คนเราเจริญเติบโตเต็มที่ที่ราวช่วงอายุ 25 ปี และเริ่มเข้าสู่กระบวนการเสื่อมถอยหลังจากผ่านพ้นช่วยอายุนั้น อายุ 25-35 ปี จะเป็นช่วงที่ผิวเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงจากช่วงวัยรุ่นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผิวที่หมองคล้ำทรุดโทรมได้ง่ายแค่นอนไม่เพียงพอ รอยสิวที่หายช้าขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ผิวที่เริ่มแห้งกร้านขาดน้ำกว่าที่เคย สิวที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อนกลับโผล่ขึ้นมาให้รำคาญใจ และที่สิ่งที่ทุกคนยังไงก็ต้องเจอคือ ความเสื่อมชราร่วงโรยของผิวหรือ Skin Aging ทีนี้ คุณคิดว่า First Sign of Aging  หรือ สัญญาณแรกเริ่มที่แสดงความร่วงโรยของผิว คืออะไร? ร่องริ้วและรอยตีนกา? หรือ ผิวหย่อนคล้อยรูขุมขนกว้าง?

จะว่าไปแล้ว First Sign of Aging  หรือ สัญญาณแรกเริ่มที่แสดงความร่วงโรยของผิว จะเป็นริ้วรอย หรือจะเป็นความหย่อนคล้อยนั้น ความคิดและมุมมองทั่วไปคือเราจะคิดว่าริ้วรอย เช่นพวก Fine Lines หรือ  Wrinkles นั้นจะมาเยือนเราก่อน ส่วนปัญหาความหย่อนคล้อยหรือ Skin Sagging จะตามมาทีหลังเมื่อเราอายุมากขึ้น และวงการเครื่องสำอางก็ดูจะตอกย้ำความคิดนี้ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยสำหรับคนอายุ 20-30 และในวัย 40 หรือมากกว่าจะเริ่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความกระชับและคืนความยืดหยุ่นให้กับผิว

ส่วนตัวปูเป้เองตั้งแต่พ้นอายุ 25 มาจนอายุ 35 ใกล้จะ 36 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ปัญหาริ้วรอยที่เห็นได้ชัดยังไม่ค่อยจะมีเลย เรียกได้ว่าปัญหาเรื่อง Wrinkles  น้อยมาก แต่ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยและความยืดหยุ่นคืนตัวของผิวนั้นมันแย่ลงแบบที่รู้สึกได้แถมรูขุมขนก็กว้างขึ้น ถ้าให้มองจากตัวเราเองเราก็คงจะบอกว่า First Sign of Aging ก็ต้องเป็นเรื่องความหย่อนคล้อย และเราก็เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะเป็นแบบเราเหมือนกัน

สรุปว่า First Sign of Aging นั้นคือสิ่งไหนกันแน่? มีอะไรจะมาอธิบายเรื่องนี้ได้หรือไม่?


คำตอบก็คือมันก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อเรื่องความเสื่อมชราของผิว พันธุกรรมก็น่าจะมีส่วน แต่ปัจจัยภาพนอกน่าจะมีส่วนสำคัญมากที่สุด เราได้ยินกันมานานแล้วว่าปัญหาเรื่องความแก่ชราของผิว 80%  มาจากรังสี UV (Photoaging) และรังสี UV ที่ผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามากระทบผิวของเราได้ก็มี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB ซึ่งเราก็ท่องกันไปว่า UVA = Aging และ  UVB = Burning  แต่จริง ๆ แล้วทั้ง UVA  และ  UVB  ก็ทำให้เกิด  Aging ทั้งคู่ และก็มีการศึกษาที่ให้ข้อมูลอันน่าสนใจว่าสัญญาณแรกเริ่มที่แสดงความร่วงโรยของผิว จะเป็นริ้วรอย หรือจะเป็นความหย่อนคล้อยนั้น แต่ละคนจะมีแตกต่างกันไปตามประเภทของรังสี  UV  ที่มากระทบเราบ่อยที่สุด แต่ว่าเป็น Aging ที่คนละชั้นผิวและแสดงผลออกมาคนละแบบ โดย UVA จะทำให้ผิวเกิดปัญหาหย่อนคล้อย (Sagging) เด่นชัดมากกว่าริ้วรอย ส่วน UVB จะทำให้ผิวเกิดปัญหาร่องริ้วรอยตีนกา (Wrinkles) เด่นชัดมากกว่าความหย่อนคล้อย

สรุปสั้น ๆ ว่า First Sign of Aging ของคนเรานั้น ถ้ามีปัญหาตีนกาชัดกว่า = ผิวเสียหายจาก UVB เป็นหลัก ส่วนใครถ้ามีปัญหาความหย่อนคล้อยรูขุมขนกว้างแสดงออกมาชัดกว่า = ผิวเสียหายจาก UVA เป็นหลัก

(Source : Biological Mechanisms Underlying the Ultraviolet Radiation-Induced Formation of Skin Wrinkling and Sagging I: Reduced Skin Elasticity, Highly Associated with Enhanced Dermal Elastase Activity, Triggers Wrinkling and Sagging)

 

จากข้อมูลตรงนี้ที่ว่าความแก่แรกเริ่มของวัย 25-35 ของเราแต่ละคนนั้นต่างกัน การใช้ผลิตภัณฑ์ anti-aging ที่ไม่เจาะจงไปยังสาเหตุของปัญหาที่เรามีแตกต่างกันอาจจะทำให้เราได้ผลที่ไม่ตรงจุด ทาง IPSA จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมาสองชิ้นพร้อมกัน ตัวแรกคือ IPSA : Targeted Effects G สำหรับคนที่มีปัญหาของริ้วรองรอยตีนกานำมาก่อน ตัวที่สองคือ IPSA : Targeted Effects S นั้นสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยรูขุมขนกว้างนำมาก่อน โดยตัวอักษร G กับ S ที่ตามหลังชื่อผลิตภัณฑ์นั้นคือกุญแจสำคัญที่เป็นคำตอบว่าปัญหาของสัญญาณความแก่แรกเริ่มของเรามาจากอะไร

 

IPSA : Targeted Effects G (30g /3,500 Baht)

G ย่อมาจาก Gelatinase เป็นชื่อของเอนไซม์ในตระกูล Matrix Metalloproteinase (MMP) ซึ่งทำหน้าที่ในการเข้าสลายโครงสร้างโปรตีนในชั้นผิว โดยปกติเราจะได้ยินแต่ MMP-1 หรือ Collagenase ถูกอ้างถึงในเครื่องสำอางเพราะมันเป็นเอนไซม์ที่เข้าทำลาย  Collagen I และ Collagen III ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่มีอยู่ในสัดส่วนที่สูงที่สุดในชั้นผิวของมนุษย์ ส่วน Gelatinase อย่าง Gelatinase A (MMP-2) และ Gelatinase B (MMP-9) จะเน้นไปทำลาย Collagen IV ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นคอลลาเจนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในชั้นผิว แต่ Collagen IV ก็เป็นหนึ่งในส่วนของโครงสร้างสำคัญของชั้น Basement Membrane ที่คอยยึดระหว่างผิวชั้นนอก (Epidermis) และผิวชั้นใน (Dermis) นอกจากนี้ยังพบว่า Gelatinase ยังมีผลต่อ Collagen I ได้อีกด้วย

การศึกษาพบว่าผิวที่ได้รับ UVB  จะตรวจพบการแสดงออกของเอนไซม์ Gelatinase ในผิวชั้นนอกซึ่งพบใด้เยอะที่สุดในชั้น Basal Layer ซึ่งเป็นส่วนที่ลึกสุดของผิวชั้นนอก ทำให้โครงสร้างของขั้น Basement Membrane อ่อนแอลง การยึดเกาะของชั้นระหว่างผิวชั้นในและชั้นนอกเสียไป ส่งผลลึกลงไปในผิวชั้นใน ก่อให้เกิดเป็นร่องริ้วรอย (Wrinkles) ได้ และในขณะเดียวกันการทาสารที่มีฤิทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์เหล่านี้อย่าง CGS27023A จะช่วยรักษาโครงสร้างของ Basement Membrane และลดการเกิดริ้วรอยจาก UVB ได้

(Source : Non-invasive study of gelatinases in sun-exposed and unexposed healthy human skin based on measurements in stratum corneum.Possible Involvement of Gelatinases in Basement Membrane Damage and Wrinkle Formation in Chronically Ultraviolet B-exposed Hairless MouseCharacterization and mechanisms of photoageing-related changes in skin. Damages of basement membrane and dermal structures.)

ทาง IPSA  ใช้ส่วนผสมของ Potentilla Erecta Root Extract หรือ Potentilla Tormentilla ในการเข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้ อ้างอิงจากเอกสารการจดสิทธิบัติของ Shiseido ที่เคลมว่าสารสกัดจากพืชชนิดนี้มีคุณสมบัติเหมือนกับสาร CGS27023A ในการต้านเอนไซม์ Gelatinase ซึ่งสารสกัดจากพืชชนิดนี้ยังถูกจดสิทธิบัตรโดยเครืออื่นที่เคลมถึงคุณสมบัติในการเสริมความแข็งแกร่งของชั้นเชื่อผิวชั้นนอกและผิวชั้นในด้วย

(Source : Agent promoting the formation of skin basement membrane, agents promoting the formation of artificial skin and process for producing artificial skinUse of potentilla erecta extract in the cosmetic and pharmaceutical field)

ส่วนที่เหลือก็จะมี Thymus Serpyllum Extract ที่เคลมว่าช่วยปกป้องคอลลาเจน กับ Origanum Majorana Leaf Extract ที่เคลมว่าช่วยเสริมกรดไฮยาลูโรนิคแอซิดในผิวชั้นนอก และ Rubus Suavissimus (Raspberry) Leaf Extract ที่เคลมว่าช่วยลดการสลายของ กรดไฮยาลูโรนิคแอซิด เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิว

Panax Ginseng Root Extract หรือสารสกัดจากรากโสมถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑืสกินแคร์เพื่อฟื้นฟูผิวและลดเลือนริ้วรอย สารสกัดจากโสมมีคุณสมบัติในการเสริมการทำงานของเซลล์ Fibroblast และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เป้นโครงสร้างผิว จึงช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูและลดเลือนริ้วรอยได้

(Source :  Effects of Panax ginseng extract on human dermal fibroblast proliferation and collagen synthesis.)

เนื้อครีมเข้มข้นเป็นตัวคลุมเก็บล็อคความชุ่มชื้นและสารบำรุงเหมาะที่จะใช้หลังจากใช้  Metabolizer หรือใช้หลังหรือใช้แทนมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีอยู่ได้ ปริมาณในการใช้ไม่ต้องมาก 1 – 2 ปั้ม ก็เพียงพอแล้ว

Ingredients : Water/Aqua, Cetyl Ethylhexanoate, Dipropylene Glycol, Glycerin, Alcohol, Caprylic/Capric Triglyceride, Cetearyl Alcohol, Phytostearyl Macadamiate, Glyceryl Stearate, Dimethicone, Hydrogenated Polyisobutene, Beheneth-20, Phenoxyethanol, Butylene Glycol, Carbomer, Sodium Citrate, Trisodium EDTA, Potassium Hydroxide, Citric Acid, Xanthan Gum, Sodium Metabisulfite, Thymus Serpyllum Extract, Rubus Suavissimus (Raspberry) Leaf Extract, Tocopherol, Panax Ginseng Root Extract, Origanum Majorana Leaf Extract, Potentilla Erecta Root Extract. 

 

IPSA : Targeted Effects S (30g / 3,500 Baht Baht)

S ย่อมาจาก SOD หรือ Superoxide Dismutase เป็นหนึ่งในเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ในการเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระอย่าง ROS (Reactive Oxygen Species) ที่ทำลายและก่อความเสียหายให้กับเซลล์ต่าง ๆ

การศึกษาพบว่า  ROS ที่เกิดขึ้นในผิวส่วนใหญ่มาจาก UVA ซึ่งทะลุทะลวงไปถึงผิวชั้นในอันเป็นที่อยู่ของเซลล์ Fibroblast ซึ่งคอยผลิตโปรตีนที่สำคัญที่เป็นโครงสร้างของผิวอย่างคอลลาเจนและอีลาสติน ความเสียจากรังรังสี UVA ไปกระตุ้นการผลิต Elastase ซึ่งทำหน้าที่สลายเส้นใยอีลาสติน และยังกระตุ้น Neprilysin ที่ก็คล้ายกับ Fibroblast Elastase จึงเป็นผลทำให้ UVA ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิวมากกว่า UVB

(Source : Measurements of UV-generated free radicals/reactive oxygen species (ROS) in skin.Biological Mechanisms Underlying the Ultraviolet Radiation-Induced Formation of Skin Wrinkling and Sagging II: Over-Expression of Neprilysin Plays an Essential RoleBiological Mechanisms Underlying the Ultraviolet Radiation-Induced Formation of Skin Wrinkling and Sagging I: Reduced Skin Elasticity, Highly Associated with Enhanced Dermal Elastase Activity, Triggers Wrinkling and Sagging.)

 

SOD หรือ Superoxide Dismutase เป็นแอนติออกซิแดนท์เอนไซม์ที่สำคัญเพื่อปกป้อง Fibroblast จาก ROS  (อนุมูลอิสระ) ที่กระตุ้นโดยรังสี UVA เมื่ออายุมากขึ้นการผลิต SOD น้อยลงจึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปสลาย ROS ได้มากพอจนทำให้เซลล์เกิดความเสียหาย และกลายเป็นปัญหาผิวต่าง ๆ ซึ่งในรวมถึงความหย่อนคล้อยและเสื่อมสลายของโครงสร้างชั้นในของผิว ดังนั้นการเสริมการทำงานของ SOD จึงเป็นส่วนในการช่วยป้องกันและน่าจะลดปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวได้

(Source : Adaptive antioxidant response of manganese-superoxide dismutase following repetitive UVA irradiation.Extracellular superoxide dismutase is a major antioxidant in human fibroblasts and slows telomere shortening.Age-associated intracellular superoxide dismutase deficiency potentiates dermal fibroblast dysfunction during wound healing.)

 

ทาง IPSA ใช้ส่วนผสมรวมที่ตั้งชื่อว่า SOD Triple Recharger อันประกอบไปด้วยสารสกัดจากพืชสามชนิด Scutellaria Baicalensis Root Extract กับ Prunus Speciosa Leaf Extract และ Ginkgo Biloba Leaf Extract ในการสลายอนุมูลอิสระและเสริมการทำงานเอง SOD ในการจับกับอนุมูลอิสระเพื่อปกป้องเซลล์จากผลของ UVA

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยต้านความเหลืองคล้ำของคอลลาเจนอันมีผลกับโทนผิวและคุณภาพของเส้นใยที่เป็นโครงสร้างผิวด้วย Arginine HCI ช่วยต้าน Glycation และสารสกัดจากใบมะกอก Olea Europaea (olive) Leaf Extract ช่วยต้าน Carbonylation ส่วนผสมนี้ถูกจดสิทธิบัตรโดย Shiseido และถูกใช้มาก่อนในผลิตภัณฑ์กลุ่มไวท์เทนนิ่งของ IPSA

Panax Ginseng Root Extract ก็ยังคงถูกใส่ในผลิตภัณฑ์สูตรนี้เช่นเดียวกันเพื่อช่วยในการทำงานของ  Fibroblast  และเสริมการบำรุงและลดเลือนริ้วรอย

เนื้อครีมเนียนละเอียดเข้มข้น ในสูรจะมีโพลิเมอร์ที่จะฟอร์มตัวเป็นตาข่ายยกกระชับผิวเมื่อแห้ง เหมาะที่จะใช้หลังจากใช้  Metabolizer หรือใช้หลังหรือใช้แทนมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีอยู่ได้

Ingredients : Water/Aqua, Glycerin, Dimethicone, Dipropylene Glycol, Mineral Oil, Pentaerythrityl Tetraethylhexanoate, Butylene Glycol, Petrolatum, Diisostearyl Maleate, Glyceryl Diisostearate, Myristyl Myristate, Behenyl Alcohol, Dimethicone Crosspolymer, Glyceryl Stearate SE, Stearyl Alcohol, Batyl Alcohol, PEG-40 Stearate, Phenoxyethanol, Dimethylacrylomide/Sodium Acryloyldimethyltaurate Crosspolymer, Sorbitan Stearate, Acrylates/Stearate-20 Methacrylate Copolymer, Alcohol, BHT, Arginine HCI, PEG-240/HDI Copolymer Bis-Decyltetradeceth-20 Ether, Trisodium EDTA, Sodium Metabisulfite, Potassium Hydroxide, Sodium Methaphosphate, Ginkgo Biloba Leaf Extract, Prunus Speciosa Leaf Extract, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Olea Europaea (olive) Leaf Extract, Rehmannia Chinensis Root Extract, Sodium Laurel Sulfate, Panax Ginseng Root Extract, Tocopherol. 

โดยส่วนตัวแล้วมองว่าคอนเซปต์ของผลิตภัณฑ์อันนี้ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว และแนวคิดเรื่องความแก่แรกเริ่มที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนอันมาจากระดับความเสียหายของรังสี UV ที่ต่างกันก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ดีก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่มีผลต่อความเสื่อมชราของผิว ยังมีความเป็นไปได้ของพันธุกรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนหรือแต่ละเชื้อชาติ สภาพแวดล้อมอื่น ๆ นอกเหนือจากรังสี ก็ยังมีทั้งมลภาวะ การระคายเคือง และความเปลี่ยนแปลงของความร้อน หรือแม้แต่ความชื้นในอากาศก็ที่ต่ำยังส่งผลต่อโอกาสการเกิดริ้วรอยที่เพิ่มขึ้นได้

(Source : Comparison of age-related changes in facial wrinkles and sagging in the skin of Japanese, Chinese and Thai women.Ethnic skin types: are there differences in skin structure and function?Facial expression under stiff stratum corneum leads to strain concentrations, followed by residual wrinkle formation.)

 

โดยส่วนตัวปูเป้ก็มีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้ การที่ปูเป้ในวัย 35 ใกล้ 36 ยังไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยตีนกา แต่มีปัญหาเรื่องความหย่อนไม่กระชับและรูขุมขนกว้างนั้น มาย้อนดูการใช้ชีวิตของตัวเองที่แม้จะเป็นคนที่ทากันแดดมาตั้งแต่เด็กและไม่ค่อยมีกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยนัก แต่หลังจากหลุดจากชีวิตของการเป็นนักเรียนและพนักงานประจำและมาทำเป็นฟรีแลนซ์กว่า 10 ปีได้ ก็ใช้ชีวิตแบบนอนตื่นสาย ๆ สัก 9 – 10 โมง แถมข้างเตียงนอนก็เป็นหน้าต่างที่รับแสงโดยตรงในช่วงสายถึงเที่ยงโดยที่มู่ลี่ไม่สามารถกันแสงได้หมด ซึ่งแสงที่สอดมาเหล่านั้นไม่มี  UVB แต่ก็อุดมไปด้วย UVA  ทะลุกระจกเข้ามาได้ ดังนั้นรังสี  UVA จึงเป็นรังสีหลักที่ปูเป้เจอในช่วงเวลาที่ไม่ได้ปกป้องตัวเองด้วยครีมกันแดด การเจอ UVA สะสมเป็นระยะเวลานานสิบปีก็น่าจะส่งผลแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ (คือก็รู้มาตลอดนะว่าเราเจอ UVA ตลอดในช่วงสาย ๆ ที่เรายังไม่ตื่น แต่ก็ไม่สามารถตื่นเช้าได้ เพราะสมองเราแล่นตอนกลางคืน)

ถ้ามีผลิตภัณฑ์แบบ IPSA : Targeted Effects S ให้เราได้ใช้มาตั้งแต่ 10 ปีก่อนปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับรูขุมขนกว้างเพราะ UVA  ของเราน่าจะน้อยกว่านี้ แต่ใครที่ยังพึ่งเลย 25 หรือแตะเลข 3 และอยากจะป้องกันหรือดูแลปัญหาความ First Sign of Aging ได้อย่างตรงจุดหรืออยากรู้ว่าตัวเองเหมาะกับ G  หรือ  S นั้น ถ้ายังไม่แน่ใจหรือยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เพราะสามารถไปขอรับบริการตรวจสภาพผิวด้วยเครื่อง IPSALYZER อัพเดทล่าสุดที่สามารถตรวจวัดและเลือกสูตรที่เหมาะกับเราได้โดยไม่เสียค่าบริการแต่อย่างใดจ้า