แม้จะเห็นและได้ยินชื่อแบรนด์ COVERMARK  มาตั้งแต่เด็ก และเคยได้ลองใช้เบสเมคอัพของเขามาบ้างในช่วงแรกของการเขียนบล็อก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ปูเป้ได้ลองสกินแคร์ของเขาแบบจริงจังและทำรีวิวแบบละเอียด โดยผลิตภัณฑ์ที่จะพูดถึงคือ COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS จะวางจำหน่ายในไทยเดือนมิถุนายน 2023 นี้ ซึ่งบังเอิญมากเพราะตอนเดือนมีนาคมที่ปูเป้ไปเที่ยวญี่ปุ่น เดินเข้าห้างตรงชินจูกุ เดินผ่านแผนกเครื่องสำอาง มองเคาน์เตอร์ COVERMARK เห็นเขาโปรโมทสกินแคร์กลุ่มนี้แล้วยังคิดถึงอยู่เลยว่าเราไม่เคยลองใช้ของเขาเลยเนอะ แล้วพอกลับมาถึงปุ๊ป ทางแบรนด์ก็ติดต่อว่าอยากส่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาให้ลอง ก็รีบตอบตกลงทันที

แม้จะหาข้อมูลค่อนข้างยาก แต่ปูเป้สนุกกับการหาข้อมูลเพื่อทำรีวิวโลชั่นตัวนี้พอสมควร แบบมันท้าทายดีเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้รีวิวสกินแคร์ของ COVERMARK ถึงได้พบว่ากลุ่มบริษัท PIAS Corporation (ซึ่งเป็นเจ้าของ COVERMARK  และมีแบรนด์ในเครือที่เรารู้จักกันดีอย่าง ACSEiNE สำหรับผิวบอบบาง และ SUNGRACE ที่เน้นเรื่องผลิตภัณฑ์เบสเมคอัพผสมสารกันแดดเป็นต้น) เขามีการวิจัยพัฒนาตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสารวิชาการ และมีการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีเอาไว้ จึงได้เห็นว่าเขามีส่วนผสมและเทคโนโลยีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ

Mother Cell – ต้นกำเนิดความงามของผิว

COVERMARK : Cell Advanced เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลุ่ม Anti-Aging เพื่อคืนความชุ่มชื้น กระจ่างใส ให้ผิวรู้สึกกระชับ โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 และพัฒนาปรับปรุงมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 5 (WS) แล้ว โดยแนวคิดพื้นฐานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cell Advanced นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องของ Mother Cell หรือเซลล์ต้นกำเนิดของความงามและความอ่อนเยาว์ของผิว เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นการทำงานของ Mother Cell นั้นจะลดน้อยเสื่อมถอยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และการฟื้นตัวของผิวที่ช้าลงกว่าเดิม เป็นสิวแล้วแผลมีรอยสิวก็หายช้ากว่าที่เคย ผิวระคายเคืองและแห้งง่ายกว่าเดิม เพราะการทำงานของผิวแย่ลง

โดย Mother Cell ที่ทางแบรนด์พูดถึงอย่างเซลล์ Keratinocytes ที่เป็นต้นกำเนิดของผิวชั้นนอก และเซลล์ Fibroblast ที่เป็นต้นกำเนิดของโมเลกุลสำคัญที่เป็นโครงสร้างของผิวชั้นใน  และยังโยงไปถึงเรื่อง Mesenchymal Stem Cells (MSCs) หรือ Adult Stem Cell ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในวงการแพทย์และความงามในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา

Mesenchymal Stem Cells กับพลังในการฟื้นบำรุงและศัยกภาพในการบำบัดเยียวยา

Mesenchymal Stem Cells (MSCs) หรือเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ เป็นสเต็มเซลล์ของผู้ใหญ่ที่รู้จักกันตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 แต่พึ่งถูกพูดถึงกันอย่างมากในช่วงต้นของยุค 2010s ที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามากพอที่จะทำการเพาะเลี้ยงและนำมาใช้งานทางการแพทย์ได้โดยมีราคาที่ต่ำลง โดยเดิมเราเชื่อกันว่า MSCs พบได้แต่จากในไขกระดูกเท่านั้น แต่ปัจจุบันเราพบแล้วว่า MSCs กระจายไปตามอวัยวะต่าง ๆ และสามารถสกัดมาได้จากเซลล์ไขมัน สายสะดือ และในน้ำคร่ำ เป็นต้น

คุณสมบัติของ MSCs ในการเปลี่ยนแปลงสภาพ (Differentiation) ไปเป็นเซลล์หลากหลายชนิดของอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ของมนุษย์ (รวมไปถึงผิวหนังด้วย) จึงมีศักยภาพเพื่อในการนำมาใช้เพื่อการบำบัด เยียวยา ฟื้นฟู   จากข้อมูลชี้ว่าปัจจุบันมีแนวโน้มของการศึกษาเรื่อง MSCs เพื่อการแพทย์มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยทำการฉีดเซลล์ที่ผ่านการเพาะเลี้ยงและสกัดแยกจนมีความบริสุทธิ์สูงกลับไปเข้าในร่างกายเพื่อฟื้นฟูและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย  แต่โดยรวมแล้วเทคโนโลยีนี้ยังใหม่มากและยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลอง  และยังไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดในเรื่องการใช้สเต็มเซลล์ทางการแพทย์ คำกล่าวอ้างเกี่ยวกับสเต็มเซลล์บำบัดที่เห็นได้ทั่วไปจึงอาจทำให้เข้าใจผิดว่าสเต็มเซลล์เป็นยามหัศจรรย์รักษาทุกโรค จนหน่วยงานด้านสาธารณะสุขออกมาเตือนผู้บริโภคให้ระวังอยู่เป็นระยะ

Mesenchymal Stem Cells ในมุมของวงการเครื่องสำอาง

วงการเครื่องสำอางก็พยายามศึกษาว่าเราจะใช้ประโยชน์จากความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับ MSCs ได้อย่างไร แต่ข้อจำกัดใหญ่ที่สุดคือเครื่องสำอางไม่สามารถมีเซลล์ที่มีชีวิตได้ทั้งในทางเทคนิคและทางกฏหมาย รวมไปถึงรูปแบบของการทาก็ไม่ใช่ช่องทางที่เหมือนกับการฉีด  เพื่อมองหาความเป็นไปได้ในการนำคอนเซปต์และความรู้เกี่ยวข้องกับ MSCs มาเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องสำอาง ทาง PIAS Corporation จึงทำการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยโอซาก้า  และได้ผลออกมาเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ส่วนผสมในการเหนี่ยวนำเซลล์ต้นกำเนิด (MSCs Induction) เพื่อประยุกต์ใช้กับเครื่องสำอาง

เทคโนโลยีนี้อิงจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2013 และปี 2015  ว่าสารสกัด Mallotus Philippinensis Bark Extract นั้นสามารถช่วยเร่งการเยียวยาสมานแผลได้ โดยสารสำคัญอย่าง Cinnamtannin B-1 รวมไปถึงโพลีฟีนอลที่มีโครงสร้างคล้ายกัน สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนตัวของ MSCs มายังบริเวณแผลเพื่อเร่งการฟื้นฟูตนเองของผิวได้มากขึ้น โดยทางมหาวิทลาลัยโอซาก้าและบริษัท PIAS มีการจดสิทธิบัตรเอาไว้ โดยทางแบรนด์เคลมว่านี่เป็นการครั้งแรกในวงการเครื่องสำอางที่มีการนำแนวคิดนี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มีอีกการศึกษาจากอินเดียที่ชี้ว่าสารสกัดจากผลของพืชชนิดนี้ก็ช่วยต้านการอักเสบและเสริมการสมานแผลได้เช่นกัน

ข้อมูลเรื่องสารสกัด Mallotus Philippinensis นี้ช่วยฟื้นฟูบาดแผลได้เร็วขึ้นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ปูเป้เชื่อว่าบางคนอ่านมาถึงตัวนี้แล้วอาจจะมีคำถามว่า ในการใช้กับสกินแคร์ และ ‘ริ้วรอย’ ก็ไม่ใช่และไม่เหมือน ‘บาดแผล’ แล้วเมื่อเราทาสารสกัดลงบนผิวหนังที่สมบูรณ์ไปแล้วสารเหล่านี้จะแทรกลงไปได้มากพอไปเหนี่ยวนำ MSCs  ได้เหมือนกับทาลงบนแผลซึ่งมีช่องเปิดบนผิวหนังที่เปิดได้หรือไม่?  ปูเป้คิดว่าคำอธิบายน่าจะอยู่ที่หลักการของ สาร Cinnamtannin B-1  นั้นทำหน้าที่เป็นเหมือนสัญญาณ SOS และในทางทฤษฏีแล้ว ก็มีส่วนผสมหลายตัวในเครื่องสำอาง ทำงานในลักษณะของการสื่อสารระหว่างเซลล์กันเป็นทอด ๆ มากกว่าการแทรกหรือซึมลงไปให้มากที่สุด ซึ่งถ้าหากในอนาคตมีการตีพิมพ์การศึกษาเรื่องสารตัวนี้เมื่อทาบนผิวหนังของมนุษย์ลงในวารสารทางวิชาการปูเป้จะเอามาอัพเดทข้อมูลในส่วนนี้กันอีกทีครับ แต่ในตอนนี้ผมมองว่าโดยพื้นฐานคือสารสกัดตัวนี้มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระให้กับผิวได้ ซึ่งก็เป็นประโยชน์กับผิว

และจากประสบการณ์ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและเทคโนโลยีเครื่องสำอางมา 15 ปี ก็อยากบอกว่าแนวคิดเรื่องส่วนผสมเครื่องสำอางที่เกี่ยวข้องกับ MSCs นั้นเป็นสิ่งที่แบรนด์ชั้นนำของญี่ปุ่นศึกษากันอย่างกว้างขวาง เรียกว่าเครือใหญ่ ๆ มากันหมด เพียงแต่เป็นสิ่งที่ถูกเก็บไว้เป็นข้อมูลภายใน เป็นที่รับรู้กันในวงการวิจัย และในเอกสารการจดสิทธิบัตรเท่านั้น ไม่ได้ถูกสื่อสารออกมาในระดับผู้บริโภค ส่วนหนึ่งเพราะมันค่อนข้างยากต่อความเข้าใจ และติดข้อจำกัดเรื่องนิยามของเครื่องสำอางตามกฏหมายด้วย เทคโนโลยีในสิทธิบัตรพวกทำได้จริงแค่ไหน เอาจริง ๆ ปูเป้ก็ไม่รู้ แต่เราตั้งคำถามได้ ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ปูเป้ก็เลือกที่จะหยิบเอามาเล่าให้คนอ่านเก็บไว้เป็นข้อมูลเป็นความรู้รอบตัว เอาไว้อ่านสนุก ๆ ครับ สำคัญที่สุดผมว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเราชอบเราพอใจกับผิวกับผลที่เราได้ก็พอแล้ว

Product’s Formula

ในแง่ของส่วนผสมนั้น COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS (150ml / 4,000 BAHT) จะเห็นส่วนผสมของสารสกัดจำนวนมาก และอยากจะพูดถึงตัวหลัก ๆ ที่น่าสนใจดังนี้

Mallotus Philippinensis Bark Extract ตัวหลักคือเทคโนโลยี MSCs Induction ที่อธิบายไปด้านบนแล้ว โดยในสูตรล่าสุดนี้ได้ผสมสารสกัดใบซากุระ Prunus Yedoensis Leaf Extract เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้น  ซึ่งจริง ๆ แล้วสารสกัดใบซากุระถูกระบุในสิทธิบัตรมาตั้งแต่แรกครับ ตามหลักการที่ทางแบรนด์จดสิทธิบัตรเอาไว้ ส่วนผสมนี้จะช่วยส่งสัญญาณให้ผิวที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยและความเสื่อมถอยตามวัยที่เพิ่มขึ้นจะะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น

Solanum Melongena (Eggplant) Fruit Extract กับ Camellia Sinensis Leaf Extract และ Melia Azadirachta Leaf Extract นั้นมีการจดสิทธิบัตรที่เคลมว่า สารสกัดจากมะเขือม่วง สารสกัดใบชาดำ และสารสกัดใบพืชตระกูลสะเดา นั้นมีคุณสมบัติในการเสริมการพัฒนาตัวเองของเซลล์ผิวชั้นนอก จึงส่งผลให้ผิวชั้นนอกมีสภาพที่สมบูรณ์ขึ้นในระยะยาว

Carya Illinoensis (Pecan) Shell Extract สารสกัดจากเปลือกถั่วพีแคน มีการจดสิทธิบัตรว่าช่วยในเรื่องการลดไกลเคชั่น (AGEs) ที่ทำให้โปรตีนผิวมีความเสื่อมและเหลืองคล้ำในหลายระดับชั้นผิว

Geranium Robertianum Extract อันนี้ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นส่วนผสมที่มีชื่อว่า Princess Care ของ Ichimaru Pharcos ซึ่งสารสกัดตัวนี้สามารถต้านเอนไซม์ Tryptase ซึ่งถูกกระตุ้นโดยรังสี UV และไปสร้างความเสียหายให้กับ Collagen I และ IV ที่ชั้นฐานของผิวชันนอก (Basement Membrane) จึงช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอย

Tripeptide-3 หรือ Amino growth น่าจะเป็น ATPeptide™ IS ของบริษัท Ashland ซึ่งผู้ผลิตเคลมว่าช่วงคงระดับ ATP ที่เป็นพลังงานของเซลล์ และเพิ่มระดับของแคลเซียมในเซลล์ซึ่งข้อมูลชี้ว่าแคลเซียมส่วนสำคัญในกระบวนการพัฒนาตัวของเซลล์ผิวชั้นนอกซึ่งก็สอดคล้องกับคำเคลมของแบรนด์อีกเช่นกัน

Hydrolyzed Soy Protein หรือ Phytokine ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยเรื่องความยืดหยุ่น ซึ่งในถั่วเหลืองมีสารกลุ่ม Phytoestrogens อย่าง Genistein และ Daidzein มีการศึกษาชี้ว่าช่วยเสริมคอลลาเจน อีลาสติน เสริมความยืดหยุ่นและชุ่มชื่นของผิวด้วยการเสริมการสร้าง Hyaluronic Acid ในชั้นผิว นอกจากนี้ยังมีการศึกษาช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่กระตุ้นโดยรังสี UVB ได้อีกด้วย

Potentilla Fulgens Extract อันนี้ทางแบรนด์เคลมว่าเสริมควมยืดหยุ่นของผิว โดยเกี่ยวข้องกับเรื่องของชั้นของของผิวชั้นนอก แต่ส่วนตัวยังหาข้อมูลในส่วนนี้ไม่พบครับ แต่พืชชนิดนี้เป็นสมุนไพรและมีข้อมูลชี้ว่ามีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ สารกลุ่มฟีนอลในพืชชนิดนี้ก็ช่วยเรื่องการสมานแผล


ส่วนผสมอื่น ๆ ยังมีสารสกัดจากสมุนไพรอีกหลายชนิดที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นตัวช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิว Ganoderma Lucidum (Mushroom) Stem Extract, Panax Ginseng Root Extract, Morus Alba Root Extract, Angelica Acutiloba Root Extract, Aloe Barbadensis Leaf Extract, Coix Lacryma-jobi Ma-yuen Seed Extract ซึ่งสารสกัดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหลินจือ รากโสม ตังกุย ต่างถูกใช้เป็นแอคทีฟในการต้านริ้วรอยในสกินแคร์ชั้นนำของญี่ปุ่นอยู่หลายตัว ส่วนตัวมองว่ามันมีอะไรมากกว่าแค่ความชุ่มชื้่นครับ ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นจริงจังในนี้ก็มีตัวที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น Hydrolyzed Hyaluronic Acid  กับ Glycosyl Trehalose และ Diglycerin

โดยรวมแล้วตัวนี่เป็นโลชั่นน้ำที่แพ็คส่วนผสมมาหลากหลาย และมีส่วนผสมที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะที่มีแนวคิดน่าสนใจทีเดียว จนทำให้เรารู้สึกว่าต้องมามองสกินแคร์ของ COVERMARK ใหม่เลยล่ะ นางมีอะไรมากกว่าที่เราคิด

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Glycerin, Alcohol, Dipropylene Glycol, Glycerylamidoethyl Methacrylate/Stearyl Methacrylate Copolymer, Hydrolyzed Soy Protein, Hydrolyzed Hyaluronic Acid, Camellia Sinensis Leaf Extract, Arbutin, Aloe Barbadensis Leaf Extract, Panax Ginseng Root Extract, Mallotus Philippinensis Bark Extract, Chrysanthellum Indicum Extract, Morus Alba Root Extract, Prunus Yedoensis Leaf Extract, Angelica Acutiloba Root Extract, Tripeptide-3, Solanum Melongena (Eggplant) Fruit Extract, Coix Lacryma-jobi Ma-yuen Seed Extract, Geranium Robertianum Extract, Betaine, Carya Illinoensis (Pecan) Shell Extract, Potentilla Fulgens Extract, Melia Azadirachta Leaf Extract, Ganoderma Lucidum (Mushroom) Stem Extract, Hydroxyethyl Acrylate/sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Polyglyceryl-10 Eicosanedioate/Tetradecanedioate, PEG-20, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin, Hydrogenated Starch Hydrolysate, Hydroxylated Lecithin, Sorbitan Isostearate, Isohexadecane, Xanthan Gum, Glycosyl Trehalose, Diglycerin, Tripropylene Glycol,  Hydroxyethylcellulose. Polysorbate 60, Cedrus Atlantica Bark Oil Foeniculum Vulgare (Fennel) Oil, Salvia Sclarea (Clary) Oil, Citrus Aurantium Dulcis (Orange) Flower Oil, Citrus Aurantium Dulcis (Orange) Oil, Eugenia Caryophyllus (Clove) Leaf Oil, Rosa Canina Fruit Oil, Citrus Aurantifolia (Lime) Oil. Citrus Medica Limonum (Lemon) Peel Oil, Methylparaben.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์ของ COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS มีความเหลวแต่ไม่ถึงกับเหมือนน้ำเปล่า มีบอดี้ที่หนืดกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อแปะประคบลงบนผิวจะรู้สึกถึงความชุ่มชื้นที่แทรกเข้าผิวเลยโดยเฉพาะสำหรับคนที่ผิวแห้งหรือระคายเคือง เพราะตอนที่ปูเป้เริ่มลองใช้โลชั่นตัวนี้เป็นตอนที่ผิวเริ่มหายจากการเป็นผื่นจนผิวมีความสากแห้ง  ตอนที่ประคบโลชั่นตัวนี้ลงไปรู้สึกถึงความสบายผิว ชุ่มชื้น และนุ่มขึ้นในทันที  กลิ่นโลชั่นมาจากน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด ให้กลิ่นแนวสมุนไพรแต่มีกลิ่นโทนซิตรัสจาง ๆ มาเพิ่มความสดชื่นขึ้น  กลิ่นค่อนข้างบาง หอมสบายจมูก ผ่อนคลาย และติดไม่ทนครับ  เป็นโทนกลิ่นที่ปูเป้ค่อนข้างชอบทีเดียว และอยู่ในระดับที่ใช้ง่าย

 

สิ่งที่โดดเด่นมากคือเนื้อโลชั่นน้ำที่มอบเนื้อสัมผัสในการใช้ที่ชุ่มฉ่ำเมื่อแรกใช้ ก่อนเปลี่ยนเป็นชั้นฟิลม์และออยล์บางเบาที่โอบอุ้มความชุ่มชื้นเอาไว้ ให้ผิวดูนุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน ดูโกลว์เปล่งปลั่งกำลังดี ไม่ดูมันวาวเกินไปครับ

เทียบให้เห็นว่าผิวเปลือยเปล่าหลังทำความสะอาดและซับให้แห้ง กับผิวหลังจากลงโลชั่นและเซ็ทตัวแล้ว  ผิวหลังลงโลชั่นเห็นได้ถึงความชุ่มและนุ่มนวลของผิวเลย

เบื้องหลังเนื้อโลชั่นเลิศ ๆ นี้น่าจะมาจาก Glycerylamidoethyl Methacrylate/Stearyl Methacrylate Copolymer หรือ CERACUTE®-F ของบริษัท NOF CORPORATION ที่มีโครงสร้างเลียนแบบคล้ายเซราไมด์ ทำให้เกิดไมโครอิมัลชั่นขนาดนาโน ร่วมกับ Polyglyceryl-10 Eicosanedioate/Tetradecanedioate  หรือ Neosolue™-Aqua เป็น Emollient ที่กระจายตัวในน้ำได้และช่วยลดความรู้สึกหนึบเหนียวบนผิวจากส่วนผสมกลุ่ม Humectants ที่ใส่มา ส่วนผสมเหล่านี้รวมกันกางตัวคลุมผิวเป็นฟิล์มยืดหยุ่นสูง เก็บล็อคความชุ่มชื้น ให้ผิวรู้สึกนุ่มนวลเหมือนเคลือบด้วยออยล์ที่บางเบาแนบสนิทไปกับผิว

จากการใช้มาราว 4 สัปดาห์ รู้สึกว่านี่เป็นโลชั่นน้ำอีกตัวนึงสำหรับคนที่อยากได้โลชั่นน้ำที่ค่อนข้างฉ่ำ และช่วยกลบความรู้สึกตึงแห้งไม่สบายผิวได้ดี  ปูเป้จะแนะนำให้ใช้เป็นขั้นตอนก่อนที่จะลงเซรั่มครับ  หากมีผลิตภัณฑ์ในรูปแบบน้ำที่จะใช้ร่วมกัน แนะนำให้ตัวที่มีความเป็นเบสน้ำล้วนก่อน เพราะ COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS จะเซ็ทตัวแบบฉ่ำมากและมีออยล์เคลือบผิวบาง ครับ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS เป็นโลชั่นน้ำที่มีส่วนผสมอัดแน่น เทคโนโลยีของเขาก็น่าสนใจ มอบประสบการณ์ในการใช้ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวขาดน้ำ ระคายเคือง หรือค่อนไปทางแห้ง มักมีความรู้สึกไม่สบายผิวโดยเฉพาะหลังล้างหน้า  ตัวนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ปูเป้ยังชอบที่โลชั่นตัวนี้เซ็ทตัวให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้นแต่ไม่เหนียว ผิวนุ่มแต่ไม่เหนอะ และผิวดูโกลว์สวยกำลังดีอีกด้วยครับ 

เทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะของเครือนี้ก็ดูน่าสนใจมากในแง่ของคอนเซปต์ แต่เรื่องการทาส่วนผสมเหล่านี้จะไปเหนียวนำเซลล์ต้นกำเนิดความงามมาได้มากแค่ไหน ก็เป็นสิ่งที่ปูเป้เองก็สนใจ แต่ไม่มีความสามารถและเครื่องมือที่จะพิสูจน์ให้เห็นได้ แต่ถ้ามีข้อมูลการศึกษาที่ตีพิมพ์เพิ่มเติมในอนาคต จะเอามาอัพเดทเพิ่มกันอีกที แต่ส่วนตัวมองว่าอย่างน้อยสารสกัดจากพืชนับสิบชนิดในนี้ก็เป็นแอนติออกซิแดนท์และมีประโยชน์กับผิวครับ

ผลิตภัณฑ์ COVERMARK สามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และในช่องทางออนไลน์ที่ www.covermark.co.th หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง Facebook : COVERMARK Thailand ครับ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS
Price : 150ml / 4,000 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Hydration / Nourishing / Antioxidant / Anti-Aging /

COVERMARK : Cell Advanced Lotion WS
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เป็นโลชั่นน้ำที่มอบสัมผัสในการใช้ที่ดี ชุ่มชื้นสูง ผิวนุ่มนวลไม่มันเยิ้ม
  • สารสกัดสารบำรุงเยอะมาก และมีการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย
  • ส่วนผสมสำคัญบางตัว มีข้อมูลจากผู้ผลิตเป็นหลัก
4.2Overall Score