หลังจากที่ปีที่ผ่านมา ปูเป้ได้ทดลอง Divinia : Amino Acid Facial Cleanser และจัดให้เป็น PuPe’s Favorite 2012 ในหมด Facial Cleanser ราคาไม่แพงแล้ว พอได้ข่าวว่าทาง Divinia จะส่งผลิตภัณฑ์ออกใหม่ในกลุ่ม Amino Acid ออกใหม่มาให้ ก็เลยตกปากรับคำมาทดลองทันที

 photo DiviniaPowder01.jpg
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะวางจำหน่ายในร้าน Watson ทั่วประเทศก็คือ Divinia : Amino Acid Cleansing Milk (180ml / 380 THB) และ Divinia : Amino Acid Whitening Cleansing Powder (70g / 380 THB) โดยเขาบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไต้หวัน (Divinia เป็น House Brand ของ Watson ที่ไต้หวัน) ซึ่งปูเป้ไม่เคยไปเหยียบที่ประเทศนั้นก็ไม่รู้หรอกเนอะว่ามันนิยมโด่งดังขนาดไหน

 photo DiviniaPowder02.jpg
ผลิตภัณฑ์ที่ปูเป้เลือกเอามาทดลองและนำมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ Divinia : Amino Acid Whitening Cleansing Powder (70g / 380 THB) อย่างแรกก็เพราะปูเป้ไม่ค่อยได้ใช้พวก Cleansing Milk เท่าไหร่ และอีกเหตุผลหนึ่งคือรูปแบบผลิตภัรฑ์ทำความสะอาดผิวแบบผง เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครทำออกมาขายนัก (เคยมีของ DHC และ Fancl ซึ่งปัจจุบันกลับบ้านเก่าไปหมดแล้ว)

 photo DiviniaPowder03.jpg
พอแกะซีลออกมา เราต้องบิดเปิดฝาขวดเพื่อเอาจุกข้างในออกก่อนจึงจะเทผลิตภัณฑ์ออกมาได้ ปูเป้แนะนำว่าถ้าจะพกพาไปใช้ระหว่างเดินทางก็ควรเก็บจุกเอาไว้ เพื่อลดโอกาสที่ผลิตภัณฑ์จะหกออกมาในระหว่างการเดินทาง

 photo DiviniaPowder04.jpg
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นผงค่อนข้างละเอียด สามารถละลายเข้ากับน้ำได้ง่าย ผงนี้ทำจาก Talc ซึ่งเป็นผงแป้งที่ใช้ในแป้งฝุ่นเด็ก หรือแป้งทาหน้าทั่วไป ผงแป้งอีกชนิดหนึ่งคือแป้งข้าวโพด

สารทำความสะอาดมีทั้งหมด 4 ชนิด โดยตัวหลักคือ Sodium Stearoyl Glutamate หรือ Eumulgin® SG เป็นสารทำความสะอาดประจุลบชนิดอ่อนโยน (สารตัวนี้มีลักษณะเป็นผงละเอียดอยู่แล้ว จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการทำผลิตภัณฑ์แบบผง)

ตัวรองคือ Sodium Cocoyl Isethinoate และ Sodium Cocoyl Glutamate ที่มีความอ่อนโยนเช่นกัน ตัวที่มีปัญหาคือ Sodium Lauryl Sulfate ซึ่งหากมีในปริมาณสูงก็สามารถก่อการระคายเคืองและทำให้ผิวแห้งได้ (ส่วนเรื่องข่าวที่ว่าสารตัวนี้จะก่อมะเร็งได้นั้น ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะบ่งชี้แบบนั้นครับ)

โดยส่วนตัวปูเป้เองยังไม่เคยสูตรของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดผงมาก่อน ไม่แน่ใจว่าสักส่วนของสารทำความสะอาดคร่าว ๆ ควรจะเป็นเท่าไหร่ แต่คิดว่าทางแบรนด์น่าจะมีทางเลือกของสารทำความสะอาดตัวอื่นที่จะใช้แทน Sodium Lauryl Sulfate ได้

ส่วนผสมของ Papain หรือเอนไซม์จากมะละกอนั้นน่าจะมีความเสถียรในรูปของผงแห้ง แต่จะช่วยผลัดเซลลืผิวได้ดีแค่ไหน เมื่อนำมาล้างหน้าในเวลาไม่ถึง 60 วินาทีนี่ยังไม่มีใครรู้ สำหรับ Tranxamic Acid นั้นเป็นส่วนผสมที่ใช้เคลมเรื่องคุณสมบัติของการเป็นไวท์เทนนิ่ง แต่ในปริมาณเล้กน้อยปูเป้ก็คิดว่าเราคงจะหวังในส่วนนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่อยู่ดี

 photo DiviniaPowder05.jpg
ด้วยความชอบส่วนตัว ปูเป้มักจะตีฟองให้ฟู ๆ ก่อนที่จะล้างหน้า ซึ่งผงแป้งตัวนี้ถ้าตีด้วยมือจะไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ ต้องใช้ตาข่ายตีฟองช่วยจึงจะได้ตามแบบในรูป แต่ฟองที่ได้ก็จะไม่แน่นเท่าไหร่นัก

ในแง่ของประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ก็ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก คือสามารถล้างกันแดดและ BB Cream ที่เบา ๆ ออกได้ แต่ BB Cream ที่หนักหน่อย รองพื้น หรือเมคอัพอื่น ๆ ก็เอาไม่ออกแน่นอน เพื่อความมั่นใจว่าเราจะทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ปูเป้คงจะแนะนำให้ทำการล้างหน้าสองขั้นตอน ด้วยตัวล้างเครื่องสำอางก่อนแล้วตามด้วย Divinia : Amino Acid Whitening Cleansing Powder

ผงแป้งล้างหน้าตัวนี้สามารถล้างน้ำออกได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบลื่นใด ๆ เลยบนผิว โดยส่วนตัวคิดว่าเหมากับคนที่มีผิวผสมถึงผิวมัน และมันม๊ากกกกกกก ไม่เหมาะกับผิวที่ค่อนไปทางแห้ง ขาดน้ำ หรือ มีการระคายเคืองของผิวอยู่

Ingredients : Talc, Zea Mays Strach, Sodium Stearoyl Glutamate, Sodium Lauryl Sulfate, Sodium Cocoyl Isethinoate, Hydrated Silica, Sodium Cocoyl Glutamate, Fragrance, Papain, Glycine, Ascorbic Acid, Disodium EDTA, Methylparaben, Tranxamic Acid.

 photo DiviniaPowder06.jpg
โดยภาพรวมแล้ว Divinia : Amino Acid Whitening Cleansing Powder เป็นการนำเสนอรูปแบบทางเลือกในการทำความสะอาดผิว ด้วยสูตรที่ปราศจากน้ำทำให้มีน้ำหนักเบา พกพาไปใช้ได้ง่าย ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกและความมันอยู่ในเกณฑ์ดีมาก การทำความสะอาดเมคอัพไม่ดีนัก เหมาะกับผิวที่ค่อนไปทางมัน แต่ไม่เหมาะกับผิวที่แห้งหรือขาดความชุ่มชื้นเพราะมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นอยู่น้อย จากความรู้สึกส่วนตัว ปูเป้ยังชอบตัว Divinia : Amino Acid Facial Cleanser มากกว่าตัวนี้อยู่ดีล่ะ

ประเด็นเรื่องสารทำความสะอาด ปูเป้คิดว่าทางแบรนด์สามารถปรับใช้ตัวอื่นได้นอกจาก Sodium Lauryl Sulfate ถึงแม้จะไม่ใช่สารทำความสะอาดหลัก และหลังจากการทดลองใช้ส่วนตัวของปูเป้เป้ที่มีผิวผสมค่อนไปทางมัน ก็ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งกร้าน แต่การปรับไปใช้สารทำความสะอาดตัวอื่นจะทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ดูดีขึ้นกว่านี้ และถ้าเลือกใช้สารทำความสะอาดกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ Sulfate ก็สามารถเคลมเรื่อง Sulfate-Free ซึ่งเป็นผลบวกเชิงการตลาดได้ด้วย

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

– ทำความสะอาดคราบมันและสิ่งสกปรกได้ดี
– ไม่ทิ้งคราบลื่นหลังล้างหน้า
– เหมาะกับผิวผสม ผิวมัน ผิวมันมาก
– รูปแบบผงแป้ง น้ำหนักเบา พกพาไปใช้นอกสถานที่ได้ง่าย

ข้อเสีย

– มีส่วนผสมของน้ำหอม
– สารทำความสะอาดรองอย่าง Sodium Lauryl Sulfate มีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
– ไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง

***Sponsored Item***

Divinia : Amino Acid Whitening Cleansing Powder