กำลังจะหมดปี 2018 แล้ว ในปีนี้เป็นปีที่เป็นหมุดหมายสำคัญหลายอย่างในชีวิต อย่างแรกก็คือนามปากกา PuPe_so_Sweet เกิดขึ้นและมีอายุครบ 10 ปีในปีนี้  การได้รีโนเวททำบ้านด้วยเงินของตัวเองทั้งหมดและจัดการด้วยตัวเองทั้งหมด และก็เป็นปีที่อายุครบ 3 รอบ หรือ 36 ปี ซึ่งถ้านับว่าอายุเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 75 ปีเราก็มาเกือบจะครึ่งชีวิตแล้วนะ!!!

จะบอกว่าในปี 2018 นี้ปูเป้ทุ่มเททั้งเงินและเวลากว่าครึ่งให้กับการรีโนเวทบ้านและการทำห้องส่วนตัวของตัวเองใหม่ (ส่วนที่เหลือก็แบ่งไปเป็นชาวสวน) ในปีนี้จึงอาจจะไม่ได้มีตัวเลือกของผลิตภัณฑ์มากมายเหมือนปีก่อนเนื่องจากไม่ค่อยได้ซื้อของและช็อปปิ้งสกินแคร์มาลองเรื่อยเปื่อยแบบปีก่อน ๆ เท่าไหร่นัก แต่การโยกทรัพยากร เวลา และความพยายามไปใช้กับเรื่องบ้านจนหมดสิ้นนั้นทำให้ปีนี้มีคำที่โดดเด่นเข้ามาในชีวิตนั่นก็คือคำว่า  Laziness หรือความขี้เกียจ เพราะนอกจากช่วงที่รีโนเวทบ้านอยู่นั้นสภาพแวดล้อมนอกจากจะไม่เอื้ออำนวยแถมยังลำบากชีวิตแล้ว เรายังใช้พลังงานและเวลาส่วนใหญ่ไปกับรายละเอียด การประสานงาน และการจัดการงานทุกอย่างให้เรียบร้อยอีกด้วย คือเหนื่อยอ่ะ อยากนอนเร็ว ๆ อยากแบบทาสองสามตัวตู้มแล้วนอนเลย อะไรแบบนี้ และในปีนี้ปูเป้ก็ไม่ค่อยได้ช็อปปิ้งสกินแคร์เยอะเหมือนก่อน ทำให้ของที่ได้ลองในปีนี้ส่วนใหญ่คือของที่มีติดในคลังแสงที่บ้านแต่ไม่เคยหยิบมาใช้ซะเยอะ บางอย่างจึงอาจจะไม่ใช่ของพึ่งออกใหม่ แต่เราพึ่งได้ลองใช้แล้วชอบก็เอามาลงล่ะ

อีกคำหนึ่งที่สำคัญคือคำว่า Pollution เพราะในฐานะคนที่เกิดและอาศัยในกรุงเทพมาตลอด ปีนี้เป็นปีที่เรารู้สึกว่าปัญหามลภาวะรุนแรงมากอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงฝุ่นหมอกควันพิษในช่วงต้นปี (และช่วงปลายเดือนธันวานี้) ที่ทำให้เกิดปัญหาผิวเป็นตุ่มผดผื่นคันและเป็นสิว แสบตา คอพังกันเป็นแถบ 

และปีนี้เป็นปีที่มีเรื่องราวสำคัญเกิดขึ้นหลายอย่างที่เรียกว่าเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตเลยก็ว่าได้ หลายอย่างเป็นประสบการณ์ที่ดี แปลกใหม่ และบางอย่างก็นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้เรากังวลอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ในทุกวิกฤตินั้นมีโอกาส และเหมือนเป็นจังหวะอันดีที่โอกาสใหม่นั้นเข้ามาอย่างรวดเร็วแบบไม่ให้เราต้องเคว้งนาน เราได้รับรู้ถึงความห่วงใยและเราได้เห็นว่าใครที่ต่อสู้และอยู่เคียงข้างเรา ใครที่ร้องไห้เพื่อเรา เป็นปีที่ปูเป้ได้เรียนรู้กับตัวเองว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี และเสรีภาพก็มีราคาที่เราต้องจ่าย”

ปูเป้ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากจะอยู่ตรงนี้เพื่อผลักดัน เพื่อส่งต่อ แนวคิด ความคิด และข้อมูลที่มีประโยชน์ และคอยเป็นกำลังใจให้กับทุกคน และขอบคุณทุกคนที่ก็คอยเป็นกำลังและคอยสนับสนุนปูเป้มาตลอดเช่นเคย ในปี 2019 ปูเป้ก็มีโปรเจคที่น่าสนใจมานำเสนอ ยังไงก็คอยติดตามกันนะฮะ

รักเสมอ / PuPe_so_Sweet


ในปีนี้ก็มีในรูปแบบ Vlog อีกเช่นเคย ตามนี้เลยจ้า

VDO : Part 1
– Introduction
– Facial Cleanser
– Water Lotion / TreatmentEssence
– Moisturizer

VDO : Part 2
– Anti-Aging
– Whitening
– Rinse-off Mask
– Leave-on Mask
– Sunscreen
– Facial Mist

VDO : Part 3
– Base Makeup
– Body Care
– Hair & Scalp Care
– Beauty Gadget
– Home & Living

Cleanser

Kiehl’s : Cucumber Herbal Conditioning Cleanser (150ml /1,050 Baht)

เคลนเซอร์แบบมีฟองไม่มากและเนื้อเข้มข้นหน่อย ๆ กลิ่นหอมเย็นสบายจมูก ทำความสะอาดได้ดีและล้างออกโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงใช้ได้กับทุกสภาพผิวรวมไปถึงผิวที่ค่อนมาทางแห้ง แต่สำหรับผิว Sensitive อาจจะต้องโน๊ตไว้หน่อยว่ามันมีน้ำหอมระเหยใส่มาแต่งกลิ่นบ้างล่ะ

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Gentle Cleansing / Hydration / Sensory

MizuMi : Extra Mild Facial Cleanser (100ml / 229 Baht)

ราคาไม่แพง อ่อนโยน ฟองน้อย ล้างออกไม่ยาก เหมาะกับทุกสภาพผิวอย่างแท้ทรู

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Gentle Cleansing / Fragrance-Free

KANEBO : Refreshing Powder Wash (0.4g x 32 / 1,200 Baht)

เราชอบผงล้างหน้าของ RMK มากแต่มันปลิวจากเราไปแล้ว สิ่งนี้คือตัวตายตัวแทน และมาในแพคเกจที่สามารถพกพาไปใช้ยามเดินทางได้อย่างสะดวก แต่ก็แอบคิดเหมือนกันว่าในความสะดวกมันก็เพิ่มขยะพลาสติกโดยไม่จำเป็น เราเคยเห็นพวกครีมโกนหนวดหรือโฟมล้างหน้าที่บรรจุอยู่ในพอคเกตใสเหมือนพลาสติกห่ออาหาร แต่เมื่อโดนน้ำมันจะละลายไปพร้อมกับโฟมข้างในแล้วก็ใช้ล้างหน้าไปได้เลย เราอยากเสนอไอเดียนี้เพื่อลดการใช้แพคเกจพลาสติกลงบ้างดูเหมือนกันนะ

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Gentle Cleansing / Fragrance-Free / Travel-Friendly

Toner  / Water Lotion / Treatment Essence

d program : Acne Care Lotion W (125ml / 1,190 Baht)

เทคโนโลยีของส่วนผสมที่ใช้ในการเสริมความแข็งแรงของปราการปกป้องผิวค่อนข้างเฉพาะตัว เนื้อบางเบาดุจน้ำ ให้ความชุ่มชื้นกำลังดี มีส่วนผสมช่วยลดการอักเสบของผิว ข้อดีของมันคือทำให้ใช้เสริมและใช้คู่ไปกับสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ที่ช่วยรักษาสิว หรือเสริมความแข็งแรงของผิวได้อย่างง่ายดาย อ่อนโยนมาก ไม่เพิ่มการระคายเคือง (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Acne-Prone
Outstanding : Light-Weight Hydration / Gentle / Barrier-Repair /Fragrance-Free / Anti-Inflammation /

fresh : Black Tea Kombucha Facial Treatment Essence ( 150ml / 2,900 Baht)

เอสเซนส์น้ำที่ดูมีบอดี้ มีความข้นนิดหน่อยแต่เซ็ทตัวแบบไร้ความเหนอะทิ้งไว้แต่ผิวที่ชุ่มชื้นสดใส ถ้าทุ่มทุนหน่อยเอามาชุบแผ่นมาสก์แปะหน้า จะสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นที่อัดฉีดวื้ดดดดดดดดดดดดด ลอกแผ่นมาสก์ออกมาแล้วผิวรู้สึกเย็นฉ่ำยาวนาน (แม้ว่าจะไม่มีส่วนผสมของเมนทอลหรือสารเย็นผิวใด ๆ) รักมาก ดีมาก ชอบมาก แนะนำรัว ๆ อยากให้มีแบบขวดลิตรพร้อมหัวปั้มออกมาขายเลออออออออ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Dehydrated Skin
Outstanding : Hydration /Sensory / Clarity / Antioxidant

Biotherm : Life Plankton Clear Essence ( 125ml / 2,550 Baht)

นี่แหล่ะที่เฝ้ารอมานาน Life Plankton 5% ในน้ำเอสเซนส์ที่เบาบางไม่หนึบหนับผิว เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น และการเลเยอร์สกินแคร์อย่างมาก คนผิวเป็นสิวง่ายก็ใช้ได้และเหมาะอย่างมากด้วย (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Acne-Prone Skin
Outstanding : Anti-Inflammation / Soothing / Healing / Light-weight Hydration

Mizumi : Marine Sugar White Essence (125ml / 1,390 Baht)

ด้วยคอมบิเนชั่นของ  Niacinamide กับ  Acetyl Glucosamineในความเข้มข้นที่มากพอ ทำให้เอสเซนส์น้ำตัวนี้ให้ผลค่อนข้างกว้างตั้งแต่การเป็นไวท์เทนนิ่ง เสริมความชุ่มชื้น เสริมความแข็งแรงของผิว และราคาโปรโมชั่นก็อยู่ในระดับที่จับต้องได้สบาย ๆ ไม่มีน้ำหอมด้วยเป็นเรื่องที่ดีมาก (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Acne-Prone
Outstanding :  Hydration  / Barrier-Repair / Fragrance-Free / Brightening / Gentle

 

Facial Oil

Clarins : Hydra-Essentiel Bi-Phase Serum (30ml / 2,800 Baht)

นี่ก็คิดอยู่นานว่าจะจับมันอยู่ในหมวดไหนดี เซรั่ม หรือจะเป็นออยล์ แต่เราตัดสินใจใส่ลงในหมวดนี้เพราะสุดท้ายมันให้ฟินิชของผิวที่เหมือนกับการใช้ใช้ออยล์บางเบาที่ให้ผิวมีความกลอสซี่กำลังงาม ส่วนผสมก็ดี ฟีลดีมาก กลิ่นหอมที่ช่างสดใสและอ่อนเยาว์ถูกจริตเรามาก (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Dehydrated
Outstanding :  Hydration  / Sensory

THREE : Aiming Facial Oil Essence (28ml / 5,800 Baht)

อันนี้เป็นออยล์ที่ผสมสารแอคทีฟชนิดที่ละลายในน้ำมันลงไปด้วย ทำให้นอกเหนือจากการเป็นน้ำมันบำรุงผิวมันก็เป็นเซรั่มไปด้วยในตัว แต่ส่วนตัวเราก็ใช้มันเป็นออยล์อยู่ดี และเราจะใช้ในปริมาณ 1 – 2 ปั้ม ผสมเข้ากับ THREE : AIMING Lotion ในปริมาณ 1 ปั้ม เพื่อจำลองการเป็น Bi-Phase Oil ที่ให้สัมผัสในการใช้ที่ดี และกระจายตัวบนผิวได้ดีกว่า ซึ่งมันไม่ใช่วิธีที่ทางแบรนด์แนะนำหรอก แต่เราชอบแบบนี้ ไม่สงวนสิทธิ์ในการเอาไปทำตาม ตัวนี้ช่วยให้ผิวนุ่มและยืดหยุ่นขึ้นเลยล่ะ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Nourishing, Relaxing, Whitening, Anti-Aging, Barrier Repair

 

Moisturizer

Clarins : Hydra-Essentiel Light Cream (50ml / 2,500 Baht)

ในบรรดาทั้งหมด 3 เนื้อสัมผัส เราชอบเนื้อนี้ที่สุดเพราะเป็นตัวที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความฉ่ำเย็นผิวยามสัมผัสและเนื้อครีมบางเบาแต่โอบกอดผิวให้รู้สึกนุ่มสบาย และความที่เราชอบจนควักหมดกระปุกทำให้เราพบว่ากระปุกของคลาแรงค์นางแอบควักยาก มันติดใต้ขอบกระปุกอ่ะ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : Dry- Normal – Combination Skin / Dehydrated
Outstanding :  Hydration  / Sensory / Comforting

Clinique : Dramatically Different™ Hydrating Jelly  ( 125ml / 1,650 Baht , 50ml / 770 Baht)

มองว่าสิ่งนี้คือการเปลี่ยนทิศทางของแบรนด์ไปเลย มันคือก้าวออกจากกรอบ หรือต้องบอกว่าคำสาปของคำว่า Iconic ที่หลายแบรนด์มักเจอกัน เพราะเนื้อเจลลี่นี้จะดูไม่จืดถ้าเป็นสีเหลือง มันจะไม่อิมแพค มันจะไม่สื่อ และมันจะไม่เปิดทางไปสู่การเล่นกับ Visual ในรูปแบบอื่นเท่าไหร่นัก นอกเหนือจากมุมในแง่ของการตลาดแล้ว เจลลี่ใสนี้ช่างสะดวกในการใช้ เราจะใช้มันเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาที่แทบไม่ต้องกังวลเรื่องการอุดตันเลยก็ได้ จะทาหนา ๆ เพื่อเป็นมาส์กเจลปลอบประโลมผิวจากความร้อนหลังการออกแดดก็ได้ จะใช้มันเป็นเบสในการผสมเข้ากับบูสเตอร์ต่าง ๆ ก็ได้  ในวันที่เราขี้เกียจมาก ๆ เราก็ใช้สัก 3 – 4 ปั้ม แล้วก็โบกเข้านอนไปเลย ง่ายดีเหมือนกัน (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type Especially Normal to Oily Skin / Dehydrated Skin / Sensitive Skin
Outstanding : Lightweight Hydration / Sensory / Gentle / Fragrance-Free

 

Anti-Aging / Healing

Kiehl’s : Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate 12.5% Vitamin C (50ml / 3,200 Baht)

สูตรปรับปรุงใหม่ของวิตามินซีที่เราแนะนำมาตลอดหลายปีสำหรับใครที่ต้องการวิตามินซีเข้มข้นและใช้งานได้นาน สูตรใหม่มาในเนื้อสัมผัสที่เซ็ทตัวมันวาวน้อยลงกว่าเดิมและไม่แยกชั้นแถมยังเพิ่มรูปแบบของวิตามินซีที่ทำให้มันแอคทีฟได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Anti-Aging / Whitening / Antioxidant

Clinique : Fresh Pressed™ Daily Booster with Pure Vitamin C 10%  (8.5ml x 4 / 3,600 Baht)

ปีที่แล้วให้ไปแล้ว ปีนี้ก็ยังให้อีก เพราะมันดีงามจริง ๆ วิตามินซีที่มั่นใจได้ว่าสดใหม่ที่เปิดใช้กับคอกเทลของเปปไทด์และส่วนผสมไฮเทคในเนื้อที่เบาสบายไม่หนักผิว ตัวเดียวได้ผลหลากหลายทั้งริ้วรอย ทั้งความกระจ่างใส ทั้งปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ไม่ต้องใช้เยอะอย่าง และมันสะดวกมากเวลาที่พกพาไปเดินทางหรือไปเที่ยวอีกด้วย เพราะปกติทริปของเราจะอยู่ที่ 5-7 วันอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถใช้แล้วหมดในทริปและทิ้งลงถังได้เลยไม่ต้องแบกกลับมา (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Antioxidant / Glow / Anti-Aging / Whitening / Travel-Friendly / Fragrance-Free

Paula’s Choice : Advance Smoothing Treatment 10% AHA (30ml / 1,350 Baht)

แฟน ๆ ป้าพอลล่าอาจจะตาเหลือกับราคาและปริมาณว่าทำไมเดี๋ยวนี้ AHA ของป้าราคาโหดจัง แต่เราไม่มองว่านี่เป็นแค่ขั้นตอนของการ  Exfoliants แต่มันคือเซรั่มต่อต้านริ้วรอยที่มี  AHA ในความเข้มข้นที่ผลัดเซลล์ผิวได้พอดี มันมีเปปไทด์ต่อต้านริ้วรอย มีเซราไมด์และส่วนผสมต้านการระคายเคืองอีกหลายชนิด เราใช้เป็นเซรั่มคู่กับวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid แล้วได้ผลแบบวู้ววววววววววววววววว แต่โน๊ตไว้ว่าใครที่ไม่เคยใช้อะไรเป็นกรดแบบนี้คู่กัน ให้เริ่มจากน้อย ๆ นะจ๊ะ ถ้าผิวรู้สึกยิบมากหรือแดงก็ไม่ต้องใช้คู่กันก็ได้ คือผิวแต่ละคนมีความทนไม่เท่ากัน คือถ้าทนไม่ได้ แสบมาก หรือผิวแดง ผิวแห้งลอก ไม่ต้องทู่ซี้ใช้เด้อ ใช้แยกกัน หรือลดความถี่ในการใช้ ลดปริมาณในการใช้แทน

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Moderate Exfoliating / Smoothing / Anti-Aging / Brightening

No7 Laboratories : Line Correcting Booster Serum (15ml / 1,750 Baht)

จากข้อมูลที่เรามี เราเชื่อว่านี่คือเซรั่มที่อัดเปปไทด์ Matrxyl 3000 มาอย่างเข้มข้นที่สุดแล้ว และสูตรของเซรั่มตัวนี้ก็เป็นหมุดหมายที่น่าสนใจในเชิงของการสร้างสูตรเครื่องสำอางของฝั่งยุโรป เพราะลดการพึ่งพาซิลิโคน D4 D5 ในสูตรไปอย่างมาก ตัวนี้จึงผสมรวมเข้ากับผิวและผลิตภัณฑ์สกินแคร์เบสน้ำทั่วไปได้อย่างง่ายดาย อ่อนโยนมากพอที่จะใช้กับรอบดวงตา หรือทาลงบนผิวโดยตรงในจุดที่กังวลเรื่องริ้วรอยได้ด้วย ช่วงโปรโมชั่นถือว่าราคาดีมาก ควรไปสอยมาลอง (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Anti-Aging / Fragrance-Free

Paula’s Choice : Clinical Ceramide-Enriched Firming Moisturizer (50ml / 2,100 Baht)

ไอเทมขี้เกียจของปีอีกหนึ่งตัว มอยซ์เจอไรเซอร์ที่บ้าพลังที่สุดตัวหนึ่งของป้าพอลล่าด้วยความเข้มข้นของอนุพันธ์วิตามินซีที่น่าจะเยอะมากกว่า 5% รวมกับเรตินอล สารพัดเซราไมด์ที่หลอมรวมกันมาในเนื้อครีมเนียนเข้มข้น วันขี้เกียจก็ปั้มมาเยอะหน่อยแล้วปาดหน้านอนอีกเช่นกับครับท่าน แต่ผิวออกมาดูดีย์ดูสดใสรอยแดงรอยสิวจางลง

Skin Type : Dry- Normal – Combination / Sun-Damaged Skin
Outstanding : Anti-Oxidant / Anti-Aging / Brightening / Nourishing / Fragrance-Free

IPSA : ME Ultimate (50ml / 3,900 Baht)

ถ้าพูดถึงไอเทมสำหรับคนขี้เกียจ ไม่มีตัวไหนเกินกว่านี้อีกแล้ว นี่คือสิ่งที่เราพกไปในทุกทริปที่เดินทางในปีนี้ ขวดเดียวจบ ถ้าขยันก็เพิ่มเซรั่มอีกตัว ทากันแดดออกไปเฉิดฉายอวดผิวเด้งสวยได้เลย ไปญี่ปุ่นตอนอากาศ 5 องศาก็ตัวนี้จ้า (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Glow / Sensory / Anti-Aging /Fragrance-Free

 

Whitening / Brightening

IPSA : White Process Essence OP (20ml / 2,200 Baht , 50ml / 4,500 Baht)

สูตรใหม่ที่เราบอกตรงๆเลยนะว่าเราไม่รู้สึกว่าต่างจากสูตรเก่ายังไง นอกจากเราชอบฝาของขวดเก่ามากกว่าเพราะเราว่ามันดูมีดีไซน์และดูแพงกว่า แต่โดยรวมมันคือไวท์เทนนิ่งเซรั่มที่อ่อนโยนมาก ปลอดภัยมาก ที่เราจะแนะนำอย่างสะดวกใจให้กับทุกคน มันช่วยให้โทนผิวเราละมุน ลดโทนแดง ลดโทนเหลืองของผิวให้ดูกระจ่างขึ้น ใช้ตอนเป็นสิวได้อย่างไม่มีปัญหา พอสิวหายแล้วรอยสิวที่ติดผิวจะน้อยลงกว่าไม่ใช้อย่างรู้สึกได้ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Whitening  / Glow / Hydration / Gentle

 

Rinse-off Mask

Fresh : Lotus Youth Preserve Rescue Mask (100ml / 2,700 Baht)

มาสก์ในยามขี้เกียจแต่ยังอยากจะปรนเปรอตัวเองด้วยอะไรที่ฟีลกู๊ด คือมีเม็ดขัดผิวจากธรรมชาติที่สครับไว้ก่อน แล้วก็ทิ้งเอาไว้สัก 5 นาทีเพื่อให้เนื้อครีมกลิ่นหอม ๆ ของแตงกวาและเลมอนช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและนุ่มนวลขึ้น (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Smoothing / Glow / Exfoliating

The Body Shop : Mediterranean Almond Milk with Oats Instant Soothing Mask (75ml / 990 Baht)

ตัวนี้ออกมาช่วงปลาย ๆ ปี แต่เงียบม๊าก ไม่โปรโมทใด ๆ แต่มันใช้ดีนะเออ คือเนื้อมาส์กมันดึ๋งๆ แล้วก็ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี มีเม็ดขัดผิวพอกรุบกริบ แถมกลิ่นก็หอมเหมือนขนมนัว ๆ มีส่วนผสมของน้ำหอมแต่เป็นน้ำหอมที่ไม่มี Common Fragrance Allergen ตามกฏหมายของ EU ดังนั้นในบรรดามาส์กทั้งหมดของ The Body Shop ตัวนี้เซฟที่สุดแล้วสำหรับผิวที่ค่อนไปทาง sensitive

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Soothing / Comforting / Gentle Exfoliating

 

Leave-On Mask / Sheet Mask

LANCÔME : Advanced Génifique Hydrogel Melting Mask (28g X 1 Sheet / 500 Baht, 28g X 7 Sheet / 3,000 Baht)

ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ไปซื้อเหอะ มันดีมาก ในบรรดามาส์กที่เราลองมาจะถูกหรือจะแพง ตัวนี้คือว้าวที่สุดแล้ว ตอนใช้ครั้งแรก ลอกออกมาถึงกับร้องหูวววววว ผิวมันช่างเปล่งปลั่งอิ่มเอิบฟูเด้งดึ๋งอะไรได้ขนาดนี้ อย่าไปสนใจคำเคลมว่ามาสก์ 10 นาทีได้ผลแบบนี้ 20 นาทีได้ผลแบบนี้ ขอให้แปะไปเลย 30 นาทีหรือมากกว่าเท่านั้น ราคามันไม่ถูก เราต้องใช้ให้คุ้ม (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep- Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Plumping / Anti-Aging / Barrier Repair

La Mer : The Treatment Lotion Hydrating Mask (1 Sheet / 1,000 Baht , 6 Sheet / 5,100 baht)

แอบเกลียดตัวเองที่ใช้แล้วชอบ แต่สิ่งนี้น่าประทับใจตรงที่แผ่นมาส์กมันนุ่มเนียนและกระชับกับรูปหน้าได้ดี อัดความชุ่มชื้นเข้าผิวได้อย่างน่าประทับใจ และที่เราแปลกใจมากคือหลังลอกมาส์กออกแล้วหน้าไม่เป็นรอยยับของแผ่นมาส์กด้วยอ่ะ ไม่รู้ทำได้ยังไง แต่เราว่ามันดี

Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Plumping 

LuLuLun : Pink Face Mask (42 Sheet / 790 Baht)

เขามีการปรับปรุงแผ่นมาส์กใหม่เมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา โดยใช้แผ่นมาส์กที่เคยอยู่ในรุ่น  Precious ซึ่งเราชอบเพราะว่ามันพอดีกับหน้ามากกว่า มาไว้ในรุ่นธรรมดาของเขา และการที่ในไทยมีโปรโมชั่นลด 50% แถมยังมีคูปองลดเพิ่มในแอพช็อปออนไลน์อีกสารพัด ทำให้มันถูกกว่าไปหิ้วมาจากญี่ปุ่นซะอีก ประหยัดพื้นที่และน้ำหนักกระเป๋าตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อีกหนึ่งอย่าง

Skin Type : All Skin Type / Sensitive / Dehydrated
Outstanding : Hydration / Gentle / Fragrance-Free

 

Sunscreen

d program : Allerdefense Cream SPF37 PA+++ (35g / 990 Baht)

ในปีนี้เรายังคงใช้กันแดดตัวเดิม ๆ ของปีก่อนอย่างต่อเนื่อง (เพราะว่าตุนไว้เยอะ ต้องชดใช้กรรม) แต่กันแดดตัวนี้โดดเด่นขึ้นมามากในช่วงที่มลพิษถล่มกรุง มันได้ผลจริง ๆ เพราะวันที่ใช้กับไม่ใช้สิ่งนี้ ความสบายผิวและปริมาณตุ่มแดงคันบนหน้า อันมาจากปัญหา PM2.5 ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding :  Anti-Pollution / Physical Sunscreen / Gentle / Fragrance-Free

 

Facial Mist

IHADA : Aller Screen Spray (50g / 900 Yen , 100g / 1,600 Yen)

สเปรย์ตัวนี้ใช้เทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะของเครือชิเซโด้ในการสร้างเกราะประจุไฟฟ้าที่มองไม่เห็นในการช่วยผลักให้ฝุ่นละออง  PM 2.5 และเกสรดอกไม้ ส่วนใหญ่ไม่ให้เข้ามาใกล้ผิว รูปแบบสเปรย์ที่ใช้ได้สะดวก ทำให้ใช้หลังสกินแคร์ หลังกันแดด หลังแต่งหน้า และเติมระหว่างวันได้ ฉีดหน้า ฉีดตัว ฉีดหัวปกป้องผมก็ได้ ไม่มีน้ำหอมด้วย เราหิ้วมาจากญี่ปุ่น ยังไม่มีขายในไทยอย่างเป็นทางการจ้า

Skin Type : All Skin Type / Sensitive
Outstanding :  Anti-Pollution / Gentle / Fragrance-Free

fresh : Vitamin Nectar Antioxidant Glow Water (100ml / 1,020 Baht)

พลังแห่งความหอมที่เราหลงรัก และเนื้อละอองสเปรย์ที่เล็กละเอียดสุดพลังจนต้องแปลกใจว่า สเปรย์ที่ไม่ใช่กระป๋องแบบอัดก๊าซสามารถทำละอองได้ละเอียดขนาดนี้เชียวหรือ เอาไว้เพิ่มความสดชื่นในระหว่างวันได้เป็นอย่างดีทีเดียวล่ะ

Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Sensory / Refreshing / Travel-Friendly

 

Base Makeup

IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++ (50ml / 1,290 Baht)

แม้ว่าตัวผลิตภัณฑ์จะโพซิชั่นตัวเองว่าเป็น All-In-One Skincare ที่รวมทั้งบำรุง กันแดด และการปรับผิวให้กระจ่างใสในทันที แต่สำหรับเราจะไม่ใช้ตัวนี้เป็นกันแดดประจำวัน แต่สิ่งนี้คืออาวุธลับผิวในโอกาสพิเศษที่ช่วยให้ผิวดูเหมือนผิวเปลือยเปล่าแต่ผ่องออร่าเปล่งประกายจนเพื่อนทัก ผู้ชายเข้ามาขอไลน์ สิ่งที่ดีงามของตัวนี้คือ มันไม่ทึบ มันไม่ขาวลอย มันเป็นธรรมชาติมาก และหลักการของมันก็เหมือนกับการปรับ  White Balance ให้กับผิว ด้วยสีฟ้าที่มาจากสารสกัดจากเห็ดที่นอกจากจะช่วยลดการระคายเคืองผิวแล้ว มันยังเล่นกับอิทธิพลของสีโดยไปลดโทนเหลืองและปรับโทนแดงของผิวให้น้อยลง จนได้เป็นโทนผิวที่ดูกระจ่างสว่างใส ใครที่ไม่ได้ต้องการปกปิด แต่แค่ต้องการปรับโทนผิวให้สวยขึ้นได้ในทันที เราแนะนำตัวนี้เลย (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Instant-Brightening / Natural Glow / Antioxidant / Anti-Aging / UV Protection / Fragrance-Free

IPSA : Ultimate Face Powder SPF15 PA++ (8g / 3,200 Baht)

ปกติเราจะใช้แป้งฝุ่นเพราะว่ามันบางเบาเป็นธรรมชาติราวกับไม่ได้เติมแต่ง แต่ข้อจำกัดของแป้งฝุ่นคือพกลำบาก สิ่งนี้ทลายข้อจำกัดนั้นหมดสิ้นเพราะแป้งอัดแข็งตลับนี้พกพาใช้ได้แสนสะดวก แถมยังบางเบากลืนเข้ากับผิวเป็นธรรมชาติ ผิวดูไม่แห้ง และเมื่อน้ำมันของผิวออกมาหลอมรวมกับแป้งยิ่งดูสวย ผิวดูไม่หมองระหว่างวัน ราคาแอบแรงแต่ว่ามันเลิศมาก รักโคตร ขูดเพลินจนถึงก้นตลับแล้ว เวลาจัดกระเป๋าเดินทางสิ่งนี้คือขาดไม่ได้เลยล่ะ

Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Natural / Fragrance-Free / Travel-Friendly

 

Body Care

Fresh : Sugar Lemon Bath & Shower Gel (300ml / 850 Baht)

เจลอาบน้ำนี้เราชอบมากและมันหายไปจากเคาน์เตอร์ในไทยไปพักหนึ่งและกลับเข้ามาขายใหม่ในปีนี้ เราดีใจมว้ากกกกก และห้องใหม่เรามีอ่างอาบน้ำด้วย เอามาตีฟองนอนดมกลิ่นโคตรฟินแบบฝุด ๆ อ่ะ

La Roche-Posay : Lipikar Syndet AP+ (200ml / 600 Baht , 400ml / 1,000 Baht)

เราได้ลองใช้และค้นพบความดีงามของมันตอนที่ขาลายเพราะแพ้แมลงแถมมีอาการ  Eczema แห้ง แดง คัน ร่วมด้วย มันอ่อนโยนมากและใช้ได้แม้กับผิวเด็กแรกเกิด มีฟองล้างออกไม่ยากและทิ้งมอยซ์เจอไรเซอร์เคลือบผิวแบบบางเบา ใครที่ผิวบอบบาง ผิวแห้ง หรืออยากไ้ด้เจลครีมอาบน้ำที่ไม่ทำให้ผิวแห้ง ตัวนี้ดี๊ดี

THREE : Full Body Treatment & Bath Salt (6 Sachet / 1,400 Baht)

มันเป็นเกลือขัดผิวผสมน้ำมันจากพืชและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่เราชอบ หลังจากขัดแล้วก็เอาตัวไปหย่อนลงในอ่างอาบน้ำที่เติมน้ำอุ่นรอไว้ น้ำมันและเกลือที่ติดบนผิวของเราก็จะละลายเป็นเกลือแช่น้ำอาบที่ทำให้ผิวนุ่มหอมจาง ๆ มีทั้งหมด 3 กลิ่นให้เลือก เราชอบกลิ่น Bergarmot ที่สุดละ ช่วยคลายความเครียดได้ดีมาก มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขา Central World และ ICONSIAM นะฮะ

St. Ives : Energizing Coconut & Coffee Scrub (170g / 229 Baht)

แม้จะบอกว่าเป็นสครับสำหรับผิวหน้า แต่ด้วยความดีงามของราคาและปริมาณ มันสามารถเป็นสครับสำหรับผิวกายที่กลิ่นหอมอร่อยสุดพลังเลยล่ะ เม็ดสครับทั้งหมดมาจากธรรมชาติไม่เป็นภาระกับแหล่งน้ำด้วยนะ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Preview ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Hatomugi : Skin Lotion (500ml / 350 Baht)

เอามาใช้ตบผิวตัวก่อนที่จะลงพวกมอยซ์เจอไรเซอร์จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้การทามอยซ์เจอไรเซอร์ใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าและได้สัมผัสที่ดีกว่า (ส่วนใหญ่นะ) ราคาไม่แพง เนื้อเบาเหมือนน้ำ ไม่มีน้ำหอม แบบใช้ ๆ ไปเหอะ มันดีกว่าไม่ใช้จริง ๆ

La Roche-Posay : Lipikar Fluid (200ml / 270 baht , 400ml / 440 Baht)

เขามีมานานแล้ว และเราก็ได้มาหลายขวดแต่ไม่เคยเปิดใช้เลย จนกระทั่งมีคนบอกให้ลองใช้ดู มันดีนะ เฮ้ย มันก็ดีจริง ๆ แล้วก็ตกใจว่าราคามันแค่สี่ร้อยกว่าบาทเองนะ มันคือบอดี้โลชั่นที่ไม่มีน้ำหอม และก็มี  Niacinamide ให้ความชุ่มชื้นกำลังดี ไม่หนักผิว แต่ว่ามันมีความเป็นฟิลม์นิดนึงตามสไตล์ของเนื้อสัมผัสแบบนี้ เวลาใช้ตอนนอนมันมีความติดกับชุดนอนหน่อย ๆ เราเลยจะเก็บไว้ใช้ตอนกลางวันซะมากกว่า ราคาดี ไม่แพง ส่วนผสมมีประโยชน์กับความแข็งแรงของผิว อ่อนโยน ดีงามจ้า

Curel : Moisture Gel Lotion (200ml / 1,200 Yen)

เราชอบ Curel : Moisture Milk มาก เพราะถ้าไม่นับรวมในเรื่องของราคาแล้ว มันมีความสมดุลที่สุดทั้งในแง่ประสิทธิภาพและเนื้อสัมผัสที่ใช้ง่าย ทาบนผิวแห้งก็ยังรู้สึกว่ามันทาได้ลื่น บางเบา เคลือบผิวกำลังดีงาม แต่ในช่วงอากาศร้อนชื้นก็ต้องขอบอกว่าเนื้อเจล-โลชั่นนี้ดีงามเหมาะสมกว่ามาก เรานับวันรอว่าเมื่อไหร่เขาจะทำขวดใหญ่มาขายซะที ตัวนี้เหมาะกับอากาศบ้านเราสุด  ๆ สำหรับคนผิวทั่วไปไม่ได้แห้งมากอะไรขนาดนั้น

Cerave : Moisturizing Cream (454ml / 895 Baht)

ถ้าถามว่าถ้าผิวแห้งมาก ต้องการเคลือบปกป้องผิวแบบสุด  ๆ แต่ไม่เหนอะหนะเหนียวหนืดรำคาญผิวเลย ตัวนี้คือคำตอบที่แท้ทรู แถมอยู่ติดผิวดีมาก เจอน้ำหรือเหงื่อก็ไม่หลุดออกง่าย ๆ ด้วยนะ แต่ถ้าคนที่ผิวไม่ได้แห้งมาก ใช้ Cerave : Moisturizing Lotion  (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้) ก็พอจ้า 

The Body Shop : Mango Body Yoghurt (200ml / 550 Baht)

เราชอบกลิ่นหอมหลอกเด็กของบอดี้บัตเตอร์จากแบรนด์นี้มาก แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราเท่าไหร่ แอบเข้มข้นไปนิดนึง แต่คนผิวแห้งอาจจะชอบ การออกเนื้อสัมผัสแบบเจลครีมดึ๋งๆ เหมือนโยเกิร์ตนี้จึงตอบโจทย์มาก เพราะแม้จะบางเบา ซึมง่าย มันกลับให้ความชุ่มชื้นดีกว่าที่คิดล่ะ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน Deep-Review ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้)

Aesop : Rind Concentrate Body Balm (120ml / 1,350 Baht , 500ml / 3,600 Baht)

เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้สิ่งนี้ นอกจากมันจะส้มสะใจ ส้มแบบธรรมชาติ ส้มแบบเหมือนเอาเปลือกส้มมาขยี้ตัว มันยังทำให้ผิวเรานุ่มมากอีกด้วย แถมเนื้อบาล์มเมื่อซึมลงบนผิวหมดมันก็ไม่เหนอะหนะ เข้านอนสบายตัว ดมกลิ่นหอม ๆ หลับปุ๋ยเลยทีเดียว อ้อ!!! เห็นเนื้อเหลวๆ  แบบนี้ อากาศ 5 องศาที่โตเกียวเอาอยู่นะจ๊ะ

 

Hair & Scalp Care

ปูเป้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเส้นผมเท่าไหร่เพราะว่าไม่ได้ไว้ผมยาว และผมก็หนาดกดำดี แต่ปัญหาหลักอยู่ที่หนังศีรษะมากกว่า เพราะว่าในขณะที่หนังศรีษะก็มันง่าย ถ้าไม่สระผมทุกวัน ก็จะคันเป็นตุ่ม แต่ถ้าสระทุกวันก็จะแห้งง่าย เป็นรังแคอีก ปูเป้พบว่าชุดนี้ทำให้ปัญหาที่ว่ามาถูกควบคุมได้ ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็จะเป็นไอเทมที่ใช้อยู่แล้วในปีก่อน ๆ อย่าง PHYTO : Phytopolleine Botanical Scalp Treatment (25ml / 1,550 Baht) ที่ใช้ก่อนสระผมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ช่วยปรับสภาพหนังศรีษะ และ DrGL : Cleanser Anti-Hairloss (240ml / 2,900 Baht) ที่สระผมทุกวันได้โดยผมไม่ค่อยแห้งและลดอาการคันหัว แต่ตัวหลักที่เสริมเข้ามาในปีนี้และพบว่ามันตอบโจทย์เรามากคือการหาทรีตเมนต์บำรุงหนังศีระแบบไม่ต้องล้างอย่าง  Aveda : Scalp Remedy Dandruff Solution (125ml / 1,XXX Baht) สิ่งที่เราชอบคือในกรณีที่คันหัวมันช่วยลดอาการคันให้น้อยลงได้ในทันที และหนังศีรษะที่แห้งก็ชุ่มชื้นขึ้น ทั้งหมดนี้มาในรูปแบบของสเปรย์ที่มีเนื้อเบา ไม่แห้งไป ไม่หนึบไป เราใช้ต่อเนื่องมันลดปริมาณรังแคลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และทำให้แม้เวลาที่ไมไ่ด้สระผมทุกวันก็ไม่ค่อยคันเหมือนเมื่อก่อน แถมยังทำให้ผมมีสุขภาพดีและนุ่มขึ้นด้วย กลิ่นเหมือนหมากฝรั่งมินต์เบา ๆ เราชอบมาก

 

Beauty Gadget

ตุ้มมหัศจรรย์ของ Estee Lauder ช่วยยกระดับของการใช้อายครีมได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือแบบน่าเสียดายที่เขาไม่เอาเข้ามาขาย แต่ในต่างประเทศบางประเทศเขามีแยกขายหรือขายเป็นเซ็ทคู่กับอายครีมนะ คือราคามันก็ไม่ถูกหรอก แต่มันเป็นการลงทุนที่อยู่กับเราไปอีกนาน ตุ้มนี้มีน้ำหนักและมีขนามที่พอเหมาะ ทำให้มันสัมผัสผิวและกระจายแรงกดได้ดี เก็บความเย็นได้นานมาก คือทาอายครีมแล้วใช้สิ่งนี้ตาม คือรู้สึกสดชื่น ตาตื่น ลดบวมได้ทันที แต่ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใช่คนขยันใช้ก็อย่าซื้อดีกว่า ของที่สิ้นเปลืองคือของที่ซื้อแล้วไม่ได้ใช้!!!

 

Home & Living

Aesop : Post-Poo Drops (100ml / 9XX baht)

กฏข้อหนึ่งของการเป็นคนสวยคือแม้หลังขี้ก็ยังต้องหอม ถูกข่ะ สิ่งนี้ไม่ได้ใช้กับส่วนใดของร่างกายเลย แต่มีไว้หยดส้วมหลังปล่อยตอร์ปิโดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกลาการนั่งรอให้กลิ่นจาง การพยายามเอาเจลล้างมือกลิ่นหอม ๆ มาตีฟองเพื่อกลบกลิ่นหลังเสร็จภารกิจ เพียงแค่หยดสิ่งนี้ลงไปในสุขภัณฑ์ ห้องน้ำจะหอมสดชื่นเป็นกลิ่นส้มหวาน ๆ เหมาะอย่างมากเวลาล่อเหยื่อมากินที่ห้องแล้วไม่ต้องการให้กลิ่นไม่พึงประสงค์มาทำลายบรรยากาศยั่วเยที่อุตส่าห์สร้างสมเอาไว้จนหมดสิ้น

THREE : Room Fragrance Aroma Mist OR (250ml / 1,100 Baht)

เราดีใจที่สุดที่สิ่งนี้มีจำหน่ายในไทยแล้ว ไม่ต้องตุนไม่ต้องแบกจากญี่ปุ่นแล้วจ้า สเปรย์ฉีดเพื่อเพิ่มกิ่นหอมให้กับทุกห้อง กลิ่นโทนซิตรัสที่ละมุนบางเบาผ่อนคลาย แม้จะสาดไม่ยั้งก็ไม่ฉุนรุนแรงจดปวดหัว ทางแบรนด์บอกว่าตั้งแต่เราแนะนำไปมันก็ขายดีมากถึงขั้นต้องจองกันเลยทีเดียว มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขา Central World และ ICONSIAM นะฮะ

MUJI : Essential Oil (10ml / 3XX – 5XX Baht)

เราขอแนะนำ 3 กลิ่นของ Essential Oil ประจำห้องที่เราจะมีติดไว้และมีตุนไว้ตลอด นั่นก็คือ Eucalyptus กับ Peppermint ซึ่งเราจะผสมสองกลิ่นนี้เข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้จมูกโล่งในยามที่คัดจมูก ได้ผลดีมากมาย กับอีกกลิ่นคือ Bergamot เอาไว้คลายความเครียด คำแนะนำในการใช้กับ Aroma Diffuser คือหลังใช้ควรทำความสะอาดด้วย เพราะว่ากลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่ตกค้างแล้วไม่ได้ทำความสะอาด มันจะทำให้กลิ่นน้ำมันที่เราหยดเติมลงไปมันเสียไป