ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอีกหนึ่งไอคอนของแบรนด์ Clinique อย่าง Moisture Surge นั้นเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 1988 หรือเมื่อ 30 ปีก่อน และการปรับสูตรครั้งล่าสุดก็ย้อนไปตั้ง 10 ปีแน่ะ ในขณะที่ตลาดของผลิตภัณฑ์กลุ่ม  Hydration มีการแข่งขันกันอย่างสูงและมีเทคโนโลยีใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ คงไม่มีตอนไหนที่จะเหมาะกับการปรับสูตรใหม่ไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว

Moisture Surge สูตรล่าสุด ซึ่งเป็น Generation ที่ 4 นี้ เคลมถึงความโดดเด่นของ Auto-Replenishing Technology ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวในทันที และปล่อยความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเก็บล็อคความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมงเลยทีเดียว (สูตรเก่าเคลมไว้แค่ 24 ชั่วโมง) ในขณะที่ยังคงเนื้อสัมผัสแบบ เจล-ครีม ที่แฟน ๆ หลงรักเช่นเดิมล่ะ

Product’s Formula

ในแง่ของส่วนประกอบของ Clinique : Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator  (50ml / 1,900 Baht)  นั้นจะเห็นโครงสร้างที่คล้ายกับสูตรเดิมค่อนข้างมาก แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาส่งผลต่อประสิทธิภาพค่อนข้างมากทีเดียวล่ะ โดยส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาตัวแรกคือ Hydroxyethyl Urea ซึ่งให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แห้งขาดความชุ่มชื้นได้ดีมากโดยไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะผิว มักนิยมผสมคู่กับ Glycerin เพื่อคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้มากขึ้น ส่วนผสมสองตัวนี้แม้จะดูไม่หวือหวาแปลกใหม่แต่ก็เป็นที่ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

ส่วนผสมตัวที่สองที่เพิ่มเข้ามาคือ Sodium Polyaspartate หรือ Aquadew® SPA-30B ซึ่งประกอบไปด้วยกรดอะมิโน Aspartic Acid ผู้ผลิตเคลมถึงคุณสมบัติในการคงความชุ่มชื้นและฟอร์มตัวเป็นฟิลม์ที่ช่วยล็อคควาชุ่มชื้นเอาไว้ด้วย

ส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาตัวสุดท้ายคือ Saccharide Isomerate ซึ่งน่าจะเป็นส่วนผสมที่มีชื่อว่า PENTAVITIN® ซึ่งเป็นสารกลุ่มน้ำตาลเชิงซ้อนที่มีความคล้ายคลึงกับ Natural Moisturizing Factor (NMF) ที่อยู่ในผิวชั้นหนังกำพร้าตามธรรมชาติ ซึ่งจับยึดกับเซลล์เคราตินของผิวได้เป็นอย่างดีจึงช่วยเติมและคงความชุ่มชื้นเอาไว้อย่างยาวนาน ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่า เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 28 วัน และหลังจากหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมตัวนี้ ผิวจะยังคงระดับของการลดการสูญเสียความชุ่มชื้นเอาไว้ถึง 72 ชั่วโมง  ส่วนผสมนี้จึงน่าจะเป็นตัวหลักในคำเคลม 72H บนฉลากนั่นเอง

(Source : HYDROVANCETM MOISTURIZING AGENTAnalysis of electrical property changes of skin by oil-in-water emulsion componentsSaccharide Isomerate to Deeply Hydrate Skin and Scalp)

สำหรับส่วนผสมของสารบำรุงอื่น ๆ ก็จะเป็นสิ่งที่มีในสูตรเดิมแต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนในแง่ของปริมาณที่ใส่มาก็เป็นได้ ซึ่งจะเน้นหนักไปส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ไม่ว่าจะเป็น Sodium Hyaluronate ที่เป็นเหมือนเจลอุ้มความชุ่มชื้นที่ผิวบนพื้นผิว ในขณะสารกลุ่ม  Skin Osmolyte อย่าง Trehalose และ Sorbitol ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นด้านในและช่วยคงสมดุลของระดับความชุ่มชื้น น้ำตาล Sucrose ก็ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ด้วย

นอกเหนือจากส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นที่คุ้นตากันดี สารสกัดอื่น ๆ ที่ใส่มาก็มีคุณสมบัติที่หลากหลาย Aloe Barbadensis Leaf Water หรือน้ำสกัดจากว่านหางจระเข้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้ โดยทางแบรนด์เคลมว่าเป็นน้ำสกัดจากว่านหางเจระเข้ที่ผ่านกระบวนการเฉพาะทำให้มีทั้งประจุ  และ – สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็น 2 เท่าของสารสกัดจากน้ำว่านหางจระเข้ปกติ  Betula Alba (Birch) Bark Extract มีการทดสอบในสัตว์ทดลองว่าช่วยเสริมความแข็งแรงของปราการปกป้องผิวจึงช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้อีกเช่นกัน Caffeine เป็นส่วนผสมที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้และน่าสนใจว่ามันช่วยเสริมเรื่องปราการปกป้องผิวเพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ด้วย

ส่วนผสมที่เหลือจะเน้นไปที่การต้านอนุมูลอิสระหรือต้านการอักเสบ อย่าง Thermus Thermophillus Ferment น่าจะเป็นส่วนผสมที่มีชื่อว่า Venuceane™ ที่เคลมว่าช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และ IR ทางด้าน Silybum Marianum (Lady’S Thistle) Extract ก็มีสารที่ช่วยต้านการอักเสบและบำรุงผิวได้ ส่วน Saccharomyces Lysate Extract ตอนนี้เหมือนจะมี Actives Concepts ซัพพลายเออร์ที่ผลิตสารตัวนี้จำหน่าย ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าใช้ตัวไหนของเขา แต่โดยรวมเขาเคลมถึงคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวต้านการอักเสบ และเสริมเมตาบอลิซึ่มของเซลล์ ส่วน Palmitoyl Hexapeptide-12 (ชื่อเดิมใช้ Palmitoyl Oligopeptide) น่าจะเป็นส่วนผสมที่มีชื่อว่า Biopeptide EL™ ของบริษัท Sederma เป็นเปปไทด์ที่เคลมในเรื่องการคืนความเฟริมกระชับให้ผิว สารสกัดจากใบชา Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract ช่วยต้านการอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับอนุพันธ์วิตามินซีในรูป Magnesium Ascorbyl Phosphate

มีส่วนผสมของสี แต่ไม่มีส่วนผสมของน้ำ หอมและไม่มีแอลกอฮอล์ชนิดระเหยไวที่ทำให้ผิวแห้ง

(Source : Moisturizing effect of cosmetic formulations containing Aloe vera extract in different concentrations assessed by skin bioengineering techniques.Dermocosmetics for dry skin: a new role for botanical extracts.Caffeine improves barrier function in male skin.The effect of silymarin (Silybum marianum) on human skin fibroblasts in an in vitro wound healing model.)

Ingredients : Water\Aqua\Eau, Dimethicone, Butylene Glycol, Glycerin, Trisiloxane, Trehalose, Sucrose, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer, Hydroxyethyl Urea, Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Silybum Marianum (Lady’S Thistle) Extract, Betula Alba (Birch) Bark Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Aloe Barbadensis Leaf Water, Thermus Thermophillus Ferment, Caffeine, Sorbitol, Palmitoyl Hexapeptide-12, Sodium Hyaluronate, Caprylyl Glycol, Oleth-10, Sodium Polyaspartate, Saccharide Isomerate, Hydrogenated Lecithin, Tocopheryl Acetate, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Glyceryl Polymethacrylate, Tromethamine, PEG-8, Hexylene Glycol, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Disodium EDTA , BHT, Phenoxyethanol, Red 4 (Ci 14700), Yellow 5 (Ci 19140). [ILN44001]

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจลครีมสีอมส้มแบบที่คุ้นเคย  สัมผัสที่ปาดลงบนผิวรู้สึกชุ่มชื้นและฉ่ำเย็นสบายผิว และเซ็ทตัวกลืนไปกับผิวโดยไม่ค่อยเป็นฟิล์มหนึบหนับ เว้นแต่จะปาดในปริมาณที่ค่อนข้างหนาจริง ๆ ก็จะรู้สึกเป็นฟิล์มอยู่บ้าง

ผลหลังการใช้คือสูตรใหม่นี้ทำได้ดีกว่าสูตรเดิมมาก เพราะส่วนตัวปูเป้ใช้สูตรเดิมแล้วก็รู้สึกว่ามันก็โอเค กลาง ๆ ช่วงที่ผิวขาดน้ำมากจริง ๆ รู้สึกว่าเอาไม่อยู่ แต่สูตรใหม่นี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าและยาวนานกว่ามาก เป็นหนึ่งในมอยส์เจอไรเซอร์เติมน้ำให้ผิวตัวแรกของปีที่ควักใช้จนหมดกระปุกอย่างรวดเร็ว เพราะว่าใช้ทาปกติก็ได้ ใช้โบกเป็นมาส์กก็ได้ หรือจุดไหนที่แห้งกร้านมากก็ใช้ได้หมดไม่ใช่แค่กับผิวหน้าอย่างเดียว จมูกเล็บแห้งเยิน ๆ ก็สามารถทานวด ๆ ก่อนจะเคลือบด้วยครีมทามืออีกทีก็ได้ผลดีมากเลยล่ะ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Clinique : Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator สูตรใหม่ล่าสุดนั้นแม้จะมีการเพิ่มเติมส่วนผสมเข้าไปเพียงไม่กี่อย่างแต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อย่างตรงจุด การเพิ่มความชุ่มชื้นที่ดีขึ้นมาพร้อมกับการเก็บกักความชุ่มชื้นที่มากขึ้น โดยยังสามารถคงเนื้อสัมผัสที่แบบเจลครีมชุ่มฉ่ำไม่เหนอะได้เหมือนเดิม ช่วยดึงให้ผลิตภัณฑ์ Moisture Surge กลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจได้อีกครั้งเมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์เติมน้ำให้ผิว

สิ่งนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวตั้งแต่ผิวมันยันผิวแห้ง โดยผิวที่แห้งมากอาจจะใช้เจลครีมตัวนี้ก่อนเพื่ออัดเติมความชุ่มชื้นก่อนที่จะลงเคลือบด้วยน้ำมันบำรุงผิวหรือผลิตภัณฑ์เนื้อครีมที่เคลือบผิวดี ๆ ไปอีกชั้นก็ได้

โดยส่วนตัวคิดว่าหากมีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นหลอดบีบหรือขวดปั้มน่าจะดีกว่านี้ เพราะเป็นความชอบส่วนตัว และมองว่ามันใช้งานได้สะดวกและสะอาดในระหว่างการใช้งานด้วย

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Clinique : Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator
Price :  50ml / 1,900 Baht
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Hydration, Antioxidant, Soothing, Barrier Repair

Clinique : Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เนื้อสัมผัสเหมาะกับทุกสภาพผิว และค่อนจ้างที่จะอ่อนโยนกับผิวมาก
  • ส่วนผสมมอบความชุ่มชื้นที่อัดแน่น และทำหน้าที่ในหลายกลไก ตั้งแต่การเติม เคลือบ เก็บกัก และเสริมความแข็งแรงของผิว
CONS
  • มีส่วนผสมของสี
  • บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก
4.3Overall Score