เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปูเป้ได้ไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Neuteogena Hydro Boost ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เห็นเริ่มวางจำหน่ายมาก่อนหน้านั้นหลายสัปดาห์เหมือนกัน และก็มีคำถามอยู่ในใจมากมายว่า “ทำไมราคาผลิตภัณฑ์กลุ่ม Hydration ให้สูงกว่า Whiteining?” ทั้งที่ดูจากส่วนผสมคร่าว ๆ แล้วมันดูธรรมดามากเลย…
ปัญหาคือว่าในรายชื่อส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์นั้นมันไม่มีสารสกัดจากผลมะกอก หรือ Olive Extract ให้เห็นเลยน่ะสิ แต่จากการที่อ่านส่วนผสมเครื่องสำอางมาหลายปีก็เลยคาดเดาว่าเจ้า Cetearyl Olivate และ Sorbitan Olivate นี่แหล่ะที่น่าจะเป็นสารที่ได้จากมะกอก (“Olivate” มันคล้ายกับคำว่า “Olive”) และก็พบว่าส่วนผสมนี้ก็คือ Olivem®1000 Crystal Skin™ โดยบริษัท B&T นั่นเอง สารนี้เป็นกลุ่มของสารประกอบของกรดไขมันหลากหลายชนิดที่ได้จากผลมะกอก ซึ่งมีคุณสมบัติทางเคมีคล้ายคลึงกับ Lipid ในผิวของมนุษย์…. ซึ่งถ้าคุณสมบัติมีเพียงเท่านี้มันก็จะธรรมดามากมาย แต่จากการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า Olivem®1000 Crystal Skin™ สามารถสร้างโครงสร้างอีมัลชั่นแบบ Liquid Crystal ได้ด้วย!!!
แล้วทำไมโครงสร้างอีมัลชั่นแบบ Liquid Crystal ถึงได้น่าสนใจ? ขอยกรายละเอียดส่วนนี้ไว้ในรีวิวด้านล่างละกัน….
ก่อนอื่นก็ต้องเกริ่นถึงเรื่องผิวหนังของเราก่อน ก็อย่างที่หลายคนรู้กันแล้วว่าผิวชั้นนอกของเราก็คือ “เซลล์เคราติน” ที่เป็นเสมือน “ก้อนอิฐ” ที่เชื่อมเข้าด้วยกันด้วย Intercellular Lipid ที่เปรียบเสมือน “ปูน” ทั้งสองสิ่งนี้ก่อร่างสร้างตัวรวมกันเป็นผิวชั้นนอก ที่เปรียบเสมือนกำแพงที่ปกป้องผิวชั้นในของเราจากการสูญเสียความชุ่มชื้น การระคายเคือง รวมถึงสิ่งสกปรก เชื้อโรค บลา ๆ ไม่ให้กล้ำกรายเข้าไปที่ผิวด้านใน
ทีนี้เมื่อเทคโนโลยีก้าวไกลขึ้น เราก็ค้นพบว่าเจ้า “ปูน” ที่เอาไว้ยึด “ก้อนอิฐ” เนี่ย มันก็มีการเรียงโครงสร้างเป็นชั้น ๆ อีกเหมือนกัน ซึ่งเราเรียกโครงสร้างแบบนี้ว่า “Lamellar Structure”
(Source : OLIVE OIL FATTY ACIDS: POSITIVE EFFECTS FOR THE SKIN)
Ingredients : Water, Glycerin, Dimethicone, Cetearyl Olivate, Polyacrylamide, Sorbitan Olivate, Dimethicone/Vinyl Dimethicone Crosspolymer, Dimethiconol, Ethylhexylglycerin, Synthetic Beeswax, C13-14 Isoparaffin, Benzyl Alcohol, Butylene Glycol, Chlorphenesin, Trehalose, Dimethicone Crosspolymer, Dipotassium Glycyrrhizate, Laureth-7, Mannitol, Carbomer, Sodium Hyaluronate, Microcrystalline Cellulose, C12-14 Pareth-12, Sodium Hydroxide, Fragrance, Cl77289, Portulaca Oleracea Extract, Tocopheryl Acetate, Magnesium Aspartate, Zinc Gluconate, Copper Gluconate, Cl 42090.
สรุปแล้วนอกจากบรรจุภัณฑ์แบบกระปุกที่ปูเป้มองว่ามันใช้ยากและไม่ค่อยจะ Hygiene เท่าไหร่ และส่วนผสมของน้ำหอมที่รู้สึกว่าอยากให้กลิ่นมันเบาลงกว่านี้อีกนิด (หรือไม่ใส่มาเลยยิ่งดี) แล้วล่ะก็ ปูเป้มองว่าเจลกระปุกนี้ทำหน้าที่ตามที่โฆษณาเอาไว้ทุกอย่าง แต่ว่ายังไงปูเป้ก็ยังข้องใจกับการตั้งราคาอยู่ดี… ผมมองว่าช่วงราคาไม่เกิน 6XX บาท จะเป็นอะไรที่เหมาะและเข้าถึงได้ง่ายกว่านี้สำหรับไลน์ Hydration ครับ
เทคโนโลยีเบื้องหลังก็จะเหมือนกับที่ได้อธิบายไปแล้วสำหรับตัว Night Concentrate เพียงแต่เวอร์ชั่นนี้จะมีความบางเบากว่า (และมีปริมาณของสารบำรุงอื่น ๆ ที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน) เขาเลยแนะนำให้ใช้สำหรับเวลากลางวัน
ตัวเบสเจลจะมีส่วนผสมของซิลิโคนชนิดระเหยไวรวมถึงซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ที่ให้ความรู้สึกนวลเนียนแก่ผิวเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่น่าประทับใจ เนื้อเจลจะให้ความเย็นฉ่ำและกลืนไปกับผิวอย่างง่ายดายและไม่ทิ้งความเงามันเอาไว้เลย ผิวหน้าจะดู Smooth Matte นวลเนียนเป็นธรรมชาติ
นอกจากเรื่องของบรรจุภัณฑ์แบบกระปุกและน้ำหอมแล้ว สิ่งที่ควรพูดถึงคือเรื่องความเข้ากันของเนื้อผลิตภัณฑือื่น ๆ ที่จะทาตามลงไป ดดยเฉพาะ “กันแดด” ที่อาจจะ Ball-up เป็นขุยได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์เนื้อซิลิโคนแบบนี้ ซึ่งถ้าปัญหานี้เกิดขึ้น ถ้าคุณไม่เปลี่ยนกันแดดที่ใช้ ก็ต้องเอาเจ้า Water Gel นี่ออกไปแทนล่ะจ้า
Ingredients : Water, Cyclopentasiloxane, Glycerin, Dimethicone, Cyclohexasiloxane, Demethicone/Vinyl Dimethicone Crosspolymer, Polyacrylamide, Cetearyl Oilvate, Dimethiconol, C13-14 Isoparaffin, Phenoxyethanol, Sorbitan Oilvate, Dimethicone Crosspolymer, Laureth-7, Carbomer, Fragrance, Sodium Hyaluronate, Methylparaben, Disodium EDTA, C12-14 Pareth-12, Magnesium Aspartate, Zinc Gluconate, Propylparaben, Sodium hydroxide, Methylisothiazolinone, Copper Gluconate, Cl 42090.
เป็นผลิตภัณฑ์ให้ความรู้สึกดีในขณะใช้ เพราะว่านอกจากเนื้อสัมผัสของเจลจะมีความเย็นในตัวแล้ว หัวลูกกลิ้งที่เป็นโลหะก็ยิ่งเพิ่มความเย็นสดชื่นเมื่อกลิ้งลงไปบนผิวมากขึ้นทวีคูณ ตรงนี้เป็นข้อดีสำหรับตอนหลังตื่นนอนที่รอบดวงตาจะมีอาการบวมน้ำนิดหน่อย ก็เอาเจ้านี่มากลิ้ง ๆ แล้วรู้สึกดี (แต่ก็แอบคิดว่าจะเปลืองไปไหม…)
ส่วนผสมที่เป็นเทคโนโลยี Liquid Crystal นั้นมีอยู่น้อยในอายโรลออนหลอดนี้ เนื่องจากการทำสูตรให้มีเนื้อบางเบาพอที่จะไหลออกมาผ่านทางหัวลูกกลิ้งได้จะต้องมีเหลวพอสมควร แต่ความชุ่มชื้นที่ได้ก็ยังถือว่าโอเคทีเดียว สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือมันใช้ง่ายมาก (เอาไปใช้หลังเล่นฟิตเนสเสร็จได้สะดวกดี) และไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะกับผิว
ข้อเสียคือเป็นผลิตภัณฑ์รอบดวงตาที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และในส่วนผสมมีสารกรองรังสี UVB มาด้วย แต่ไม่ได้ระบุค่า SPF หรือสรรพคุณในการปกป้องผิวจากรังสี UV ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าใส่มาเพื่ออะไร… อย่างน้อยการปรับส่วนผสมของน้ำหอมออกก็จะทำให้ผลิตภัณฑืมีความสมบูรณ์มากขึ้นในมุมมองของปูเป้นะ
Ingredients : Water, Glycerin, Dimethicone, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Sodium Acrylate/Sodium Acryloldimethyl Taurate Copolymer, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Isohexadecane, Phenoxyethanol, Dimethicone Crosspolymer, Methylparaben, Polysorbate 80, Carageenan, PEG-9 Polydimethylsiloxyethyl Dimethicone, Propylparaben, Sodium Hyaluronate, Tocopheryl Acetate, Cetearyl Olivate, Sorbitan Olivate, Saccharomyces Lysate Extract, Fragrance, Portulaca Oleracea Extract, Magnesium Aspartate, Zinc Gluconate, Citric Acid, Copper Gluconate.
เป็นผลิตภัณฑืเดียวในไลน์ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของ Liquid Crystal เลย แต่โฟมล้างหน้าชนิดปั้มโฟมสำเร็จขวดนี้ก็ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยนและมีประสิทธิภาพที่ดีทีเดียวในการทำความสะอาด
ความรู้สึกหลังล้างหน้าจะไม่แห้งตึง แต่จะมีอะไรลื่น ๆ ติดอยู่บนผิวเล็กน้อย ซึ่งถ้าใครไม่ชอบความรู้สึกนี้ก็สามารถที่จะใช้ผ้าขนหนูหรือฟองน้ำละเอียด ๆ ชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดหน้าแล้วก็ล้างตามด้วยน้ำสะอาดอีกหนึ่งครั้งก็จะเอาความรู้สึกลื่น ๆ ผิวออกไปได้
Ingredients : Water, Butylene Glycol, Sodium Laureth Sulfate, Glycerin, Polysorbate-20, Di-PPG-2 Myreth-10 Adipate, Cocamidopropyl Betaine, Sodium Cocoyl Isethonate, PEG-80 Sorbitan Laureth, PEG-7 Glyceryl Cocoate, Phenoxyethanol, Decyl Glucoside, Cocamidopropylamine Oxide, Bisabolol, PEG-150Distearate, Fragrance, Methylparaben, Tetrasodium EDTA, Propylparaben, Magnesium Aspartate, Zinc Gluconate, Citric Acid, Ethylparaben, Dipotassium Glycyrrhizate, Methylisothiazolinone, Copper Gluconate, Olea Europaea (Olive) Leaf Extract.
ผลิตภัณฑ์ที่ชอบคือ Neutrogena : Hydro Boost Night Concentrate ตรงที่มันให้สัมผัสที่แตกต่างจาก Sleeping Pack ตัวอื่นที่เคยใช้มาตรงที่มันไม่เหอนะเลอะเทอะหมอนตอนนอน แต่ก็ยังให้ความชุ่มชื้นได้อย่างเต็มที่ตลอดคืน นอกนั้นก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ถึงกับ “ว๊าว” โดยฉพาะเมื่อคิดถึงราคาที่ตั้งไว้สูงเกินไปตามความรู้สึกของตัวเอง (คือ Neutrogena ไม่ใช่เคาน์เตอร์แบรนด์ หรือแบรนด์แบบ Cosmeceutical น่ะ) หรือถ้าจะตั้งราคาขนาดนี้ผมว่านอกจากเทคโนโลยีเรื่องความชุ่มชื้นแล้ว น่าจะมีปริมาณของสารแอนติออกซิแดนท์หรือส่วนผสมอื่น ๆ มากกว่านี้ มันก็ยังดูเป็นอะไรที่เพิ่มมูลค่าจนทำให้เรารู้สึกว่าเราได้จ่ายเงินเพิ่มเพื่ออะไรสักอย่างที่คู่ควร
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั๊ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้งครับ
ข้อดี
– เทคโนโลยี Liquid Crystal ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของ Skin Barrier
– เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่เหนอะหนะแต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีเยี่ยม
– หาซื้อได้ง่าย
– ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ชนิดระเหยไว
ข้อเสีย
– มีส่วนผสมของน้ำหอมและสี
– บรรจุภัณฑ์แบบกระปุกที่ใช้ลำบาก มีปัญหาในแง่ของความสะอาดในการใช้
– การตั้งราคาไม่สมเหตุผล (เป็นความเห็นส่วนตัว)
***Sponsored Item***
– Neutrogena : Hydro Boost Mousse Cleanser
– Neutrogena : Hydro Boost Eye Roll-On
– Neutrogena : Hydro Boost Water Gel
– Neutrogena : Hydro Boost Night Concentrate