ทุกคนรู้แฟนคลับรู้ ว่าปูเป้คือสาวก d program ขวดส้มมาตั้งแต่รุ่นก่อน แต่หลังจากที่ d program สูตรใหม่เข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา ปูเป้ได้ใช้โลชั่นของเขาทุกสูตรอย่างจริงจังและพบว่า โลชั่นขวดม่วงสูตรใหม่มาแรงแซงทุกสูตร กลายเป็นลูกรักไปแล้ว เพราะส่วนผสมที่มีอยู่ในเซรั่มราคาหลายพันที่เราชอบ เขาก็จับมาใส่ใน d program : Vital Act Lotion MB ขวดนี้!!!
จากที่เคยได้เกริ่นไปในรีวิวก่อนแล้วว่าสูตรใหม่ d program ชูเรื่องส่วนผสมที่เคลมว่าช่วยเสริมสมดุลของ Microbiota (ประชากรจุลิทรีย์หรือจุลชีพที่ตั้งรกรากในร่างกายมนุษย์) ซึ่งมีข้อมูลจากแลปของเครือชิเซโด้ ได้ศึกษาและพบว่าในผิวที่แข็งแรงและผิวที่อ่อนแอนั้นมีความหลากหลายของสายพันธุ์ของแบคทีเรียประจำถิ่นของผิวที่ต่างกันไป โดยในผิวที่อ่อนแอ ระคายเคืองง่าย หรือมีการอักเสบนั้น จะมีปริมาณของแบคทีเรีย Staphylococcus aureus (S. aureus) ในสัดส่วนที่สูงกว่า Staphylococcus epidermidis (S. epidermidis) นอกจากนี้ยังพบว่าผิวที่มีสัดส่วนของ S. epidermidis ที่สูงจะมีความชุ่มชื้นที่มากกว่ากลุ่มที่มีแบคทีเรียตัวในสัดส่วนที่น้อยกว่าด้วย
สูตรใหม่นี้จึงมีการใช้ Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate มารวมกับ Glycerin และใช้ชื่อว่า Yeast Extract Complex ซึ่งข้อมูลจากชิเซโด้แลปพบว่าสารสกัดจากยีสต์นี้ช่วยเพิ่มสัดส่วนของ S. epidermidis ที่ดีกับผิว โดยที่ไม่เพิ่ม S. aureus ที่ก่อการอักเสบให้กับผิว จึงช่วยให้ผิวมีสมดุลของ Microbiota ที่ดี
นอกเหนือจากช่วยเรื่องเสริมสมดุลของ Microbiota แล้ว สารสกัดยีสต์ตัวนี้เคยถูกใช้ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆในเครือชิเซโด้เพื่อช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิว โดยข้อมูลชี้ว่าทำงานผ่านกลไก integrin-α5 ที่ช่วยให้โครงข่ายเส้นเลือดฝอยใต้ผิวมีความแน่น และเสริมการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย
ส่วนผสมที่เสริมความแข็งแรงผิว ก็ถูกอัพเกรดมาเป็น DP Complex อันประกอบไปด้วย Erythritol กับ Glycerin ที่ช่วยเสริม Skin Barrier ผ่านกลไกเสริมการพัฒนาตัวของ CE หรือ Cornified Envelopes และเพิ่ม Xylitol ซึ่งการศึกษาของชิเซโด้แลปที่ตีพิมพ์เอาไว้ชี้ว่าส่วนผสมของ Xylitol ยังช่วยยับยั้งการสร้างสาร Glycocalyx ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของไบโอฟิลม์ที่ S. aureus ผลิตออกมาเพื่อยึดเกาะและอาศัยบนพื้นผิวหนัง ผลก็คือช่วยปรับสมดุลของ Microbiota ได้ และยังมี Trehalose ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิวได้ดีอีกด้วย
ส่วนผสมพื้นฐานที่ยังมีอยู่ในทุกสูตรอีกเช่นเคยก็คือ Tranexamic Acid ที่ช่วยลดความหยาบกร้านของผิวและมีคุณสมบัติในการลดความหมองคล้ำผ่านกลไกต้านการอักเสบ และกดการทำงานของ Endothelin-1 (ET-1) ที่ไปกระตุ้น กระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน และมี Dipotassium Glycyrrhizate ช่วยต้านการระคายเคือง
ส่วนผสมหลักที่มีอยู่เฉพาะใน d program : Vital Act Lotion MB (125ml / 1,190 BATH) ก็คงจะเป็น Vital Act Complex ซึ่งจะมีสารสกัดจากพืชอีก 5 ชนิดที่ทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่าช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำให้ดูจางลง เพื่อผิวดูเนียนนุ่มอ่อนเยาว์ อิ่มน้ำและกระจ่างใส แต่เราจะบอกว่าถ้าคุณเจาะลึกสิทธิบัตรและเทคโนโลยีของเครือนี้ก็จะเข้าใจทันทีว่ามันคือเทคโนโลยีหลักที่ผลิตภัณฑ์ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ในเครือนี้กำลังใช้กันอยู่เลยล่ะ
Averrhoa Carambola Leaf Extract หรือสารสกัดจากใบมะเฟือง เป็นส่วนผสมใหม่ในสูตรนี้ จากการสืบค้นสิทธิบัตรพบว่าเครือนี้ใช้สารจากบริษัท Maruzen ซึ่งจดสิทธิบัตรสารสกัดจากมะเฟืองในรูปแบบต่าง ๆ ว่าเป็น Tie2 Activator ซึ่งทางเครือชิเซโดได้ศึกษาและพบว่า โปรตีนที่สำคัญอย่าง Tie2 (Endothelium-Specific Receptor Tyrosine Knase 2) ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นโปรตีนยึดเกี่ยวของหลอดเลือดฝอยและท่อน้ำเหลืองมีความแข็งแรง จึงช่วยเสริมระบบไหลเวียนใต้ผิวที่ด้อยประสิทธิภาพลงจากทั้งวัยที่เพิ่มขึ้นและการทำร้ายจากรังสี UV สารสกัดตัวนี้เป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ IPSA : Serum 0
Prunus Yedoensis Leaf Extract หรือสารสกัดจากใบซากุระ Yoshino Cherry ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ถูกเคลมว่าช่วยลดโทนเหลืองหมองคล้ำของผิวจากวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสารสำคัญใน Shiseido : White Lucent Illuminating Micro-Spot Serum
และนอกจากนี้ทางเครือชิเซโดได้มีการจดสิทธิบัตรว่าสารสกัด Prunus Yedoensis Leaf Extract (รวมไปถึง Houttuynia Cordata Extract และ Azadirachta Indica Leaf Extract) มีคุณสมบัติเป็น APJ Activator ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญในการกระตุ้นให้หลอดเลือดฝอยมีความแข็งแรง มีผลต่อความยืดหยุ่นของผิว ซึ่งคุณสมบัติในการเป็น APJ Activator นี้คือเทคโนโลยี The Lifeblood™ ที่เป็นจุดขายหลักใน Shiseido : Ultimune Power Infusing Concentrate สูตรล่าสุด
สารสกัดที่เหลืออีกสามตัวเป็นสารที่เคยมีอยู่ในสูตรเดิม ได้แก่ Ononis Spinosa Root Extract ซึ่งถูกจดสิทธิบัตรว่าช่วยเสริมการสร้าง Laminin-5 ซึ่งเป็นโมเลกุลที่สำคัญต่อความแข็งแรงของชั้น Dermal-Epidermal Junction ที่เสื่อมคล้อยลงตามวัยที่เพิ่ม กับขึ้น Crataegus Monogyna Flower Extract ซึ่งป็นส่วนผสมที่ถูกเคลมว่าช่วยเสริมการไหลเวียนใต้ผิว มักถูกผสมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ดูแลเรื่อโทนผิวและการเป็นไวท์เทนนิ่ง และ Rosa Roxburghii Fruit Extract ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและถูกจดสิทธิบัตรว่าช่วยเพิ่มเอนไซม์ Bleomycin Hydrolase ซึ่งมีข้อมูลที่ชี้ว่าทำหน้าที่ย่อยโปรตีน Filaggrin ซึ่งป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตัวของ NMF ในชั้นผิวเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและแข็งแรง
โดยรวมสูตรใหม่มีการอัพเกรดในส่วนของเทคโนโลยีที่เป็นแนวทางหลักของเครือนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนใต้ผิว และมีคุณสมบัติในการช่วยต้านโทนเหลืองของผิวเพิ่มขึ้นมา โดยยังคงส่วนผสมที่ช่วยเรื่องริ้วรอยผ่านกลไกเสริมความแข็งแรงของ Dermal-Epidermal Junction
Ingredients : Water, Glycerin, Butylene Glycol, Dipropylene Glycol, PEG-32, PEG-6, Erythritol, PEG/PPG-17/4 Dimethyl Ether, Tranexamic Acid, Trehalose, Xylitol, Phenoxyethanol, Isostearic Acid, Hydrogenated Polydecene, PEG-30 Phytosterol, Carbomer, Sodium Metaphosphate, Dipotassium Glycyrrhizate, Xanthan Gum, Potassium Hydroxide, Sorbitan Sesquiisostearate, Sodium Metabisulfite, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Averrhoa Carambola Leaf Extract, Ononis Spinosa Root Extract, PEG/PPG-14/7 Dimethy1 Ether, Rosa Roxburghii Fruit Extract, Crataegus Monogyna Flower Extract, Prunus Yedoensis Leaf Extract, Tocopherol.
สำหรับคนที่เคยใช้โลชั่นสูตรสีส้มและอยากมาลองสูตรสีม่วงก็ต้องบอกว่าสองสูตรนี้ต่างกันคนละขั้วเลยครับ เพราะในขณะที่ d program : Acne Care Lotion MB เป็นโลชั่นน้ำที่บางเบา แต่ d program : Vital Act Lotion MB นั้นเป็นไมโครอิมัลชั่นที่มีสารกลุ่ม Emollients อย่าง Isostearic Acid และ Hydrogenated Polydecene ช่วยเคลือบผิวให้นุ่มและลดการระเหยออกของความชุ่มชื้น
จากในรูปจะเห็นได้ว่า โลชั่นขวดม่วงนี้จะเซ็ทตัวแบบฉ่ำ ๆ มีความเคลือบผิวบาง ๆ ดังนั้นคนที่ชอบเนื้อบางเบา ไม่มีความเคลือบผิว ก็จะชอบขวดส้มมากกว่า แต่ถ้ารู้สึกว่าผิวไม่อิ่มเอิบ ไม่ชุ่มชื้น ล้างหน้ามาแล้วผิวแห้ง หรือนอนตื่นมาแล้วผิวยับแห้ง ขวดสีม่วงจะตอบโจทย์ปัญหาผิวพวกได้ดีกว่าครับ
ซึ่งปูเป้มีแนวคิดในการเลือกใช้ว่า ถ้ากังวลเรื่องความเหนอะหนะผิวในตอนกลางวัน ก็ใช้โลชั่นสีม่วงกับสกินแคร์ที่เรียบง่าย ร่วมกับกันแดดที่เซ็ทตัวแบบกึ่งแมทนิดหน่อยก็จะพอดีครับ แต่ถ้าเน้นอยากเลเยอร์สกินแคร์ เอาความสบายผิวก็ช้เป็นโลชั่นขวดส้มในตอนกลางวัน และใช้ขวดสีม่วงในตอนกลางคืนที่ผิวแห้งและเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่า
โดยสรุปแล้ว d program : Vital Act Lotion MB เป็นโลชั่นน้ำที่ส่วนตัวปูเป้จะใช้ต่อไปเรื่อย ๆ เป็นพื้นฐาน เพราะทั้งเนื้อสัมผัส ระดับการให้ความชุ่มชื้น นั้นตอบโจทย์กับสภาพผิวผสมแต่มีปัญหาขาดน้ำได้ง่าย ผิวแห้งหรือสูญเสียความชุ่มชื้นง่ายขึ้นเพราะผิวมีความต้านทานต่ำลงจากวัยที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตอนกลางคืนยามเข้านอน ไม่นับว่าสารแอคทีฟหลักที่ใช้ในโลชั่นขวดสีม่วงนี้ คือสารตัวเดียวและกลไกเดียวกับที่อยู่ในเซรั่มละหลายพันที่ตัวเองชอบและเคยใช้หมดมาเกือบสิบขวด ทำให้ปูเป้สามารถลดขั้นตอนการบำรุงผิว เซฟเวลาและโยกเงินไปลงทุนกับเซรั่มหรือสารแอคทีฟตัวอื่นที่ตัวเองต้องการได้
ตอนนี้ d program นอกจากจะมีจำหน่ายในร้าน Watsons และ Watsons Online แล้ว ก็ยังสามารถเลือกซื้อได้ทาง d program Official Shop ทั้งบน Lazada และ Shopee อีกด้วยครับ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
d program : Vital Act Lotion MB
Price : 125ml / 1,190 Baht
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Hydration, Skin Tone, Brightening, Anti-Aging, Barrier Repair
- รวบตึงเทคคโนโลยีสำคัญของเครือชิเซโด้มาไว้ในขวดนี้ ทั้งเสริมความแข็งแรงผิว ชะลอริ้วรอย เสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียนใต้ผิว และดูแลเรื่องผิวหมองโทนเหลืองเหลืองและแดงให้ดีขึ้น
- ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม และสารที่ระคายเคืองผิวได้ง่าย
- เนื้อโลชั่นฉ่ำผิว ให้ผิวชุ่มชื้นดี
- การศึกษาและข้อมูลส่วนใหญ่มาจากเครือชิเซโด้เอง