ในปีนี้ทาง Eucerin ได้ออกเซรั่มลดเลือนจุดด่างดำตัวใหม่มาแทนที่ตัวเก่าที่หลายคนชื่นชอบในผลที่ได้แต่อาจจะมีขัดใจบ้างกับขวดปั๊มแบบ 2 เนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางทีก็ปั๊มออกแค่ข้างเดียว รุ่นใหม่นี้มาเพื่อแก้ปัญหานั้นนี่แหล่ะ
ตัวใหมนี้มาในขวดปั๊มแบบ Airless แบบเดี่ยว นั่นหมายถึงว่าสูตรของเซรั่มลดจุดด่างดำ และเซรั่มไฮยาลูรอนถูกรวมเป็นสูตรเดียวกันมาแล้วนั่นเอง ซึ่งเอาจริง ๆ ปูเป้เองก็เคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่ามันสามารถผสมรวมกันมาแต่แรกก็ได้ แต่การแยกเป็น 2 ส่วนมันมีผลในเชิงการตลาดเรื่องแพคเกจจิ้งที่ดึงดูดความสนใจมากกว่า
ส่วนผสมข้างกล่องของ Eucerin : SPOTLESS Brightening Booster Serum (30ml / 2,100 BAHT) แม้ว่าจะเรียงเหมือนกับสูตรเก่าของปี 2019 แต่ทาง R&D ของแบรนด์ยืนยันกับปูเป้มาแล้วว่าในสูตรปี 2021 ใหม่ล่าสุดนี้มีมีการปรับสัดส่วนของสารสำคัญข้างใน เพียงแต่การปรับเปลี่ยนนั้นไม่ได้ส่งผลต่อการเรียงลำดับของส่วนผสมข้างกล่อง ครับ
โดยส่วนผสมหลักก็ยังคงเป็น Isobutylamido Thiazolyl Resorcinol หรือ Patented THIAMIDOL (หลังจากนี้จะขอเรียกว่า THIAMIDOL) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ถูกพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Beiersdorf เจ้าของแบรนด์ Eucerin โดยสารตัวนี้มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลออกมาเรื่อย ๆ ในเรื่องของการลดเมลานินและการลดเลือนจุดด่างดำประเภทกระ ฝ้า ที่ให้ผลดีมาก และในปีนี้มีการศึกษาที่วัดเรื่องจุดด่างดำจากการอักเสบอย่างรอยดำจากสิว (PIH หรือ Post Inflammatory Hyperpigmentation) ออกมาด้วย
งานวิจัยนี้แบ่งการศึกษาไว้เป็น 3 ส่วน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ผสม THIAMIDOL แบบเดียวกับที่เราซื้อใช้กันนี่แหล่ะ ซึ่งการศึกษาส่วนที่ 2 และ 3 เป็นการทดสอบในกลุ่มที่มีสีผิวเข้มซึ่งเกิดปัญหา PIH ได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวขาวด้วย และผลออกมาก็ค่อนข้างน่าพอใจโดยความเข้มของรอยดำจากสิวหลังการอักเสบ (รอยแดง) หายแล้ว จางลงอย่างสังเกตได้ใน 12 สัปดาห์
สำหรับส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate นั้นน่าจะเหมือนกับตัวก่อนหน้าคือมี 2 ขนาด โดยขนาดที่เล็ก 52kDa จะช่วยให้ความชุ่มชื้นในชั้นที่ลึกลงไป และตัวที่มีขนาดใหญ่ 2000kDa จะเป็นเหมือนตัวที่อุ้มความชุ่มชื้นที่ผิวด้านนอก
การศึกษาที่พึ่งออกมาในปีนี้ทำการทดสอบว่าการใช้ THIAMIDOL + Sodium Hyaluronate กับ THIAMIDOL อย่างเดียว และ Sodium Hyaluronate ซึ่งผลออกมาว่าในแง่ของความเข้มข้นของเมลานินในกลุ่มที่มี THIAMIDOL นั้นลดเมลานินได้ดี แต่กลุ่มที่ใช้ THIAMIDOL + Sodium Hyaluronate มีได้ผลที่เหนือกว่าในแง่ของความสม่ำเสมอของการกระจายตัวของเมลานินอีกด้วย
ส่วนผสมอื่น ๆ ได้แก่ Licochalcone A หรือ Glycyrrhiza Inflata Root Extract เป็นตัวช่วยที่ต้านการอักเสบและลดการเกิด PIH ให้น้อยลงตั้งแต่แรก กับ Glucosylrutin กับ Isoquercitrin กับ วิตามินซีและอีในรูป Sodium Ascorbyl Phosphate กับ Tocopherol ที่มาช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ในสูตรยังคงมี Alcohol Denat. เป็นตัวทำละลาย และมี Octocrylene เป็นสารดูดซับรังสียูวี (อาจจเพื่อปกป้องตัวสูตร) และยังคงมีน้ำหอมที่ไม่มี Common Fragrance Allergen ตามกฏหมายของยุโรปเช่นเดิม
(Source : Polymorphous light eruption (PLE) and a new potent antioxidant and UVA-protective formulation as prophylaxis., [Alpha-glucosylrutin, a highly effective flavonoid for protection against oxidative stress]., Alpha-glucosylrutin plus licochalcone A: Enhanced protective efficacy in PLE, Licochalcone A activates Nrf2 in vitro and contributes to licorice extract‐induced lowered cutaneous oxidative stress in vivo, Stabilization of formulations containing alpha-glucosyl rutin, Cosmetic or dermatological preparation containing isoquercitrin as antioxidant and radical scavenger, useful for protection of skin or hair)
Ingredients : Aqua, Alcohol Denat., Butylene Glycol, Glycerine, Octocrylene, Isopropyl Palmitate, Cetearyl Isononanoate, Distarch Phosphate, Methylpropanediol, Isobutylamido Thiazolyl Resorcinol, Sodium Ascorbyl Phosphate, Sodium Hyaluronate, Glycyrrhiza Inflata Root Extract, Tocopherol, Glucosylrutin, Sodium Stearoyl Glutamate, Glyceryl Stearate, Sodium Polyacrylate, Dimethicone, Isoquercitrin, Citric Acid, Sodium Chloride, Trisodium EDTA, Caprylyl Glycol, Phenoxyethanol, Parfum.
ในแง่ของเนื้อสัมผัสนั้นบอกได้แค่ว่าตัวมที่ออกมาในปี 2021 นั้น ต่างจากสูตร ที่ออกมาในปี 2019 ที่เป็น 2 chambers ครับ เมื่อนำสูตรของปี 2019 กดมาผสมกันเป็นเนื้อเดียว จะพบว่ามีความบางกว่าสูตรของปี 2021 ที่ จะมีความข้นและมีความหนืดบนผิวมากกว่าอย่างชัดเจนเมื่อมองด้วยตาเปล่า หรือสัมผัสได้จากการใช้
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ปูเป้ได้นำสูตรของปี 2019 ที่ผสมกันแล้ว มาเทียบกับสูตร 2021 ในปริมาณเท่ากัน มาทำการทดลองเพื่อให้เห็นว่า viscosity หรือความหนืดของสูตรใหม่มีมากกว่า
ส่วนตัวปูเป้คาดว่า สูตรปี 2019 นั้นมีการแยกส่วนของ THIAMIDOL สีเหลืองอ่อนเอาไว้ในหลอด 15 ml กับส่วนของ Hyaluron เจลใส ๆ ที่มีความเข้มข้นตามที่กำหนดในหลอด 15ml เมื่อกดสองส่วนออกมารวมผสมกันอย่างละครึ่ง สัดส่วนของ THIAMIDOL และHyaluron จะจางลง
แต่ในสูตร 2021 ไม่มีการแบ่งเป็นสองส่วนที่แยกกัน เราจึงน่าจะจะได้เซรั่ม 30ml ที่มี THIAMIDOL ตามความเข้มข้นเท่าที่เขาใช้ในการวิจัยมาเลยแต่แรก รวมไปถึงความเข้มข้นของ Hyaluron ที่ไม่เจือจางลง และนี่สามารถอธิบายความข้นของเนื้อเซรั่มสูตร 2021 ได้ เพราะว่า Sodium Hyaluronate ยิ่งเข้มข้นขึ้นยิ่งมีความเป็นเจลมากขึ้นครับ
ซึ่งมองในแง่ของความเข้มข้นของสารบำรุง สูตรของปี 2021 ที่ออกมาใหม่นี้ดีขึ้นเพราะเราจ่ายเงินเท่าเดิมแต่ได้สารบำรุงตัวหลักมากกว่าเดิมครับ แต่เมื่อมองในแง่ของเนื้อสัมผัสของการใช้งานปูเป้พบว่ามันมีความหนึบเพิ่มขึ้น ซึ่งคนที่มีการใช้สกินแคร์ตัวอื่น หรือแบรนด์อื่น ที่มีเนื้อเป็นเจล ๆ หรือเนื้อเซรั่มกึ่งเจลร่วมด้วย จะสัมผัสได้ถึงความหนึบหนับผิวที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสูตรเดิม ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการใช้อยู่เหมือนกัน
สำหรับผลในการใช้งาน ปูเป้มีรอยสิวเก่าที่การอักเสบหายไปนานเกิน 2 สัปดาห์แล้ว ยังเหลือรอย PIH อยู่บ้าง พบกว่าการใช้ Eucerin : SPOTLESS Brightening Booster Serum เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ช่วยรอยที่เป็น PIH จางลงได้ ตรงนี้ก็ถือว่าน่าพอใจ แต่ส่วนที่เป็นขี้แมงวัน และกระ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตุด้วยตาเปล่าได้ ซึ่งปกติรอยพวกนี้ต้องใช้เวลาในการดูผลที่นานกว่านี้อยู่แล้วครับ
ส่วนตัวปูเป้รู้สึกว่าจุดด่างดำที่จัดการยากจริง ๆ อย่างพวกกระหรือฝ้า ก็จะแนะนำเป็นตัว Eucerin : SPOTLESS Brightening Spot Corrector ที่มี THIAMIDOL ที่เข้มข้นกว่าในเซรั่มนี้อีกเท่าตัวนึง และมีเนื้อที่ค่อนข้างบางเบามาก ใช้แต้มทาจุดด่างดำเฉพาะจุดหรือเฉพาะบริเวณครับ
โดยสรุปแล้ว Eucerin : SPOTLESS Brightening Booster Serum เป็นการปรับปรุงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องแพคเกจให้ใช้ง่ายขึ้น และดูเหมือนว่าเราจะได้สูตรที่สารบำรุงหลักเข้มข้นขึ้นด้วยในราคาเท่าเดิม ซึ่งความเข้มข้นนี้สอดคล้องโดยตรงกับผลลัพธ์ที่ได้
แต่เนื้อสัมผัสที่มีความหนึบขึ้นนั้นอาจจะไม่เป็นปัญหาหากใช้สกินแคร์ในขั้นตอนของทาง Eucerin เอง แต่สำหรับสาย mix & match จะพบว่าเนื้อที่หนึบขึ้นทำให้ sensory โดยรวมของการเลเยอรสกินแคร์มีความไม่ค่อยสบายผิวเพิ่มขึ้นครับ ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่ถ้าปรับแก้ได้จะดีมากคือในแง่ของ texture / sensory
แต่อย่างที่บอกครับว่าถ้าใครชอบผลที่ได้จาก THIAMIDOL ที่ลดเลือนจุดด่างและรอยดำจากสิวดำได้ดีจริง ๆ แต่ไม่ชอบความหนึบ ๆ ผิว ก็แนะนำเป็นตัว Eucerin : SPOTLESS Brightening Spot Corrector ที่เป็นหนึ่งในดวงใจของปูเป้จ้า
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
Eucerin : SPOTLESS Brightening Booster Serum
Price : 30ml / 2,100 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Whitening / Hydration / Antioxidant
- ให้ผลที่ดีในการลดจุดด่างดำโดยเฉพาะรอยสิว
- แพคเกจใหม่หมดปัญหาเรื่องปั้มไม่ออก
- เหมือนว่าเราจะได้ส่วนผสมที่เข้มข้นขึ้นในราคาเท่าเดิม
- เนื้อสัมผัสมีความหนึบผิวไปหน่อย
- มีส่วนผสมของน้ำหอม