ปูเป้เริ่มจัดฟันใส Invisalign กับหมอเต้ที่ Dente Align Clinic เมื่อปี 2016 และใช้เวลา 3 ปีก็จัดเสร็จเรียบร้อยโดยทำรีวิวเป็นรูปแบบวีดีโอเอาไว้พร้อมเกริ่นถึงการเริ่มใส่รีเทนเนอร์ใส Vivera เอาไว้ด้วย ในปี 2022 นี้ก็ครบ 3 ปีหลังใส่รีเทนเนอร์ จึงอยากมาให้ข้อมูลจากการใช้ชีวิตกับ Vivera และก็คิดว่าอยากจะมัดรวมเรื่องของ Invisalign ไปในที่เดียวกันเพื่อให้คนที่สนใจมาอ่านแล้วได้ข้อมูลครบในที่เดียว
แต่ใครที่ยังไม่เคยดูวีดีโอที่ว่านี้ก็สามารถจิ้มไปชมได้ด้านล่างนี้เลยครับ แต่ถ้าไม่สะดวกชมเป็นวีดีโอ ก็อ่านที่ปูเป้พิมพ์และสรุปเป็นส่วน ๆ ได้ตามสะดวกเลย
ปูเป้เคยจัดฟันเมื่อสมัยเรียนอยู่มัธยมปลาย (ช่วงปี 1997 – 2000) โดยในตอนนั้นเป็นการจัดฟันแบบโลหะรัดยางซึ่งเป็นแบบเบสิคทั่วไป โดยไม่ได้ทำการถอนฟันตามที่หมอแนะนำ และหลังจากจัดฟัน 2 ปีเสร็จ ก็ไม่มีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์เพราะรู้สึกว่ารีเทนเนอร์แบบลวดนั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายในช่องปากขณะใช้งาน
ประกอบกับการมีฟันคุดดัน ฟันก็เริ่มล้มไม่เป็นระเบียบ หลังผ่าและถอนฟันคุด 4 ซี่แล้วก็เคยมีความคิดว่าอยากจัดฟันอีกรอบเหมือนกันเพราะดีกับรูปลักษณ์และบุคลิคที่ก็มีความสำคัญกับงานที่ทำ แต่ก็รู้สึกว่าไม่อยากกลับไปจัดฟันแบบลวดโลหะเพราะมีประสบการณ์ไม่ค่อยน่าพิศมัยเท่าไหร่
ช่วงปี 2015 ได้รู้จักกับพี่คนนึงที่อายุเยอะแล้วแต่ก็จัดฟันเพราะบอกว่าเขามีปัญหาเรื่องการสบฟันแล้วถ้าปล่อยไว้มันจะไม่ดีต่อสุขภาพฟันและรากฟันในระยะยาว ประกอบกับคุณแม่ของปูเป้มีปัญหาเหงือกและรากฟันต้องถอนฟันและใส่ฟันปลอม เราเห็นเลยว่าถ้าเราไม่ดูแลให้ดีในอนาคตเราจะใช้ชีวิตลำบาก เราจะกินอะไรที่เราชอบกินพวกแห้งหนึบ ๆ เหนียวๆ หรือต้องเคี้ยวไม่ค่อยสะดวก เลยรู้สึกว่าเราต้องจัดฟันจริงจังแล้วล่ะ
ช่วงนั้นเห็นมีคนที่รู้จักไปจัดฟันแบบใสยี่ห้อหนึ่ง ก็ทำให้รู้ว่ามันมีการจัดฟันแบบใสอยู่ และมีหลายแบรนด์ให้เลือก หลังจากที่ลองหาข้อมูลดูก็พบว่า Invisalign เป็นผู้นำและมีการพัฒนามาต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าเจ้าอื่น ๆ แต่งานวิจัยที่ลองค้นดูก็ทำให้รู้สึกสนใจในแง่ของประสบการณ์ในระหว่างการจัดฟันที่ดีกว่า และปัญหาฟันซับซ้อนก็ยังสามารถแก้ได้ จึงคิดว่า Invisalign เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับบริบทของตัวปูเป้ หรือใครก็ตามที่ต้องมีการใช้รูปลักษณ์ในการทำงาน และต้องไม่มีข้อจำกัดในการพูดหรือทำให้เสียบุคลิค
ปูเป้รู้จักกับ ทพญ.มณฑิสา เอี่ยมกระสินธ์ุ หรือ หมอเต้ ตอนที่สนใจจัดฟันแบบ Invisalign และมองหาว่าจะไปทำกับใครที่ไหนดี เพราะ Invisalign เป็นเรื่องของระบบที่ช่วยในการออกแบบการรักษาและการผลิตเครื่องมือ แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือแพทย์ผู้ทำการวางแผนการรักษา และทำงานกับช่องปากของเราโดยตรง เครื่องมือที่ดี แต่ถ้าอยู่ในมือของคนที่ไม่ชำนาญก็อาจไม่ได้ผลแบบที่เราคาดหวังว่าจะได้
สิ่งที่ทำให้ปูเป้วางใจและตัดสินใจรับการรักษากับหมอเต้ เพราะด้วยความที่ปูเป้เป็นคนที่ถามเยอะโดยที่มีการหาข้อมูลมาล่วงหน้าแล้ว หมอเต้ให้คำปรึกษาและตอบคำถามดีมาก เขาบอกทั้งดี ข้อเสีย ข้อจำกัด และสิ่งที่ควรคาดหวังบนพื้นฐานของความเป็นจริง
นอกจากนี้เวลาเคลียร์ช่องปาก ขุดหินปูน หรือทำอะไรก็รู้สึกว่าเขาทำอย่างใส่ใจ พยายามให้เราได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีการอัพเดทให้ทันสมัยเพื่อความรวดเร็วและความสะดวกในการทำ
โดยรวมปูเป้พึงพอใจและจากที่แนะนำคนที่ติดตามไปก็ได้รับฟีดแบคว่าเขาประทับใจ หมอเต้ใจดี หมอเต้อธิบายเคลียร์ชัดเจน หมอเต้มือเบากัน จึงรู้สึกมั่นใจที่จะแนะนำต่อครับ ใครที่สนใจก็สามารถติดต่อไปได้ตามช่องทางด้านล่างนี้
Facebook : Dente Align Clinic – Invisalign Diamond Provider
Line@ : @dentealign
Instagram : @dentealign
โทรศัพท์ : 064-446-6626
เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign สามารถถอดได้ การทำความสะอาดช่องปากและฟันก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวก สามารถใช้ไหมขัดฟัน แปรงฟันได้ตามปกติ ส่วนตัวเครื่องมือนั้นก็แค่ใช้แปรงสีฟันแปรงเครื่องมือเอาคราบออกให้สะอาดล้างด้วยน้ำเปล่า
เครื่องมือจัดฟัน Invisalign สามารถเปื้อนหรือติดสีจากอาหารที่เรากินหรือดื่มเข้าไป อาหารนี่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะยังไงก็ต้องถอดก่อนกิน แต่สำหรับเครื่องดื่มที่มีสีเช่นพวกชา กาแฟ ไวน์ หรือน้ำหวาน ถ้าขี้เกียจถอดเครื่องมือก็ให้ใช้หลอดดูดจะช่วยลดการที่ของเหลวจะสัมผัสกับตัวเครื่องมือครับ
แต่ถ้ามันมีการเหลืองหรือติดสีไปแล้วก็ไม่ได้ต้องกังวลอะไร ยังไงเราก็ต้องเปลี่ยนเครื่องมือชิ้นใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องถนอมอะไรมากครับ แค่อย่าทำหายก็พอ
หลังจากการสแกนฟันในช่วงเดือน กรกฎาคม ปี 2016 หมอเต้แนะนำว่าจำเป็นต้องถอนฟันกรามน้อย 4 ซี่ ตอนแรกก็ไม่อยากถอนครับ แต่หมอเต้อธิบายจากภาพ X-Ray ให้ดูว่า ควรถอนเพื่อให้มีพื้นที่ในการเรียงฟัน และประโยชน์คือช่วยปรับโปรไฟล์รูปหน้าได้ จะทำให้ปากที่อูมหรือดูยื่นเมื่อมองจากด้านข้าง รวมถึงกรามและแก้มที่บานเบิกจนต้องคอยฉีดโบท็อก จะเล็กเรียวลง ทำให้รูปหน้าเราดูสมส่วนมากขึ้น
หมอเต้บอกว่าเคสของปูเป้ต้องเป็น Invisalign Full ซึ่งไม่จำกัดจำนวนชิ้นเครื่องมือในระยะเวลา 5 ปี โดยหมอเต้คาดว่าเคสนี้ต้องใช้เวลาที่ราว 2 – 3 ปี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนไข้ในการใส่เครื่องมือตามที่หมอสั่ง และเรื่องเชิงเทคนิคที่อาจต้องมีการปรับแก้เพื่อความเป๊ะ
ข้อดีอย่างนึงของ Invisalign คือระบบที่ทำให้เราเห็นตัวอย่างภาพการเคลื่อนตัวของฟันในแต่ละช่วง แต่ละชิ้นของเครื่องมือที่ใส่ ทำให้เราเห็นภาพล่วงหน้าว่า ก่อนทำ และ หลังทำ สภาพฟันของเราจะเป็นอย่างไร
ปูเป้มีการใส่เครื่องมือทั้งหมด 4 ชุด รวมจำนวนเครื่องมือทั้งหมด 127 คู่ แต่ละคู่สำหรับฟันบนและฟันล่างจะมาในซองที่มีเลขระบุอย่างชัดเจนบนซองและบนเครื่องมือครับ
ในชุดแรก 56 นี้กินเวลาประมาณ 1 ปีกว่า โดยเครื่องมือคู่แรก ๆ จะใส่ 10 วัน และจะรู้สึกตึงอยู่ราว 3 – 4 วัน จะมีรู้สึกปวดบ้างเล็กน้อยแต่ในระดับที่ยังกินและเคี้ยวอาหารได้ (เทียบกับการจัดฟันโลหะรัดยางแล้ว ถือว่าสบายมาก เจ็บน้อยกว่าเยอะเลย) หลังจากผ่านไปราวครึ่งทางก็จะเริ่มตึงแค่ราว 2 วัน ฟันเริ่มเคลื่อนตัวเร็วขึ้นและหมอเต้ให้ลดเวลาในการใส่เครื่องมือคู่ละ 7 วัน ความรู้สึกเจ็บหรือปวดก็น้อยมากจนไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันเลย
ส่วนตัวปูเป้มีแผลจากการที่กระพุ้งแก้มด้านในครูดกับขอบเครื่องมือส่วนที่ต้องกระชับกับเส้นระหว่างฟันและขอบเหงือกที่ตอนนั้นฟันมันโบ๋ไป โดยจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการต้องพูดอย่างต่อเนื่องติดกัน 2 ชั่วโมงขึ้นไป แต่สามารถลดโอกาสที่จะเกิดสิ่งนี้ได้ด้วยการใช้ขี้ผึ้งทางทันตกรรมมาปั้นแล้วปิดตรงส่วนที่มันครูดกับเนื้อเยื่อของช่องปากก็ได้ โดยหลังจากที่ช่องตรงนี้ชิดเข้ามาจนใกล้สนิทก็ไม่มีปัญหาที่ว่านี้อีกครับ
ชุดแรก จะเป็นการจัดเรียงฟันให้ได้รูป ช่องฟันซี่ที่โบ๋จากการถอน และช่องระหว่างฟันกรามที่เหลือไว้หลังจากการดัดฟันแบบโลหะในรอบแรก ก็ถูกดึงมาให้ชิดกัน ซึ่งทำได้ตามที่วางเอาไว้ โดยการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้จากภายนอกเช่นเรื่องขนาดของรูปหน้า ทรงกรอบหน้า ความอูมของปากที่ลดลง เห็นผลได้อย่างชัดเจนในชุดแรกนี้ครับ
ชุดที่สองนี้จะมองไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ของรูปลักษณืภายนอกแล้วครับ เพราะฟันถูกดึงจนเรียงตัวชิดแล้ว แต่จะเป็นขั้นตอนการแก้ไขการสบฟัน และการบดเคี้ยว โดยจะต้องมีการติดเครื่องมือสำหรับเกี่ยวยางเพื่อช่วยในการดึงฟัน ชุดนี้จะมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะมีภาระเพิ่มเติมในการถอดยางและเกี่ยวยางใหม่ทุกครั้งที่ต้องถอดเครื่องมือเพื่อรับประทาน และเพื่อแปรงฟัน ในช่วงแรกก็ทุลักทุเลนิดนึงแต่หลังจากเริ่มชินแล้วก็สามารถเกี่ยวยางได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องพึ่งกระจกเลยครับ
ที่เกี่ยวยางมีทั้งวัสดุที่สีคล้ายฟัน และแป้นที่ทำจากโลหะ ปูเป้เคยทำตัวเกี่ยววัสดุสีคล้ายฟันหักไป และส่วนตัวรู้สึกว่าแป้นแบบโลหะมีพื้นผิวที่มนกว่า ไม่ค่อยครูดปาก ตอนหลังจากชุดที่สองก็เลยเปลี่ยนตัวเกี่ยวเป็นแบบโลหะหมดเลยครับ แต่ถามว่ามันหลุดได้มั้ย คำตอบก็คือหลุดได้ครับ เคยทำหลุดเพราะว่าหาวอ้าปากกว้างมากตอนที่เกี่ยวยางอยู่มันเลยดึงจนแป้นหลุดจากฟัน แต่แค่นัดพบคุณหมอเพื่อติดเครื่องมือใหม่แปปเดียวก็เสร็จครับ
ชุดที่สามก็เป็นการปรับแก้รายละเอียดเพื่อให้การสบฟันที่ดีขึ้น โดยรวมปูเป้ก็รู้สึกว่าพอใจแล้วนะครับ แต่หมอเต้ตรวจช่องระหว่างฟัน ให้กัดแผ่นเช็คการสบฟันแล้วก็บอกว่ายังปรับให้สมบูรณ์กว่านี้ได้ เลยสั่งทำชุดที่ 4 แต่เป็นจำนวนแค่ไม่กี่ชิ้น ก็เสร็จสิ้นกระบวนการจัดฟัน ก่อนทำการสแกรนเฟันเพื่อสั่งทำรีเทนเนอร์ครับ
การจัดฟันของปูเป้เริ่มต้นใส่เครื่องมือในช่วงเดือน กรกฎาคม 2016 และขั้นตอนการจัดฟันเสร็จสมบูรณ์ช่วงเดือนสิงหาคม 2019 เมื่อหักลบช่วงเวลาที่ต้องรอเครื่องมือในระหว่างชุด 1 / 2 / 3 / 4 ประมาณ 3 เดือน เท่ากับว่าการจัดฟันในครั้งนี้ใช้เวลาที่ 2 ปีกับ 10 เดือนครับ
อันนี้เป็นภาพการเรียงตัวของฟันและการสบฟันจากทุกมุม ของก่อนจัดฟัน และหลังจัดฟัน ทั้งการสบฟันและการเรียงตัวคือดูสวยเป็นระเบียบขึ้นอย่างมาก
ส่วนตัวปูเป้คือประทับใจมากกับผลที่ได้ และประสบการณ์ทั้งหมดในการจัดฟันก็ดีกว่าที่เคยจัดฟันแบบโลหะรัดยางอย่างมาก ฟันเรียงตัวสวย การสบฟันดี การกินการเคี้ยวก็ดีกว่าก่อนจัดมาก เคี้ยวโมจิ เคี้ยวชาไข่มุกเพลินมาก และที่สำคัญคือโปรไฟล์หน้าเมื่อมองจากด้านข้างก็ดูสมส่วนขึ้น กรอบหน้าดูเรียวและทำให้หน้าดูไม่บวมไม่บาน ไม่ต้องพึ่งการฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวมา 6 ปีแล้ว
นอกจากเรื่องราคาที่สูงกว่า กับการต้องอาศัยวินัยของเราในการใส่เครื่องมือ (และไม่ทำเครื่องมือหาย) แล้ว ปูเป้บอกได้คำเดียวว่า Invisalign ดีกว่าทุกอย่างเลยครับ เจ็บน้อยกว่า ดูแลรักษาความสะอาดของฟันและเครื่องมือได้ง่ายกว่า ในเรื่องพูดหรือทำกิจกรรมตามปกติในชีวิตประจำวันได้สะดวกจนเหมือนปกติเลยครับ แค่ช่วงแรกจะต้องทำความคุ้นเคยนิดหน่อย พอปรับตัวได้แล้วก็ชิลเลย
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา และเรื่องบุคลิค รูปลักษณ์ ในระหว่างการจัดฟันเป็นสิ่งสำคัญ ก็ควรลงทุนกับ Invisalign ครับ แต่ถ้าไม่ได้อะไรมากกับเรื่องปากจะอูมบ้าง เรื่องการเจ็บในระหว่างดึงฟันใหม่ ๆ ที่จะทำให้ไม่อยากกินอะไรไปพักนึง กับการทำความสะอาดที่ต้องพยายามมากขึ้นหน่อย การจัดฟันแบบโลหะรัดยางก็สามารถให้ผลลัพธ์ปลายทางได้เช่นเดียวกัน
เทียบง่าย ๆ ว่าการจัดฟัน ก็เปรียบเหมือนเราจะเดินทางจากกรุงเทพ ไป เชียงใหม่ เราจะนั่งรถไฟด่วนพิเศษแบบเฟริสคลาสแสนสะดวกสบาย หรือจะนั่งรถไฟแบบธรรมดาที่ก็ไปถึงปลายทางที่เดียวกันได้ แต่อาจจะช้ากว่าหน่อยและไม่สะดวกสบายเท่านั่นเองครับ
รีเทนเนอร์มีหลายแบบ ทั้งแบบลวด และแบบใส ซึ่งรีเทนเนอร์ใสก็มีหลายแบบเช่นกัน รีเทนเนอร์ใส Vivera เป็นของผู้ผลิตเดียวกับ Invisalign โดยจะใช้ข้อมูลการสแกนฟันในครั้งสุดท้ายหลังจากจัดฟันเสร็จเพื่อสั่งผลิตเครื่องมือ
โดยการสั่ง 1 ชุดเราจะได้รีเทนเนอร์ใส Vivera มา 3 คู่ โดยแต่ละคู่มีอายุการใช้งานราว 1 ปีหรือมากกว่านั้น แล้วแต่ว่าเราดูแลมันดีแค่ไหน ปูเป้มีใส่มานานสุดราว 1 ปี 3 เดือน และต้องเปลี่ยนเพราะว่าด้วยข้อจำกัดของตัววัสดุเอง ทำให้มันเริ่มหลวมแล้วครับ เท่ากับว่าชุดนึงถ้าเราไม่ทำหายเลย เราจะใช้ได้ 3 ปีขึ้นไป
ถ้าดูเผิน ๆ จากภายนอกหน้าตาก็อาจจะคล้ายกัน แต่ถ้าได้สัมผัสและใช้งานไปจะพบว่าวัสดุของ Vivera จะมีความแข็งกว่า และมีความทนทานกว่า Invisalign อย่างมาก
ปูเป้เป็นคนชอบขบและกัดฟันโดยเฉพาะตอนนอน และทำเครื่องมือ Invisalign มีรอยขาดหรือรอยแตกในช่วงวันท้าย ๆ ของการใส่เครื่องมือชิ้นนั้นอยู่หลายอันมาก แต่สำหรับ Vivera นั้นตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมายังไม่มีเครื่องมือที่ชำรุดหรือแตกเลยครับ
ถ้าจัดฟันใส Invisalign มาแล้ว การใส่รีเทนเนอร์ใส Vivera นี่เรียกได้ว่าสบายมาก เรียกว่าสบายกว่าตอนจัดฟันอยู่เสียอีก เพราะไม่จำเป็นต้องมีการแปะตุ่มหรือจุดยึดบนฟันอีกแล้ว ทำให้ช่วง 6 เดือนแรกหลังการจัดฟันที่ต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา (เว้นแค่ตอนแปรงฟันและตอนรับประทานอาหาร) ทำได้ง่ายมาก และหลังจากนั้นการใส่เฉพาะตอนนอนทุกคืนก็เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าง่าย ปูเป้สามารถคงสภาพฟันที่จัดเสร็จแล้วและผ่านมา 3 ปีได้เป๊ะมาก รีเทนเนอร์ชุดใหม่ที่สั่งทำโดยใช้ข้อมูลจากการแสกนฟันจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ยังใส่ได้เป๊ะมากเช่นกัน
สำหรับคนที่ใช้รีเทนเนอร์ลวดแล้วรู้สึกว่าลำบากชีวิตหรือไม่ค่อยสบายปาก ไม่ค่อยอยากใส่จนทำให้การใส่ให้ครบตามที่กำหนดทำไม่ค่อยได้ อยากแนะนำให้ลอง Vivera ครับ มันดีกว่า สบายกว่ามาก เรียกได้ว่าหลัง 6 เดือนแรกที่ต้องใส่ตลอด และหลังจากนั้นให้ใส่ทุกคืนในตอนนอน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องรู้สึกยี้หรือกังวลอีกเลย
ช่วง 3 ปีนี้ ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ใส่รีเทนเนอร์เลย ไม่เคยขี้เกียจ ไม่เคยรู้สึกว่าไม่อยากใส่ เพราะว่า Vivera มันง่ายและไม่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต แม้แต่ตอนที่คุณหมอให้ใส่เฉพาะตอนนอนแล้ว ปูเป้ก็ยังพกรีเทนเนอร์ Vivera ออกนอกบ้านด้วย เพราะเวลาที่มีกิจกรรม 18+ รีเทนเนอร์จะช่วยกันไม่ให้ความคมของฟันไปครูดกับคุณผู้ชายด้วย ผู้ชายชมกันทุกคน!!!
บอกได้คำเดียวว่า นอกจากราคาที่สูงกว่าชาวบ้านแล้ว และอายุการใช้งานที่คู่ละประมาณ 1 ปีหน่อย ๆ รีเทนเนอร์ Vivera ไม่มีข้อเสียอะไรที่ปูเป้จะคอมเพลนเลย ยินดีจะใส่ไปตลอดชีวิตโดยไม่อิดออด
เนื่องจากเราต้องใช้รีเทนเนอร์ไปอย่างน้อยคู่ละ 1 ปี การดูแลรีเทนเนอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ทำได้สบายๆ ไม่ยากเลย การดูแลพื้นฐานคือทุกครั้งหลังการถอด อาจจะเพื่อดื่มน้ำหรือกินอาหาร อย่างน้อยควรล้างด้วยน้ำสะอาดและสะบัดก่อนเก็บลงกล่อง แต่จะดีที่สุดถ้าจะมีแปรงสีฟันนุ่ม ๆ มาแปรงเอาคราบไบโอฟิล์มและคราบสกปรกออกจากเครื่องมือ
การทำความสะอาดรีเทนเนอร์นั้นสำคัญ เพราะหากปล่อยให้มีความสกปรกและหินปูนสะสม จะทำให้รีเทนเนอร์มีกลิ่นเหม็นและทำให้มีกลิ่นปากครับ
การใช้เม็ดฟูช่วยทำความสะอาดรีเทนเนอร์ หมอเต้แนะนำให้ได้ลองใช้ Retainer Brite ซึ่งนอกจากจะช่วยทำความสะอาดคราบโปรตีน ละลายคราบหินปูนแล้ว ยังมีสีฟ้าที่ช่วยไปลดความเหลือง ทำให้รีเทนเนอร์ยังดูใสและดูใหม่ได้ยาวนาน และช่วยสลายกลิ่นได้ด้วย ควรใช้เม็ดฟู่นี่แช่รีเทนเนอร์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา จะใช้บ่อยกว่านั้น หรือใช้ทุกวันก็สามารถทำได้
จากประสบการณ์ในการจัดฟันใส Invisalign มา 3 ปี และการใส่รีเทนเนอร์ Vivera มาครบ 3 ปี กับหมอเต้ เป็นประสบการณ์ที่ปูเป้ประทับใจและพึงพอใจในผลที่ได้ทุกอย่างเลยครับ ลืมประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีกับการจัดฟันลวดสมัย ม.ปลาย ไปเลย ตอนนี้มีความสุขกับฟันที่สวยขึ้น การกินเคี้ยวแบบไม่มีปัญหา รอยยิ้มและรูปหน้าที่ดูดีขึ้น รู้สึกมั่นใจขึ้น ส่วนตัวคิดจริง ๆว่า การจัดฟัน Invisalign กับหมอเต้เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งนึงในชีวิตเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ปูเป้ยังมีการไปตรวจสภาพฟัน ขูดหินปูนกับหมอเต้เป็นประจำทุก 6 เดือน จนกลายเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองดูแลสุขภาพช่องปากดีที่สุดเลย ซึ่งการมาหาหมอฟันเป็นประจำตามรอบ มาเช็คสุขภาพฟัน มาขูดหินปูนจะช่วยให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรงอยู่คู่กับเราไปอีกนาน นอกจากนี้เราจะได้รู้ว่าเราควรดูแลอะไรเป็นพิเศษหรือปรับพฤติกรรมอะไรบ้าง เช่นเราแปรงฟันแรงไปจนเหงื่อกร่นรึเปล่า หรือเราแปรงฟันจุดไหนไม่ค่อยดีจนมีคราบดำหรือหินปูนสะสมอยู่เยอะ ก็จะได้รู้และเปลี่ยนให้ถูกต้อง
ฟันเป็นสิ่งที่ควรรักษาไว้ให้ดีครับ ถ้ามันหลุดไปแล้วมันงอกขึ้นใหม่ไม่ได้ แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีเรื่องการทำรากฟันเทียม แต่การดูแลสุขภาพฟันให้ดี มีการตรวจเช็คทุก 6 เดือน มันถูกกว่าและเจ็บตัวน้อยกว่าการต้องไปถอนและทำฟันเทียมเยอะเลยนะ
ยังไงถ้ารู้สึกว่าสนใจ ก็สามารถลองไปปรึกษากับหมอเต้ได้ครับ ติดต่อเพื่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายและนัดเวลาเพื่อรับคำปรึกษาได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยจ้า
Facebook : Dente Align Clinic – Invisalign Diamond Provider
Line@ : @dentealign
Instagram : @dentealign
โทรศัพท์ : 064-446-6626