เราทำรีวิวนี้ด้วยความรู้สึกดีใจและมีความสุข ที่เราเห็นแบรนด์ไทยที่บอกความเป็นมาของตัวเองอย่างภาคภูมิใจไม่มีปิดบัง และนำเสนอนวัตกรรมส่วนผสมที่ผลิตภายในประเทศ งานวิจัยสารสกัดเซลล์ข้าวของไทยที่ต่อยอดไปสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายได้จริง แถมออกมาดูดีใช้ได้ แม้อาจจะมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงแต่ถือเป็นก้าวที่น่าสนับสนุนอย่างยิ่ง

Herbalist Siam เป็นแบรนด์ของคนไทยที่นำส่วนผสมของข้าวหอมมะลิแดง หรือข้าวมันปู มายกระดับเพิ่มมูลค่าได้อย่างน่าสนใจทีเดียว โดยจากจุดเริ่มต้นที่มีการเปรียบเทียบข้าวชนิดต่าง ๆ ในประเทศไทยและพบว่าข้าวหอมมะลิแดง Thai Red Jasmin Rice นั้นมีสารสำคัญอันมีประโยชน์หลากหลายและมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าข้าวทั่วไป 31 เท่า จึงเกิดการต่อยอดเพื่อทดสอบการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเซลล์ Callus จากเมล็ดข้าวและพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระรวมไปถึงกรดอะมิโนต่าง ๆ ในเซลล์ที่เพาะเลี้ยงนั้นมีสูงกว่าการสกัดจากเมล็ดข้าวดิบโดยตรง จนนำไปสู่การศึกษา วิจัย พัฒนาเพื่อการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง และวันนี้มาถึงจุดที่ออกจากห้องทดลองและสามารถผลิตในเชิงอุตสาหกรรมเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จและเป็น Raw Material เพื่อจำหน่ายและส่งออกได้แล้ว

(Source : Antioxidant activities and cytotoxicity of Thai pigmented rice.)

จากงานวิจัยนี้ ทางแบรนด์ได้เลือกคัดข้าวหอมมะลิแดง ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรอินทรีย์ ที่ได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand มาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการเพาะเลี้ยงเซลล์ ซึ่งเป็นการทำให้ชุมชนมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย

คอนเซปต์ของแบรนด์ Herbalist Siam ดูน่าจะทำการบ้านมาเพื่อพร้อมเจาะตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะการเคลมว่าเป็น 100% Vegan ไม่ใช้ส่วนผสมจากสัตว์ และ 100% Cruelty-Free หรือไม่มีการทดสอบกับสัตว์ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคทางฝั่งยุโรปและอเมริกาเริ่มให้ความสำคัญกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังเคลมถึงการปลอดส่วนผสมหลายอย่าง เช่นไม่มีการใช้ส่วนผสมที่มาจากพืช GMO ไม่มีน้ำมันแร่ และนู่นนี่นั่น ซึ่งอาจจะถูกใจผู้บริโภคกลุ่มที่เป็นสาย Natural (แม้ส่วนตัวปูเป้ก็ไมไ่ด้เห็นด้วยกับเทรนด์นี้เท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นสิทธิในการเลือกใช้ของแต่ละคนพอใจ)

บรรจุภัณฑ์อย่างกล่องกระดาษก็เป็นกระดาษคุณภาพดีที่ผลิตจากเส้นใยของต้นไม้ในแหล่งที่มีการเก็บเกี่ยวอย่างยั่งยืน นำไปรีไซเคิลได้ และพิมพ์ด้วยหมึก Soy Ink ซึ่งลดการใช้ส่วนผสมที่มาจากปิโตรเลียมในการทำน้ำหมึกและเป็นทางเลือกที่ดีกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ปัจจุบันในแบรนด์มี 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่สบู่ใสทำความสะอาดผิว เซรั่มเข้มข้น และมอยซ์เจอไรเซอร์ ซึ่งในวันนี้ปูเป้จะขอเลือกเซรั่มมารีวิวให้อ่านกัน

Product’s Formula

Herbalist Siam : Red Jasmine Rice Phyto Cell More Than Serum (30ml / 1,200 Baht) มีส่วนผสมของสารบำรุงหลายชนิดแต่ที่มีเยอะที่สุดนั่นก็ต้องเป็นสารสกัดจากข้าวหอมมะลิแดงอย่างไม่ต้องสงสัย

Oryza Sativa Cell Culture Extract หรือสารสกัดจากเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงนี้ มีการศึกษาตีพิมพ์ในแง่ของประสิทธิภาพเอาไว้แล้ว โดยกลุ่มทดสอบจำนวน 28 คน ถูกสุ่มแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มควบคุมที่ใช้  Placebo Cream กับกลุ่มที่ใช้ครีมสูตร F1 ที่มีส่วนผสมของสารสกัดเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงของไทยในความเข้มข้น 5% เทียบกับกลุ่มที่ใช้ครีมสูตร F2 ที่มีส่วนผสมของสารสกัดเซลล์ข้าวสีแดงซึ่งผลิตจากต่างประเทศในความเข้มข้น 5% เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์

ผลที่ได้คือกลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ F1 ที่ใส่สารสกัดจากเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงของไทยนั้นเหนือกว่ากลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ F2 ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผสมสารสกัดเซลล์ข้าวจากต่างประเทศ ทั้งในแง่ของการลดเลือนริ้วรอย คุณสมบัติการเป็นไวท์เทนนิ่ง และความยืดหยุ่นของผิว ข้อจำกัดของงานวิจัยนี้มีเพียงกลุ่มทดสอบที่เล็ก และไม่มีการทำ blind หรือ double-blind แต่โดยรวมเราว่ามันน่าสนใจทีเดียว

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ได้ระบุว่าใช้สารสกัดเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงในความเข้มข้นเท่าไหร่ แต่จากการหาข้อมูลพบว่าเงื่อนไขในการเซ็นสัญญาเพื่อซื้องานวิจัยนี้ไปใช้นั้นในผลิตภัณฑ์จะต้องมีสารสกัดจากเซลล์ข้าวในความเข้มข้นตั้งแต่ 2% ขึ้นไป แต่จะถึง 5% เหมือนกับในการวิจัยที่ตีพิมพ์เอาไว้หรือไม่นั้นปูเป้ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด

(Source : Anti-aging efficacy of Thai red rice callus cosmetic product)

 

นอกเหนือจากส่วนผสมของสารสกัดจากเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงของไทยแล้วก็มีการใส่ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างเช่น Matrixyl 3000 ซึ่งเป็นเปปไทด์ 2 ชนิด Palmitoyl-Tripeptide-1 กับ Palmitoyl Tetrapeptide-7 ซึ่งเคลมในเรื่องของการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอย

(Source : Evaluation of dermal extracellular matrix and epidermal-dermal junction modifications using matrix-assisted laser desorption/ionization mass spectrometric imaging, in vivo reflectance confocal microscopy, echography, and histology: effect of age and peptide applications.

ต่อมาเป็น complex ที่เคลมในเรื่องของการช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว มีชื่อทางกาารค้าว่า  Clair Blance-II เป็นการรวมตัวกันของส่วนผสม 7 ชนิด ซึ่งการศึกษาของคอมเพล็กตัวนี้โดยตรงว่าให้ผลอย่างไรนั้นยังมีเพียงในส่วนของคำเคลมจากผู้ผลิต แต่เมื่อแยกดูแต่ละตัวก็เป็นส่วนผสมที่น่าสนใจ อย่าง Paeonia Suffruticosa Root Extract รากของพืชตระกูลโบตั๋นมีสาร Paeoniflorin อยู่มาก และมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและเป็นไวท์เทนนิ่งได้ ส่วน Scutellaria Baicalensis Root Extract เป็นสมุนไพรจีนที่ช่วยต้านการอักเสบและลดผลกระทบจากรังสี  UVB ได้ ทางด้าน Saxifraga Sarmentosa Extract มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบได้ Arbutin เป็นสารไวท์เทนนิ่งต้านการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสลดการผลิตเมลานิน ทางด้าน Glutathione ก็มีข้อมูลการศึกษาเพียงหนึ่งชิ้นเมื่อนำมาทาบนผิวและพบว่าเป็นไวท์เทนนิ่งได้ แต่ในการศึกษาใช้ในความเข้มข้นถึง 2% เลยล่ะ และ Aminopropyl Ascorbyl Phosphate เป็นอนุพันธ์วิตามินซีตัวหนึ่ง ยังไม่มีการศึกษาตีพิมพ์ออกมาจึงไม่มีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพ ส่วน Acetyl Tyrosine นี้เคลมว่าทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเหลืองออกมาแทนเม็ดสีดำทำให้โทนผิวไม่หมองคล้ำ แต่เราพบว่ามันอยู่ในผลิตภัณฑ์ Tanning มากกว่า

(Source : Tyrosinase inhibitors isolated from the roots of Paeonia suffruticosa.Anti-Inflammatory and Immunomodulatory Effects of Paeonia Lactiflora Pall., a Traditional Chinese Herbal MedicineThe skin-depigmenting potential of Paeonia lactiflora root extract and paeoniflorin: in vitro evaluation using reconstructed pigmented human epidermis.Topical anti-inflammatory activity of some Asian medicinal plants used in dermatological disorders.Effects of various flavonoids isolated from Scutellaria baicalensis roots on skin damage in acute UVB-irradiated hairless mice.Role of Antioxidants and Natural Products in InflammationGlutathione as a skin whitening agent: Facts, myths, evidence and controversies)

ส่วนผสมที่เหลือจะเน้นการมอบความชุ่มชื้นและการปกป้องผิวอย่าง Alteromonas Ferment Extract คือโมเลกุลน้ำตาลจากที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ผู้ผลิตเคลมว่า Exo-P เป็นเหมือนม่านปกป้องและลดการเกาะติดของอานุภาคฝุ่นมลภาวะได้ และยังมีการใช้ PatcH2O™ จากบริษัท BASF ซึ่งเคลมว่า Algin กับ Sodium Hyaluronate และ Pullulan จะรวมกันเป็นม่านโพลิเมอร์ธรรมชาติที่ช่วยเก็บล็อคส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้นอย่าง Glycerin, Trehalose, Urea, Serine ได้ดียิ่งขึ้น

ส่วนผสมของสารสกัดจากน้ำจากพืชและดอกไม้อย่าง Hamamelis Virginiana Leaf Water, Lavendula Angustifolia Water, Rosa Damascena Flower Water นี้แปะดอกจันเอาไว้ว่าเป็นส่วนผสมออร์แกนิค ช่วยเพิ่มคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ และเราคิดว่าใส่มาเพื่อให้เคลมว่าผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิคได้ น้ำกุหลาบและน้ำดอกลาเวนเดอร์อาจช่วยแต่งกลิ่นให้ผลิตภัณฑ์ได้บางส่วน แม้จะไม่มีส่วนผสมของ Fragrance จึงเคลมว่าเป็นสูตรปราศจากน้ำหอมได้ แต่การใส่น้ำดอกไม้เหล่านี้มาอาจไม่ได้ทำให้มันปราศจากกลิ่นหอมเสียทีเดียว แต่โดยรวมก็แทบไมไ่ด้กลิ่นอะไรเป็นพิเศษเลย

Ingredients : Aqua, Propanediol, Sodium Polyacryloyldimethyl Taurate, Oryza Sativa Cell Culture Extract, Sodium Hyaluronate, Aloe Barbadensis Leaf Extract, Hamamelis Virginiana Leaf Water, Lavendula Angustifolia Water, Rosa Damascena Flower Water, Hydrogenated Polydecene, Dipropylene Glycol, Butylene Glycol, Glycerin, Alteromonas Ferment Extract, Trideceth-10, Algin, Caprylyl Glycol, Disdodium Phosphate, Glyceryl Polyacrylate, Pentylene Glycol, Potassium Phosphate, Pullulan, Serine, Trehalose, Urea, Salicylic  Acid, Benzisothiazolinone, Methylisothiazolinone, Phenoxyethanol, Potassium Sorbate, Carbomer, Paeonia Suffruticosa Root Extract, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, Arbutin, Citric Acid, Polysorbate 20, Acetyl Tyrosine, Saxifraga Sarmentosa Extract, Palmitoyl-Tripeptide-1, Palmitoyl Tetrapeptide-7, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Glutathione. 

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเซรั่มที่มีความหนืดเพียงเล็กน้อย เนื้อบางเบาและค่อนข้างที่จะแห้งกลืนไปกับผิวได้ไว เซ็ทตัวแบบเป็นฟิลม์เล็กน้อย กลิ่นค่อนข้างกลางๆ ไม่หอม ไม่เหม็น ส่วนตัวมองว่าใช้ได้กับทุกสภาพผิว และนำเข้าไปใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่มีอยู่ได้สะดวก

จากการทดลองใช้พบว่าผิวรู้สึกชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่นดีทีเดียว แต่เรื่องริ้วรอยเรายังไม่มีปัญหามากพอที่จะสังเกตผลที่เห็นได้แต่จากข้อมูลที่มีการวิจัยเราคิดว่าก็น่าสนใจทีเดียวและเป็นทางเลือกนอกเหนือจากส่วนผสมต่อต้านริ้วรอยอย่างวิตามินเอ หรือวิตามินซีได้อยู่นะ

ปัญหาเดียวที่พบคือขวดที่ได้มา ดรอปเปอร์ดูดผลิตภัณฑ์ออกมาได้ไม่มากเท่าไหร่และเหมือนหลอดแก้วของดรอปเปอร์จะสั้นไปจนลงไปไม่ถึงก้นขวด ทำให้หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์จนเหลือ 1/4 จะต้องใช้การตะแคงหรือเทแทนที่จะใช้ดรอปเปอร์ในการนำผลิตภัณฑ์ออกมาใช้ ซึ่งต้องฝากทางแบรนด์ลองพิจารณาแก้ไขในล็อตต่อไป

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Herbalist Siam : Red Jasmine Rice Phyto Cell More Than Serum เป็นผลิตภัณฑ์จากส่วนผสมของเซลล์ข้าวที่พัฒนาภายในประเทศที่มีทั้งเทคโนโลยีและงานวิจัยจากสถาบันที่น่าเชื่อถือมารองรับ เหมาะกับทุกสภาพผิว ทำการบ้านมาค่อนข้างดีในการสร้างแบรนด์และตัวผลิตภัณฑ์เพื่อตีตลาดที่ไกลกว่าภายในประเทศ และมองหาส่วนผสมที่จะมาเสริมประสิทธิภาพของสารสกัดจากเซลล์ข้าวในแง่ของการต่อต้านริ้วรอย และการเป็นไวท์เทนนิ่งได้อย่างน่าสนใจ

ความเห็นส่วนตัวในแง่ของส่วนประกอบ การใช้สารสกัดอื่นๆ เพื่อมาประกอบร่วมกับตัวสารสกัดเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงนั้น ในแง่นึงก็ดีตรงที่เราได้ส่วนผสมที่หลากหลาย และอาจรวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพที่จะได้รับ แต่ในอีกทางหนึ่งปูเป้ก็มองว่าถ้าสิ่งนี้ได้ผล มันเป็นผลมาจากอะไรเป็นหลักกันแน่นะ? ในมุมหนึ่งจึงรู้สึกว่า หากมีผลิตภัณฑ์เซรั่มหรือ Booster ที่มีแต่สารสกัดจากเซลล์ข้าวแบบเข้มข้นสุด ๆ ให้เป็นนางเอกที่แท้จริง ที่ใช้เดี่ยว ๆ หรือผสมคู่กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ผลก็ฟังธงเลยเพราะเซลล์ข้าวอย่างเดียวล้วน ๆ ก็ดูเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจไม่น้อย

สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ Herbalist Siam ก็สามารถเข้าไปดูโปรโมชั่น หรือสถานที่จำหน่ายหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : Herbalist Siam ได้เลยจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Herbalist Siam : Red Jasmine Rice Phyto Cell More Than Serum
Price :  30ml / 1,200 Baht
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Hydration, Antioxidant, Anti-Aging, Brightening

Herbalist Siam : Red Jasmine Rice Phyto Cell More Than Serum
*คะแนนดาวเรทติ้งจะแสดงผลไม่ถูกต้องหากเปิดอ่านบทความนี้จาก Smart Phones / Tablets*
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • สารสกัดเซลล์ข้าวหอมมะลิแดงให้ประโยชน์กับผิวหลากหลาย มีข้อมูลที่ชี้ว่าประสิทธิภาพสูงกว่าสารสกัดนำเข้าจากต่างประเทศ
  • ส่วนผสมโดยรวมค่อนข้างอ่อนโยน และดูแลในเรื่องทั้งการปกป้องผิว ความชุ่มชื้น ต่อต้านริ้วรอยและลดเลือนความหมองคล้ำ
  • เนื้อบางเบา ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือฉุน
CONS
  • หลอดดรอปเปอร์ลงไปไม่ถึงก้นขวด
3.9Overall Score