูเป้ก็ไม่เคยเจอปัญหาซักผ้ามาแล้วไม่สะอาดหรือมีคราบมีเศษดำ ๆ ไม่เหม็นอับ และเชื้อราไม่เคยขึ้นยางซีล เพราะปูเป้ใช้งานและดูแลรักษาตามด้านล่างนี้ครับ

แง้มบานประตูเครื่องเอาไว้ตลอดเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อระบายอากาศและความชื้น  ถ้ามีการใช้พวกเจลบอลซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ควรเอาผ้าเช็ดทำความสะอาดตรงยางซีลเป็นระยะ ถ้าทำแบบนี้ก็จะไม่มีกลิ่นอับและไม่มีเชื้อราครับ

ปูเป้ไม่ได้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มครับ เพราะผงซักฟอก/น้ำยาซักผ้าสมัยใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ผ้ากระด้างอะไรเหมือนแต่ก่อน อีกอย่างเรามีเครื่องอบผ้า เข้าเครื่องอบผ้าก็ทำให้ผ้านุ่มฟูพอแล้ว ผ้าก็แห้งไม่เหม็นอับ จึงไม่ต้องเอาอะไรมากลบกลิ่น และไม่ตีกับกลิ่นน้ำหอมที่เราฉีด 

พอไม่ได้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเครื่องซักผ้าก็เลยไม่ค่อยสกปรกหรือมีคราบเหนียวสะสมของน้ำยาปรับผ้านุ่มซึ่งเป็นสาเหตุของคราบสกปรก กลิ่นอับ และเชื้อรา  แต่ใครที่อยากใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็แนะนำว่าอย่าใช้ในปริมาณที่เยอะเกินไป หรือปล่อยให้ระบบ i-DOS กับโปรแกรมซักอัตโนมัติ 40c ช่วยคำนวณปริมาณน้ำยาให้เองจะดีที่สุดครับ

ใช้โปรแกรมล้างเครื่องตามที่เครื่องแจ้งเตือน โดยโปรแกรมล้างจะใช้น้ำร้อนที่อุณภูมิสูงมากถึง 90c  และควรใช้ร่วมกับผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้า  กับผงขจัดตะกรัน

– ส่วนที่ใส่น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นไปได้ก็ถอดออกมาทำความสะอาดสักปีละ 1 – 2 ครั้ง หรือเมื่อเห็นว่ามีคราบสกปกเกาะ จะทำความสะอาดง่ายกว่าปล่อยให้มันสะสมไปเยอะ ๆ ครับ

บทสรุป – เครื่องซักผ้าที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะ

จากการใช้งานมาระยะหนึ่ง ต้องบอกว่าเครื่องซักผ้า BOSCH Series 8 WGB254A0TH ช่วยให้การซักผ้าในชีวิตประจำวันนั้นสะดวกสบายและง่ายแบบขั้นสุด และเหมาะกับคนแก่โลว์เทคที่บ้านอย่างมาก เพราะปูเป้ไม่ต้องสอนอะไรเยอะในการใช้งาน ก็แค่ยัดผ้าเข้าไป เลือกโปรแกรมซักอัตโนมัติ กดปุ่มเริ่มการทำงาน ซักเสร็จย้ายผ้าเข้าเครื่องอบ กดปุ่ม Smart Dry แค่นี้การซัก-อบ เสื้อผ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปก็จัดการได้แล้ว ไม่ต้องมาบ่นเวลาเจอปัญหาเขาใส่น้ำยาน้อยไปจนผ้าไม่ค่อยสะอาด หรือใส่เยอะไปจนสิ้นเปลืองหรือเป็นคราบและตกค้าง แล้วเวลามีปัญหาหรือต้องการซักหรืออบผ้าที่เฉพาะเจาะจงหน่อย อย่างเช่นพวกผ้านวม ผ้าบอบบาง ชุดกันหนาว ผ้าม่าน แม้เราจะไม่อยู่บ้านเราก็สามารถรีโมทมาสั่งงานแทนเขาได้ผ่านแอพได้ครับ

ปัญหาที่พบเจอในการใช้งานที่ผ่านมา ตอนนี้ปูเป้เจอแค่เรื่องโปรแกรมล้างเครื่องซักผ้า (Drum Clean) มันหายไปจากในแอพหลังอัพเดทและคิดว่าถ้ารออัพเดทอีกรอบน่าจะกลับมาเป็นปกติครับ นอกนั้นก็ยังไม่เจอปัญหาอะไร เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของ BOSCH เป็นตัวที่ปูเป้ไว้วางใจอยู่แล้วเรื่องความทนทาน ถ้าเราใช้งานและดูแลรักษาตามที่ควรทำ มันจะอยู่กับเราไปอีกนานเลยล่ะ

แน่นอนว่าเครื่องซักผ้าของเขามีหลายรุ่น ถ้าคิดว่าถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา และความสะดวกสบาย ง่าย เป็นสิ่งที่คุณต้องการ ก็ต้องบอกว่า BOSCH Series 8 WGB254A0TH นั้นตอบโจทย์ในทุกอย่าง

แต่ถ้าต้องการความสะดวก แต่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการต่อแอพ และไม่ได้มีโครงการจะใช้เครื่องอบผ้าที่รับรอง Home Connect เพื่อที่จะมาใช้คู่กัน  ปูเป้คิดว่า Series 6 ที่มีระบบ i-DOS ก็เพียงพอกับการใช้งานในแต่ละวัน

ส่วนใครที่กำลังจะเล็งเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าเข้าบ้าน อยากคุมบัตเจต  ปูเป้แนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้า Series 4 ที่มีขนาดถัง 9 – 10 กิโล รอบปั่น 1200 – 1400 รอบก็เพียงพอกับการใช้งาน แล้วเอางบที่เหลือไปลงทุนกับเครื่องอบผ้าระบบฮีตปั้มของ BOSCH เพื่อเน้นความประหยัดไฟ ก็เป็นการเกลี่บงบที่มีจำกัดได้อย่างคุ้มค่าครับ

สำหรับใครที่สนใจ ก็สามารถไปซื้อได้ตามสะดวกในช่องทางต่าง ๆ มากมาย หากเป็นช่องทางของแบรนด์โดยตรงจะเป็นที่  BOSCH Home Appliances Official Store ทั้งใน Lazada และ Shopee หรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายอื่น ๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ไม่ว่าจะ BOSCH Flagship Store /  บุญถาวร / PowerBuy / HomePro / SiamTV / PowerMall และซึ่งสามารถดูได้จากเวปไซต์ของ BOSCH Thailand ครับ