ใครที่พบว่าเวลานั่งเท้าคางนาน ๆ แล้วผิวเป็นรอยยับ นอนตื่นมาแล้วหน้าเป็นรอยหมอน หรือใส่หน้ากากอนามัยหน้ากากกันฝุ่นแล้วเป็นร่องจากการกดทับค้างอยู่หลายสิบนาทีก็ยังไม่หายไปหมด นั่นคือสัญญาณของริ้วรอยว่าผิวมีการคืนตัวที่ช้าลงเพราะโครงสร้างข้างในชั้นผิวเริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลาและจากสภาพแวดล้อม แต่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ IPSA ช่วยได้แบบเห็น ๆ เลยล่ะ
นับตั้งแต่ญี่ปุ่นได้กำหนดมาตรฐาน Anti-Aging Quasi-Drug และมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองครั้งแรกในปี 2017 ตอนนี้ตลาดผลิตภัณฑ์ Anti-Aging ในญี่ปุ่นคึกคักเป็นพิเศษ และเครือชิเซโด้ก็เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เข็นผลิตภัณฑ์ Anti-Aging Quasi-Drug มาสู่ท้องตลาดด้วยส่วนผสมที่ทางเครือให้ความสำคัญและศึกษามากว่า 30 ปีอย่าง Retinol ซึ่งตลอดช่วง 3 ปี มานี้แบรนด์ในเครือก็มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Retinol ออกมากันเรื่อยๆ แต่แบรนด์ที่เราตั้งตารอที่สุดก็คือของ IPSA
เหตุผลสำคัญคือ IPSA จะเป็นแบรนด์ที่นำเสนอในรูปแบบที่เรียบง่ายทั้งบรรจุภัณฑ์และส่วนผสมแต่มีประสิทธิภาพสูง เน้นเทคโนโลยีที่ตรงจุดประสงค์ ไม่เน้นสิ่งเติมแต่งที่ไม่จำเป็น และใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้แต่กับผิวที่บอบบางระคายเคืองง่าย ผลิตภัณฑ์ก็ไม่มีน้ำหอม มีเพียงกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบางตัวเท่านั้นที่จะมีการแต่งกลิ่นด้วย Essential Oil ในปริมาณที่น้อยมาก ๆ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ IPSA : Targeted Effects Advanced G นำเสนอส่วนผสมที่เป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวางถึงประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิวอย่าง Retinol บริสุทธิ์ เข้ากับส่วนผสมที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง Deep G Target Component ผลิตภัณฑ์นี้เน้นจัดการปัญหาริ้วรอยในระดับที่ลึกขึ้น เหมาะสำหรับวัย 30+ ซึ่งจะเป็นอีกขั้นที่ถัดมาจากกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ IPSA : Targeted Effects ที่ทำมาสำหรับการป้องกัน ชะลอ และดูแลริ้วรอยแรกเริ่มสำหรับวัย 20+
ในแง่ของส่วนประกอบนั้น IPSA : Targeted Effects Advanced G (23g / 4,500 BAHT) นำเสนอ Retinol บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินเอที่มีการศึกษามากที่สุดในเครื่องสำอาง ทางแบรนด์ใช้เทคโนโลยีในการเสริมความเสถียรและบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อเก็บรักษาคุณค่าของส่วนผสมนี้ให้มีประสิทธิภาพยาวนานที่สุด ทางแบรนด์ไม่ได้ระบุว่าใช้ในความเข้มข้นเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวคาดเอาไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ 0.1 – 0.3%
ซึ่งในความเข้มข้นระดับนี้นั้นค่อนข้างอ่อนโยน ใช้ง่าย และมีการศึกษาแล้วว่าช่วยเสริมการสร้าง Collagen I และ Collagen III ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญของโครงสร้างชั้นผิว เสริมการแบ่งตัวของเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวชั้น Epidermis หรือผิวชั้นนอกมีความหนาขึ้น และความแข็งแรงของชั้น Dermal-Epidermal Junction (ชั้นระหว่างผิวชั้นนอกและผิวชั้นใน) ที่เป็นอีกโครงสร้างที่สำคัญต่อความอ่อนเยาว์ของผิวก็แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า Retinol ยังเสริมการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวชั้นนอกเพื่อช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้นอีกด้วย
(Source : Topical retinol and the stratum corneum response to an environmental threat., A comparative study of the effects of retinol and retinoic acid on histological, molecular, and clinical properties of human skin., Prospective, randomized, double-blind assessment of topical bakuchiol and retinol for facial photoageing., The effects of topical application of phytonadione, retinol and vitamins C and E on infraorbital dark circles and wrinkles of the lower eyelids., Molecular basis of retinol anti-aging properties in naturally aged human skin in vivo, Improvement of naturally aged skin with vitamin A (retinol).,Treatment of facial photodamage using a novel retinol formulation., One-year Topical Stabilized Retinol Treatment Improves Photodamaged Skin in a Double-blind, Vehicle-controlled Trial, A stabilized 0.1% retinol facial moisturizer improves the appearance of photodamaged skin in an eight-week, double-blind, vehicle-controlled study., A comparative study of the effects of retinol and retinoic acid on histological, molecular, and clinical properties of human skin., Topical stabilized retinol treatment induces the expression of HAS genes and HA production in human skin in vitro and in vivo.)
นอกเหนือจากนี้ การศึกษาล่าสุดของเครือชิเซโด้ยังค้นพบกลไกใหม่ว่า Retinol ยังช่วยเสริมการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวระดับชั้น Dermis ได้ด้วย และพบว่าใน 8 สัปดาห์ ก็สามารถช่วยให้ผิวส่วนที่ยากที่สุดส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาริ้วรอยอย่างบริเวณลำคอมีริ้วรอยย่นดูตื้นขึ้น
(Source : Shiseido Discovers New Effect of Improving Neck Wrinkles, Results in 8 Weeks)
ส่วนผสมที่น่าสนใจคือ Deep G Target Component ของ IPSA ซึ่ง G ในที่นี้ย่อมาจาก Gelatinase เป็นชื่อของเอนไซม์ในตระกูล Matrix Metalloproteinase (MMP) ที่ทำลายโครงสร้างโปรตีนคอลลาเจน โดย Gelatinase A (MMP-2) และ Gelatinase B (MMP-9) นั้นถูกกระตุ้นโดยรังสี UV จากแสงแดดจะมีอยู่มากใน Basal Layer อันเป็นส่วนที่ลึกสุดของผิวชั้นนอก เอนไซม์นี้ไปทำลาย Collagen IV ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นคอลลาเจนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในชั้นผิว แต่ Collagen IV ก็เป็นหนึ่งในส่วนของโครงสร้างสำคัญของชั้น Basement Membrane ที่คอยยึดระหว่างผิวชั้นนอก (Epidermis) และผิวชั้นใน (Dermis) นอกจากนี้ยังพบว่า Gelatinase ยังมีผลต่อ Collagen I ได้อีกด้วย
ส่วนผสมสำคัญอย่าง Potentilla Erecta Root Extract นั้นได้รับการจดสิทธิบัตรโดยเครือชิเซโด้ว่ามีคุณสมบัติเหมือนกับสาร CGS27023A ในการต้านเอนไซม์ Gelatinase ลดการทำลายชั้น Basement Membrane นั่นเอง
Centaurea Cyanus Flower Extract หรือ Cornflower ดอกไม้สีฟ้านี้นอกจากจะมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบแล้ว เครือชิเซโด้ยังจดสิทธิบัตรในการเสริมการสร้าง Collagen IV กับ CollagenVII และ Laminin 5 ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญของโครงสร้าง Basement Membrane นั่นเอง
ส่วนผสมอื่น ๆ ก็ได้แก่ Dipotassium Glycyrrhizate ที่ช่วยลดการระคายเคือง ส่วน Fagus Sylvatica Bud Extract มีข้อมูลว่าเขาจดสิทธิบัตรในการเสริมเรื่อง Collagen IV กับ CollagenVII และ Coix Lacryma-Jobi Ma-Yuen Seed Extract ก็จดสิทธิบัตรในเรื่องการเสริมคอลลาเจนอีกเช่นกัน
(Source : Skin basement membrane formation promoter, artificial skin formation promoter, and method for producing artificial skin, Anti-inflammatory and immunological effects of Centaurea cyanus flower-heads., Basement membrane stabilizer, Material for promoting skin basement formation, Type iii collagen production promotor)
โดยสรุปแล้วก็เป็นการใช้ส่วนผสมของ Retinol ในการฟื้นบำรุงโครงสร้างผิวเพื่อลดริ้วรอย เติมวอลลุ่มและความชุ่มชื้นให้ผิวจากคุณสมบัติในการเสริมการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวตามธรรมชาติ ในขณะเดียวกันส่วนผสม Deep G Target Component ก็ลดการทำลายชั้นโครงสร้างผิวและเสริมกลไกในการสร้างโปรตีนสำคัญที่ Retinol ยังไม่ครอบคลุม เรียกได้ว่าทั้งลดการเกิดความเสียหายและฟื้นฟูโครงสร้างผิวใหม่ไปพร้อมกันเพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
Ingredients : Water, Pentaerythrityl Tetraethylhexanoate, Butylene Glycol, Dipropylene Glycol, Alcohol, Limnanthes Alba Seed Oil, Glycerin, Dimethicone, PEG-20, Sodium Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, PEG-17, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Isohexadecane, Phenoxyethanol, Triisostearin, Behenyl Alcohol, Hydroxyethylcellulose, Polyvinyl Alcohol, Polysorbate 80, Stearyl ALcohol, Sorbitan Oleate, BHT, Retinol, Dipotassium Glycyrrhizate, Trisodium EDTA, Polysorbate 20, Sodium Metabisulfite, Centaurea Cyanus Flower Extract, Tocopherol, Fagus Sylvatica Bud Extract, Panax Ginseng Root Extract, Rosa Canina Fruit Extract, Coix Lacryma-Jobi Ma-Yuen Seed Extract, Potentilla Erecta Root Extract.
บรรจุภัณฑ์ของ IPSA : Targeted Effects Advanced G นั้นออกแบบมาอย่างดี โดยตัวหลอดที่บรรจุผลิตภัณฑ์จะถูกซีลปิดสนิทแบบหลอดยาเพื่อเก็บรักษาความสดของ Retinol เอาไว้ให้ได้ตลอดการเก็บรักษา เมื่อใช้ครั้งแรกจะต้องถอดสลักสีดำออกก่อนที่จะหมุนฝาหลอดที่จะแทงทะลุซีลและล็อคให้แน่นสนิท หลังจากนั้นก็จะสามารถบีบผลิตภัณฑ์ออกมาใช้ได้ตามต้องการ
เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมที่ไม่ข้นมากนัก มีสีเหลืองนวลจากส่วนผสมที่ใช้ ไม่มีส่วนผสมของสีและน้ำหอม ตัวเบสมี Emollients และน้ำมันเมล็ด Meadowfoam เพื่อช่วยให้การเกลี่ยผลิตภัณฑ์ทำได้อย่างง่ายดายแต่ไม่หนักผิว
ปริมาณในการใช้คือ 1 เม็ดไข่มุกขนาดเล็ก ใช้ได้ทั่วใบหน้า โดยเน้นบริเวณที่กังวลเรื่องริ้วรอยอย่างรอบดวงตา หางตา ร่องแก้ม หน้าผาก หว่างคิ้ว มุมปาก ลำคอ โดยคำแนะนำจากแบรนด์คือใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวทั้งกลางวันและกลางคืน (กลางวันทาก่อนกันแดด / กลางคืนทาหลังมอยซ์เจอไรเซอร์) และกำชับว่าต้องใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องประสิทธิภาพของ Retinol และปกป้องผิวด้วย
ขั้นตอนที่ปูเป้ลง ในช่วงแรกก็ใช้ตามที่เขาบอกคือเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังลงมอยซ์เจอไรเซอร์ ซึ่งปูเป้มองว่าที่เขาแนะนำแบบนี้ก็เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดจาก Retinol ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกลุ่มคนที่มีผิวบอบบางหรือไม่คุ้นชินกับส่วนผสมตัวนี้ แต่ส่วนตัวปูเป้เคยใช้ Retinol มาอยู่แล้ว ก็เลยทดลองทาในขั้นตอนของเซรั่มก่อนลงมอยซ์เจอไรเซอร์ ก็พบว่าผิวสามารถรับได้และไม่เกิดผลข้างเคียงอะไรเลย จึงใช้เป็นขั้นตอนของเซรั่มมาตลอด
ส่วนตัวปูเป้ทดลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้เฉพาะที่ครึ่งหน้าซ้ายเท่านั้น เพราะอีกครึ่งหน้าที่เหลือมีการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Anti-Aging อื่นอยู่แล้ว ส่วนขั้นตอนการดูแลผิวอื่นๆ ก็ใช้เหมือนกันทั้งสองฝั่งครับ โดยส่วนตัวปูเป้ทดลองทาทุกวัน เช้า–กลางคืน โดยไม่มีการระคายเคืองใด ๆ กับผิวเลย ถือว่าค่อนข้างใช้ง่ายทีเดียว แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ Retinol มาก่อน อาจจะใช้วันเว้นวันไปก่อนก็ได้ครับ
สำหรับผลที่ได้ ต้องบอกว่าเกินความคาดหมายและต้องบอกว่าเราสังเกตเห็นโดยบังเอิญหลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาต้องมีการใส่หน้ากากเพื่อกันฝุ่นและไวรัสเป็นประจำทุกวัน ปกติปูเป้จะใช้หน้ากากแบบ 3D เพราะว่ามันไม่ค่อยทิ้งรอยหน้ากากไว้บนผิว แต่ของหมดก็เลยต้องใช้แบบสายคล้องยางยืดปกติซึ่งจะกดหน้าจนเป็นรอย แต่ปรากฏว่าผิวฝั่งซ้ายที่ทา IPSA : Targeted Effects Advanced G มาตลอด 2 สัปดาห์ เริ่มเห็นว่าผิวมีการคืนตัวเร็วกว่า รอยกดทับของหน้ากากจางหายไปไวกว่าอีกข้างที่ไม่ได้ทาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ (แต่ทาผลิตภัณฑ์ Anti-Aging ตัวอื่น)
ตอนที่เห็นผลที่ได้นี่ตื่นเต้นมากถึงกับต้องเอากล้องมาถ่ายวีดีโออัพลง Facebook แบบ Full HD ให้เห็นกันเลยว่าการคืนตัวของผิวสองฝั่งเราไม่เท่ากันจริง ๆ และปูเป้ก็พยายามคิดแล้วว่าจะมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ผิวด้านซ้ายมีสภาพที่ดีกว่าอีกด้านโดยไม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือไม่ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกใจ เพราะว่าส่วนตัวก็เป็นคนนอนตะแคงซ้ายซึ่งยิ่งทำให้ผิวข้างนี้มีปัญหามากกว่าอีกฝั่งด้วยซ้ำ แต่ผลกลับออกมาว่าผิวหน้าด้านซ้ายมีการคืนตัวที่เร็วกว่า ซึ่งอาจเป็นเพราะชั้นโครงสร้างของผิวมีความยืดหยุ่นกว่า แน่นกว่า รวมไปถึงมีความชุ่มชื้นที่มากกว่าด้วย ทั้งหมดนี้สามารถอธิบายได้ด้วยกลไกต่างๆของส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นี้ครับ
โดยสรุปแล้วเราประทับใจผลที่ได้จาก IPSA : Targeted Effects Advanced G มาก เพราะใครที่ติดตามเรามานาน เรื่องร่องริ้วรอยเป็นสิ่งที่เราจะบอกมาตลอดว่าเรามีปัญหานี้น้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่อายุกำลังใกล้จะ 38 ในอีกไม่นาน แต่ปัญหาที่เราเจอมาตั้งแต่วัยเลข 30 กว่า ๆ คือผิวที่คืนตัวช้า เป็นรอยยับอยู่นาน นั่งเท้าคาง หรือหยีตาแสดงสีหน้าชัด ๆ แล้วผิวจะเป็นรอยยับค้างไม่คืนตัวไวเหมือนแต่ก่อน สิ่งนี้ตอบโจทย์เรามาก มันช่วยให้ปัญหาเหล่านี้ดีขึ้นจริง และถ้าเราไม่ทาเพียงครึ่งหน้าเราคงไม่เห็นการเทียบที่ชัดเจนขนาดนี้
ในแง่ส่วนผสมก็ถือว่านำส่วนผสมที่ได้รับการยอมรับอย่าง Retinol มาเสริมด้วยกลไกที่ขาดหายไปในการปกป้อง ลดการทำลาย และเสริมความแข็งแรงของชั้น Basement Membrane บรรจุภัณฑ์ถูกต้องเหมาะสมในการเก็บรักษาส่วนผสมให้คงตัว และเราชอบที่เขาทำให้สามารถตั้งหลอดได้จะได้วางบนโต๊ะเครื่องแป้งได้สะดวก อ่อนโยน ใช้ง่าย และเห็นผลจริง คือไม่รู้จะติอะไรอ่ะแหล่ะ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
IPSA : Targeted Effects Advanced G
Price : 23g / 4,500BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Anti-Aging / Skin Elasticity / Skin Smoothing
- Retinol + Deep G Target Component ทำงานเสริมกันได้เป็นอย่างดีในการปกป้องและเสริมโครงสร้างผิว
- บรรจุภัณฑ์เหมาะสม เก็บรักษาความเสถียรได้ดี
- เห็นผลเรื่องความยืดหยุ่นคืนตัวของผิวจริง และอ่อนโยนกับผิวด้วย
- ส่วนผสมบางส่วนยังมีข้อมูลเฉพาะการจดสิทธิบัตรจากผู้ผลิต