<center.
ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นกลุ่ม Neutrogena Clinical Fine Fairness ซึ่งเป็นไลน์ไวท์เทนนิ่งในระดับ Masstige ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่า รวมถึงเนื้อสัมผัสที่ปรับปรุงให้หรูหรายิ่งขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ผลิตภัณฑ์
• Clinical Fine Fairness Radiance Essence ราคา 999 บาท
• Clinical Fine Fairness Radiance Cream ราคา 999 บาท
• Clinical Fine Fairness Multi-Protect UV Fluid SPF50+/ PA+++ ราคา 540 บาท
คอนเซปต์หลักของ Neutrogena Clinical Fine Fairness คือการนำส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่มีอยู่แล้ว มีผนวกเข้ากับเทคโนโลยี Vital Ion เพื่อให้ได้ประสิทธิผลในการลดเลือนจุดด่างดำและมอบความกระจ่างใสให้กับผิวที่ดียิ่งขึ้น
เทคโนโลยี Vital Ion เป็นการนำส่วนผสมของ สังกะสี และ ทองแดง ในการกระตุ้นการสร้างพลังงานให้กับเซลล์ จึงทำให้เซลล์มีความสามารถในการตอบสนองกับการรักษาด้วยสารไวท์เทนิ่งได้ดียิ่งขึ้น
ว่าแต่พลังงานของผิว เกี่ยวข้องกับเรื่องของจุดด่างดำและความหมองคล้ำได้อย่างไรล่ะ?
เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของ Mitochondria ก็จะลดน้อยลง การผลิตพลังงานที่เซลล์จะนำมาใช้ก็น้อยลง ซึ่งการศึกษาในปี 2008 พบว่า AdenosineTriphosphate หรือ ATP มีผลกับการแบ่งตัวของเซลล์ผิวชั้นนอกด้วย ยิ่งอายุมากขึ้น การผลิตพลังงานของเซลล์ลดลง การแบ่งตัวของผิวก็ช้าลงด้วยเช่นกัน
(Source : Marked aging-related decline in efficiency of oxidative phosphorylation in human skin fibroblasts1, Effects of adenosine 5′-monophosphate on epidermal turnover.)
(Source : Enhanced expression of cylooxygenase-2 by UV in aged human skin in vivo.)
ผลก็คือ จุดด่างดำจึงสะสมตัวอยู่ในส่วนล่างของผิวชั้นล่าง และมีความสามารถในการแบ่งตัวต่ำ ทำให้จุดด่างดำฝังแน่นและไม่สามารถขจัดออกไปได้ง่าย ๆ
จริงๆ แล้วคอนเซปต์ของการกระตุ้นการสร้าง ATP หรือพลังงานของเซลล์ในการเสริมประสิทธิภาพในการลดจุด่างดำไม่ใช่เรื่องใหม่ มีแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากฝั่งญี่ปุ่นนำคอนเซปต์นี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์ของเขาแล้วเมื่อสองปีที่ผ่านมา แต่หลักในการกระตุ้นการสร้างพลังงานด้วยการใช้ สังกะสีและทองแดง ลงในผลิตภัณฑ์นั้น ดูจะถูกนำมาใช้เฉพาะแบรนด์ในเครือของ Johnson & Johnson ซึ่งเป็นเจ้าของ Neutrogena นั่นเอง
ถือว่าเป็นน้ำจิ้มให้ทุกคนได้ว้าวกันก่อนที่จะมาลงรีวิวให้ดูละกันนะฮะ