เวลาหนึ่งปีผ่านไปกว่าที่คิด (เหมือนว่าปีก่อน ๆ ก็พูดแบบนี้) แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงเฝ้ารอเวลานี้ที่ปูเป้จะมาเล่าให้ฟังว่าในรอบปีที่ผ่านมามีอะไรดี ๆ ที่เราอยากสิงให้พวกเธอไปเสียเงินกันบ้างใช่ไหมล่ะ!!!
ทว่าก่อนที่จะไปถึงลิสต์ผลิตภัณฑ์เราขอมาเล่าสรุปเรื่องราวชีวิตของช่วงปีที่ผ่านแบบสั้น ๆ ตามประสาคนกันเองสักหน่อย ปีนี้เปิดมาอย่างเงียบเหงาม๊ากจนทำเราใจไม่ค่อยดี แถมมีเรื่องต้องใช้เงินก้อนบึ้มจนต้องเอาทรีนก่ายหน้าผากอยู่นับเดือน แต่เราดีใจที่เรื่องราวในปีนี้จบลงตามแบบฉบับของนิยายน้ำเน่านิดนึงที่ปิดม่านไปอย่าง Happy Ending เพราะกลายเป็นปีที่งานเยอะที่สุดตั้งแต่ทำงานตรงนี้มา เรื่องที่ทำเรากลุ้มจนเหมือนมองไม่เห็นอนาคตก็คลายตัวด้วยดี ได้รับโอกาสที่ดีในการเดินทางไปและมีประสบการณ์อันน่าจดจำมากมาย มองย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าเออเราก็ใช้ชีวิตคุ้มในระดับนึง
ในปีนี้คำว่า ‘Unexpected’ นั้นโดดเด่นในชีวิตเรามากเพราะปีนี้มีแต่เรื่องที่ไม่คาดคิดหลายอย่างทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีโดยเฉพาะในเรื่องรสนิยมและความชอบของตัวเราในบางเรื่องที่ไม่คิดมาก่อนว่าเราจะชอบสิ่งนี้ได้ด้วยงั้นหรอ? หรือเราจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้หรอ? ทว่ามันก็ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในระดับของจิตใต้สำนึกที่เราอาจจะเรียกร้องต้องการอะไรบางอย่างมาเติมเต็มหัวใจก็เป็นได้
อีกคำหนึ่งคือคำว่า ‘Effortless’ คือเราลด ละ เลิก สิ่งที่ทำให้เราเหนื่อยหรือยุ่งยากมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ตั้งคำถามถึงสารพัดสิ่งที่ตัวเองเคยทำว่าเราแฮปปี้กับมันจริง ๆ รึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็เลิกซะจะได้ลดภาระในชีวิตตัวเอง ใช้ชีวิตที่เรามีความสุขแบบดูไม่ต้องพยายาม
อีกบทเรียนสำคัญในปีนี้คือเราได้เข้าใจถึงคำว่า “ยกภูเขาออกจากอก” อย่างแจ่มแจ้งครั้งแรกก็ในปีนี้เมื่อเราปล่อยวาง จริงอยู่ที่ความฝันเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจ สำหรับเราความฝันเป็นเหมือนความหวังที่คอยเติมเชื้อไฟให้เรายังลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ แต่ “ความฝัน” นั้นต่างจาก “เป้าหมาย” เพราะความฝันเราจะมโนอยากได้อยากมีเท่าไหร่ก็ได้อย่างไร้ขอบเขต แต่เป้าหมายต้องเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้จริงและสามารถมองเห็นหนทางไปสู่สิ่งนั้นได้ ในปีนี้เราได้สำรวจตัวเองและถามตัวเองว่า ใช่ สิ่งนี้คือความฝันของเรา แต่มันเหมาะที่จะเป็นเป้าหมายของเราในตอนนี้รึเปล่า? มันเกินตัวของเราในตอนนี้ไปไหม? เพราะชีวิตเราไม่สามรถได้ทุกอย่าง อะไรที่เกินตัวไปบางทีก็ต้อง Let it go
เป็นผู้ใหญ่นี่มันยากจังเลยนะ… แต่ก็ไม่อยากกลับไปเป็นเด็กที่ต้องพึ่งพาพึ่งพิงคนอื่นดูแลตัวเองและตัดสินใจในชีวิตตัวเองไมไ่ด้เหมือนกัน จะยังไงก็ตามแต่อย่างน้อยในปีนี้เราก็ได้พยายามอย่างเต็มที่และมันก็จบอย่างดูดี ในตอนนี้เราสามารถมองย้อนกลับไปในตลอดทั้งปีที่ผ่านมาอย่างภูมิใจว่าเราสามารถผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ และดีใจที่ในระหว่างทางนั้นเต็มไปด้วยผู้คนและมิตรภาพดี ๆ ที่เราสร้างมาร่วมกัน
อยู่ด้วยกันต่อไปนะ
ด้วยรัก / PuPe_so_Sweet
เนื้อหาในรูปแบบวีดีโอก็มีนะฮะ โดยส่วนหลักจะเหมือนกับใน blog นี้แหล่ะ แต่ว่าจะมีอารมณ์เม้ามอยและข้อมูลเสริมเพิ่มเติมเข้าไป แนะนำว่าถ้ามีเวลาก็อยากให้ดูจ้า
#PuPeFav2017 Part 1
– Introduction
– Makeup Remover
– Facial Cleanser
– Toner / Water Lotion
– Treatment Essence
#PuPeFav2017 Part 2
– Serum / Booster
– Moisturizer
– Eye Care
– Facial Oil
#PuPeFav2017 Part 3
– Anti-Aging / Healing
-Whitening / Brightening
– Rinse-Off Mask
– Leave On Mask / Sheet Mask
– Sunscreen
#PuPeFav2017 Part 4
– Acne Care
-Facial Mist
– Lip Care
– Base Makeup
– Body Care
– Hair & Scalp Care
– Beauty Gadget
La Roche-Posay : Micellar Water Ultra Reactive Skin (400ml / 1,000 Baht)
สิ่งที่เราชอบคือมันมีส่วนผสมของ Glycerin มากกว่าสูตรปกติของเขาถึง 5 เท่า ซึ่งแน่นอนแหล่ะว่าหากใช้โดยไม่ล้างออกตามแบบฉบับที่เขาแนะนำให้ใช้กับผลิตภัณฑ์ประเภท Cleansing Water ก็คงจะรู้สึกว่ามันไม่ให้ฟีลหลังใช้ที่บางเบาเท่าไหร่นัก แต่สำหรับเราที่จะล้างโฟมซ้ำตามเสมอ การที่มันมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นมาเยอะมากช่วยในการบาลานซ์การทำความสะอาดโดยไม่ทำให้ผิวเราแห้งตึงเกินไปได้ง่ายขึ้นมาก
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Makeup Remover / Hydration / Soothing
THREE : AIMING Cleansing Balm (85g / 2,600 Baht)
บาล์มกลิ่นหอมฟินให้ดิ้นตายอันนี้พลิกแพลงการใช้ได้ถึง 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการใข้เป็นบาล์มทำความสะอาด ใช้เป็นบาล์มนวดหน้า ใช้มาสก์หน้าสำหรับคนที่ผิวแห้งขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ส่วนตัวเราชอบในแง่ของการเป็นการทำความสะอาดและการนวดหน้ามากกว่า ส่วนการมาสก์หน้านั้นเราว่ามันไมไ่ด้เหมาะกับสภาพผิวของเราเลย (เราต้องการมาส์กหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมากกว่าทดแทนเรื่องน้ำมันบนผิว) เราใช้สิ่งนี้ในวันที่เซ็งจิต ต้องการปรับอารมณ์ตัวเอง หรือวันที่อยากจะเติมเต็มตัวเอง ใช้นวดหน้าเองว่าฟินแล้ว เจอเธอราพิสนวดหน้าด้วยสิ่งนี้ฟินยิ่งขึ้นอีก 150% ไปเลย นับวันรอให้เขามาเปิดสปาในไทยเร็ว ๆ เนี่ย
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Makeup Remover / Massage / Aromatherapy / Calming / Sensory
Suisai : Beauty Clear Powder (32 Capsule / 500 Baht)
น่าจะเป็นไอเทมนำเข้าอันเดียวจากญี่ปุ่นที่เราเห็นว่าตั้งราคาขายถูกกว่าญี่ปุ่นเสียอีก หรือเจอที่เขาลดราคาก็อาจจะเท่ากัน ไม่ต้องแบกกลับมาให้หนักอีกต่อไป (ในไทยขายกล่องละ 500 บาท ส่วนใหญ่ปุ่นตั้งราคาที่ 2000 เยน และมักมีโปรโมชั่นลดกันเหลือ 1700 เยน) ผงล้างหน้าตัวนี้ให้สัมผัสหลังล้างที่รู้สึกสะอาดและการใช้สกินแคร์โดยเฉพาะพวกโลชั่นน้ำจะรู้สึกว่ามันดูดซึมเข้าผิวมากขึ้น สิ่งที่เราชอบมากคือมันสะดวกในการพกพาเวลาเดินทาง หนึ่งแคปซูลต่อการใช้หนึ่งครั้ง ใช้ครั้งเดียวแล้วก็ทิ้ง สะดวก ง่าย
Skin Type : Normal / Combination / Oily / Sensitive Skin
Outstanding : Moderate Cleansing / Sensory / Travel Friendly
MINON : Amino Moist Clear Wash Powder (30g / 1,500 Yen) ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
ยังไม่มีขายในไทย แต่ผงล้างหน้านี้ละลายน้ำง่ายมาก และเป็นผงล้างหน้าที่คงความชุ่มชื้นมากกว่าตัวที่กล่าวไปก่อนหน้านี้จนผิวค่อนไปทางแห้งก็ยังใช้ได้
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Gentle Cleansing / Hydration / Travel Friendly
Origins : Clear Improvement Active Charcoal Exfoliating Cleansing Powder (50g / 1,500 Baht)
เราค่อนข้างสนใจตัวนี้ตรงที่เบสของผงล้างหน้าเป็นน้ำตาล ซึ่งแตกต่างจากผงล้างหน้าอื่น ๆ ที่มักเป็นแป้งพืช หรือทัลคัม ผงล้างหน้าผสมเม็ดสครับและผงถ่านตัวนี้ให้ัมผัสในการใช้ที่ดีทีเดียวล่ะ
Skin Type : Normal / Combination / Oily
Outstanding : Moderate Cleansing / Daily Exfoliating / Sensory / Travel Friendly
fresh : Soy Face Cleanser (150ml / 1,620 Baht)
เจลล้างหน้ากลิ่นคล้ายแตงกวานี้ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน ไม่แห้งตึง ฟองน้อยมากจนแทบไม่มี เราใช้สิ่งนี้เป็นประจำเวลาอาบน้ำหลังออกกำลังกายเพราะต้องการให้ผิวยังคงนุ่มชุ่มชื้น ที่สำคัญกลิ่นมันทำให้เรายิ้มได้เวลาที่เหนื่อยแทบตายจากการยกเวทและคาร์ดิโอ
Skin Type : All Skin Type / Dehydrated
Outstanding : Gentle Cleansing / Hydration / Sensory
philosophy : the microdelivery daily exfoliating wash (240ml / 1,200 Baht)
หน้าตาเหมือนเดิมแต่เขาปรับสูตรใหม่นะเออ คือสูตรเดิมจะมีปัญหาเรื่องการจมลงของเม็ดขัดผิวทำให้คนที่ใช้ขวดใหญ่ที่เป็นหัวปั้มพอใช้ไปถึงจุดหนึ่งแล้วจะเหลือแต่ตัวเจลแต่เม็ดขัดผิวไม่มีแล้ว สูตรใหม่ทำออกมาแก้ปัญหานี้ได้และเพิ่มปริมาณของเม็ดขัดผิวที่มาจากธรรมชาติมากขึ้นอย่างรู้สึกได้ สิ่งที่เพิ่มเติมคือมีน้ำมันสกัดจากผิวส้มมาช่วยให้กลิ่นที่สดชื่น แม้ว่าการเพิ่มน้ำมันหอมระเหยเข้ามาจะทำให้สิ่งนี้มีภาษีน้อยลงเรื่องความอ่อนโยน (การเพิ่มกลิ่นหอมทุกรูปแบบเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ในบางคนได้เสมอ) แต่เรารักกลิ่นตระกูลซิตรัส และเราไม่มีปัญหากับน้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม เราจึงรักสูตรใหม่นี้มาก ให้ประสบการณ์ในการใช้อันยอดเยี่ยมในทุกด้าน นี่เป็นเจลล้างหน้าผสมสครับที่เลิศจริง ๆ
Skin Type : Normal / Combination / Oily
Outstanding : Moderate Cleansing / Daily Exfoliating / Sensory
Simple : Kind To Skin Refreshing Facial Wash Gel (125ml / 229 Baht)
เจลล้างหน้าเบสิคไม่ซับซ้อน ทำความสะอาดสิ่งสกปรกและคราบมันได้กำลังดี ล้างออกไม่ยาก ไม่มีน้ำหอมและราคาก็ไม่แพง
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : Normal / Combination / Oily / Sensitive Skin
Outstanding : Moderate Cleansing
Klairé : Anti-Pollution Mouse Pack (100ml / 690 Baht)
มูสตัวนี้ใช้เป็นมาสก์หน้าได้แต่เรารู้สึกว่ามันแห้งไปหน่อยสำหรับเรา แต่การเอามาเป็นมูสล้างหน้าได้ดีมาก เนื้อแน่นและนุ่ม ล้างออกได้ง่ายและให้ฟีลหลังล้างที่ดี ผิวรู้สึกสดใสและไม่แห้งตึงเกินไปสำหรับสภาพผิวของเรา ช่วงอากาศร้อนชื้นเหงื่อไหลไคลย้อยผจญเวรกรรมในเมืองมาทั้งวันต้องใช้สิ่งนี้
Skin Type : Normal / Combination / Oily
Outstanding : Deep Cleansing / Sensory
Malon by TBC : Vio Wash Foam (100ml / 390 Baht)
โฟมล้างจิ๋มส์แบบปั้มโฟมสำเร็จที่เอามาล้างหน้าได้โคตรดี ดีแบบเกินหน้าตาเกินตาโฟมที่โพซิชั่นตัวเองสำหรับล้างหน้ากว่า 90% ในท้องตลาดมันเป็นโฟมแบบปั้ม โฟมแบบปั้มสำเร็จที่ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึงอย่างแท้จริง อาจจะมีโฟมที่เนื้อแน่นกว่านี้ ทำความสะอาดดีกว่านี้ แต่ถ้าเรื่องล้างออกแล้วสบายผิวหน้าไม่แห้งตึงเลย ตัวนี้ทำได้ดีที่สุดในชีวิตที่เคยลองมาเลย
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Gentle Cleansing / Hydration / Sensory
Curél : Moisture Lotion III Enrich (150ml /800 Baht)
โลชั่นน้ำเติมความชุ่มชื้นมักมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนซึ่งเป็นส่วนผสมที่ดีนะ แต่ข้อเสียขอมันคือมันทิ้งความหนึบเอาไว้บนผิว ซึ่งส่งผลต่อเนื้อสัมผัสเวลาที่เราเลเยอร์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามลงไป โดยเฉพาะพวกเซรั่มที่เป็นเบสน้ำหรือเจล แต่สิ่งนี้ทำให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป เพราะนอกจากจะชุ่มชื้นอัดแน่นแต่มันไม่มีความหนึบเหนอะเหนียวบนผิวเลยล่ะ และยังอ่อนโยนมาก ๆ อีกด้วย
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Gentle / Sensory
fresh : Rose Deep Hydration Facial Toner (250ml / 1,760 Baht)
โทนเนอร์กุหลาบที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีพอ ๆ กับให้ประสบการณ์ในการใช้ที่รื่นรมย์ เป็นโทนเนอสิ้นคิดในปีนี้ของเรา คิดอะไรไม่ออกก็จะหยิบตัวนี้มาใช้เรื่อย ๆ เลยล่ะ ข้อเสียคือเวลาใกล้จะหมดจะเทยากนิดนึงเพราะกลีบกุหลาบอุดปากขวด แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งไป
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Sensory
AmorePacific : Vintage Single Extract Essence (120ml / 170,000 Won) ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
น้ำตบที่ได้มาจากการหมักใบชาเขียวตามแบบฉบับของแบรนด์ หยดลงสำลีแล้วสีอาจจะดูน่ากลัวแต่ว่าใช้แล้วผิวชุ่มชื้นดีมากแต่ไม่เหนอะผิวเลย รู้สึกว่าผิวเรียบเนียนและสดใสดี อยากได้ต้องไปซื้อที่เกาหลีกันเด้อ
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Sensory / Radiance
Vichy : Mineral 89 (50ml / 1,300 Baht)
อันนี้เป็นอะไรที่เหนือความคาดเหมาย เพราะเอาจริงๆ เรามองว่ามันธรรมด๊าธรรมดาในแง่ของส่วนผสม มีแค่น้ำแร่วิชชี่ 89% และสารให้ความชุ่มชิ้นไม่กี่ตัว แต่มันทำให้คุณภาพผิวเราดีขึ้นและอิ่มฟูขึ้นได้ และด้วยความที่มันเรียบง่ายและอ่อนโยนมากจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งในไม่กี่ตัวที่เรากล้าใช้กับหน้าในยามที่หน้าแหกจริง ๆ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเบสในการผสมกับบูสเตอร์สารพัดได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Soothing /
Clarins : Booster Energy / Detox / Repair (15ml / 1,800 Baht)
หนึ่งในผลิตภัณฑ์จำนวนน้อยมากของแบรนด์นี้ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ตัวที่เราชอบที่สุดคือ Energy ที่มีสารสกัดจากรากโสมและเปปไทด์ที่เน้นเรื่องของการต่อต้านริ้วรอย และผสมเข้ากับสกินแคร์ตัวอื่นได้ง่ายเพราะเนื้อบางและมีกลิ่นน้อยมาก ในแง่ของสูตรนั้นมันดูไม่ได้ซับซ้อนหรือหวือหวามากนักแต่สิ่งที่เราชอบมากคือบรรจุภัณฑ์ที่พกสะดวกและกะปริมาณใช้ได้ง่ายและแม่นยำแบบดรอปเปอร์แต่ไม่มีความยุ่งยากในการใช้แบบดรอปเปอร์ นอกจากจะหยดใส่กับเซรั่มหรือมอยซ์เจอไรเซอร์แล้วเรายังเอาไปหยดใส่พวกมาส์กแบบทาแล้วล้างออกด้วย ซึ่งสูตร Detox และ Healing เรามักจะใช้ผสมกับมาสก์เนื่องจากตัวมันเองมีกลิ่นที่ไม่ค่อยหอมนักและมีเนื้อที่ข้นกว่า การผสมกับมาส์กที่หอม ๆ จะช่วยกลบเรื่องพวกนี้ไปได้ แต่ถ้าอาไปหยดในเซรั่มเราพบว่ามันทำให้เนื้อสัมผัสเสียไปบ้าง แบบหนึบขึ้นนิดหน่อย
Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding : Anti-Aging / Anti-Oxidant / Travel Friendly
L’Oreal : Youth Code Skin Activating Ferment Pre-Essence (30ml / 699 Baht)
สูตรเดิมก็ดีอยู่แล้ว สูตรใหม่มีการปรับเพิ่มในเรื่องของการเสริมการผลักเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนเข้าไปด้วย แถมราคายังถูกกว่าสูตรเดิมอีกต่างหาก เป็นสกินแคร์ราคาหลักร้อยแต่ด้วยเทคโนโลยีและส่วนมันคือร่างจำแลงของเซรั่มเคา์เตอร์แบรนด์เลยล่ะ คาดหวังในเรื่องของการทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น และเรื่องริ้วรอยได้นิดหน่อย
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Barrier Repair / Hydration / Anti-Aging
Biotherm : Skin Oxygen Strengthening Concentrate (50ml / 1,800 Baht)
ถ้าอยากได้อะไรแฟนซีกว่าเวอร์ชั่นของ Youth Code ของแบรนด์น้อง และถูกกว่า Advance Genifique ของแบรนด์พี่ นี่ป้นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะถึงแม้จะมีวิตามินซีอยู่น้อยกว่าแต่ก็เพิ่มส่วนผสมของ Life Plankton ที่เข้าไปเสริมกับส่วนผสมหลักที่เขามีในการเสริมความแข็งแรงของผิวได้เป็นอย่างดี ราคาเข้าถึงง่ายด้วย
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Barrier Repair / Hydration / Soothing / Anti-Aging
Malon By TBC : Aesthetic All In One Gel (150g / 560 Baht)
เจลบำรุงผิวชุ่มชื้นสำหรับการดูแลพื้นฐานในชีวิตประจำวันที่ใช้ง่ายแค่ปั้ม เซ็ทตัวอย่างสบายผิวไม่เหนอะหนะและให้ความชุ่มชื้นไดดี และราคาน่ารักพอที่จะใช้ได้ตั้งแต่หน้าไล่มาถึงทาตัวเลยล่ะ กลิ่นส้มบาง ๆ สดชื่นมาก
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Sensory
KANEBO : Night Lipid Wear (40ml / 3,300 Baht)
อย่างพึ่งแปลกใจไปว่าที่เคยรีวิวไว้ไม่ใช่ตัวนี้นี่นา แม้ว่าครีมกระปุกนี้จะไม่ได้เน้นในเรื่องของความกระชับหรือริ้วรอย แต่เราชอบเนื้อสัมผัสและกลิ่นของ Night Lipid Wear มากกว่า มันโอบอุ้มห่อหุ้มเราอย่างนุ่มนวลด้วยกลิ่นที่อ่อนหวาน ช่วยทดแทนลิพิดที่จำเป็นกับความแข็งแรงของผิว แล้วเรื่องเอจจิ้งริ้วรอยเรามักจะไปลงกับเซรั่มมากกว่า ส่วนครีมหรือมอยซ์เจอไรเซอร์เราขอให้มันเข้ากับผิวเราได้อย่างพอดี ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น สิวไม่ขึ้น ก็เพียงพอแล้ว
Skin Type : Dry / Normal / Combination
Outstanding : Sensory / Hydration / Barrier Repair
Neutrogena : Hydro Boost Nourishing Gel Cream Fragrance-Free (50g / 599 Baht)
สูตรปรับปรุงใหม่ของ Hydro Boost มาพร้อมกับทางเลือกที่ปราศจากน้ำหอม เนื้อจะเข้มข้นกว่าตัวเจล แต่ก็มีส่วนผสมที่เน้นปกป้องผิว เหมาะกับผิวที่บอบบาง ระคายเคือง และขาดความชุ่มชื้นเป็นอย่างดี ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นึ้นจริงแบบวัดได้
Skin Type : Dry / Normal / Combination / Sensitive
Outstanding : Hydration / Barrier Repair
Curél : Intensive Moisture Cream (40g / 1,000 Baht)
สิ่งที่ดีงามของครีมกระปุกนี้คือเนื้อสัมผัสที่ทาแล้วเซ็ทตัวอย่างรวดเร็วไม่มันลื่นแต่เคลือบผิวบรรเทาความหยาบแห้งกร้านได้อย่างชะงัดนักและยาวนานอีกด้วย ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม อ่อนโยนทีเดียว เนื้อครีมนี้เหมาะกับการกระจายบนฝ่ามือและประคบ มันเซ็ทตัวเร็วมาก ถ้าเราทาแบบปาด ๆ ไปมามันจะฝืด ๆ ผิว
Skin Type : Dry / Normal / Combination / Sensitive
Outstanding : Barrier Repair / Hydration / Soothing / Sensory
La Roche-Posay : Toleriane Ultra Light (40ml / 960 Baht)
โลชั่นน้ำนมฟื้นฟูผิวที่อ่อนโยนและใช้ได้แม้กับผิวที่พึ่งตกสะเก็ดหลังยิงเลซเอร์หรือทำทรีตเมนต์ ช่วยให้ผิวค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงขึ้น ไม่มีส่วนผสมที่ไม่จำเป็น ไม่มีสี น้ำหอม สารระคายเคือง หรือสารกันเสีย เราชอบที่มันมีเนื้อสัมผัสให้เลือกใช้ตามสภาพผิวที่ต่างกัน
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : Normal / Combination / Oily / Sensitive
Outstanding : Hydration / Soothing / Barrier Repair / Sensory
Eucerin : Ultra Sensitive Soothing Care (50ml / 1,300 Baht)
ครีมตัวนี้เวลาทาลงบนผิวที่เปลือยเปล่าจะให้สัมผัสที่รู้สึกว่ามันกำลัง Soothing ผิวในทันที สบายผิวขึ้น ให้ผิวชุ่มชื้น เป็นสูตรที่อ่อนโยนมากและช่วยฟื้นฟูผิวได้
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : Dry / Normal / Combination / Sensitive
Outstanding : Soothing / Hydration / Barrier Repair / Sensory
Biotherm : Life Plankton Emulsion (75ml / 1,900 Baht)
นี่คือสิ่งที่ Life Plankton ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก คือการเป็นตัวเยียวยาปลอบประโลมผิว อิมัลชั่นนี้เป็นเหมือนโลชั่นสารพัดประโยชน์ที่มีติดบ้านไว้ไม่เสียหาย จะทาให้ความชุ่มชื้นก็ได้ ผิวแข็งแรงก็ดี ผิสวระคายเคืองมีผดผื่นคันผิวหนังอักเสบช่วยบรรเทาในเบื้องต้นได้ อย่าได้สงวนเฉพาะแค่กับผิวหน้า เพราะคันคอ คันแขน คันขา เราเอาไปทาหมด และมันเวิคร์จริง ๆ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : Normal / Combination / Oily / Sensitive
Outstanding : Soothing / Barrier Repair / Hydration
Dr.Ci:Labo : Special Enrich-Lift Eye (15g / 1,790 Baht)
ครีมเจลบำรุงรอบดวงตาตัวนี้เน้นการอัดความชุ่มชื้นล้ำลึกให้ริ้วรอยดูฟูขึ้น เราถึงกับประหลาดใจที่ผลในการใช้ก่อนหลัง มันทำให้รอยยับบนเปลือกตาเราหายไปอย่างชัดเจนเลยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding : Hydration / Anti-Aging
Paula’s Choice : RESIST Anti-Aging Eye Gel (15ml / 1,390 Baht)
ป้าพอลล่าเคยออกครีมทารอบดวงตามาแล้วแต่สำหรับเราว่ามันมีเนื้อที่เข้มข้นเกินไป แต่รุ่นเนื้อเจลที่ออกมาในปีนี้เซ็ทตัวไม่มันลื่นแต่ความชุ่มชื้นมาเต็มมาก หัวโลหะที่เป็น applicator นั้นดีตรงที่คอหลอดมีความอ่อนนุ่ม ลดการลงน้ำหนักมากไปโดยไม่จำเป็นได้ แต่เราก็คิดว่าปลายมันเทอะทะไปนิดนึง โดยรวมเราจึงมักจะบีบลงบนปลายนิ้วและทาเอามากกว่า รู้สึกว่าความคล้ำใต้ตาจางลงได้อย่างน่าพอใจ
Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding : Hydration / Anti-Aging
La Mer : The Renewal Oil (30ml / 10,100 Baht)
น้ำมันบำรุงผิวแบบ Bi-Phase ที่ต้องเขย่าก่อนใช้นี้มอบความโกลว์ฉ่ำวาวกำลังงามให้กับผิวและกลืนเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี กลิ่นหอมงดงาม ใช้เป็นตัวสุดท้ายของการบำรุงผิวก่อนเข้านอน ปริมาณในการใช้เพียง 2 – 3 หยดเท่านั้น ตื่นมาผิวจะโกลว์ใสสุขภาพดี อีกเทคนิคหนึ่งในการใช้คือหลังจากลงแป้งฝุ่นทั่วหน้าแล้วรู้สึกว่ามันดูแห้งหรือเป็นแป้งเกินไป ใช้เพียง 1 – 2 หยดลงยนฝ่ามือ วอร์กระจายใ้หทั่วและประคบผิวหน้าเบา ๆ เพื่อเซ็ทแป้งฝุ่นให้กลืนกับผิวได้งดงาม ขวดนึงใช้ได้นานมากมาย นอกจากนี้ส่วนที่เหลือจากการประคบบำรุงผิวหน้ายังเอามาลูบเส้นผมเพื่อให้มีความเงางามได้อีกด้วย เอามานวดบำรุงฟื้นฟูจมูกและหนังข้างเล็บที่แห้งเยินก็ดี (แต่เปลือง)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Glow / Hydration
SK-II : Facial Treatment Oil (50ml / 5,200 Baht)
น้ำมันบำรุงผิวที่เราชอบมักจะเป็นแบบ Bi-Phase เพราะมันทำให้การกระจายตัวของน้ำมันค่อนข้างง่ายและทำได้บางเบาดี ออยล์บำรุงผิวนี้ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนและใช้น้ำมันธรรมชาติที่ล้วนแต่ดีกับผิวทั้งสิ้น อย่าง Squalane น้ำมันโฮโฮบา อะโวคาโด รำข้าว มะกอก และใส่เฟสน้ำก็มีพิเทร่ากับสารให้ความชุ่มชื้น กลิ่นหอมอ่อนบาง ปริมาณและค่าตัวเป็นมิตรกว่าตัวที่กล่าวมาก่อนหน้าปริมาณในการใช้เราแนะนำว่าแค่ 2-3หยดก็เพียงพอแล้ว เป็นอีกออพชั่นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับน้ำมันบำรุงผิวหน้า
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Glow / Hydration
Kiehl’s : Apothecary Preparations (20ml + 5ml +5ml / 3,800 Baht)
มันคือน้ำมันบำรุงผิว + เซรั่ม ที่ปรับให้ตรงตามความต้องการของผิวได้ จึงสามารถทำให้การบำรุงผิวของเราเรียบง่ายขึ้นด้วยการแทนเซรั่มและน้ำมันบำรุงผิวที่ใช้ให้เหลืออยู่ในขวดเดียว หรือจะใช้เติมเต็มขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยการเลือกบูสเตอร์ให้เสริมเติมสิ่งที่ขาดไปในเซรั่มที่เราใช้อยู่ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่ามันควรจะเป็นการรวบขั้นตอน เป็น Simple Step ให้เราในตอนกลางวัน แบบไม่ต้องลงอะไรเยอะ ส่วนกลาคืนจะลงเพิ่มกับเซรั่มที่เราใช้อีกทีก็ไม่มีปัญหาถ้านอนในห้องปรับอากาศ ปริมาณในการใช้แต่ละครั้งก็ 2 – 3 หยดก็เพียงพอแล้วสำหรับทั่วใบหน้า และแนะนำให้เพิ่มอีก 2 – 3 หยดเพื่อทาลำคอ บ่า และเนินอกไปด้วย
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Barrier Repair / Customization
TBC : Tó Us Beaux EM Plus Lotion EX (130ml / 4,200 Baht)
เราตั้งชื่อเล่นอย่างน่ารักว่า “โลชั่นหนังไข่” เพราะส่วนผสมหลักตัวหนึ่งในนั้นคือสารสกัดเยื่อหุ้มเปลือกไข่ไก่นั่นเอง ในขวดนี้มีส่วนผสมหลากหลายอัดมาเยอะมากและกลิ่นเหมือนกับเครื่องยาจีนอ่อน ๆ เติมความชุ่มชื้นแต่ไม่ทิ้งความเหนอะบนผิว เราว่าเหมาะกับจริตและสภาพอากาศบ้านเรามากเลยล่ะ ใช้แล้วผิวสดใสดี ชอบ ๆ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Dehydrated
Outstanding : Antioxidant / Glow / Hydration / Sensory
THREE : AIMING Lotion (130ml / 3,400 Baht)
เราใช้โลชั่นตัวนี้ตอนที่ผิวกำลังอิดโรยและขาดน้ำและรู้สึกฟินมาก ผิวมันชุ่มชื้นขึ้นจริงจัง แถมกลิ่นก็ยังหอมมากมาย นอกจากจะปรับผิวแล้วยังปรับอารมณ์ของเราได้ด้วย เราชอบที่มันไม่ได้แค่ดูแลผิวแต่เหมือนดูแลจิตใจเราไปด้วยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Sensory / Soothing / Anti-Aging
Snail 8 : Age Defense Advanced Serum (15ml / 1,400 Baht)
ใครที่อยากรู้ว่าเมือกหอยทากไทยมีดียังไงต้องใช้ตัวนี้ เพราะในขวดมีแค่เมือกหอย ตัวทำลายลายและสารกันเสีย มันดีม๊ากกกกกกก ผิวฟูเนียนรอยกดสิวตกสะเก็ดหายไว ผสมเข้ากับบูสเตอร์อย่าง 10% Niacinamide คือโคตรเลิศ แม้จะกลิ่นจะไม่ค่อยน่าใช้แต่เราอยากให้ลอง แล้วจะติดใจ
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Skin Repair / Glow / Soothing / Anti-Aging
Lancôme : Advance Génifique Sensitive (20ml / 3,500 Baht)
แม้ว่าเนื้อจะเข้มข้นมากกว่าตัวปกติ แต่สูตรนี้เห็นผลในการฟื้นฟูสภาพผิวอย่างรู้สึกได้จริง ๆ รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น อิ่มเอิบขึ้น เห็นผลในขวดแรกเลยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Soothing / Barrier Repair / Antioxidant / Anti-Aging
Luxes : 2 Seconds Detox (50ml / 3,900 Baht)
แบรนด์ของสวิสเซอร์แลนด์ดินแดนเทคโนโลยีชั้นสูงแต่ชอบทำสกินแคร์กลิ่นแก่ ๆ เนื้อหนัก ๆ แต่ภาพนั้นเก่าไปแล้วเพราะ Luxes ทำเซรั่มที่ใส่สารบำรุงไฮเทคและเข้มข้นนี้ในรูปแบบน้ำเหลว ๆ จนเสปรย์เป็นฝอยออกมาได้และซึมสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ราคาค่าตัวไม่เบาเลยล่ะ แต่ช่วงที่ใช้คือผิวดีขึ้น ใสขึ้น มีความยืดหยุ่นดีขึ้น สิ่งที่เราชอบคือมันพกไปเป็นสเปรย์บำรุงตอนขึ้นเครื่องบินได้ดีมาก ความชุ่มชื้นได้และบำรุงผิวอย่างจริงจัง แต่สิ่งที่ไม่ดีคือมันเป็นขวดแก้วและหนักไปหน่อยสำหรับการพกพา
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Antioxidant / Anti-Aging / Soothing / Sensory
Clinique : Fresh Pressed Daily Booster with Pure Vitamin C 10% (8.5ml x 4 = 3,600 Baht)
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Clinique ออกเซรั่มวิตามินซี 10% แต่ครั้งนี้เขานำเสนอมันได้โดนใจพวกเราและมันก็ขายดีมากจนไม่มีของให้เราซื้อไปช่วงนึงเลยล่ะ บูสเตอร์นี้ให้เราผสมวิตามินซีแบบสด ๆ ก่อนในด้วยวิธีการที่แสนจะง่ายแค่ลอกฟลอยด์ กด เขย่า นอกจากวิตามินซีก็ยังมีส่วนผสมแฟนซีมากมายไม่ว่าจะเป็นสารพัดเปปไทด์และสารสกัดที่น่าสนใจ จะใช้ผสมกับเซรั่มหรือมอยซ์เจอไรเซอร์อื่น หรือจะใช้เดี่ยว ๆ ก็ยังได้ สิ่งที่เราชอบมากคือมันพกพาไปใช้ระหว่างการเดินทางได้สะดวกมากและช่วยช่วยบูสต์ผิวที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางให้สดใสขึ้นได้ ใช้ต่อเนื่องหวังผลเรื่องริ้วรอย ผิวกระจ่าง ลดเลือนจุดด่างดำได้ในหนึ่งเดียว
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Antioxidant / Glow / Anti-Aging / Whitening
Kiehl’s : Pure Vitality Skin Renewing Cream (50ml / 2,500 Baht)
*มีการถอดออกจากร้านทั่วโลกในช่วงกลางปี 2017 ยังไม่มีข่าวคืบหน้าว่าจะมีการจำหน่ายอีกรอบหรือจะปรับสูตรใหม่*
ตอนที่เปิดกระปุกปาดเนื้อครีมนี่เราถึงกับเบะปากเลย ว่าข้นแบบนี้แม่งจะเวิคร์กับเราหรอวะ? แต่ผิดคาด นี่เป็นครีมหนึ่งในจำนวนน้อยมากที่เราปาดจนหมดกระปุกในปีนี้ การใช้ครีมตัวนี้คือตักมาในปริมาณไม่ต้องมากลงบนฝ่ามือ วอร์มด้วยความอุ่นของมือให้มันนิ่มลงอย่างช้า ๆ และ wrap ผิวเอาไว้ มันทำให้ผิวโกลว์ใสแบบมีคนทักเลย ครีมตัวนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราลองมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อครีมอีกหลายกระปุกในปีนี้และเจอตัวที่เราชอบอีกหลายตัวเลยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : Dry / Normal / Combination
Outstanding : Glow / Radiance / Barrier Repair / Hydration
Calecim Professional : Skin Conditioning Cream
ตัวเบสครีมเรียบง่ายอ่อนโยนแต่ส่วนผสมหลักนั้นไฮเทคมาก ๆ มันคือสารที่เก็บมาหลังจากเพาะเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดและอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีกับผิวมากมาย มันฟื้นฟูผิวหลังทำเลเซอร์ กดสิว หรือต้องการซ่อมแซมตัวเองได้ดีมากจริง ๆ แม้ว่ากลิ่นจะเหมือนมีตัวอะไรตกไปตากที่ก้นกระปุกแต่ใช้ไปแล้วเราจะชินและติดโดยที่ไม่รู้ตัว
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding : Skin Repair / Barrier Repair / Soothing / Anti-Aging
IPSA : ME Ultimate (50ml / 3,900 Baht)
ตัวบำรุงสิ้นคิดที่ไม่รู้จะใช้อะไรต้องใช้ตัวนี้ ดีและคาดหวังผลถึงผิวคุณภาพดีได้ในขวดเดียว ผิวใส ชุ่มชื้น ไม่อุดตันผิว ราคาไม่แรงเกินไป ไม่มีน้ำหอม ถ้าให้เลือกว่าจะหยิบสกินแคร์ชิ้นนึงตัวเดียวใช้ตลอดไป สำหรับเราในตอนนี้คงเป็นสิ่งนี้แหล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Glow / Sensory / Anti-Aging
No7 : Youthful Vitamin C Fresh Radiance Essence (10ml / 990 Baht)
วิตามินซีผสมสด 5% ที่หาซื้อได้ง่าย ใช้กับสกินแคร์ที่เรามีอยู่ไดสะดวกเพราะมันแ็นน้ำที่ซึมไวไม่เหนอะหนะผิว เนื้อมันบางเบา และที่สำคัญมันได้ผลจริง ๆ ผิวกระจ่างใสขึ้นในขวดแรก บางทีเราก็ไม่ต้องการอะไรเข้มข้นเว่อวังก็สามารถเห็นผลได้นะ ถ้ากลิ่นน้ำหอมเบากว่านี้จะเพอเฟคเลยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Glow / Whitening / Antioxidant / Anti-Aging
Lancôme : Absolue Precious Cells Nourishing & Revitalizing Rose Mask (50ml / 7,800 Baht)
เครือนี้ทำมาส์กกลีบกุหลาบออกมาแล้วทั้งหมดสามแบรนด์ และ Lancome ก็ทำมันออกมาได้ดีที่สุด เนื้อเจลเนียนเข้มข้นกับกลิ่นที่ให้อิมเมจของผู้หญิงที่ดูอ่อนเยาว์แต่ก็หรูหรามีความ glam แบบไม่โฉ่งฉ่าง ฟีลดีมาก และใช้ดีเลยล่ะ ถึงราคาจะสูงเกิ้นนนนนนนน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราชอบมากยามที่ใช้สิ่งนี้
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Soothing / Sensory
The Body Shop : Japanese Matcha Tea Pollution Clearing Mask (75ml / 990 Baht)
แม้จะบอกว่าเป็นมาส์กผสมผงมัทฉะแต่เอาจริง ๆ เนื้อมันเหมือนกัวคาโมเล่และก็น่ากินทีเดียวล่ะ เนื้อมาส์กมีความฟู ๆ และให้ความรู้สึกที่ดีขณะใช้ มีเม็ดขัดผิวช่วยสครับให้อย่างอ่อน ๆ ดูเป็นมาสก์ใช้ง่าย ๆ กลิ่นสบาย ๆ และก็ช่วยให้ผิวนุ่มสดใสหลังล้าง
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Sensory / Daily Exfoliating / Soothing
fresh : Vitamin Nectar Vibrancy-Boosting Face Mask (100ml / 2,650 Baht)
ยังไม่มีอะไรที่มาแทนได้กับมาสก์เพื่อผิวโกลว์เนียนนุ่มที่ชวนอร่อยน้ำลายสอที่สุดในสามโลก เป็นช่วงเวลาดี ๆ สามสี่นาทีที่เราจะมอบให้กับตัวเองและกับผิวได้
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Sensory / Glow / Exfoliating
fresh : Umbrian Clay Purifying Mask (100ml / 2,450 Baht)
มาส์กโคลนตัวโปรดของเราจากปีก่อนและใช้ต่อเนื่องยาวนานมาตลอดปีนี้ เป็นหนึ่งในมาสก์โคลนที่ไม่ทำให้ผิวแห้ง และปัญหาผิวเล็กน้อยอย่างเช่นสิวเม็ดเล็กหรือผดสามารถจัดการได้
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Oil Absorbing / Detoxifying / Sensory / Anti-Blemish
fresh : Rose Face Mask (100ml / 2,450 Baht)
มีมาสก์กลีบกุหลาบที่ราคาเบากว่านี้ในท้องตลาด แต่มันแทนไม่ได้จริง ๆ ความฟิน เนื้อสัมผัส กลิ่น และผลที่ได้ ถือคติเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเนอะ เจ็บแต่จบเถอะ
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Soothing / Sensory
DrGL : Restore Gel Mask (100ml / 1,650 Baht , 240ml / 2,650 Baht)
หนึ่งในไอเทมที่เราบอกได้เลยว่าทุกคนบนโลกใบนี้ควรมีติดตู้เย็นที่บ้านไว้ อยากบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก็โปะ หน้าไหม้เกรียมแดดหรือยิงหน้ามาร้อน ๆ ก็โปะ ผิวแดงรู้สึกระคายเคืองก็โปะ อยากบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก็โปะ เข้าซาวน่าเข้าสตรีมไม่อยากให้ผิวแห้งก็โปะก่อนเข้าไป
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Soothing / Hydration / Antioxidant / Sensory
LuLuLun : Precious Red Sheet Mask (32 Sheet / 1,500 Yen) ในประเทศไทยมีจำหน่ายแต่แบบซอง 7 แผ่น
รุ่น precious นั้นแผ่นมาส์กจะมีความพอดีกับรูปหน้าของเรามากกว่ารุ่นปกติและส่วนผสมก็เน้นในเรื่องของการต่อต้านริ้วรอยมากกว่า สูตรสีแดงจะเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย เมืองไทยมีขายแต่แบบซอง แบบกล่องเราหิ้วมาจากญี่ปุ่นล่ะ ล่าสุดไปเราเห็นเขาออกรุ่นปรับปรุงใหม่ ซื้อมาแต่ยังไมไ่ด้ลองว่าแตกต่างจากเดิมอย่างไรบ้างนอกจากมีน้ำเอสเซนส์ในกล่องมากขึ้น
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Antioxidant
Minon : Amino Moist Moist Essential Mask (22ml / 125 Baht)
ถ้าต้องการมาสก์แผ่นที่อ่อนโยนและอัดความชุ่มชื้นได้มากราคาจับต้องได้ ขอให้ลองตัวนี้เลยล่ะ
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Plumping
Sulwhasoo : First Care Activating Mask (10 Sheet / 3,800 Baht)
ถ้าชอบเฟิสแคร์เซรั่มของเขา ก็น่าจะชอบมาสก์แผ่นนี้อย่างแน่นอน แผ่นมาสก์ชุ่มมาก แผ่นใหญ่ และนุ่ม มาสก์ทิ้งไว้ได้นาน ลอกออกแล้วผิวแบบโอ้โห ฉ่ำเว่อวังแต่ไม่เนอะหนะไป แปะแล้วนอนฟังเพลงเบา ๆ นี่คือเธอราพีตัวเองสุด ๆ
Skin Type : All Skin Type / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Plumping / Antioxidant / Sensory / Anti-Aging
Klairé : Anti-Pollution Overnight Mask (50ml / 1,690 Baht)
มาสก์ตัวนี้ตามมาจากความสำเร็จของน้ำตบที่ทำออกมาได้อย่างดีมาก เช่นเดียวกัน มาสก์นี้เต็มแน่นไปด้วยสารบำรุงที่เน้นการคืนความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น โดยไม่มีความข้นหนักผิว ไม่มีสีและน้ำหอมจึงอ่อนโยนมากทีเดียว
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Soothing / Antioxidant / Barrier Repair
Biore UV : Kids Milk SPF50+ PA++++ (90ml / 490 Baht)
ยังไม่มีอะไรมาทดแทนกันแดดตัวนี้ได้ อ่อนโยน กันแดดไว้ใจได้ กันน้ำในระดับหนึ่ง เนื้อสัมผัสดี ทาหน้าได้ไม่เหนอะหนะไม่แห้งไป ทาตัวก็ทาไหวเพราะราคาไม่แพงเกิน จัดกระเป๋าไปเที่ยวถ้าไม่ต้องไปตะลุยทะเลภูเขาตรากตรำมากนัก ขวดนี้ขวดเดียวเอาอยู่
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Everyday Protection / Water-Resistance / Hydration / Sensory
Bioré UV : Aqua Rich Watery Gel SPF50+ PA++++ (90ml / 290 Baht)
กันแดดที่ทาหน้าและตัวได้แต่เราชอบเอามาทาตัวเพราะปริมาณเยอะดีในราคาที่เรารับได้ สูตรใหม่เพิ่มคุณสมบัติในการกันน้ำที่อาจจะทำให้ดูเซ็ทตัวเป็นฟิลม์มากขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังบางเบาอยู่ดี และการกันน้ำทำให้มันเหมาะมากกับอากาศที่ร้อนจนเหงื่อไหลแบบบ้านเรา ถ้าเอาไซส์ใหญ่มาขายน่าจะดีนะ
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Everyday Protection / Water-Resistance / Sensory
La Roche-Posay : Anthelios XL Dry Touch Gel Cream SPF50+ PA++++ (50ml / 1,300 Baht)
สูตรดรายทัชเคยเป็นกันแดดที่เราไม่ชอบเอาเสียเลยเพราะมันใช้ยาก เป็นขุยง่าย และมีน้ำหอม แต่สูตรล่าสุดไม่มีน้ำหอม เซ็ทตัวอย่างงดงามและแก้ปัญหาการลอกเป็นขุยไปได้ มันจึงเป็นกันแดดที่เราไว้วางใจถ้าจะต้องออกแดดจัดจริง ๆ เราไปกัมพูชาแดดเผาหน้าเป็นชั่วโมง ผิวยังคงสภาพดีไม่มีหมองคล้ำแม้แต่นิดเดียว ที่สำคัญทนน้ำได้ดีมากแต่ล้างออกได้ไม่ยากด้วยเจลล้างหน้าที่เราใช้อยู่
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
Skin Type : Normal / Combination / Oily / Sensitive
Outstanding : Extreme Protection / Very Water-Resistance / Sensory
Kiehl’s : Dermatologist Solutions Breakout Control Acne Treatment (20ml / 1,400 Baht) (20ml / 28US$)
ครีมแต้มสิวที่เราใช้มาอย่างต่อเนื่องเพราะหลอดใหญ่มากและใช้ได้นานมากจริง ๆ แม้ว่าสูตรที่ขายในไทยจะใช้ Sulfur 1% ที่อาจจะดูน้อยกว่าสูตรที่ขายในประเทศอื่น ๆ ถึง 10 เท่า ด้วยข้อจำกัดทางกฏหมายแปลกประหลาด แต่ความเข้มข้นที่น้อยกว่านี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือทำให้สูตรที่ขายในไทยนั้นมีเนื้อที่ใช้ง่ายและสามารถกลืนเข้าผิวได้มากกว่าสูตร 10% ที่ทาแล้วจะเป็นคราบ ๆ แป้ง ๆ อยู่บนผิว เราจึงเลือกใช้ 10% แต้มตอนกลางคืนหรือวันที่ไม่ออกจากบ้าน แต่ถ้าออกจากบ้านจะใช้สูตร 1%ที่ขายในไทยทาแทนเวิคร์กว่า
Skin Type : All Skin Type / Acne-Prone / Sensitive
Outstanding : Anti-Imperfection
Paula’s Choice : Refreshing Moisture Mist (88ml / 1,250 Baht)
เป็นสเปรย์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นสูงมากแบบคาดหวังได้เลย แม้ว่าละอองมันไม่ได้เล้กละเอียดอะไรมากแต่ถ้าอยู่ห้องแอร์อากาศแห้ง ๆ ไม่สบายผิว ฉีดให้ฉ่ำ ๆ แล้วปล่อยให้มันซึมแห้งไปเองจะรู้สึกผิวชุ่มชื้นจริงจัง
Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Soothing / Antioxidant
La Mer : The Lip Balm (9g / 2,750 Baht)
เคล็ดไม่ลับ 18+ ในการใช้ เวลาเห็นผู้ชายข้างกายปากแห้ง ให้บอกว่าปากแห้งนะ ทาลิปหน่อยมั้ย หยิบตลับขึ้นมา เอาหลังเล็บควักผลิตภัณฑ์ออกมาเล็กน้อย แต่แทนที่จะโปะปากผู้ชายให้โปะที่ปากเราและบดปากจุมพิตเพื่อทาลิปบาล์มให้อย่างวาบหวาม ไร้ความหนึบหรือมันวาวแต่เอาอยู่ หวานอ่อน ๆ หอมเหมือนหมากฝรั่งรสมิ้นต์ มั่นใจได้ว่าผู้ชายจะชอบ ทีนี้นอกจากปากผู้ชายจะหายแห้ง เราก็จะหายแห้งด้วยจ้า
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Sensory / Soothing / Skin Repair
La Roche-Posay : Cicaplast Barrier Repairing Balm (7.5ml / 290 Baht)
ลิปบาล์มตัวนี้เซ็ทตัวแบบไม่มันวาวและให้ริมฝีปากอ่อนนุ่มชุ่มชื้นในแบบที่เราชอบเลยล่ะ เป็นออพชั่นให้คนที่อยากได้ฟีลแบบลิปลาแมร์แต่ไม่มีน้ำหอมและอะไรเย็น ๆ บีบยากนิดนึงเพราะเนื้อมันแข็งอยู่และอาจจะต้องเติมบ่อยหน่อยเพราะมันไม่ได้ติดหนึบยาวนานแต่นั่นไม่ใช่ข้อเสียสำหรับเรา ถ้าเธอชอบเนื้อลิปบาล์มแบบเราว่ามาขอให้ลองตัวนี้ดู
Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding : Hydration / Skin Repair / Soothing
Curél : Moisture Lip Care Cream (4.2g / 350 Baht)
มันเป็นลิปที่ใช้ง่ายและติดทนยาวนานแต่ไม่ได้หนึบเหนอะจนน่ารำคาญแถมยังทำให้ปากดูอิ่มและสีปากดูชมพูสดใสขึ้นโดยที่เราก็อธิบายไมไ่ด้ว่าเพราะอะไร (ปกติสีปากเราจะไปโทนแดงมากกว่า) สำหรับคนที่ไม่ชอบลิปแบบตลับหรือแบบหลอดที่ต้องเอานิ้วปาดทา อันนี้เป็นออพชั่นที่ดีมาก
Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding : Hydration / Long-Lasting / Skin Repair /
fresh : Sugar Lip Caramel Hydrating Balm (6g / 740 Baht)
หอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ปาดแล้วต้องดมให้เต็มปอด ใช้แล้วมีความสุข เสียดายที่รสไม่ค่อยอร่อยเหมือนกลิ่นและทิ้งความกลอสซี่เอาไว้บ้าง ไม่งั้นคงได้ทดลองใช้เป็นลิปบามเผด็จศึก แต่ตอนนี้เก็บเอาไว้ฟินคนเดียวให้ปากนุ่มชุ่มชื้นกลิ่นน่ากินยามนั่งทำงานเพลิน ๆ ก็พอ
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Sensory / Long-Lasting
THREE : Diaphanous Loose Powder – Colorless (17g. / 1,950 Baht)
รุ่นที่เป็นธรรมชาติและบางเบาที่สุดของแป้งฝุ่น THREE ที่ขาดไม่ได้ในการตบท้ายกิจวัตรบำรุงผิวในตอนกลางวันหลังใช้กันแดด เพื่อผิวที่ดูเป็นธรรมชาติไม่มันเยิ้มและไม่ดูแห้งเป็นแป้งจนเกินไป ใช้จนหมดมาหลายกระปุกแล้ว
(คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)
KANEBO : Control Finish Powder (Refill 18g / 1,100 Baht) (Case + Puff / 500 Baht)
เราได้ลองแป้งตัวนี้จากกระปุกขนาดทดลองเล็ก ๆ ที่ได้มาตอนเล่นเกมในกิจกรรมตอบคำถามวันที่ไปอีเวนต์ และพบว่ามันดีมากสำหรับคนที่แสวงหาแป้งฝุ่นที่ให้ความเป็นธรรมชาติราวกับไม่มีการปรุงแต่ง กลบความเงามันแต่คงความเป็นผิวตามธรรมชาติ เป็นอีกตัวเลือกของแป้งฝุ่นที่อยากแนะนำอย่างรุนแรงอีกหนึ่งตัว
Curél : Foaming Body Wash (480ml / ~ 1,000 Yen) ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
โฟมอาบน้ำแบบปั้มโฟมสำเร็จพึ่งวางจำหน่ายในญี่ปุ่นในปีนี้ เป็นเหมือนโฟมสารพัดประโยชน์ในห้องน้ำของเรา อาบน้ำก็ดี ล้างออกง่าย ไม่ลื่น ไม่แห้งไป ล้างมือก็ดีงาม ล้างแว่น ล้างพัฟแป้งฝุ่น จริง ๆ เอาไปล้างหน้าก็ยังได้ แต่เรามีโฟมปั้มที่ล้างหน้าได้นุ่มชุ่มชื้นเลอเลิศกว่านี้อยู่แล้วแนะนำอยู่ด้านบน (โฟมล้างจิ๋มส์นั่นแหล่ะ) หวังว่าจะเข้ามาขายในไทยเร็วๆ จะได้ไม่ต้องแบกกลับมา เปลืองน้ำหนักและพื้นที่ชิบเป๋ง
Aēsop : Geranium Leaf Body Cleanser (500ml / 1,700 Baht)
เราบอกตรง ๆ ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เราชอบใช้เวลาอาบน้ำ กลิ่นหอม ๆ เบอรี่แปร๋น ๆ กลิ่นส้ม กลิ่นมะม่วง กลิ่นพีชแบบที่เรารักมักไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายจะอินตามเราไปด้วย แต่สิ่งนี้คือความกลมกล่อมลงตัวของสองขั้วมาบรรจบกันเป็นหนึ่งด้วยกลิ่นของส้มและเบอกามอตที่เรารักผสานกับความอบอุ่นสุขมลุ่มลึกของใบเจอราเนียมได้อย่างเซ็กซี่ เป็นกลิ่นที่ยูนิเซ็กซ์มาก จึงใช้เป็นเจลอาบน้ำที่ใช้ถูทำความสะอาดร่างกายให้แก่กันได้เป็นอย่างดี
lalil : Tightening And Reactivaing Coffee Body Scrub (200g / 490 Baht)
แบรนด์สปาไทยหน้าใหม่จากบริษัทเก่าที่คุ้นเคยในบ้านเราดีด้วยคอนเซปต์ส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อความฟินในการใช้ชีวิตตามแบบที่เป็นตัวเอง เราชอบสครับขัดตัวอันนี้เพราะว่าเดี๋ยวนี้สครับขัดตัวส่วนใหญ่จะชอบมาในรูปของเจลอาบน้ำผสมสครับมากกว่า แต่สครับเนื้อครีมจริงจังจะหาไม่ค่อยได้ จึงค่อนข้างแปลกใจที่ตัวนี้เป็นสครับกาแฟหอมน่ากินผสมเมล็กกาแฟจริง ๆ และเกลือธรรมชาติมาช่วยขัดผิว อยู่ในเบสครีมที่ล้างออกได้ไม่ยากแต่ยังคงเคลือบให้ผิวนุ่มและไม่แห้งหลังใช้แต่ก็ไม่มันลื่นบนพื้นห้องน้ำจนลื่นหัวแตก
Jo Malone : Lime Basil & Mandarin Exfoliating Shower Gel (200ml / 2,150 Baht)
น่าแปลกที่เราไม่อินกับโคโลญจน์กลิ่นนี้เท่าไหร่แต่พอมาเป็นสครับแล้วมันใช่!!! มันเป็นเจลอาบน้ำผสมสครับเนื้อละเอียดเล็กกำลังดีที่หอมติดผิวจาง ๆ ดีงามมากมายตามสไตล์โจมาโลน
Aēsop : Redemption Body Scrub (180ml / 1,350 Baht)
สครับตัวนี้มีกลิ่นที่ผู้ชาย(s)บอกเราว่าชอบและมันก็เป็นหอมเย็นที่ถูกจริตเราด้วย ต้องการเหตุผลอะไรมากไปกว่านี้หรอ?
The Body Shop : Frosted Berries Exfoliating Sugar Body Scrub (250ml / 990 Baht)
สครับน้ำตาลกลิ่นเหมือนลูกอมหลอกเด็กกลิ่นเบอรี่โง่ ๆ ที่เราชอบมว๊ากกกกกกกกกก โอ้ยไม่รู้จะบรรยายความสุขตอนใช้ยังไงดี มันเป็นกลิ่นแบบง่าย ๆ ไม่ได้มีความลุ่มลึก sophisticate ซับซ้อนแต่อย่างใด แต่กระตุ้นให้ย้อนถึงวัยเด็กที่เรามีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ เนื้อสครับน้ำตาลอาจจะละลายเร็วไปหน่อย แต่เมื่อมันละลายมันเหมือนกับเรากำลังอาบไซรัปราดน้ำแข็งไสรสเบอรี่สีแดงปลอม ๆ อยู่เลยล่ะ ล้างออกแล้วกลิ่นติดผิวกำลังดี ใส่ชุดนอนุกผ้าห่มแล้วดมกลิ่นแห่งวัยเด็กให้เต็มปอดแล้วหลับไปด้วยรอยยิ้มได้เลย
The Body Shop : Spa Of The World French Grape Seed Scrub (350ml / 1,890 Baht)
ตบหน้าขาดังฉาด อุบ๊ะ สิ่งนี้ถูกใจเรายิ่งนัก เพราะก่อนหน้าเขามีแต่สครับเกลือในเบสน้ำมันที่ใช้แล้วพื้นห้องน้ำลื่นหัวแตก ขัดตัวแล้วยังต้องมาขัดห้องน้ำตามอีก เป็นภาระตัวเองสุด ๆ แต่สครับตัวนี้ใช้น้ำตาลและเมล็ดองุ่นบดละเอียดเป็นตัวขัดผิวในเบสที่ไม่เหนียวไป ไม่มันไป ล้างออกไม่ยากนัก และคงความนุ่มบนผิวเอาไว้ ที่สำคัญคือไม่มีคราบน้ำมันบนพื้นให้รำคาญใจ
Curél : Moisture Milk (220ml / 500 Baht)
โลชั่นน้ำนมดูเบสิคบางเบาตัวนี้ทาง่าย ใช้ไม่ต้องมาก อากาศร้อนจนควายเป็นลมแบบบ้านเราก็ยังใช้ได้สบาย ๆ ไม่มันเยิ้มเกินไป แต่อากาศแห้งเย็นถึง 0 องศาก็เอาอยู่ ลาก่อนผิวแห้งคัน มันให้ความชุ่มชื้นดีและเคลือบปกป้องเก็บล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญคือมันไม่มีน้ำหอมจึงไม่ตีกับน้ำหอมที่เราฉีดด้วย เวิค ๆ ๆ นี่เป็นตัวที่เราจะพกไปเดินทางในประเทศที่อากาศแห้งและเย็น และเอาไว้ใช้ในไทยยามที่รู้สึกว่าผิวเริ่มกร้านขึ้น ขวดปั้มแบบในรูปมีขายในญี่ปุ่นนะจ๊ะ ของไทยเอาเข้าแต่ขวดเล็กจ้า
Aēsop : Rind Concentrate Body Balm (500ml / 3,600 Baht)
ตั้งแต่ใช้อะไรกลิ่นส้มมา ไม่มีอะไรโคตรพ่อโคตรแม่ส้มได้มากกว่าบาล์มขวดนี้อีกแล้วและนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราหลงรักตั้งแต่แรกใช้ หอมราวกับแกะส้มเอาเปลือกมาขยี้ตัวเอง หอมราวกับแอบแกะส้มทั้งลังกินในห้องน้ำ ใครที่ชอบอะไรกลิ่นโส้มมมมมมส้ม ขอให้ลอง ตอนที่กลิ่นมันเริ่มจางคือดีมาก รักสุดใจขาดดิ้น แต่นอกจากความฟินเรื่องกลิ่นแล้วมันทำให้ผิวนุ่มมากด้วยและเซ็ทตัวไม่เหนียวหนึบผิว เพียงแต่ตอนทามันจะเป็นคราบขาว ๆ เกิดขึ้น ไม่ต้องพยายามทาให้คราบขาว ๆ หายไปหมดหรอก ทาให้มันทั่วแล้วปล่อยมันละลายซึมเข้าผิวไปและคราบขาว ๆ อันนั้นจะหายไปเอง
Curél : Moisture Hand Cream (50g / ~1,000 Yen) ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
เราค้นพบสิ่งนี้เมื่อปลายปีก่อนตอนไปใช้ชีวิตช่วงคริสมาสปีใหม่ที่โตเกียว มือแห้งเยินม๊ากจนต้องแวะไปลองหาตัวช่วยในร้านขายยา ตัวนี้ใช้ไม่เยอะมากแต่ทำให้ผิวมือแห้งหยาบลอกเป็นขุยนุ่มนวลได้ในทันทีและไม่มันจนเกินไปและไม่มีน้ำหอมด้วย เป็นแฮนด์ครีมตัวที่เราติดกระเป๋าเอาไว้ทุกวันเลยในปีนี้ ซื้อแจกเพื่อนและคนใกล้ชิดที่เรารู้ว่าเขาชอบแฮนด์ครีมหรือทำอาชีพที่ต้องล้างมือบ่อย เพราะมันดีจริง ๆ เป็นแฮนด์ครีมที่เราชอบที่สุดแล้วในตอนนี้ เมืองไทยยังไม่เอาเข้ามาขายนะ ไปหาที่ญี่ปุ่นเอาจ้า
Mentholatum : Hand Veil Beauty Premium Rich Nail (12g / ~880 Yen) ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
สิ่งนี้เนรมิตจมูกและหนังข้างเล็บแห้งแข็งยับเยินให้อ่อนนุ่มชุ่มชื้นได้แค่ทาและนวด ๆ ไม่กี่สิบวินาที แถมยังทำให้เรียวเล็บดูเงางามเหมือนผู้ดีมีชาติตระกูล ซึมไวไม่เหนอะหนะกลิ่นหอมไม่ฉุน หลอดเล็กพกพาง่าย เราซื้อจากญี่ปุ่น ฮ่องกงก็มีขาย
Jo Loves : Green Orange & Coriander (50ml / 70£ , 100ml / 110£)
เราว่าโทนกลิ่นที่เราชอบในปีนี้เป็นผลพวงมาจากน้ำหอมขวดนี้ซึ่งเราชอบมาตั้งแต่ปีก่อน มันเป็นกลิ่นซิตรัสที่ยูนิเซ็กซ์และโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เราว่าบุคลิกของน้ำหอมที่เราใช้มีการแสดงออกในมุมที่กว้างขึ้นเพราะสิ่งนี้ ถ้ามีโอกาสไปลอนดอนรอบหน้าเราจะไปสอยขวดใหญ่มาตุน
Jo Malone : 154 Cologne + Blackberry & Bay (30ml / 2,600 Baht , 100ml / 5,200 Baht)
154 เป็นกลิ่นน้ำหอมแรก ๆ ที่แบรนด์นี้มีและปรุงขึ้นโดยคุณ Jo Malone เอง เป็นกลิ่นที่เราเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าเราจะชอบ เพราะนี่ไม่ใช่โทนที่เราจะเลือกใช้เลยในชีวิตนี้ แต่ในปีนี้เรารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเราที่เริ่มแสวงหากลิ่นที่ดู musculine ขึ้นบ้าง กลิ่นนี้จึงตอบโจทย์เรามาก มันมีความเข้มแข็ง แต่ก็แซมความอ่อนโยนเอาไว้ และผสมกลมกลืนเข้ากับกลิ่นโปรดของเราอย่าง Blackberry & Bay ได้เป็นอย่างดี มันทำให้กลิ่นโปรดของเราดูมีความเซ็กซี่และลึกลับมากขึ้น (และผู้ชายชมว่าหอม)
Jo Malone : English Oak & Redcurrant + Blackberry & Bay (30ml / 2,600 Baht , 100ml / 5,200 Baht)
กลิ่นใหม่ของปีนี้ที่มีความิเศษและไม่เหมือนใคร มีความอบอุ่นแต่ก็แซมความเปรี้ยวสดชื่นเอาไว้ ใช้เดี่ยวๆ ก็ดีมาก ผสมกับกลิ่นโปรดของเรายิ่งเข้าท่า เราว่าจะต้องถอยขวดใหญ่แล้วล่ะ
fresh : Sake Scented Candle (215 g / 2,300 Baht)
เราได้กลิ่นนี้ครั้งแรกตอนไปงานอีเวนต์ที่กัมพูชาและหลงรักทันที มันเป็นกลิ่นแนวพีชที่อ่อนหวานละมุนละไม ถูกจริตมากถึงมากที่สุด และมันเป็นเทียนหอมอันเดียวในคอลเลคชั่นที่เรามีที่สามารถจุดไว้ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องมาคอยดับทุก 15 นาที เพราะกลิ่นอบอวลเกินไปจนมึนปวดหัว
THREE : Room Fragrance Aroma Mist OR (250ml / ~2200 Yen) มีจำหน่ายที่ THREE AOYAMA เท่านั้น
ถ้าชอบ THREE : Balancing Cleansing Oil เราว่าจะต้องติดใจกับสเปรย์ฉีดเพิ่มกลิ่นหอมกับห้องขวดนี้ แม้จะไม่เหมือนกันเดีะแต่มันเป็นโทนส้ม ๆ ที่กลมกล่อม เราลองฉีดบนผ้าห่มก่อนจะเข้านอน มันหอมสะอาดราวกับผ้าที่พึ่งซักและอบใหม่ ๆ และด้วยความที่มันใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติจริง ๆ มันทำให้เราหลับง่ายและหลับแบบตื่นมาแล้วรู้สึกสบายอ่ะ สิ่งนี้มีขายที่ THREE Aoyama เท่านั้น ไปโตเกียวรอบหน้าเราจะไปซื้อมาอีกแน่นอน
Aveda : Pramāsana Exfoliating Scalp Brush (900 Baht)
ผี เอ้ย หวีเกาหัว ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี เกาหัวได้เมามัน การแปรงผมและหนังหัวก่อนสระผมจะช่วยไล่ฝุ่นละอองและช่วยผลัดเซลล์ผิวบนหนังศรีษะออกมาได้ด้วยแถมยังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตอีกต่างหาก แค่อย่าเกามันแรงไปก็พอ
Aveda : Pramāsana Purifying Scalp Cleanser (150ml / 1,350 Baht)
เป็นพรีแชมพูที่เอาไว้ใช้บนหนังศรีษะที่แห้ง ทิ้งเอาไว้สองสามนาทีก่อนล้างออก จะช่วยลดอาการคันหัวและสะเก็ดหนังศีรษะในระดับเบา ๆ ได้ ใช้ตามหลังจากการแปรงหนังหัวดีมาก ๆ
DrGL : Cleanser Anti-Hairloss (240ml / 2,900 Baht)
นอกจากราคาแพงระยิบแล้ว แชมพูตัวนี้จะอยู่กับเราไปอีกยาวนานตราบใดที่เรายังคงไปออกกำลังกาย และเรายังเดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัด เพราะผมสะอาด นุ่มกำลังดี ไม่คันหัว และสิวไม่ขึ้น จบในขั้นตอนเดียว ไม่ต้องพกเยอะ
PHYTO : Phytopolleine Botanical Scalp Treatment (25ml / 1,550 Baht)
น้ำมันที่ช่วยปรับสภาพหนังศีรษะที่แห้งหรือมันเกินไปจนคันและมีรังแค ด้วยความที่มันขวดไม่ใหญ่มาก พกไปใช้ระหว่างเดินทาสะดวก ยิ่งอากาศแห้งหรือเย็นยิ่งต้องควรใช้ มันลดปัญหาสะเก็ดรังแคและอาการคันได้ดีเลยล่ะ ลดการพึ่งพาแชมพูยาไปได้ แม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็ลดไปได้เยอะจนน่าพอใจ
Curél : Body Wash Towel (~700 Yen) ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
พวกใยขัดหลังขัดตัวของญี่ปุ่นนี่ลองมาหลายอัน เราบอกได้เลยว่าอันนี้ดีที่สุดที่ลองมาตรงที่มันนุ่มนวลไม่บาดผิว มันอ่อนโยนกับผิวมากแต่ก็ทำความสะอาดได้ดี และถ้าขยันใช้ประจำนี่บอกว่าสิวที่หลังไม่มีขึ้นเลยอ่ะ (แต่ยอมรับว่ามีขี้เกียจอยู่เป็นระยะ) เราค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งนี้จะไม่มีทางเข้ามาขายในไทย เพราะตอนที่เราเล่าความดีงามของสิ่งนี้ให้ทีมของแบรนด์ในประเทศไทยฟังหวังว่าจะไซโคให้นางเอาเข้ามาขาย นางเล่าว่าที่ญี่ปุ่นขายสิ่งนี้แบบขาดทุน เพราะต้นทุนสูงมาก แต่ตั้งราคาสูงไม่ได้ แต่อยากขายเพราะว่ามันเหมาะกับผิวบอบบางระคายเคืองง่ายเอาไปใช้คู่กับเจลหรือโฟมอาบน้ำของเขาจะได้เห็นผลอย่างเต็มที่ ฟังแล้วแบบโอ้โห นี่บริษัทเครื่องสำอางหรือมูลนิธิเพื่อสังคม แต่ชอบ เอาใจเราไปเลย