แชมพูและคอนดิชันเนอร์ของ Curél เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปูเป้ใช้ยืนพื้นและเคยให้เป็น Favorite มาตั้งแต่ปี 2016 เพราะมีส่วนผสมที่เรียบง่าย อ่อนโยน ให้การเคลือบเส้นผมแบบบางเบา ไม่ทิ้งสารเคลือบเอาไว้มากไปจึงเหมาะกับคนที่หนังศีรษะที่มีปัญหาคันและเป็นตุ่มได้ง่าย และแนะนำอยู่เป็นระยะ และมีรีฟิลถุงเติมให้เลือกด้วย จึงถูกใจสายแยกขยะที่ต้องการลดปริมาณขยะพลาสติกด้วยล่ะ
ทาง Curél เห็นปูเป้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาอยู่แล้ว เคยรีวิวแชมพูแบบปั้มโฟมไปเมื่อปีก่อน และอยากให้รีวิวตัวคอนดิชันเนอร์ที่เอามาใช้คู่กัน แต่ปูเป้มองว่าตัวสูตรของ Curél : Intensive Moisture Care Hair Conditioner นั้นไม่ได้มีความซับซ้อน การรีวิวส่วนผสมอย่างเดียวจะไม่ได้มีประโยชน์มากนัก แต่สิ่งสำคัญสำหรับคนที่มองหาคอนดิชันเนอร์ที่เรียบง่ายแบบ ซึ่งเหมาะกับคนที่หนังศีรษะมีปัญหาระคายเคืองง่าย คือความเข้าใจเรื่องหลักการของสารเคลือบเส้นผม การใช้งานอย่างถูกหลัก และความต้องการในการดูแลที่ต่างกันของเส้นผมและหนังศีรษะที่ต้องหาสมดุลให้ตัวเองได้อย่างเหมาะสม
Curél : Intensive Moisture Care Hair Conditioner (420ml / 500 BAHT , Refill 340ml / 390 BAHT) มีส่วนผสมที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน คือเป็นเบสอิมัลชั่นที่มีส่วนผสมของ Emollients และ Oils เพื่อช่วยให้เกิดเนื้อผลิตภัณฑ์ที่จะเกาะกับเส้นผมในจุดที่ต้องการได้ มีส่วนผสมของสารประจุบวกอย่าง Behentrimonium Chloride และยังมีสารลดแรงตึงผิวประจุบวกอย่าง Di-C12-18 Alkyl Dimonium Chloride ที่กลุ่มบริษัท Kao ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Curél ผลิตขึ้นมาเองอีกด้วย ส่วนผสมเหล่านี้ืทำหน้าที่เป็น Conditioning Agent เกาะติดกับเคราตินอย่างเส้นผมและผิวหนังได้ดี เพื่อช่วยให้เกิดความนุ่มนวล
คอนดิชันเนอร์ตัวนี้มีส่วนผสมของซิลิโคนในรูปของ Dimethicone ซึ่งจะช่วยมอบความลื่นบนเส้นผมเพื่อให้สามารถหวีหรือสางได้ง่ายขึ้น ที่เหลือก็เป็น Dipotassium Glycyrrhizate ที่ช่วยต้านการอักเสบ ลดการระคายเคือง กับส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจากผิวส้มและยูคาลิปตัสปริมาณเล็กน้อย
พื้นฐานของคอนดิชันเนอร์เกือบทั้งโลกก็มีส่วนผสมที่ทำหน้าที่ประมาณนี้ แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละผลิตภัณฑ์แตกต่างกันคือการใส่ส่วนผสมแต่งเติทเช่นสี กลิ่น เพื่อเพิ่มความน่าใช้ อาจมีสารสกัดวิตามินเพื่อเป็นจุดขาย แต่คุณสมบัติหลักและสิ่งที่แตกต่างอย่างแท้จริงคือสัดส่วนและการเลือกสเป็คของสารเคลือบ ซึ่งส่งผลต่อระดับของการทิ้งสารเคลือบอยู่บนเคราติน (เส้นผม / ผิวหนัง) ที่มาก–น้อยไม่เท่ากัน และเป็นประเด็นสำคัญที่ปูเป้อยากอธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจในส่วนต่อไปครับ
Ingredients : Water, Cetearyl Alcohol, Dimethicone, Behentrimonium Chloride, Butylene Glycol, Isopropyl Palmitate, Alcohol, Di-C12-18 Alkyl Dimonium Chloride, Dipotassium Glycyrrhizate, Squalane, Citrus Aurantium Dulcis (Orange) Peel Oil, Citric Acid, Isopropyl Alcohol, Eucalyptus Globulus Leaf Oil, Phenoxyethanol.
สิ่งพื้นฐานอันดับแรกที่ต้องเข้าใจก่อนคือ เส้นผมส่วนที่งอกเลยออกมาจากรากผมนั้นเป็นเซลล์ที่ไม่มีชีวิต เส้นผม ปัจจัยต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นการสระ ขยี้ เป่า สาง หวี ทำเคมี ล้วนมีแต่ทำให้โครงสร้างเคราตินของเส้นผมเสียหายมากขึ้น
สารเคลือบในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบแชมพู คอนดิชันเนอร์ ทรีตเมนต์ จะถูกออกแบบเรื่อง Deposition Level ให้เหลือระดับของการทิ้งสารเคลือบเอาไว้ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมที่มีระดับของความเสียหาย น้อย – มาก ไม่เท่ากัน เพื่อเข้าไปเกาะกับเส้นผม ช่วยทำให้ผมมีความลื่น การที่ผมลื่นขึ้น ไม่พันกัน จะช่วยลดการเกิดความเสียหายจากการหวี สาง หรือแม้แต่จะช่วยเข้าไปเติมส่วนที่พร่องขาดจนดูแห้งกร้านไม่เงางามได้ชั่วคราวเพื่อให้เส้นผมดูมีความเงางาม นุ่มลื่นมีความชุ่มชื้นมากขึ้นจนดูมีสุขภาพดีและสวยงาม
แต่หนังศีรษะนั้นก็คือผิวหนัง มีการผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา และในสภาพที่มีความอบร้อนทำให้เกิดเหงื่อและความอับชื้น เมื่อรวมเข้ากับสารเคลือบที่อาจถูกทิ้งเอาไว้มากไป หรือการทำความสะอาดที่ไม่ดีพอจนเกิดการสะสมสารเคลือบมากขึ้นบนหนังศีรษะ ก่อให้เกิดความเหนอะหนะ กลิ่นเหม็นอับ อันเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ฝุ่นมลภาวะมาเกาะติดสะสมและกระตุ้นการอักเสบบนผิวหนัง (หนังศีรษะ) สารเคลือบต่าง ๆ โดยเฉพาะไขมัน น้ำมันจากพืช เมื่อผสมรวมกับซีบัม ไขมันที่ขับจากรูขุมขนเองตามธรรมชาติ สามารถเป็นอาหารของเชื้อราที่อาศัยบนพื้นผิวอย่างเช่น Malassezia furfur จนเพิ่มปริมาณมากไปจนเสียสมดุลและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เป็นสาเหตุของรังแค ผิวหนังอักเสบ หรืออาการเซ็บเดิร์ม ได้
ปูเป้เป็นคนที่มักมีปัญหากับหนังศีรษะที่คัน เป็นตุ่ม อักเสบ รังแค และเคยมองว่าส่วนผสม ‘ซิลิโคน’ ในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมเป็นต้นตอของปัญหา แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาปูเป้พบว่า ปัญหาเรื่องการคัน การอักเสบ รังแค นั้นมีสาเหตุผลหลักมาจากความมัน และเชื้อราที่กินไขมันเป็นอาหาร แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่ปราศจากซิลิโคนแต่มีน้ำมัน บัตเตอร์ ที่ว่ามาจากพืชธรรมชาติ หรือสารเคลือบอื่น ๆ ในปริมาณมาก และตกค้างบนหนังศีรษะมากไป ก็เกิดปัญหาอยู่ดี
ในขณะที่บางผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซิลิโคน แต่เคลือบในปริมาณที่เหมาะสม ปูเป้สามารถใช้ได้โดยที่ไม่มีปัญหา และปัจจุบันที่มีการฟอกสีผมจนจำเป็นต้องใช้ทรีตเมนต์ชนิดไม่ต้องล้างออกเพื่อช่วยเคลือบเส้นผมที่เสียมากจากการฟอกเคมี ซึ่งเต็มไปด้วยซิลิโคน แต่ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ใช้เฉพาะเส้นผมโดยเน้นมากที่ส่วนปลาย ไม่ให้โดนหนังศีรษะ ก็สามารถใช้ได้โดยไม่มีปัญหากับหนังศีรษะ ปูเป้จึงเข้าใจว่าสาเหตุของปัญหาหนังศีรษะคัน อักเสบ ที่ตัวเองประสบมา คือการสะสมจนเกิดความมัน เหนียว และอับชื้นบนหนังศีรษะ ไม่ใช่เพราะส่วนผสมตัวใดตัวหนึ่ง ดังนั้นการแปะป้ายซิลิโคนว่าเป็นส่วนผสมไม่ดีจึงเป็นสิ่งที่ผิดฝาผิดตัว
ดังนั้นหากคุณมีปัญหาเรื่องหนังศีรษะคล้ายกับปูเป้ ก็อยากแนะนำให้เลือกแชมพูที่ช่วยจะล้างความมันและสารเคลือบให้อยู่เหลือในระดับที่พอดี และถ้าจะใช้คอนดิชันเนอร์ ก็เลือกที่ไม่ทิ้งสารเคลือบไว้มากเกินไป และเน้นใช้ทรีตเมนต์สำหรับผมที่แห้งเสียเฉพาะส่วนปลาย เว้นการโดนโคนผมหรือหนังศีรษะ
สิ่งสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออก ควรล้างออกด้วยน้ำปริมาณมาก ทั้งสารลดแรงตึงผิวในแชมพู และสารเคลือบส่วนเกินในคอนดิชันเนอร์ที่เหลือมากไป จะก่อปัญหากับหนังศีรษะครับ
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น น่าจะเห็นภาพว่าหนังศีรษะและเส้นผมนั้นมีสิ่งที่ต้องการต่างกัน ดังนั้นแนวคิดของการดูแลและการเลือกผลิตภัณฑ์นั้นต้องหาสมดุลตรงนี้ให้เจอ การฟอกสีผมครั้งแรกในชีวิตเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมาทำให้ปูเป้เข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น และมีประสบการณ์กับตัวเองว่า แม้จะฟอกสีผมจนถึงระดับ 10 แล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องเปลี่ยนแชมพูและคอนดิชันเนอร์ที่เราเคยใช้ไปเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีหรือผมเสียจากการทำเคมีที่เคลือบผมเยอะ ๆ ลื่น ๆ ไปทั้งหมด
จริง ๆ ปูเป้ได้ลองเปลี่ยนแชมพู คอนดิชันเนอร์ยกชุดดูแล้ว ผมสวยลื่น เส้นผมที่ผ่านการฟอกสีรักมาก แต่หนังหัวพินาศสุด ๆ จนต้องกลับมาตายรังที่แชมพู กับคอนดิชันเนอร์ของ Curél เป็นพื้นฐาน เน้นที่เป็นมิตรกับหนังศีรษะ ทำความสะอาดได้พอดี ไม่ทำให้หนังศีรษะมันเหนอะหนะและไม่มากไปจนทำให้หนังศีรษะและเส้นผมแห้ง คอนดิชันเนอร์ที่ทิ้งสารเคลือบมากพอที่จะให้เส้นผมสางได้ลื่นขึ้นและไม่เป็นภาระระกับหนังศีรษะมากไป
ส่วนการดูแลเส้นผมที่ผ่านการฟอกที่มีความแห้งเสีย ก็จะมีการเสริมมีการใช้แชมพูเติมประกายสีผมเมื่อสีผมเริ่มจาง ส่วนการทำให้เส้นผมที่ผ่านฟอกกัดสีให้เรียบลื่นก็จะใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดไม่ต้องล้างออกที่เจาะจงบริเวณในการใช้ได้ง่ายกว่า
โดยสรุปแล้ว Curél : Intensive Moisture Care Hair Conditioner เป็นคอนดิชันเนอร์ที่มีส่วนผสมที่เรียบง่าย และทิ้งระดับของการเคลือบเส้นผมที่เพียงพอกับสภาพเส้นผมทั่วไปที่ไม่ได้แห้งเสียมาก และปูเป้ชอบใช้คู่กับ Curél : Intensive Moisture Care Foaming Shampoo เพราะระดับการทำความสะอาดนั้นทำให้ระดับของการหลงเหลือสารเคลือบนั้นไม่ก่อปัญหากับหนังศีรษะ สามารถใช้เป็น Clarifying Shampoo ได้ และคนที่ออกกำลังกาย หรือสระผมทุกวัน ก็ใช้เป็นแชมพูประจำวันได้เลย ส่วนสภาพเส้นผมฟอกสีที่แห้งเสียที่อาจต้องการการเคลือบที่มากพิเศษนั้นค่อยไปเพิ่มเป็นทรีตเมนต์แบบไม่ต้องล้างออกที่ใช้เฉพาะเส้นผมเพิ่มแทนได้
ปูเป้คิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในบทความนี้ไม่ใช่เรื่องการรีวิวส่วนผสม หรือบอกว่าคอนดิชันเนอร์ตัวนี้ดีอย่างไร แต่เป็นความเข้าใจในหลักการการดูแล และการหาสมดุลของการทำความสะอาดและการทิ้งสารเคลือบเอาไว้อย่างเหมาะสม และการดเข้าใจความต้องการและการดูแลของเส้นผมที่ต่างกันกับหนังศีรษะ และทำไมปูเป้ถึงเลือกใช้ Curél เป็นตัวยืนพื้นมาหลายปี และหวังว่าข้อมูลที่ปูเป้ให้เอาไว้ในบทความนี้จะช่วยให้สามารถหาแนวทางในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่เหมาะกับตัวเองได้ครับ
สำหรับใครที่สนใจ Curél ก็หาซื้อกันได้ง่ายม๊ากกกกกตามร้านชั้นนำอย่าง Matsumoto Kiyoshi / Tsuruha / Watsons / Beautrium / Donki หรือใครสะดวกออนไลน์ ก็มีทั้งทาง Lazada / Shopee
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
Curél : Intensive Moisture Care Hair Conditioner
Price : 420ml / 500 BAHT , Refill 340ml / 390 BAHT
Hair / Scalp Type : Sensitive Scalp / Normal Hair
Outstanding : Gentle / Lightweight
- คอนดิชันเนอร์สูตรเรียบง่าย อ่อนโยน ไม่ทิ้งสารเคลือบเอาไว้มากไป
- มีรีฟิลให้ซื้อเติมได้ ลดการสร้างขยะพลาสติก