ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามี Niche Skincare เข้ามาเป็นกระแสในประเทศไทยอยู่พอสมควร ซึ่งแบรนด์เล็ก ๆ เหล่านี้ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มนักเรียนนอกหรือเคยไปทำงานต่างประเทศนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมสกินแคร์ของผู้ที่ชอบเสาะแสวงหาและไม่อยากแมสเหมือนใคร ๆ และหนึ่งในแบรนด์ที่มีคนเคยสอบถามปูเป้มามากมายว่าแบรนด์นี้น่าสนใจไหม ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมดีไหม? ก็คงจะไม่หนีไม่พ้น 111SKIN จากอังกฤษนี่เองฮะ

เมื่อไม่นานมานี้ ทาง BFF ผู้นำเข้าแบรนด์ 111SKIN ได้ส่งผลิตภัณฑ์ขายดีของแบรนด์มาให้ปูเป้ได้ลอง โดยตัวปูเป้เลือกหยิบขึ้นมาทดลองก็คือ 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์และเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์นั่นเอง และก่อนที่จะไปถึงรายละเอียดตัวผลิตภัณฑ์ปูเป้ขอเล่าภาพรวมและเรื่องราวของแบรนด์แบบคร่าว ๆ ก่อน

111SKIN
เปิดตัวมาในปี 2012 ด้วยการเป็นแบรนด์แนว Niche Luxury Skincare ที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนัก เซเลป ดารา และวางจำหน่ายในห้างหรู และค่อย ๆ ขยายจนมีจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก 

ก่อตั้งโดย Dr. Yannis Alexandrides (เดิมชื่อ John K Alexandrides) ศัลยแพทย์ตกแต่งผู้มีชื่อเสียงในอังกฤษ ร่วมกับภรรยาซึ่งก็คือ Eva Alexandridis โดยเรื่องเล่าต้นกำเนิดของแบรนด์มาจากสูตรเซรั่มที่มี NAC Y²™ ซึ่งเป็นสารประกอบเชิงซ้อน สิทธิบัตรของ Dr. Yannis ที่จ่ายให้กับลูกค้าได้ใช้ฟื้นบำรุงผิวหลังจากการทำศัลยกรรม และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าขาดไม่ได้และแนะนำกันปากต่อปาก

ด้วยเรื่องราวที่มาของแบรนด์ที่ดูเหมือนหลุดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ เมื่อศัลยแพทย์ความงามชื่อดัง ร่วมกับกับนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำงานด้านอวกาศในยุคสหภาพโซเวียต ได้พยายามปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวและในขณะเดียวกันต้องอ่อนโยนพอที่จะใช้กับผิวหลังทำศัลยกรรม จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะอยากลองผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ 111SKIN

Product’s Formula

111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ (30ml / 10,500 BAHT) ในแง่ของส่วนประกอบนั้น ส่วนตัวปูเป้ค่อนข้างสนใจที่มาของเรื่องราวและพยายามหาข้อมูลว่านักวิทยาศาสตร์อวกาศยุคโซเวียตที่ว่านั้นคือใคร? ชื่ออะไรบ้าง? แต่ก็ยังเป็นปริศนา และสารประกอบเชิงซ้อน NAC Y²™ อันประกอบไปด้วย Acetyl Cysteine +  Aesculus Hippocastanum (Horse Chestnut/Marron) Extract + Sodium Ascorbyl Phosphate ที่ว่าเป็นสิทธิบัตรของ Dr Yannis นั้นปูเป้พยายามหาสิทธิบัตรเพื่อดูรายละเอียดและเคลมในการยื่นจด แต่ก็ยังหาไม่พบว่าเขาจดเอาไว้ในชื่อของใคร หรือบริษัทอะไร จึงไม่มีข้อมูลว่าสารประกอบเชิงซ้อนนี้ถูกเคลมว่ามีความใหม่ (novel) หรือล้ำในแง่ไหนบ้าง แต่ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์โดยรวมก็จัดเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

Acetyl Cysteine เป็นสารตั้งต้นของ Glutathione มีการใช้ทั้งในรูปแบบกินเป็นยา อาหารเสริม และการนำมาทาบนผิว โดยจากข้อมูลที่รวบรวมการศึกษาเกี่ยวกับสารตัวนี้พบว่าเมื่อนำมาทาบนผิวจะช่วยเสริมการสมานแผล ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมเรื่องความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยการศึกษาใช้ในความเข้มข้นที่หลากหลายตั้งแต่ 3-20% เลยทีเดียว

Aesculus Hippocastanum (Horse Chestnut/Marron) Extract มีข้อมูลว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบได้ดี สารกลุ่มซาโปนินที่ได้จากพืชตัวนี้อย่าง Escin (Aescin) มีข้อมูลว่าช่วยเสริมการหดตัวของกล้ามเนื้อหลอดเลือดและถูกนำไปใช้ในยาทาเพื่อลดเส้นเลือดขอดหรืออาการเขียวบวมช้ำต่าง ๆ

Sodium Ascorbyl Phosphate เป็นอนุพันธุ์วิตามินซีรูปแบบหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ

โดยรวมแล้ว สารสำคัญทั้งสามชนิดที่ประกอบเป็น NAC Y²™ ก็ดูตอบโจทย์ที่ Dr Yannis ตั้งเอาไว้ว่าต้องการให้ลูกค้าใช้หลังจากการทำศัลยกรรมและหัตถการความงาม เพราะเน้นเสริมการเยียวยา ต้านการอักเสบ ต้านการบวม และปกป้องผิว ส่วนผสมเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ส่วนตัวคาดว่าสิทธิบัตรน่าจะได้มาจากการจด combination ที่ไม่ซ้ำกับใครมาก่อน ส่วนรายละเอียดว่าสารทั้งสามตัวนี้เมื่อรวมกันนั้นจะโดดเด่นกว่าการใช้สารเดี่ยวอย่างไรก็ยังไม่มีข้อมูลครับ  แต่ในเซรั่มขวดนี้ก็ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ มาด้วย อย่างเช่น

Aloe Barbadensis (Aloe Vera) Extract สารสกัดจากว่านหางจรเข้ก็มีสารหลายชนิดที่ช่วยบำรุงและต้านการอักเสบของผิว

Calendula Officinalis Extract สารสกัดดอกดาวเรืองฝรั่งมีข้อมูลว่าคุณสมบัติในการต้านการอักเสบได้

Glycyrrhiza Glabra (Liquorice/Réglisse) Root Extract สารสกัดรากชะเอมมีสารประกอมากมายและมีข้อมูลบ่งชี้ถึงประโยชน์ที่หลากหลายรวมไปถึงคุณสมบัติในการต้านการระคายเคือง ต้านการอักเสบ

Vitamin B Complex ประกอบไปด้วยสารกลุ่มวิตามินบี หกชนิด ได้แก่ Panthenol (B5 ) ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น  Niacinamide (B3) ที่เสริมชั้นปราการผิว Thiamin (B1) ยังไม่มีงานวิจัยตีพิมพ์ถึงประโยชน์เมื่อนำมาทาบนผิว  Riboflavin (B2) มีข้อมูลเล็กน้อยว่าอาจช่วยเสริมการปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ได้ Pyridoxine (B6) ถูกใช้เพื่อปรับสมดุลของซีบัมและลดความหยาบกร้าน มีข้อมูลล่าสุดที่ชี้ว่าสารตัวนี้ช่วยเพิ่ม Filaggrin ที่เป็นสารตั้งต้นของ NMF ในผิว  ส่วน Cyanocobalamin (B12) มีข้อมูลช่วยต้านการอักเสบและการคันของผิวผ่านกลไกการจับกับ nitric oxide ได้เป็นอย่างดี

ส่วนผสมของ Alcohol ในเบสเซรั่มใช้เป็นตัวทำละลาย และ Benzyl Alcohol เป็นสารกันเสียหลักของตัวผลิตภัณฑ์ มีอยู่น้อยกว่า Glycerin ซึ่งมักใส่มาไม่เกิน 5% ในสูตรเพื่อไม่ให้รู้สึกเหนอะหนะ ดังนั้นปริมาณของแอลกอฮอล์ก็น่าจะน้อยกว่า 5% ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับผิวผสมหรือผิวมันตามที่ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบเอาไว้  

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม Fragrance/Parfum แต่น่าจะถูกเลือกมาแล้วว่าต้องไม่มีสารประกอบของ Fragrance Allergens 26 ชนิดเกิน 0.001% ตามกฏหมายเครื่องสำอางของ EU และ UK (แต่กำลังจะมีการอัพเดทเพิ่มจำนวนสารในลิสต์ในอนาคตอันใกล้)  เป็นความพยายามในการมอบส่วนผสมที่มีสรรพคุณในการฟื้นบำรุงผิว ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ เสริมการเยียวยาผิว โดยยังมอบประสบการณ์และสุทรีย์ในการใช้ที่น่าพึงพอใจ ซึ่งก็เป็นคอนเซปต์ของแบรนด์ที่ตั้งไว้

Ingredients : Aqua/Water/Eau, Glycerin, Alcohol, Benzyl Alcohol, Aloe Barbadensis (Aloe Vera) Extract, Calendula Officinalis Extract, Carbomer, Sodium Hydroxide, Aesculus Hippocastanum (Horse Chestnut/Marron) Extract, Sodium Ascorbyl Phosphate, Panthenol, Niacinamide, Thiamin, Riboflavin, Pyridoxine, Cyanocobalamin, Glycyrrhiza Glabra (Liquorice/Réglisse) Root Extract, Prunus Armeniaca (Apricot/Abricot) Kernel Oil, Acetyl Cysteine, Fragrance/Parfum.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์ของ 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ นั้นเป็นเจลใสเนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะผิว มีกลิ่นหอมจาง ๆ ที่หายไปในเวลาไม่นานหลังทาลงบนผิว ให้ความชุ่มชื้นบางเบา โดยรวมเนื้อค่อนข้างใช้ได้ง่ายในสภาพอากาศบ้านเรา ปริมาณในการใช้นั้นคือ 1 – 2 ปั้มทาในขั้นตอนของเซรั่ม ในตอนเช้าและกลางคืน

ปูเป้ทดลองเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยใช้ 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ แทนเซรั่มตัวที่ลองก่อนหน้านี้  และคุมตัวแปรด้วยการไม่เปลี่ยนสกินแคร์ตัวอื่นที่ใช้ร่วมกัน (โลชั่นน้ำ เซรั่มอื่น ๆ และมอยซ์เจอไรเซอร์ ยังคงใช้เหมือนเดิมทุกอย่าง) และถ่ายรูปเปรียบเทียบก่อนหลัง บนผิวหลังทำความสะอาด ซับให้แห้ง ทิ้งไว้ 3 นาที  ถ่ายรูปด้วยการตั้งกล้องเดิม สภาพแสงเดิม  ซึ่งได้ออกมาตามรูปด้านล่างนี้

แม้ว่า 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ จะถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นบำรุงผิวที่พึ่งผ่านการทำศัลยกรรมและหัตถการความงาม แต่ในผิวปกติที่ไม่ได้มีบาดแผลก็สามารถที่จะใช้ได้และคาดหวังผลของการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และทางแบรนด์ก็เคลมถึงการเสริมคอลลาเจนเพื่อลดเลือนริ้วรอยด้วย

สภาพผิวของปูเป้ในตอนที่เริ่มต้นทดลองเซรั่มตัวนี้คืออยู่ในจุดที่มีสภาพดีมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีเพียงกระและจุดด่างดำที่เป็นปัญหาซึ่งเซรั่มตัวนี้ไม่ได้เน้นดูแลในเรื่องนี้ หลังจากการใช้ 4 สัปดาห์ สภาพผิวโดยรวมยังถูกประคองเอาไว้อยู่ แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของการทดลองเซรั่มตัวนี้ปูเป้ป่วยเป็นทอนซิลอักเสบ ซึ่งก็อาจส่งผลลบกับสภาพผิวที่ดูหยาบกร้านขึ้นในช่วงนั้น แต่ก็ค่อย ๆ ฟื้นกลับมาสภาพที่เห็นอยู่ในรูปได้

ในรูป Day 0 ที่เห็นสภาพรูขุมขนที่ค่อนข้างเรียบเนียน เป็นผลมาจากคุณสมบัติในการเสริมการผลัดและสร้างเซลล์ผิวชั้นนอกของเซรั่มตัวที่ลองก่อนหน้า ซึ่งเมื่อหยุดใช้ไปถึง 4 สัปดาห์ รูขุมขนก็กลับมาเป็นแบบ Day 28 ซึ่งคือสภาพรูขุมขนเดิมที่ปูเป้มีอยู่แล้วครับ ซึ่ง 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ ไม่มีคุณสมบัติในเชิงเสริมการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกจึงไม่สามารถประคองผลตรงนี้เอาไว้ได้ เป็นสิ่งที่คาดเอาไว้ตั้งแต่เริ่มแรก

ในแง่ของริ้วรอย ปูเป้ทดลองใช้ 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ โดยทารอบดวงตาไปด้วย ซึ่งส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยและรอยคล้ำเท่าไหร่นักแม้จะอยู่ในวัย 40 แล้ว ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเมื่อมองด้วยตาเปล่า ซึ่งปกติแล้วเรื่องริ้วรอยมักทดสอบกันยาวถึง 12 สัปดาห์  ระยะเวลาที่ปูเป้ทดลองใช้อาจยังไม่เพียงพอที่จะสรุปผลในแง่ของการลดเลือนริ้วรอย แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเซรั่มตัวนี้ค่อนข้างที่จะอ่อนโยนเพราะทารอบดวงตาก็ไม่แสบไม่ระคายเคืองครับ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว 111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™ นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ดี คือเป็นสารที่มีข้อมูลและมีการศึกษาวิจัยรองรับในแง่ของการใช้กับผิวหนังเกือบทุกตัว  แต่เนื่องจากปูเป้ยังหาตัวสิทธิบัตรไม่เจอจึงไม่มีข้อมูลที่มากกว่านี้ที่จะอธิบายว่าสัดส่วนและการรวมส่วนผสมเหล่านี้ให้ผลแตกต่างหรือเหนือกว่าในแง่ใดบ้าง  เนื้อผลิตภัณฑ์ดี ใช้ง่าย และโดยรวมทำมาได้ตรงคอนเซปต์ที่ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบเอาไว้

ในระหว่างที่ทดลองเซรั่มตัวนี้ ปูเป้ก็แอบมีแกะ 111Skin : Y Theorem Bio Cellulose Facial Mask ซึ่งก็มี NAC Y²™ เป็นส่วนผสมหลักมาใช้คู่ไปด้วย ถ้าไม่นับว่าราคาโหดพอสมควรสำหรับมาส์ก 1 แผ่น  แต่นี่ก็จัดเป็นมาส์กไบโอเซลลูโลสที่ทำไซส์ออกมาได้ค่อนข้างใหญ่ และใช้กับหน้าของปูเป้ได้ค่อนข้างพอดี แผ่นไบโอเซลลูโลสค่อนข้างหนา ซึ่งไบโอเซลลูโลสยิ่งหนายิ่งใช้เวลาในการผลิตนานขึ้นทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนตัวชอบตัวนี้ในฐานะมาส์กไบโอเซลลูโลสที่ดีทีเดียวครับ 

ผลที่ได้จากการทดลองใช้ ก็ต้องบอกว่าการประคองสภาพผิวให้ยังดีอยู่ได้แม้ช่วงที่ลองจะป่วยเละเทะอยู่สัปดาห์นึงก็ถือว่าโอเคอยู่นะ ส่วนถ้าใช้กับผิวที่พึ่งผ่านการทำศัลยกรรมและหัตถการความงามจะได้ผลเป็นอย่างไรปูเป้ก็ยังตอบไม่ได้เพราะไม่ได้ทำอะไรกับหน้ามา 6 ปีแล้วครับ แต่โดยพื้นฐานแล้วผิวที่ยังมีบาดแผลอยู่จะทำให้สารต่าง ๆ แทรกเข้าไปผิวชั้นที่ลึก ๆ ได้ ซึ่งทำให้ส่วนผสมทำงานได้ตรงจุด แต่ในขณะเดียวกันตำรับก็ต้องมีความปลอดภัยสูงมากพอที่จะไม่ก่อปัญหาการระคายเคืองบนผิวที่ไม่สมบูรณ์ด้วย

สำหรับคำถามที่มักมีคนมาถามปูเป้อยู่เรื่อย ๆ ว่าส่วนผสมของแบรนด์นี้ กับป้ายราคาขนาดนี้ คุ้มไหม? ควรไหม? ปูเป้ก็ยังให้คำตอบเหมือนเดิมครับว่าถ้าคุณเลือกที่จะใช้แบรนด์ระดับ Prestige / Luxury คุณจะหาความคุ้มจากการวัดด้วยส่วนผสมอย่างเดียวไม่ได้ตั้งแต่แรก เพราะสิ่งที่คุณจ่ายไปไม่ได้ซื้อแค่ส่วนผสมหรือผลลัพธ์ แต่ซื้อแบรนด์ ซื้อทุกองค์ประกอบของแบรนด์ ความรู้สึก และยิ่งเป็นแบรนด์แบบ Niche + Luxury ด้วยแล้ว มันคือราคาที่คุณจ่ายเพื่อเข้าสู่วัฒนธรรมของคนไม่แมส  ถ้านั่นเป็นสิ่งที่คุณให้ความสำคัญก็ต้องจ่ายแหล่ะ อย่างน้อยคุณก็ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่โอเคนะ แต่ถ้าคุณซื้อสกินแคร์เพื่อส่วนผสมและผลที่ได้อย่างเดียวโดยไม่สนเรื่องภาพลักษณ์และคุณค่าในเชิงแบรนด์  ความ Niche และ Luxury ก็ไม่น่าจะใช่ทางเลือกครับ

สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ 111SKIN ก็มีจำหน่ายในร้าน BFF Luxury Lifestyle Store ทั้งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และในช่องทางออนไลน์ผ่านเวปไซต์ www.bffbangkok.com และทาง LINE Shopping จ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™
Price :  30ml / 10,500 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Light-Weight Hydration / Antioxidant / Wound Healing / Anti-Inflammation

111SKIN : Y Theorem Repair Light Serum NAC Y²™
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เนื้อสัมผัสใช้ง่าย และกลิ่นค่อนข้างบางเบา
  • ส่วนผสมส่วนใหญ่มีการศึกษาในการใช้บนผิวหนัง
  • เน้นเรื่องการเสริมการเยียวยา ฟื้นบำรุงผิว ต้านการอักเสบและลดการบวม
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
3.7Overall Score