วันนี้เราจะไปเที่ยว Tokyo Disney Sea กันครับ สาเหตุที่เลือกไป Disney Sea ก็เพราะว่ามีที่ญี่ปุ่นที่เดียว ส่วน Disney Land ก็เหมือนกันทุกที่แหล่ะครับ เคยไป Disney Land ที่แคลิฟอเนีย ตอนเด็ก ๆ มาแล้วก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่

อาหารเช้ามื้อนี้ก็ยังคงเป็นข้าวหน้าเนื้อที่ร้าน Gyo No Chikara หน้าสถานีอูเอโนะเหมือนเมื่อวาน แต่วันนี้เลือกแบบราดซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสเปรี้ยวอมเผ็ดของน้ำมันงา มีรสหวานและเค็มแซมมานิด ๆ อร่อยดีครับ (ราคา 690 เยน)

นั่งรถไฟ JR มาที่สถานี Mai Hama 290 เยน และซื้อตั๋ว Dianey Pass สำหรับนั่งรถไฟโมโนเรล 650 เยน (ตั๋วสวยน่าเก็บมาก)
ห่วงจับในรถโมโนเรลเป็นรูปหูมิกกี้ด้วย
ด้านหน้าของโรงแรม Disney Hotel สวยมากมาย อย่างกับหลุดมาจากนิทานแน่ะ
หลังจากจ่ายค่าตั๋ว 5800 เยน ก็เข้ามาถึง Disney Sea แล้วครับ ภูเขาไฟที่เห็นอยู่ตรงข้ามทะเลสาปนั้นเป็นเครื่องเล่น Jurney To The Center Of The Earth ซึ่ง “ปิด” ในวันที่ปูเป้ไปพอดี

บริเวณภายในของภูเขาไฟ เป็นเครื่องเล่นอีกหนึ่งอย่างก็คือ 20000 Leagues Under the Sea เป็นเวอร์ชั่นที่หรูหราไฮโซและทันสมัยกว่าของ Disney Land ที่แคลิฟอเนีย (ซึ่งปัจจุบันโดนทุบทิ้งทำเป็นเครื่องเล่นอื่นแล้ว)

ไม่มีวีดีโอที่ดูดีพอสำหรับเครื่องเล่นนี้ที่จะเอามาแปะให้ดู เพราะว่ามันค่อนข้างมืดทีเดียว มันจะเหมือนกับเรือดำน้ำที่ดำลงไปสำรวจใต้ทะเล เจอปลาหมึกยักษ์และสัวต์ประหลาดใต้ทะเลลึกครับ มันไม่ไม่ดำลงไปใต้น้ำจริงๆ แต่ด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคพิเศษก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลจริง ๆ เลยล่ะ นับเป็นเครื่องเล่นที่ดูตื่นตาตื่นใจทีเดียว

เสร็จแล้วก็มาสำรวจพื้นที่ใน Lost River Delta ที่เน้น Them เหมือนอายธรรมแอซเทคโบราณที่ล่มสลายแถบอเมริกากลาง ตรงนี้เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดใน Disney Sea แล้วครับ (แต่ก็ไม่อาจสะกิดต่อมเสียวเราได้อยู่ดี)

มาเห็นใกล้ๆ ยิ่งทึ่งในรายละเอียด… สมแล้วที่เป็น “Theme Park ที่มีค่าก่อสร้างแพงที่สุดในโลก” (4พันล้าน US$)

Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull ที่ผู้เล่นจะนั่งบนรถ Enhanced Motion Vehicle (EMV) ซึ่งเปรียบเสมือน Simulator ติดล้อ แม้ตัวรถจะเคลือนไปอย่างช้า ๆ แต่เราจะรู้สึกเหมือนรถกำลังหักเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือเบรคอย่างกระชั้นชิดราวกับมันกำลังเกิดขึ้นจริง เป็นเครื่องเล่นที่สนุกครับ แนะนำให้เล่นอย่างรุนแรง

เขาเก็บรายละเอียดยิบย่อยได้สุดยอดมาก คุณไม่มีทางหา Theme Park แบบนี้ได้ในประเทศไทยแน่นอน ดรีมเวิล์ดอ่ะกระจอกงอกง่อยไปเลย…

ด้านหน้าของ Raging Spirits รถไฟเหาะตีลังกาหนึ่งเดียวที่คุณจะหาได้ใน Disney Sea (Disney land ไม่มีหรอก อย่าไปหวัง)

ระหว่างเข้าคิวรอก็จะได้ยินเสียงกรีดร้องเป็นระยะ ช่วยกระตุ้นอะดรินาลีนให้สูบฉีดได้
แต่จริง ๆ มันไม่ค่อยน่ากลัวหรอกครับ ทว่าตกแต่งออกมาอย่างสวยงามมากเท่านั้นเอง
เจอ Entertainer แต่งตัวเป็น Indy ด้วย ขอถ่ายรูปซะหน่อย
เดอนลัดเลาะมา Arabian Coast เพื่อเล่น Sindbad’s Storybook Voyage อารมณ์ก็คล้าย ๆ กับ “it’s a small world” ใน DisneyLand นั่นแหล่ะครับ แต่อันนี้ใช้หุ่น Animatronics ที่ทันสมัยกว่ามาก ๆ แถมเพลงก็เพราะมากอีกด้วย รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย ;D

ข้างในเป็นแบบนี้แหล่ะครับ ตัวละครขยับได้เนียนเหมือนกับมีชีวิต ทึ่งในเทคโนโลยีมาก ๆ ฮะ ดูของจริงสวยกว่าในวีดีโออีกนะ ;D
Happy กับเครื่องเล่นนี้มาก ๆ
บรรยากาศบริเวณ Arabian Coast
ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย
ใกล้ ๆ กันเป็น Mermaid Lagoon ครับ มีเครื่องเล่นเด็ก และเครื่องเล่น Indoor สำหรับคนขี้ร้อน

ป้ายห้ามสูบบุหรี่ระหว่างรอเล่น Flounder’s Flying Fish Coaster
เป็นรถไฟเหาะแบบเดะ ๆ ครับ เหมาะสำหรับพาลูกมานั่งเล่นด้วยกัน
เล่นกับหมวกกบอ๊บๆ ในร้านขายของที่ระลึก (แพง ๆ ทั้งนั้น)
กระปุกออมสินสุดแนว เป็นรูปปั้นทองคำจากหนัง Indiana Jones ครับ ลดราคาเหลือ 1500 เยน เลยซื้อมาเพราะเห็นว่ามันน่ารักดี (???)

กินหวานเย็นรสส้มรูปมิกกี้เม้าส์ซะหน่อย ราคา 300 เยน รสชาติเหมือนไอติมยักษ์คู่ของโฟร์โมสต์ที่เคยกินตอนเด็ก ๆ

แวะมาเล่นแถว Port Discovery มีรถรางสำหรับขนส่งคนไปในบริเวณต่างๆ ของสวนสนุกด้วย
มีเรือพลังไอน้ำขนาดเท่าจริงด้วยนะ ลำใหญ่ม๊ากกกกก เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่สุด
บรรยากาศดีมาก ๆ เหมือนไปแระเทศแถวยุโรปเลยอ่ะ พึ่งเคยมาสวนสนุกที่ทุ่มทุนเรื่องการตกแต่งสถานที่มากขนาดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต เสียดายมากที่กล้องถ่ายรูปพัง กล้องมือถือมันถ่ายไม่สวย…

ตื่นตาตื่นใจกับทุกสิ่งอย่าง มีความสุขจังเลยฮะ
ที่เห็นนี่เป็นเครื่องเล่นนะครับ ชื่อว่า Tower of Terror เป็นเวอร์ชั่นที่แตกต่างจากที่มีในอเมริกาครับ ไม่ค่อยหวาดเสียวแต่มีเรื่องราวเยอะกว่า

นับเป็นการตกแต่งที่ลงทุนมาก ๆ สำหรับเครื่องเล่น 1 อย่าง…
แผ่นป้ายหน้าตึก Tower of Terror เป็นการบอกเล่าความเป้นมาของตึกหลังนี้นั่นเอง

ใกล้จะ 6 โมงเย็นก็ออกจาก DisneySea ใจจริงอยากดุโชว์ตอนกลางคืนต่อ แต่มีแค่ปูเป้นี่แหล่ะครับที่ Happy และ Enjoy กับสวนสนุกนี้ คนอื่น ๆ เขาเบื่อกันเพราะเล่นอะไรหวาดเสียว ๆ มากกว่า ก็จำใจต้องกลับตามมติคนหมู่มากครับ

คราวหน้าถ้าได้มาญี่ปุ่นอีก จะแวะมาเก็บมาเที่ยวทั้งวันให้จุใจเลย ;D
แวะกินข้าวแกงกะหรี่ที่ Go Go Curry
ขอบอกว่าอร่อยเลิศกว่า CoCo Ichibanya เยอะเลย!!! ทำไมไม่มาเปิดที่เมืองไทยครับเนี่ย!!! ผู้ใดมีทุนก็รีบไปซื้อแฟรนไชส์มาด่วนนะฮะ รับรองขายดิบขายดี 😀

วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมาก ๆ อีกหนึ่งวัน ณ แดนปลาดิบ ทุกอย่างดูแปลกใหม่ ตื่นตา ตื่นใจ เหมือนกับการได้ผจญภัยอย่างที่เคยฝันไว้ตอนเป็นเด็ก น่าเสียดายที่พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านแล้ว… (แต่ไม่กลับก็ไม่ได้เพราะจะหมดตัวแล้วครับ)