ในช่วงปี 2013 ที่ผ่านมา มีส่วนผสมชนิดหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงกันมากในตลาดเครื่องสำอางของบ้านเรารวมไปถึงต่างประเทศ นั่นก็คือ Bee Venom หรือพิษผึ้ง คราวนี้ได้ทดลองแบรนด์ Manuka Doctor จากประเทศอังกฤษที่มีส่วนผสมตัวนี้พอดีจึงจะมาเล่าเรื่องส่วนผสมตัวนี้สักหน่อย
พิษของผึ้งนั้นมีสารประกอบของโปรตีนเชิงซ้อนอยู่มากมาย ซึ่งเมื่อผ่านการทำให้บริสุทธิ์เพื่อแยกเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการออกมาใช้นั้นก็จะได้เปปไทด์ที่มีประโยชน์ต่อผิว การศึกษาเกี่ยวกับผลของ Purified Bee Venom เมื่อนำมาทาที่ผิวนั้นทำโดยนักวิจัยชาวเกาหลีที่ชื่อว่า Sang Mi Han
จากข้อมูลที่หามาได้นั้นระบุว่า สารสกัดจากพิษผึ้งบริสุทธิ์นั้นมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P.Acne ที่ทำให้เกิดการอักเสบของสิวได้ โดยไม่ทำให้เกิดการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย โดยใช้สารสกัดในความเข้มข้นเพียง 0.006% เท่านั้น แต่การศึกษานี้มีผู้ร่วมทดสอบเพียง 12 คน ซึ่งแบ่งเป็น Control 6 คน และ Treated 6 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากเท่าไหร่
มีการทดสอบนอกสิ่งมีชีวิตที่ระบุว่า Purified Bee Venom สามารถลดการแสดงออกของเอนไซม์ MMP-1 และ MMP-3 ซึ่งเปนเอนไซม์ที่ทำลายโครสร้างโปรตีนอย่างคอลลาเจน ซึ่งสามารถถูกกระตุ้นได้ด้วยรังสี UVB ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการช่วยชะลอการเกิดร้ิวรอย อีกการทดสอบพบว่า Purified Bee Venom สามารถช่วยเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อช่วยในการเยียวยาบาดแผลให้หายไวขึ้น เป็นข้อมูลที่น่าสนใจและบ่งชี้ว่า Purified Bee Venom นั้นมีศักยภาพในการเป็นส่วนผสมที่มีประโยนชน์หลากหลายในเครื่องสำอางหรือยา แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในสิ่งมีชีวิต และจากหน่วยงานอื่นเพื่อยืนยันผลการทดลองของ Sang Mi Han อีกครั้ง
(Source : Effects of cosmetics containing purified honeybee (Apis mellifera L.) venom on acne vulgaris, Inhibitory effect of bee venom against ultraviolet B induced MMP-1 and MMP-3 in human dermal fibroblasts, Effects of honeybee (Apis mellifera) venom on keratinocyte migration in vitro)
ส่วนประกอบหลัก ๆ เป็นมาส์กเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของ Kaolin หรือโคลนขาวค่อนข้างเยอะเหมือนกัน มีน้ำผึ้งจากดอกมานูก้าที่มีค่า UMF18 เป็นส่วนผสมหลักในการให้ความชุ่มชื้น มีสารสกัดจาก Propolis ช่วยต้านจุลชีพได้ มีบัตเตอร์และน้ำมันจากพืชในการช่วยให้ผิวนุ่มลื่นพร้อมีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ และแน่นอนก็ต้องมีสารสกัดจากพิษผึ้ง
มาส์กตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมและเป็นแบรนด์ที่ขายในยุโรปด้วยจึงมีการแยกส่วนของ Fragrance Component ที่กฏหมายของ EU ระบุเอาไว้มาด้วยอย่าง Linalool และ Limonene
Ingredients : Water (Aqua), Cetearyl Alcohol, Kaolin, Mel (Honey) Butylene Glycol, Glyceryl Stearate, Dimethicone, PEG-100 Stearate, Phenoxyethanol, Theobroma Cacao (Cocoa) Butter, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Propolis Extract, Ribes Nigrum (Blackcurrant) Seed Oil, Royal Jelly, Propylene Glycol, Parfum (Fragrance), Xanthan Gum, Sodium Hydroxymethylglycinate, Tocopherol, Ethylhexylglycerin, Rosa Mosqueta (Rosehip) Seed Oil, Limonene, Sodium Hyaluronate, Linalool, Bee Venom, Sodium Benzoate.
การล้างมาส์กด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวจะออกยากนิดนึง วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำอุ่นค่อยๆ ลูบออกไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า
ผลจากการทดลองใช้เป็น Sleeping Mask สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยทาแทนมอยซ์เจอไรเซอร์ไปเลยพบว่าหลังล้างหน้าตอนตื่นนอน ผิวรู้สึกนิ่มและลื่นดี ส่วนการทาทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วเช็ดออกพบว่าผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้นแต่ไม่เห็นผลในเรื่องอื่นเท่าใดนัก
สำหรับเรื่องของสิวในช่วงที่ทดลองปูเป้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสิวอักเสบจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันมีผลอย่างไร แต่ส่วนตัวลองใช้แล้วสิวไม่ขึ้นเพิ่มครับ
มาส์กตัวนี้จะเป็นคำตอบของการผิวสุขภาพดีที่ทุกคนต้องการหรือไม่? ส่วนตัวมองว่าเป็นทางเลือกดีกว่า เพราะพิษผึ้งเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างใหม่ ในแง่ของการลดสิวนั้นก็ยังมีการศึกษาไม่มากเท่าพวกตัวยาหรือสารอื่น ๆที่รักษาสิวได้ หรือในแง่ของริ้วรอยก็ยังมีการศึกษาไม่มากเท่าพวกวิตามินซีหรือวิตามินเอ แต่หากว่าลองใช้พวกส่วนผสมต้านสิวและริ้วรอยแบบมาตรฐานแล้วยังไม่ได้ผลเป็นที่พอใจ จะมาลองใช้ทาเลือกใหม่อย่างพิษผึ้งก็คงจะไม่ผิดอะไรเช่นกัน
อ้อ แบรนด์นี้เขามีน้ำผึ้งมานูก้า 100% สำหรับบริโภคมาขายด้วยนะ ส่วนตัวชอบน้ำผึ้งเขามาก อร่อย และมีประโยชน์ แต่เราว่าเขาขายแพงไปล่ะ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
ข้อดี
– Apitherapy เป็นแนวคิดที่มีความน่าสนใจ
– สารสกัดจากพิษผึ้งมีการศึกษาที่บ่งชี้ถึงประโยชน์ต่อผิวที่หลากหลาย
– เนื้อครีมไม่เหนอะหนะ ทาก่อนนอนได้โดยไม่เลอะหมอน
ข้อเสีย
– มีส่วนผสมของน้ำหอม
– ยังขาดการศึกษาจากหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลของสารสกัดจากพิษผึ้ง
– ราคาสูง
***Sponsored Item***
– Manuka Doctor Apinourish Rejuvenating Face Mask