วันนี้อยากจะมาพูดถึง Adopt Parfums แบรนด์น้ำหอมจากฝรั่งเศสแท้ ๆ ที่มีอะไรมากกว่าราคาไม่แพงและเข้าถึงได้ง่าย แต่ในยุคที่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้นมาถือว่าเป็น ‘การปฏิวัติวงการน้ำหอมฝรั่งเศส’ เลยทีเดียว
ตอนแรกเองปูเป้ก็มองว่านี่ก็เป็นแบรนด์น้ำหอมราคาเข้าถึงง่ายทั่วไป แต่หลังจากที่ทางแบรนด์ส่งน้ำหอม 12 กลิ่นที่วางจำหน่ายในไทยมาในกล่องสีชมพูสดใส สิ่งที่ปูเป้สนใจคือคำว่า La Frence Fragrance Revolution ที่แปะอยู่บนกล่อง เพราะคำว่า ‘ปฏิวัติ’ เป็นคำที่ใหญ่มากและอยากรู้ว่าแบรนด์ได้ทำการพลิกโฉมวงการน้ำหอมฝรั่งเศสอย่างไรถึงใช้คำนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่มดู และพบว่าเขาเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจทีเดียวนะ
เมื่อปี 1986 ในแคว้น Grasse ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ แบรนด์ Adopt Parfums ได้ถูกพัฒนาขึ้นในเมืองที่ถูกขนานนามว่า ‘เหมืองหลวงของน้ำหอม’ แห่งนี้ โดยใช้นกฮัมมิงเบิร์ดที่หาอาหารและช่วยกระจายเกสรให้หมูมวลดอกไม้ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของน้ำหอมเป็นภาพแทนของแบรนด์ ด้วยความปรารถนาที่อยากให้คนได้ใช้น้ำหอมฝรั่งเศสคุณภาพสูง แต่มีราคาที่เข้าถึงง่ายจนสามารถเปลี่ยนได้ตามบริบทและความรู้สึกที่ต้องการ ซึ่งตรงกันข้ามกับภาพจำของน้ำหอมฝรั่งเศสในยุคนั้น ที่มองว่าน้ำหอมคุณภาพดีจะต้องมีราคาสูง บรรจุอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่หรูหรา และยังมีแนวคิดการใช้น้ำหอมเพื่อแสดงเอกลักษณ์ เป็นน้ำหอมที่ดีที่สุดเพียงกลิ่นเดียวที่ใช้ไปตลอด
การนำเสนอน้ำหอมระดับ Eau de Perfume ที่มีคุณภาพสูง เป็นแบรนด์ฝรั่งเศสและผลิตในฝรั่งเศส 100% แต่มีราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมขวดรูปแบบที่เรียบง่าย กระทัดรัด พกพาสะดวก มีกลิ่นที่หลากหลาย เป็นการเปิดมุมมองและความเป็นไปได้ของการใช้น้ำหอมที่เปลี่ยนไปตามบริบทตามอารมณ์และบรรยากาศที่ต้องการ สามารถผสมโดยลงน้ำหอมทับกันเป็นเลเยอร์ ปรับเปลี่ยนใช้ได้ตามความปรารถนา จึงเป็นการทลายภาพจำ ค่านิยมของขนบการใช้น้ำหอมแบบเดิม ๆ แบบพลิกฝ่ามือ เปรียบได้กับการปฏิวัติวงการน้ำหอมฝรั่งเศส จึงเป็นที่มาของ La Frence Fragrance Revolution นั่นเอง
ปัจจุบันแบรนด์ Adopt Parfums ก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับกระแสของโลกยุคปัจจุบันด้วยการใส่มิติเรื่องของสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าไปด้วย อย่างเช่นการนำเสนอภาพของความหลากหลาย การใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้และผลิตในฝรั่งเศสเพื่อลดคาร์บอนในขบวนการผลิต และเริ่มโปรแกรมส่งเสริมการอนุรักษ์และการเพาะปลูกอย่างยั่งยืนของพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบของน้ำหอม และรับซื้อวัตถุดิบจากชุมชนในราคาที่เป็นธรรมอีกด้วย
ปัจจุบันมีน้ำหอมราคาไม่แพงให้เลือกมากขึ้น แต่แลกมาด้วยคุณภาพและความทนทานของกลิ่นที่ไม่ค่อยดีนัก ยังไม่นับว่ามีเรื่องของการลอกเลียนแบบกลิ่นจากแบรนด์ยอดนิยมชนิดถอดด้ามซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังถกเถียงกันในวงการน้ำหอม คือถ้ามีความคล้ายหรือทำให้นึกถึงนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำมาให้เหมือนเป๊ะหรือการ Immitate นั้นก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากวงการนักปรุงน้ำหอม ว่าเป็นการทำลายวงการน้ำหอมในฐานะของงานสร้างสรรค์และงานศิลปะ
แบรนด์ Adopt Parfums ปัจจุบันมี Philippe Hardel ผู้มีความสามารถทั้งด้านพืชพรรณและการพัฒนากลิ่นหอมให้กับบริษัทชั้นนำ ได้ทำงานร่วมกับบรรดานักปรุงน้ำหอมมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการรังสรรค์กลิ่นหอมยอดนิยมให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย ตั้งแต่ Chloé, Jean Paul Gaultier, Guerlain ไปจนถึง Hermès เพื่อสร้างสรรค์คอลเลคชั่นและกลิ่นใหม่ ๆ ออกมาทุกเดือน โดยในปัจจุบันแบรนด์มีตัวเลือกของน้ำหอมมากกว่าร้อยกลิ่น ไปจนถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มเทียนหอม สกินแคร์สำหรับผิวหน้า ผิวกาย และเมคอัพ โดยมีการเปิดตัวกลิ่นหอมใหม่อยู่เรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี
แต่ในประเทศไทยในตอนเริ่มต้นนี้จะเปิดตัวด้วย 12 กลิ่นที่เป็นที่นิยมและน่าจะเหมาะกับตลาดในบ้านเราก่อน โดยวางจำหน่ายในร้าน Wastsons และในช่องทางออนไลน์ ส่วนในอนาคตจะมีกลิ่นใหม่ ๆ มาเพิ่ม หรือมีร้านหรือมีเคาน์เตอร์เป็นของตัวเองไหมก็ต้องคอยติดตามกันล่ะ
ปูเป้มีแนวกลิ่นที่ชอบมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือแนว Citrus ที่สดชื่น กับแนวฟรุตตี้เป็นแกนหลัก ทำให้กลิ่นที่ถูกใจทันทีตั้งแต่แรกเลยก็คือกลิ่น Pomelo นั่นเองครับ แต่ว่ากลิ่นมันจะไม่ได้เหมือนส้มโอ และไม่ได้ออกแนว zesty ซ่า ๆ แต่เป็นกลิ่นซิตรัสที่สะอาด แต่ไม่สปอร์ตี้จ๋า มีความนุ่มนวล เพราะใช้ไวท์เกรพฟรุ๊ตและมีกุหลาบบาง ๆ มาเบรคและไวท์มัสก์เป็นฐาน เป็นกลิ่นที่ unisex ครับ
กับอีกกลิ่นที่ใช้เดี่ยวก็ดี ใช้เลเยอร์ผสมกันก็เลิศ คือ Fleur De Gingembre ที่ทำออกมาได้หวานแต่ไม่หยาดเยิ้ม เปิดตัวด้วยความสดชื่นของเปลือกส้มแทนเจอรีนและมีความอุ่นของขิงอยู่แว่บนึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความฟลอรัลบาง ๆ ของกุหลาบและความสะอาดนุ่มนวลของมัสก์ สองกลิ่นนี้ปูเป้ลองเอามาฉีดเลเยอร์กัน ได้กลิ่นที่หอมดี
สองกลิ่นด้านบนปูเป้ได้เคยโพสไปแล้วว่าชอบครับ แต่หลังจากได้ลองทุกกลิ่นแล้ว ปูเป้พบว่า ส่วนตัวก็ถูกใจกลิ่นอื่นด้วย อย่างกลิ่น Thé Blanc ที่หอมสะอาด และตอนแรกไม่คิดว่าจะชอบจากการมองดูแค่ accord ในแผ่นพับ เพราะปกติปูเป้จะไม่ชอบน้ำหอมที่มีกลิ่นมะลิเท่าไหร่ แต่อันนี้กลิ่นชาขาวช่วยให้ทุกอย่างดูนวลไม่อวลไป ในแผ่นพับบอกว่ามีเบอร์กาม็อตด้วยแต่ส่วนตัวไม่รู้สึกถึงกลิ่นนี้เลยครับ ตัวฐานเป็นมัสก์ เป็นกลิ่นที่ตอนปลายเป็นกลิ่นฐานแล้วหอมสะอาดดี
ส่วนกลิ่น Framboise Irresistible อันนี้แว่บแรกจะเป็นกลิ่นราสเบอรี่ที่ชัดมากและเปลี่ยนไปเป็นแนวกุหลาบแนวหวานแหวว น่ารัก ไม่ออกเซ็กซี แต่ดูอ่อนเยาว์
สำหรับกลิ่นที่ออกแนว Masculine เหมาะกับคุณผู้ชายในกล่องมีมาให้สองกลิ่น แต่กลิ่นที่ปูเป้รู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่ให้ภาพผู้ชายแบบคลาสสิค เพราะฐานเป็นแนววู้ดดี้ของซีดาร์และหญ้าแฝก ก็คือ Midnight For Him ครับ ปูเป้รู้สึกว่าตัวนี้ใช้เป็นฐานแล้วก็แต่งโทนด้วยการเลเยอร์น้ำหอมกลิ่นอื่นลงไปได้เลยทีเดียว
ในแง่ความติดทนของกลิ่นนั้น ตัว Pomelo กับ Fleur De Gingembre นั้นอยู่ระดับกลาง ๆ ครับ กลิ่นจะไม่ฟุ้ง ไม่ได้อยู่ทั้งวัน ซึ่งเป็นธรรมชาติของกลิ่นแนวนี้อยู่แล้ว น้ำหอมกลิ่นแนวคล้ายกันนี้ที่ปูเป้มีขวดละหลายพันก็ไม่ได้ติดทนไปกว่านี้เท่าไหร่ แต่กลิ่นอื่น ๆ อย่าง Midnight For Him คือค่อนข้างทนดีเลยล่ะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวที่มีฐานเป็นวนิลาคือติดทนมาก อาบน้ำยังไม่หลุดเลย ดังนั้นใครที่ชอบน้ำหอมที่มีกลิ่นฐานเป็นแนวนั้นน่าจะชอบเลยล่ะ
ปกติจะเป็นคนไม่พกน้ำหอมติดตัวไปใช้ข้างนอก เพราะรู้สึกว่าน้ำหอมที่ปกติตัวเองใช้นั้นพกลำบาก ถ้าแตกก็เสียดายเพราะราคาสูง แต่พอใช้กลิ่นของ Adopt Parfums ที่ชอบ ก็รู้สึกว่าสบายใจที่จะพกไปใช้มากขึ้น เพราะราคาไม่แพง ถ้าเกิดอุบัติเหตุจนแตกก็จะไม่ค่อยเสียดายเงินเท่าไหร่ และปูเป้พบว่า ขวดน้ำหอมของเขาสามารถใส่ในกล่องพลาสติกใส่ของขนาดเล็กของ MUJI ได้พอดี ลดความกังวลว่าจะไปกระแทกหรือทับจนขวดแตกไปได้เยอะ ตอนนี้ก็เลยตัวหอมหลังออกกำลังกายออกจากยิมทุกวันเลยครับ
ส่วนตัวปูเป้แฮปปี้กับ Adopt Parfums มากเลยทีเดียวนะครับ เพราะมีน้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองชอบและใช้ได้จริงในราคาที่เข้าถึงง่าย อยากให้อนาคตเขาเอากลิ่นอื่น ๆ มาเพิ่ม ถ้าอยากลอง อยากเปลี่ยน หรืออยากเอามาฉีดเลเยอร์ผสมกลิ่นกันเอง ก็ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องควักเงินหลายพันเพื่อจะได้น้ำหอมคุณภาพดี ส่วนตัวไม่ได้สะสมแพคเกจน้ำหอม และไม่ได้มองเป็นเครื่องประดับ ก็เลยมองว่ารูปแบบขวดของเขามันพกพาง่าย และก็เก็บง่ายไม่เปลืองที่ด้วยล่ะ
น้ำหอม Adopt Parfums : Eau De Perfume ขนาด 30ml จำหน่ายในราคาเพียง 490 บาท เมื่อเทียบกับราคาที่ฝรั่งเศสที่ 10.95 ยูโร ก็ถือว่าทำราคามาค่อนข้างดีทีเดียวครับ ถ้าใครสนใจ อยากลองกลิ่นด้วยตัวเอง สามารถลองแวะไปที่ร้าน Watsons สาขาหลัก ๆ เพื่อลองเทสกลิ่นก่อนได้ ปูเป้แนะนำให้ลองเทสกับกระดาษดูก่อนว่าสนใจแนวไหน และลองพ่นลงที่ผิวและไปเดินเล่นสัก 2 ชั่วโมง เพื่อดูว่ากลิ่นน้ำหอมนั้นมีเคมีที่เข้ากันกับเราหรือไม่อยากไร บางกลิ่นก็บอกเลยว่าดมตอนแรกรู้สึกเฉย ๆ แต่พอมันเซ็ทตัวเป็นกลิ่นฐานแล้วชอบมากก็มีครับ แต่สำหรับคนที่อยากลองซื้อแบบ Blind ก็สามารถสั่งทางออนไลน์ได้ที่ Watsons Online และในร้านทางการของแบรนด์ใน Lazada และ Shopee ครับ ส่วนจะมีข่าวคราวของผลิตภัณฑ์หรือกลิ่นใหม่ ๆ เมื่อไหร่ก็สามารถแวะไปติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook : Adopt Parfums Thailand