หลังจากที่ช่วงไตรมาสสองของปี 2023 ทางแบรนด์ freeplus ได้ทำการปรับบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์หลักยอดนิยมของเขาอย่างโฟมล้างหน้ากับโลชั่นและอิมัลชั่นไปแล้ว ตอนนี้ freeplus ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด freeplus : Conditioning Double Lotion ขวดนี้นี่แหละ

จากที่ได้เห็น สิ่งที่สัมผัสได้และอยากจะมาวิเคราะห์จากความเห็นส่วนตัว ปูเป้มองว่าภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ freeplus ดูเป็นการขยายจากรากฐานของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้นในการเป็นสกินแคร์ปราศจากส่วนผสมที่ไม่ดีหรืออาจก่อปัญหากับผิว (free) และเสริมส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้สวยขึ้น (plus) ให้รับกับเทรนด์หลักในปัจจุบันสองส่วน อย่างแรกคือ ‘Skinimalism’  ที่มาจากคำว่า Skin + Minimalism เพื่อให้ผิวสวยเปล่งปลั่งสุขภาพดีอย่างเรียบง่าย ด้วยผลิตภัณฑ์และขั้นตอนเท่าที่จำเป็น  ไม่มากไป ไม่น้อยเกิน  และเทรนด์เรื่องของ ‘Sustainability’ หรือแนวทางความยั่งยืน ซึ่งนอกจากเรื่องสิ่งแวดล้อมก็ยังหมายถึงมิติด้านอื่น ๆ ด้วย

สองเทรนด์นี้เป็นสิ่งที่สอดรับกันและเกิดขึ้นเมื่อเทรนด์การถมสกินแคร์สิบขั้นตอน และการ  Shelfie โชว์ชั้นวางผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เต็มแน่นไปจนถึงขีดสุด และคนเริ่มรู้สึกว่าการโบกผลิตภัณฑ์จำนวนมากนั้นใช้ทั้งเวลา ทั้งเงิน และทรัพยากรจำนวนมาก และอาจไม่ได้ให้ผลที่ดีกับผิวในระดับที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องแลกมา หลายคน (รวมถึงปูเป้เอง) พบว่าการใช้สกินแคร์ที่เลือกมาอย่างดีในขั้นตอนที่เรียบง่ายกลับรู้สึกว่าสภาพผิวดีกว่าการถมผลิตภัณฑ์จำนวนมากลงไปในคราวเดียว กระแสจึงพัดกลับไปที่ด้านตรงข้าม นั่นก็คือสกินแคร์ในแบบที่เรียบง่ายแต่ เพียงพอ พอดี ผิวดี และช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรไปด้วย

freeplus : Conditioning Double Lotion ที่นำเสนอขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้นในรูปแบบที่เรียบง่ายสุด ผ่านบรรจุภัณฑ์ที่มาจากแก้วและกล่องกระดาษรีไซเคิล เน้นการลดการสร้างขยะและลดการใช้ทรัพยากรลง จึงสอดรับกับเทรนด์หลักของวงการเครื่องสำอางในตอนนี้

Product’s Formula

ในแง่สูตรของผลิตภัณฑ์นั้น freeplus : Conditioning Double Lotion (50ml / 1,100 BAHT) ประกอบไปด้วยส่วนผสม 16 ชนิด อันประกอบไปด้วยส่วนของ Water Phase และ Oil Phase ในอัตราส่วน 8 : 2 ที่ทางแบรนด์บอกว่าเป็นสัดส่วนที่สมดุล และมีส่วนผสมที่คล้ายกับที่มีในผิวตามธรรมชาติในการที่จะช่วยให้ผิวชั้นนอกมีความชุ่มชื้นยืดหยุ่นและในขณะเดียวกันก็มีความอ่อนนุ่มเปล่งปลั่ง

ส่วนของ Water Phase จะประกอบไป Humectant ให้ความชุ่มชื้น อย่างสารกลุ่ม Glycol ที่นอกจากช่วยเสริมความชุ่มชื้นและเสริมการดูดซึมลงสู่ชั้นผิว กับสารกลุ่มน้ำตาลอย่าง Maltitol และ Sorbitol ซึ่งให้ความชุ่มชื้นกับผิว และมี Niacinamide หรือ Vitamin B3 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ และมีประโยชน์กับผิวในหลายด้าน และ Sodium PCA เป็น Natural Moisturizing Factor ที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติ

Oil Phase ประกอบไปด้วย Squalane ซึ่งคล้ายกับลิพิดที่อยู่บนผิวตามธรรมชาติและมีความเข้ากับผิวเป็นอย่างดี รวมเข้ากับ Emollients อย่าง Isostearyl Isostearate, Octyldodecyl Myristate, Isocetyl Myristate, Triisostearin ซึ่งเป็น Ester ที่มีความเบา เกลี่ยงง่าย แต่ให้ความอ่อนนุ่มกับผิว และมีการใส่น้ำมันมะกอก Olea Europaea (Olive) Fruit Oil มาเล็กน้อย เบลนด์ของ Emollients ถูกเลือกมาเพื่อให้มีความเข้ากันกับผิว  และใช้ Tocopherol หรือ Vitamin E เป็นแอนติออกซิแดนท์ของน้ำมัน

ปริมาณของ Humectant และ Emollients Oil ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ รวมกันแล้วมีความเข้มข้นที่มากกว่าการใช้ Lotion + Watery Cream รวมกันเสียอีก จึงสามารถให้ความชุ่มชื้นและเติมความอ่อนนุ่มให้กับผิวขั้นนอกได้เป็นอย่างดีในขั้นตอนเดียว  ซึ่งหากเราเอาผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาผสมสารกลุ่ม Emulsifier / Surfactant ที่รวมน้ำกับน้ำมันให้เข้ากัน และเติม Thickener / Polymer ที่ทำให้เนื้อข้นขึ้น สูตรก็จะกลายเป็นเนื้อครีมได้เลยครับ แต่ทางแบรนด์น่าจะพยายามให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ออกมาในรูปแบบที่เรียบง่าย ปลอดภัย ก็เลยกลายเป็นโลชั่นแบบสองชั้น / Bi-Phase แบบที่เห็นนี่แหล่ะ

นอกจากจะไม่มีส่วนผสมของ สี น้ำหอม และสารก่อการระคายเคืองแล้ว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็ไม่มีส่วนผสมที่ระบุในฐานข้อมูลว่าสารกันเสีย แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าผลิตภัณฑ์จะมีอายุในการเก็บที่ไม่ดีรึเปล่า เพราะไม่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชที่ละลายในน้ำในนี้เลย และสาร Dipropylene Glycol กับ Butylene Glycolก็มีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพแบบอ่อน ๆ จึงช่วยเป็นสารกันเสียแบบเบา ๆ ในตัว ผลิตภัณฑ์ก็จะอยู่ได้อย่างปลอดภัยตลอดการเก็บรักษาและใช้งานครับ

Ingredients : Water, Propanediol, Dipropylene Glycol, Squalane, Butylene Glycol, Maltitol, Sorbitol, Isostearyl Isostearate, Octyldodecyl Myristate, Isocetyl Myristate, Triisostearin, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Sodium PCA, Niacinamide, Tocopherol.

Usage & Result

freeplus : Conditioning Double Lotion เป็นผลิตภัณฑ์แบบ  Bi-Phase  ที่ต้องเขย่าก่อนใช้ โดยปริมาณในการใช้อยู่ที่ประมาณ 2 เซนติเมตรเมื่อหยดลงบนฝ่ามือ และประคบลงบนผิวที่ซับแห้งแล้วหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้า

ผลิตภัณฑ์แบบ Bi-Phase นั้นมอบสัมผัสแรกในการใช้เหมือนกับโลชั่นน้ำที่ชุ่มฉ่ำและเคลือบผิวให้นุ่มนวลและเปล่งปลั่งเหมือนไล้ลูบด้วยออยล์บาง ๆ โดยที่ไม่ระคายเคืองผิว  ซึ่งเป็นเนื้อสัมผัสแบบที่ปูเป้ชอบและเคยแนะนำวิธีการใช้ออยล์บำรุงผิวด้วยการหยดผสมลงบนฝ่ามือกับโลชั่นน้ำเหลว ๆ เพื่อเลียนแบบผลที่ได้จากผลิตภัณฑ์แบบ Bi-Phase

freeplus : Conditioning Double Lotion ถูกวางให้เป็นสกินแคร์พื้นฐานที่ให้ความชุ่มชื้น (Water Phase) และคืนความอ่อนนุ่ม (Oil Phase) ได้ในขั้นตอนเดียว ถ้าต้องการก็สามารถลงเซรั่มใด ๆ รวมไปถึงจะลงอิมัลชั่นหรือครีมเพิ่มไปก็ได้

หลังใช้ผลิตภัณฑ์ผิวจะมีความชุ่มชื้นและดูโกลว์จากออยล์ที่เคลือบอยู่บาง ๆ  และถ้าเป็นคนผิวค่อนข้างแห้งหรืออยู่ในห้องแอร์ ทิ้งไว้สักพักใหญ่ ๆ ออยล์เหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมลงบนผิวไป ถือว่ามีความเข้ากันกับผิวได้ดีทีเดียว

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เรียกได้ว่าไม่มีข้อจำกัดในการใช้งาน เพราะอ่อนโยนมาก ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวที่อ่อนแอหรือระคายเคือง และสำหรับสายเลเยอร์สกินแคร์ ตัวนี้ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องความเข้ากันของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มักมาจากส่วนผสมของสารก่อเจลและอิมัลซิไฟเออร์ที่อาจจะไม่ถูกกันด้วยครับ

ในการใช้งานจริง  ด้วยความที่ปูเป้จะทำความสะอาดผิวหน้าทันทีหลังจากกลับมาถึงบ้านเพื่อเอาฝุ่นและมลภาวะรวมถึงกันแดดออก แต่ก็ยังไม่อยากจะลงสกินแคร์แบบจัดเต็มแบบตอนก่อนนอน ก็สามารถใช้ freeplus : Conditioning Double Lotion ตัวเดียวเพื่อให้ผิวไม่แห้งและชุ่มชื้นขึ้น พอถึงเวลาที่ใกล้จะนอนก็ล้างน้ำอุ่นแล้วก็เริ่มขั้นตอนการบำรุงผิวก่อนเข้านอนได้ตามปกติ

หรือแม้แต่ตอนที่ไปยิมช่วงเย็น ๆก็อยากจะล้างหน้าที่ผ่านการผจญสภาพแวดล้อมมาทั้งวัน อยากให้ผิวโล่ง ๆ  ก็ประคบ freeplus : Conditioning Double Lotion ให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้นแต่ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวเวลาออกกำลังกายด้วย

Conclusion

โดยสรุปแล้ว freeplus : Conditioning Double Lotion เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบ Bi-Phase เติมความชุ่มชื้นและน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวที่บอบบางสุด ๆ และสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ทุกอย่างเพราะความเรียบง่ายของสูตรนั่นเอง  ดังนั้นใครที่ผิวมีปัญหามาก ใช้อะไรก็แพ้ ระคายเคือง ตัวนี้ก็ค่อนข้างเซฟสุด ๆ แล้ว

นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีในแง่ของความอ่อนโยนและใช้ได้กับทุกสภาพผิว สัดส่วนน้ำและน้ำมันตรงนี้ก็เหมาะสมในแง่ความต้องการพื้นฐานของผิว การสร้างสูตรก็ตอบตรงกับโจทย์ความเป็น Minimalism ที่ทางแบรนด์น่าจะใช้เป็นแนวทางใหม่ในอนาคต แต่ส่วนตัวก็แอบเสียดายว่าถ้าทางแบรนด์ไม่กำหนดโจทย์เรื่องการไม่มีสารกันเสียมาด้วย เขาจะสามารถใส่พวกสารสกัดจากพืช Wakan Extract หลาย ๆ ตัวแบบที่มีในผลิตภัณฑ์อื่นของ freeplus มาได้ แต่ถ้าเริ่มใส่นั่นใส่นี่ในแบบที่ปูเป้อยากให้มี เขาก็จำเป็นต้องเพิ่มพวก stabilizer ของสารสกัดพวกนี้มาอีก  มันจะเริ่มเยอะจนพาลจะหลุดไม่ตรงคอนเซปต์ ซึ่งแม้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้แต่ก็อดเสียดายและคิดว่าอย่างน้อยยังเหลือส่วนผสมที่ทางเครือพัฒนาขึ้นมาเองและก็มีในผลิตภัณฑ์อื่นของแบรนด์อย่าง Methylserine และ Ethyl Glucoside ที่เห็นแล้วจะรู้ทันทีว่านี่เป็นสกินแคร์ของค่ายนี้ก็ยังดี

การตีความสิ่งที่เรียกว่า Skinimalism มองได้หลายแบบตามแต่ปัจเจกบุคคล บ้างอาจจะมองเรื่องการอัดส่วนผสมหลายอย่างในผลิตภัณฑ์เดียวเพื่อที่จะได้หลายคุณสมบัติโดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นหลากขั้นตอน บ้างก็มองเรื่องการใช้ส่วนผสมเท่าที่จำเป็นและลดสารเติมแต่งให้เหลือน้อยที่สุดก็ไม่ผิด แต่ท้ายที่สุดก็คาดหวังผลลัพธ์เดียวกันคือการมีผิวที่สวยสุขภาพดีโดยไม่ต้องเป็นภาระกับชีวิตและทรัพยากรนั่นเอง

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นตัวพื้นฐานที่มอบความชุ่มชื้น ความอ่อนนุ่มของผิว ที่ใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย และทุกสภาพผิว  สำหรับคนที่อายุน้อย วันรุ่น ก็ใช้เป็นขั้นตอนเดียวและตามด้วยกันแดดในตอนกลางวันได้ สำหรับคนมีประเด็นอื่น ๆ อย่างเช่นเรื่องริ้วรอย รอยสิว ที่ต้องดูแลก็ต้องหาเซรั่มที่มีสารสกัดหรือส่วนผสมที่ทำงานในด้านนั้นมาใช้เพิ่ม ซึ่งปูเป้ก็แอบลุ้นและหวังว่าในอนาคตทางแบรนด์จะมีการออกพวก Serum / Booster มาให้เลือกใช้คู่กันบ้าง

ผลิตภัณฑ์ freeplus  สามารถหาซื้อได้ในร้านความงามและร้านขายยาชั้นนำทั่วไป อย่าง Donki / Tsuruha / Matsumoto / EVEANDBOY / BEAUTRIUM รวมไปถึงในช่องทางออนไลน์อย่าง Watsons Online /  Lazada / Shopee และ Konvy ด้วยจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

freeplus : Conditioning Double Lotion
Price :
50ml / 1,100 BAHT
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Hydration, Nourish, Gentle

freeplus : Conditioning Double Lotion
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • สูตรผสมเรียบง่าย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวที่บอบบาง
  • ให้ความชุ่มชื้นและเติมไขมันที่ผิวต้องการได้พอดี ไม่เหนอะหนะ
  • ปราศจากสารระคายเคือง
CONS
  • ส่วนตัวปูเป้มองว่าน่าเสียดายที่ต้องตัดสารสกัดจากพืชเพราะเงื่อนไขของการไม่มีสารกันเสียในสูตรครับ
3.6Overall Score