ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวชูโรงของไลน์นี้คือ Kiehl’s : Clearly Corrective™ Dark Spot Solution (30ml / 2,600 THB) ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่าคำว่า White นั้นหายไปจากชื่อผลิตภัณฑ์ นั่นก็เพราะเซรั่มขวดนี้ถูกวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งในแถบอื่นนอกจากเอเชียแล้วเขาไมได้ต้องการมีผิวที่ “ขาว” กันหรอก ดังนั้นคำว่า “White” จึงไม่ใช่ที่ต้องการ แต่ไม่ว่าจะมีสิวผิวแบบใดหรือชนชาติไหนต่างก็ต้องการสีผิวที่สม่ำเสมอและปราศจากจุดตำหนิด่างดำกันทั้งนั้น
ส่วนผสมอีกอย่างหนึ่งที่ถูกบอกว่าเป็น White Birch Extract นั้นเราจะหาไม่เจอในส่วนผสมถ้ามัวมองหาชื่อ Betula Alba (ชื่อทางพฤษศาสตร์ของ White Birch) แต่ส่วนผสมนั้นคือ Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่า Pro-Xylane™ ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในผลิตภัณฑ์ของ Lancome เมื่อปี 2006 (และปัจจุบันมีผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครือ L’Oreal ทั่วไป) เจ้า Pro-Xylane™ เป็นโมเลกุลน้ำตาลซึ่งผูกติดเข้ากับโปรตีนที่พัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย L’Oreal เอาไว้เพื่อใช้ทดแทน Sodium Hyaluronate ที่เป็นเหมือนฟองน้ำอุ้มความชุ่มชื้นไว้บนผิว แต่เขาเคลมว่า Pro-Xylane™ นั้นจะไปเล่นกับกลไกของชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้าง Glycosaminoglycans (GAGs) ที่ผิวชั้นใน (Hyaluronic Acid คือสารหนึ่งในกลุ่มนี้) เพื่อให้ผิวมีความฟูและมีความชุ่มชื้น
(Source : Tyrosinase inhibitors isolated from the roots of Paeonia suffruticosa., Nobiletin as a Tyrosinase Inhibitor from the Peel of Citrus Fruit, Synthesis of Pro-Xylane: a new biologically active C-glycoside in aqueous media.)
สำหรับคำถามที่สงสัยกันมาว่า Kiehl’s : Clearly Corrective™ Dark Spot Solution นั้นสามารถใช้คู่กับ Kiehl’s : Dermatologist Solutions Powerful Strength Line Reducing Concentrate ที่เป็นวิตามินซีเข้มข้น 10.5% ได้รึเปล่า? จำเป็นมั้ย? ต่างกันอย่างไร?
ปูเป้ก็บอกตามตรงว่าถ้าจะใช้ไปพร้อมกันก็สามารถทำได้ โดยให้ทาตัวที่มีเนื้อบางกว่าลงก่อน แต่ถามว่าจำเป็นต้องทาทับกันมั้ย? ขอบอกว่าเกินความจำเป็นไปหน่อย ถ้าอยากได้ผลเรื่องการลดจุดด่างดำเป็นหลักก็ใช้ตัว Clearly Corrective™ Dark Spot Solution ไปอย่างเดียว ถ้ากังวลเรื่องริ้วรอยเป็นหลักและจุดด่างดำเป็นรองก็ใช้แค่ Powerful Strength Line Reducing Concentrate ก็ได้ หรือถ้ากังวลทั้งสองอย่างเหมือนกันก็ใช้ทั้งคู่ได้ครับ แต่ให้แบ่งใช้เป็นเวลา เอา Clearly Corrective™ Dark Spot Solution มาทาตอนกลางวันเพราะเนื้อบางเบากว่า วิตามินซีที่ใช้มีความเสถียรกว่าจะได้ไม่มีปัญหากับแสงและความร้อน (รวมถึงการแต่งหน้า) ส่วนกลางคืนก็ใช้ Powerful Strength Line Reducing Concentrate เพื่อบูสต์คอลาเจนครับ
โดยรวมแล้วนี่เป็นเซรั่มที่ดีอีกหนึ่งตัว คาดหวังในการลดรอยดำ ความหมองคล้ำของผิว รวมถึงรอยแดงจากสิวและการอักเสบได้จริงเพราะวิตามินซีมีคุณสมบัติในส่วนนี่ด้วย หากส่วนผสม Pro-Xylane™ จะไปกระตุ้น GAGs ในผิวได้ก็จะทำให้การสะท้อนและหักเหของแสงที่ตกกระทบมาทำได้ดีขึ้น ผิวจะมีความใสเพราะความเต่งและเปล่งปลั่ง (แต่ถ้าไมได้ อย่างน้อยสารกลุ่มน้ำตาลก็เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวชั้นนอกได้) ข้อเสียอย่างเดียวจริง ๆ คือส่วนผสมของ Lavender Oil และขวดใสที่อาจทำให้ใครหลายคนวิตกกังวลได้ ถ้าปรับปรุงสองส่วนนี้ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้สมบูรณ์ขึ้นอย่างไร้ข้อกังขา
Ingredients : Aqua/Water, Propylene Glycol, Glycerin, Alcohol Denat., PEG/PPG/Polybutene Glycol-8/5/3/ Glycerin, Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol, 3-O Ethyl Ascorbic Acid, PEG-6 Decyltetradeceth-30, Phenoxyethanol, Salicylic Acid, Xanthan Gum, Hydroxyethylcellulose, Potassium Hydroxide, Citric Acid, Sodium Citrate, Tocopheryl Acetate, Lavandula Angustifolia Oil/Lavender Oil, Disodium EDTA, Linalool, Citrus Tachibana/Citrus Aurantium Tachibana Peel Extract, Paeonia Suffruticosa Extract/Paeonia Suffruticosa Root Extract.
โฟมล้างหน้าหลอดนี้แทบไมได้ต่างจากสูตรเก่าเท่าไรนัก จะแตกต่างในแง่ของกลิ่นเพราะปรับเอาส่วนผสมของน้ำหอมออกและใช้ Lavender Oil เข้ามาแต่งกลิ่นแทน (ซึ่งในผลิตภัณฑ์ชนิดที่ต้องล้างออกไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรเท่าไหร่) กับส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่ใส่มาเพื่อช่วยเสริมมูลค่า (แต่มันติดผิวอยู่แปปเดียว ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่)
เนื้อโฟมก่อฟองได้น้อยลงกว่าสูตรเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผิวแห้งตึงน้อยลงด้วยเช่นกันปูเป้จึงมองว่าโฟมล้างหน้าตัวนี้โดยรวมดูดีขึ้น (นิดนึง) เหมาะที่ใช้กับผิวธรรมดา ค่อนไปทางผสมถึงผิวมัน ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเหมาะที่จะใช้เป็น Secondary Cleanser หลังจากเช็ดเครื่องสำอางออกแล้ว โดยรวมถือว่าเป็นโฟมที่พอใช้ได้ครับ แม้ราคาจะปรับให้ถูกลงกว่ารุ่นก่อนตอนเปิดตัวใหม่ๆ แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ดีสำหรับโฟมล้างหน้าหนึ่งหลอด…
Ingredients : Aqua/Water, Myristic Acid, Palmitic Acid, Potassium Hydroxide, Disodium Laureth Sulfosuccinate, Lauric Acid, Stearic Acid, PEG-7 Glyceryl Cocoate, Glycerin, Benzyl Alcohol, Glycerin, Phenoxyethanol, Cetearath-60 Myristyl Glycol, Argilla/Magnesium Aluminum Silicate, Disodium EDTA, Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol, Propylene Glycol, Lavandula Angustifolia Oil/Lavender Oil, Linalool BHT, 2-Oleamido-1,3-Octadecanediol, Citrus Tachibana/Citrus Aurantium Tachibana Peel Extract, Paeonia Suffruticosa Extract/Paeonia Suffruticosa Root Extract.
โฟมผสมสครับรุ่นเก่าเป็นตัวที่ปูเป้ว่าโอเคเลย แม้รุ่นใหม่จะมีส่วนผสมที่คล้ายเดิม แถมใส่เม็ดขัดผิวมามากขึ้น แต่ความรู้สึกหลังใช้นั้นฝืดและตึงผิวกว่าเดิมอยู่เหมือนกัน ซึ่งมองว่านี่เป็นจุดเสียสำหรับตัวผมเองที่ไม่ชอบอะไรที่ล้างหน้าแล้วฝืดตึงผิว และราคา 1,600 บาทเพื่อโฟมล้างหน้าผสมสครับขัดผิวก็แลดูจะเกินความจำเป็นไปหน่อยสำหรับตัวปูเป้เอง หากสนใจตัวนี้ผมก็จะแนะนำให้ใช้กับคนที่มีผิวมันค่อนไปทางมันมากครับ ใครมีผิวแห้งก็ไม่อยากแนะนำเท่าไหร่
Ingredients : Aqua/Water, Myristic Acid, Glycerin, PEG-8 Stearic Acid, Potassium Hydroxide, Polyethylene, Palmitic Acid, Glyceryl Stearate SE, Lauric Acid, Coco-Glucoside, Phenoxyethanol, Polyquaternium-7, Lavandula Angustifolia Oil/Lavender Oil, Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol, Tetrasodium EDTA, Propylene Glycol, Linalool, Sodium Benzoate, 2-Oleamido-1,3-Octadecanediol, Citrus Tachibana/Citrus Aurantium Tachibana Peel Extract, Paeonia Suffruticosa Extract/Paeonia Suffruticosa Root Extract.
ต้องบอกว่าโทนเนอร์รุ่นเก่าเป็นอะไรที่เห่ยมาก แม้ส่วนผสมจะไม่ได้แย่อะไรแต่ว่าเนื้อสัมผัสแบบน้ำนมข้น ๆ นั้นไมได้เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราเลยแม้แต่น้อย (เว้นแต่ผิวจะแห้งมาก ก็อาจจะชอบ) รุ่นใหม่นี้มาในรูปแบบน้ำที่บางใส ให้ความชุ่มชื้นและสดชื่นผิวดีโดยไม่รู้สึกว่าเหนอะหนะ
ส่วนผสมหลัก ๆ จะเน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้นและมีส่วนผสมของวิตามินซี 3-O Ethyl Ascorbic Acid และมีค่า pH 4.5 จึงเหมาะที่จะใช้ปรับสภาพผิวหลังจากการทำความสะอาด (หากคุณใช้โฟมล้างหน้าหรือสครับในไลน์ Clearly Corrective™ White ล่ะก็ ปูเป้แนะนำว่าควรจะใช้โทนเนอร์ตัวนี้ตามเพราะมันปรับสภาพผิวให้รู้สึกสบายขึ้นจริง ๆ ล่ะ)
ถือเป็นโทนเนอร์ที่โอเคอีกหนึ่งตัว เหมาะกับเกือบทุกสภาพผิวเลยล่ะ แน่นอนว่ามีส่วนผสมของ Lavender Oil ซึ่งใครที่กังวลก็ควรทำการทดสอบก่อนใช้จ้า
Ingredients : Aqua/Water, Glycerin, Dipropylene Glycol, Butylene Glycol, Alcohol Denat., Methyl Gluceth-10, 3-O Ethyl Ascorbic Acid, Phenoxyethanol, Sodium Citrate, PPG-6-Decyltetradeceth-30, Citric Acid, Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol, Propylene Glycol, Salicylic Acid, Xanthan Gum, Lavandula Angustifolia Oil/Lavender Oil, Disodium EDTA, Linalool, Citrus Tachibana/Citrus Aurantium Tachibana Peel Extract, Paeonia Suffruticosa Extract/Paeonia Suffruticosa Root Extract.
มอยซ์เจอไรเซอร์รุ่นใหม่นี้มีเนื้อที่บางเบาลงกว่าเดิมมาก เป็นลักษณะอีมัลชั่นที่มีความโปร่งแสงและมีส่วนผสมที่เน้นให้ความชุ่มชื้นเยอะที่สุดในไลน์ มาพร้อมกับวิตามินซี 3-O Ethyl Ascorbic Acid และวิตามินอี และสารไวท์เทนนิ่งอื่น ๆ
ตัวที่พิเศษขึ้นมาคือ 2-Oleamido-1,3-Octadecanediol ซึ่งก็เป็น Ceramide ที่ทาง L’Oreal จดสิทธิบัตรเอาไว้ว่าช่วยในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำ ซึ่งก็มีการศึกษาจากแหล่งอื่นพบว่า Ceramide ที่เราเคยเข้าใจว่าทาเอาไว้เคลือบฉาบผิวอย่างเดียว แท้จริงนั้นกลับเป็นสารที่สื่อสัญญาณระหว่างเซลล์และทำงานในหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือช่วยลดการส่งสัญญาณในการผลิดเม็ดสีเมลานินด้วย
(Source : Ceramide inhibits cell proliferation through Akt/PKB inactivation and decreases melanin synthesis in Mel-Ab cells., Delayed ERK activation by ceramide reduces melanin synthesis in human melanocytes., Use Of Ceramides For Depigmenting The Skin)
สิ่งที่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวคืออณูกระจายแสงอย่าง Mica และ Silica ซึ่งมีอานุภาคที่ใหญ่ไปนิด สำหรับคุณผู้หญิงอาจจะไม่คิดอะไรมาก แต่สำหรับคุณผู้ขายคงไม่อยากให้มีใครมาเห็นวิ้ง ๆ ติดอยู่บนหน้า แต่ถ้าไม่ได้ติดใจเรื่องนี้มากนัก นี่เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีกว่าเดิมมากในทุก ๆ ด้านเลยล่ะ
Ingredients : Aqua/Water, Dipropylene Glycol, Glycerin, Dimethicone, Alcohol Denat., Neopentyl Glycol Dicaprate, Hydroxypropyl Tetrahydropyrantriol, Propylene Glycol, 3-O Ethyl Ascorbic Acid, Tocopheryl Acetate, Silica, Cetyl Alcohol, PEG-100 Stearate, Glyceryl Stearate, Stearic Acid, Phenoxyethanol, Salicylic Acid, Palmitic Acid, Carbomer, Potassium Hydroxide, 2-Oleamido-1,3-Octadecanediol, Hydroxyethylcellulose, Mica, Potassium Cetyl Phosphate, Lavandula Angustifolia Oil/Lavender Oil, Sodium Citrate, Xanthan GumCI 77891/Titanium Dioxide, Citric Acid, Linalool, Disodium EDTA, Sodium Hyaluronate, Citral, Limonene, Geraniol, Citrus Tachibana/Citrus Aurantium Tachibana Peel Extract, Paeonia Suffruticosa Extract/Paeonia Suffruticosa Root Extract.
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั๊ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้งครับ
ใครที่สนใจก็สามารถแวะไปขอ Sample ของผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ก่อนได้ที่ร้าน Kiehl’s ทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page ของ Kiehl’s Thailand ครับ
ข้อดี
– สารไวท์เทนนิ่งที่ใช้ทันสมัยขึ้นและคาดหวังในการลดเลือนจุดด่างดำได้จริง
– วิตามินซีช่วยเป็น Anti-Inflammatory ลดรอยแดงจากการอักเสบของสิวได้
– เนื้อสัมผัสบางเบาขึ้น ไม่ลอกเป็นขุยง่ายเหมือนรุ่นเก่า
– โทนเนอร์ เซรั่ม และอีลมัลชั่น ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ไม่แห้งกร้าน
– มี Sample ให้ทดลองใช้สำหรับทุกผลิตภัณฑ์ในไลน์ และสามารถขอมาทดลองใช้ก่อนได้ฟรี
ข้อเสีย
– มีส่วนผสมของ Lavender Oil
– สารทำความสะอาดในโฟมล้างหน้าและสครับอาจทำให้ผิวแห้งกร้านได้หากไม่ได้ดูแลเรื่องความชุ่มชื้นให้ดี
– ปริมาณของเซรั่มและมอยซ์เจอไรเซอร์ถูกปรับให้น้อยลง
***Sponsored Item***
– Kiehl’s : Clearly Corrective™ White Purifying Foaming Cleanser
– Kiehl’s : Clearly Corrective™ White Skin Brightening Exfoliator
– Kiehl’s : Clearly Corrective™ White Clarity-Activating Toner
– Kiehl’s : Clearly Corrective™ Dark Spot Solution
– Kiehl’s : Clearly Corrective™ White Hydrating Moisture Emulsion