นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำรีวิวผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ The History of Whoo ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้เครือใหญ่ของเกาหลีอย่าง LG Household & Health Care (LGHNH) ซึ่งมีแบรนด์ในเครือที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกหลายแบรนด์อย่างแบรนด์ Physiogel และอีกอันที่ปูเป้อยากให้เข้าไทยก็คือ SU:M37

แนวคิดของแบรนด์ The History of Whoo คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงด้วยเทคโนโลยีและการศึกษาที่ทันสมัยแต่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำรับความงามและงานศิลปะของราชวงศ์เกาหลีในอดีต  ส่วนผสมหลัก ๆ จึงจะมีสารสกัดจากสมุนไพรที่ถูกใช้ในตำราแผนโบราณและตำรับความงามของจักรพรรดินี มาเป็นส่วนผสมอยู่มากมาย

ผลิตภัณฑ์ตัวหลักของเขาที่ปัจจุบันพัฒนามาเป็นรุ่นที่สามแล้วก็คือ The History of Who : Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate ซึ่งส่วนตัวปูเป้เคยใช้รุ่นแรกเมื่อนานมาแล้วครับ ตอนนู้นรู้สึกว่าเนื้อเซรั่มมันเข้มข้นไป  แต่ในตอนนี้เราอายุ 41 ที่ผิวแห้งลง น่าจะเหมาะกับสกินแคร์เนื้อฉ่ำ ๆ แบบเกาหลี ทางแบรนด์เลยได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นที่สามซึ่งวางจำหน่ายช่วงปลายปี 2021 มาให้ลองและคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะลองหาข้อมูลมาเขียนรีวิวเพื่อให้คนได้ลองทำความรู้จักกับเทคโนโลยีของค่าย LGHNH ดูบ้าง หลังจากช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างลงลึกกับบ้านญี่ปุ่นไปพอสมควร

Product’s Formula

The History of Whoo : Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate (50ml / 5,690 BAHT) รุ่นที่ 3 มีส่วนผสมในลิสต์เรียงเป็นตับถึงร้อยกว่าชนิด ซึ่งแค่อ่านสกิมแบบผ่าน ๆ ก็ตาลายแล้ว แต่ที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์ตัวนี้เข้าใจไม่ยากหากเราไม่เอาแต่มองส่วนผสมแยกเป็นตัว ๆ  ทางแบรนด์ก็มีข้อมูลสนับสนุนมาให้ในระดับหนึ่ง แต่ปูเป้อยากจะสรุปออกมาจากมุมมองและความเห็นในแบบของปูเป้ครับ

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ส่วนผสมหลัก ๆ คือสาร Cordycepin ที่มาจาก Cordyceps Militaris Extract หรือเห็ดถั่งเช่าสีทอง ซึ่งทางบริษัท LGHNH ได้ตีพิมพ์การศึกษาที่ชี้ว่าสาร Cordycepin ซึ่งมีโครงสร้างคล้าย Adenosine นั้นสามารถกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์มีการสร้าง Growth Factor ที่มีส่วนในการเยียวยาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อและผิวหนัง  และด้วยโครงสร้างที่คล้ายกันกับ Adenosine ทำให้สารตัวนี้ถูกใช้ในมุมของการเสริมการสร้าง ATP ซึ่งเป็นพลังงานของเซลล์ในการสร้างเซลล์ใหม่อีกด้วย (ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของคำว่า Self-Generating บนชื่อผลิตภัณฑ์)

โดยเขาได้มีการจดสิทธิบัตร ที่มีการแจ้งรายละเอียดว่าสาร Cordycepin เมื่อผสมกับ Quercetin จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเสริมการแสดงออกของ FGF10 ที่สำคัญต่อความแข็งแรงของชั้น Basement Membrane ที่คั่นระหว่างผิวชั้นในและผิวชั้นนอก ซึ่งเป็นทั้งโครงสร้าง ที่ยึดเกี่ยว และส่วนในการแลกเปลี่ยนที่โดยรวมจำเป็นต่อความสมบูรณ์และอ่อนเยาว์ของผิว

ซึ่งการนำมาทาบนผิวอาจจะเหมือนหรือต่างกับการทดสอบในเซลล์หรือไม่อย่างไรนั้นก็ต้องรอดูการตีพิมพ์งานวิจัยกับผิวหนังมนุษย์ออกมาอีกที แต่โดยทั่วไปแล้วสารสกัดจากถั่งเช่าสีทอง รวมไปถึง Quercetin ก็มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระครับ

อีกส่วนสำคัญคือ JaHaBiChup Complex™ สารประกอบเชิงซ้อนที่เอามาประกอบเลียนแบบสารสกัดจากรกแห้ง หรือ Hominis Placenta ที่เขาได้จดสิทธิบัตรเอาไว้ว่าประกอบไปด้วยสารกลุ่มกรดอะมิโน 26 ชนิด (เช่น Arginine, Threonine, Lysine Etc.) สารกลุ่มวิตามินบี 8 ชนิด (Biotin, Folic Acid, Cyanocobalamin, Niacinamide, Panthenol, Pyridoxine HCL, Riboflavin, Thiamine HCL) สารกลุ่มเปปไทด์และโกรทแฟคเตอร์ (เช่น Acetyl Hexapeptide-8, Copper Tripeptide-1, Oligopeptide-4, Oligopeptide-2, Palmitoyl Tripeptide-1, Hydrolyzed Soy Protein, Palmitoyl Tetrapeptide-7) โดยในสูตรรุ่นที่ 3 นี้มีการเพิ่ม Sodium DNA และ Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid (HEPES) ซึ่งเขาเคลมว่าจะทำให้การเลียนแบบนี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยทางแบรนด์เคลมว่าสารสกัดเชิงซ้อนนี้เป็นเหมือนกับการเติมวัตถุดิบที่จำเป็นกับผิวในการซ่อมแซมและฟื้นบำรุงตัวเอง  และมีการใช้ Biotin/Folic Acid/Cyanocobalamin/Niacinamide/Pantothenic Acid/Pyridoxine/Riboflavin/Thiamine/Yeast Polypeptides หรือ Vitazyme™ B Complex ในการเสริมการดูดซึมของส่วนผสมครับ

ปูเป้ยังไม่มีข้อมูลว่าสารสกัดเชิงซ้อนนี้มีความเหมือนหรือต่างกับสารสกัดจาก Placenta อื่น ๆ อย่างไร แต่โดยพื้นฐานแล้วจากประสบการณ์ของตัวเองในการใช้สารสกัดจาก Placenta นั้น จะช่วยให้ผิวมีความละเอียดและชุ่มชื้นขึ้น ผ่านกลไกการเสริมการผลัดเซล์ผิวจากกรดอะมิโนบางชนิดอย่างเช่น Serine สารกลุ่มกรดอะมิโนยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นได้ครับ   จริง ๆ แล้วกรดอะมิโนและเปปไทด์หลายตัวในนี้ เป็นส่วนผสมที่ดีมากและพอจะมีข้อมูลในเรื่องการฟื้นฟูและต่อต้านริ้วรอย แต่เนื่องจากเราไม่มีข้อมูลเรื่องความเข้มข้นที่ใช้ ประกอบกับมีการผสมกับสารจำนวนมาก ก็ไม่สามารถอนุมานไปเองได้ว่าจะให้ผลเหมือนกับการศึกษาสารเดี่ยว ๆ ในความเข้มข้นที่จำเพาะครับ

จากการค้นข้อมูลเพิ่มเติมยังพบว่า เขามีการจดสิทธิบัตรในการใช้ Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid กับ Arginine ในการยืดอายุของเซลล์โดยเคลมว่าจะทำให้เซลล์แก่กลับมาเป็นเซลล์ที่อ่อนเยาว์ โดยมีส่วนผสม Quercetin ทำหน้าที่เป็น Senolytic Agent ที่เลือกกำจัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพไม่ให้ส่งสัญญาณให้เซลล์ข้างเคียงเหนื่อยอ่อนและแก่ตามไปด้วย  ซึ่งเป็นแนวที่คิดที่ล้ำมาก แต่ในเอกสารจดสิทธิบัตรเป็นการทดสอบในหลอดทดลองและบนสัตว์ทดลอง อันนี้ก็ต้องรอการศึกษาในมนุษย์ที่ตีพิมพ์มาดูกันต่อไป  แต่อยากเอามาเล่าให้อ่านกันเป็นข้อมูลเอาไว้ว่าวงการเครื่องสำอางเกาหลีเขาก็จริงจังกับการศึกษาและวิจัยกลไกและส่วนผสมกันน่าดูเลยทีเดียวล่ะ

นอกจากนั้นก็เป็นส่วนผสมของสารสกัดจากพืชสมุนไพรเกาหลีที่โดยรวม ๆ มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านการระคายเคืองครับ โดยตัวเบสของผลิตภัณฑ์จะมีการใส่ส่วนผสมของสารกลุ่มเซราไมด์และไขมันที่อยู่ในชั้นปราการปกป้องผิว รวมไปถึงสารให้ความชุ่มชื้นและแซคคาไรด์ต่าง ๆ เพื่อเสริมความชุ่มชื้นและน่าจะช่วยเรื่องเสริมความแข็งแรงของผิวได้

สรุปแนวคิดของเขาให้เข้าใจง่ายๆ คือการใช้สารสำคัญในถั่งเช่าสีทองและส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ ไปเสริมพลังงานและโมเลกุลที่จำเป็นในการสั่งการฟื้นบำรุงตัวเองของผิว และเอาสารประกอบเชิงซ้อนที่เลียนแบบ Placenta ที่เป็นเหมือนวัตถุดิบหรือส่วนประกอบพื้นฐานของผิวหนังมากองให้พร้อม และบอกว่าผิวจ๋า เชิญขยันซ่อมสร้างตัวเองให้สวยเด้งเองได้เลยนะจ๊ะ  อะไรทำนองนี้แหล่ะ

Ingredients : Water, Glycerin, PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin, Dipropylene Glycol, Glyceryl Polymethacrylate, Dimethicone, Butylene Glycol, 1,2-hexanediol, PEG-150, Methyl Trimethicone, Panthenol, Phenyl Trimethicone, Cyclopentasiloxane, Propylene Glycol, Polymethylsilsesquioxane, Hydrogenated Lecithin, C14-22 Alcohols, Squalane, Hydroxyproline, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Ceramide NP, Macadamia Ternifolia Seed Oil, Triethylhexanoin, Carbomer, Dimethiconol, PEG-10 Rapeseed Sterol, Arachidyl Glucoside, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Algin, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Caprylic/Capric Triglyceride, Sodium Polyacrylate, Glyceryl Stearate, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Empetrum Nigrum Fruit Juice, Stearic Acid, Tocopherol, Biosaccharide Gum-1, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Cholesterol, PEGg-100 Stearate, Niacinamide, Beta-Glucan, Glycereth-20, Dioscorea Japonica Root Extract, Glycine Soja (Soybean) Oil, Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract, Panax Ginseng Root Extract, Typha Angustifolia Spike Extract, Cinnamomum Cassia Bark Extract, Paeonia Albiflora Root Extract, Ophiopogon Japonicus Root Extract, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Atractylodes Japonica Rhizome Extract, Cornus Officinalis Fruit Extract, Ziziphus Jujuba Fruit Extract, Cordyceps Militaris Extract, Saposhnikovia Divaricata Root Extract, Zingiber Officinale (Ginger) Root Extract, Angelica Acutiloba Root Extract, Thymus Vulgaris (Thyme) Extract, Angelica Gigas Root Extract, Sodium Lactate, Honey, Ethylhexylglycerin, Asparagus Cochinchinensis Root Extract, Polygonatum Officinale Rhizome/Root Extract, Polygonum Multiflorum Root Extract, Cordyceps Sinensis Extract, Polysorbate 20, Ganoderma Lucidum (Mushroom) Extract, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid, Sodium Glutamate, Arginine, Rehmannia Glutinosa Root Extract, Cedrol, Panax Ginseng Root Extract, Sodium DNA, Potassium Aspartate, Angelica Gigas Extract, Beta-Carotene, Daucus Carota Sativa (Carrot) Root Extract, Daucus Carota Sativa (Carrot) Seed Oil, Nelumbo Nucifera Flower Extract, Nelumbo Nucifera Root Extract, Tryptophan, Asparagine, Astragalus Membranaceus Root Extract, Biotin/Folic Acid/Cyanocobalamin/Niacinamide/Pantothenic Acid/Pyridoxine/Riboflavin/Thiamine/Yeast Polypeptides, Glutamine, Potassium Sorbate, Proline, Alanine, Arbutin, Glycine, Threonine, Phellodendron Amurense Bark Extract, Sodium Hyaluronate, Lysine, Serine, Glycosphingolipids, Oligopeptide-1, Valine, Leucine, Phenylalanine, Tyrosine, Poria Cocos Sclerotium Extract, Phospholipids, Acetyl Hexapeptide-8, Copper Tripeptide-1, Oligopeptide-4, Oligopeptide-2, Isoleucine, Histidine, Palmitoyl Tripeptide-1, Hydrolyzed Soy Protein, Palmitoyl Tetrapeptide-7, Histidine HCL, Methionine, Quercetin, Inositol, Cystine, Folic Acid, Pyridoxine HCL, Thiamine HCL, Calcium Pantothenate, Biotin, Riboflavin, Cyanocobalamin, Tromethamine, Mica, Titanium Dioxide (CI 77891), Iron Oxides (CI 77491), Trisodium EDTA, Fragrance, Geraniol, Linalool, Benzyl Salicylate, Citronellol, Limonene, Hydroxycitronellal, Alpha-Isomethyl Ionone.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์ของ The History of Whoo : Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate มีสีอมส้มจากเบต้าแคโรทีน รวมไปถึงพิกเมต์เพื่อให้เอฟเฟควิ้ง ๆ แต่ทาแล้วก็มองไม่เห็นครับ ส่วนตัวไม่ติดอะไรตรงนี้

กลิ่นของผลิตภัณฑ์เป็นกลิ่นแนวฟลอรัลพาวเดอรี่ ที่แฟน ๆ ของปูเป้รู้ดีว่าไม่ใช่จริตของปูเป้เท่าไหร่  (แต่เอาให้คุณแม่ลองใช้เขาชอบมากครับ) กลิ่นค่อนข้างชัดในระดับนึงและติดผิวด้วย ในช่วงที่ลองใช้ก็จะติดเรื่องกลิ่นที่เราไม่โปรดนัก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับทนไม่ได้   ซึ่งเรื่องกลิ่นน้ำหอมเป็นสิ่งที่แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ไม่มีถูกหรือผิดครับ ต้องไปลองกันดู

เป็นเซรั่มเนื้อที่มีความเข้มข้นทีเดียว คือทาลงไปแล้วผิวที่แห้งหรือรู้สึกหยาบกร้านจะมีสภาพที่นุ่มและชุ่มชื้นขึ้นจากทั้งส่วนผสมมอบความชุ่มชื้นขึ้น  หลังทาไปผิวจะดูฉ่ำมากเลยครับ แต่พอผ่านไปสักพักก็ซึมและเซ็ทตัวแค่ให้ผิวดูมีความโกลว ไม่ดูแฉะ

เนื่องจากได้ผลิตภัณฑ์มาเป็นเซ็ท ปูเป้ก็พบว่าเมื่อลองใช้คู่กับ The History of Whoo : Cheongidan Radiance Regenerating Cream ที่เนื้อครีมเข้มข้นจนเหมือนเป็นบาล์ม ทาเป็นตัวปิดท้ายในตอนกลางคืน ผิวมันอิ่มฟูและอยู่ได้ทั้งคืน ตื่นมาผิวรู้สึกโกลว์สดใสดีครับ  ใครชอบครีมเนื้อเข้มข้นแต่ไม่หนึบหรือดูมันเลื่อม ตัวนี้ก็น่าสนใจ

ในเรื่องของผลหลังการใช้ ปูเป้บอกตามตรงว่าในช่วงที่ใช้ผิวไม่ได้มีปัญหาอะไร และการตัดเซรั่มที่ใช้ประจำไปเพื่อลองตัวนี้ก็คงสภาพผิวให้มีสภาพดีอยู่ได้  ส่วนตัวรู้สึกว่าผิวมีความนุ่มและชุ่มชื้น ดูสดใสดีครับ  แต่ในแง่ของการลดริ้วรอยนั้น ระยะเวลาที่ทดลองใช้ของปูเป้ยังไม่นานพอที่จะบอกผลในเรื่องนี้ได้

Conclusion

โดยสรุปแล้ว The History of Whoo : Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate นั้นเหมาะกับคนที่กำลังมองหาเซรั่มต่อต้านริ้วรอยเนื้อเข้มข้นที่มอบความชุ่มชื้น นุ่มนวล และความโกลว์ของผิวได้เป็นอย่างดี และในการหาข้อมูลครั้งนี้ก็พบว่าบริษัทที่อยู่เบื้องหลังก็จริงจังกับการค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมากเลยทีเดียว มีการตีพิมพ์การศึกษาวิจัยและจดสิทธิบัตรอยู่เรื่อย ๆ เลยล่ะ

โดยภาพรวมปุเป้รู้สึกว่าเป็นสกินแคร์ที่ใช้แรงบันดาลใจจากสูตรความงามของราชวงศ์เกาหลีโบราณ โดยค่อนข้างนำเสนอมาในรูปแบบที่มีความเป็น feminine สูง ทั้งในแง่รูปลักษณ์  และกลิ่นที่เลือกใช้  แม้ว่าภาพภายนอกดูไม่ค่อย unisex เท่าไหร่แต่สูตรสกินแคร์ข้างในผู้ชายก็ใช้อย่างไม่มีปัญหานะครับ

เมื่อมองในแง่ของส่วนผสมการมีสารสกัดและสารบำรุงที่เยอะมากมองในมุมนึงก็ทำให้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ดูน่าสนใจอีกนัยนึงก็มองว่าได้เยอะดีคุ้มแต่มองในอีกมุมนึงก็ทำให้เราไม่แน่ใจว่าเราจะโฟกัสที่อะไรและในกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยแต่ก็เป็นไปได้คือหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์มันก็ทำให้เราไม่รู้เลยว่าเราไม่ถูกกับส่วนผสมตัวไหนครับ

ส่วนตัวปูเป้ไม่ได้มีปัญหากับส่วนผสม และคิดว่าโดยรวมที่ใช้เราก็แฮปปี้กับผิวนะ ยิ่งใช้กับครีมในชุดที่ให้มาคือดีเลยล่ะ สิ่งที่ติดอย่างเดียวก็มีแค่ไม่จอยกับกลิ่นน้ำหอมที่แบรนด์เลือกใช้เท่านั้นเองครับ

สิ่งที่อยากจะฝากเพิ่มเติมไปยังทีมงานคือเรื่องการระบุส่วนประกอบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษลงบนฉลากที่กล่องด้านนอก ซึ่งเป็นกฏหมายพื้นฐานของไทยครับ

ใครที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ The History of Whoo ก็มีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำซึ่งสามารถดูข้อมูลสาขาได้ทาง Facebook : The history of Whoo Thailand หรือช็อปผ่านผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง Central Online กับ MOnline รวมถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการใน Lazada และ Shopee ครับ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

The History of Whoo : Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate
Price :  50ml / 5,690 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Glow / Antioxidant / Anti-Aging

Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เนื้อเซรั่มเข้มข้นและชุ่มฉ่ำ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นได้เป็นอย่างดี
  • มีส่วนผสมจำนวนมากที่มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการระคายเคือง
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม และเป็นแนวกลิ่นที่ไม่ตรงจริตเท่าไหร่
  • ข้างกล่องไม่ได้ระบุส่วนประกอบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ
3.9Overall Score

Related Posts