ปัญหาเรื่องผิวบวมเต่งไปด้วยของเหลวส่วนเกินทำให้ใบหน้าไม่ได้รูป กรอบหน้าไม่ชัด และดูไม่สดใส น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนมีความกังวลอยู่ ซึ่งแนวคิดในเรื่องการกดจุดเพื่อช่วยเดรนของเสียของเหลวส่วนเกินใต้ผิวไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไร การเปิดตัว IPSA : Serum 0 (50ml / 3,500 BAHT) ที่ออกตัวแรงว่าเป็นวิทยาการล้ำหน้าด้วยแนวคิดใหม่ในการดีท็อกซ์ผิว จึงทำให้เราเองก็กังขาว่า ในเมื่อผลิตภัณฑ์นี้ก็แนะนำให้ใช้คู่กับกดและกระตุ้นการไหลเวียนใต้ผิว แล้วมันจะใหม่ตรงไหน ผลที่ได้ก็น่าจะมาจากการนวดกดมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ไม่ใช่รึ? มันจะต่างอะไรกับการที่เรานวดเองที่บ้านโดยไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ว่านี้ล่ะ?

แต่พอได้ลองแล้วผลที่ได้ก็ทำให้เราต้องแปลกใจ เพราะท่าที่เขาแนะนำให้ใช้ก็มีขั้นตอนที่น้อยและเรียบง่ายกว่าปกติที่เราทำเสียอีก แต่ว่ามันสังเกตได้เลยว่าเฮ้ย อาการบวมของผิวน้อยลง โครงและกรอบหน้าชัดขึ้น คนทักจริงๆว่าหน้าเราเล็กลงไปอีก ทั้งที่ไลฟ์สไตล์เหมือนเดิม น้ำหนักเท่าเดิม แค่เปลี่ยนท่านวด กับเพิ่มผลิตภัณฑ์ IPSA : Serum 0 เข้าไป  ก็เลยลองไปหาข้อมูลดูว่าวิทยาการใหม่ที่ว่ามันคืออะไร มันมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการไหลเวียนการขับของเสียใต้ผิวอะไรที่เรายังไม่รู้อีกรึเปล่า และก็พบข้อมูลที่เปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองที่คอยขจัดของเสียและของเหลวส่วนเกินใต้ผิวไปอีกขั้น

Circulatory System & Lymphatic System Basics

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ระบบไหลเวียนใต้ผิวที่เราจะพูดถึงกันในแง่ของการบำรุงผิวก็มักจะมีหลัก สองระบบ ก็คือ ระบบไหลเวียนโลหิต (Circulatory/Cardiovascular System) กับ ระบบน้ำเหลือง (Lymphatic System) ซึ่งเป็นระบบที่ทำงานสอดประสานร่วมกัน

ระบบไหลเวียนโลหิต จะส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงทุกเซลล์ของร่างกาย โดยในเลือดก็จะประกอบได้ด้วยส่วนที่เป็นเซลล์อย่างเซลล์เม็ดเลือดแดงในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ (และก็มีเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดด้วย) กับส่วนที่เป็นพลาสม่าอันจะประกอบไปด้วยของเหลว ที่คอยนำพาโปรตีน กรดไขมัน ฮอร์โมนต่าง ซึ่งเลือดจะถูกส่งผ่านไปยังทุกเซลล์ของร่างกายโดยอาศัยแรงดันของ “หัวใจ” ทำหน้าที่เป็นเหมือน “ปั้ม” นั่นเอง

ระบบน้ำเหลือง เป็นหนึ่งในระบบของภูมิคุ้มกันและคอยรักษาสมดุล เพราะทำหน้าที่ในการรับของเหลวส่วนเกินที่อยู่ด้านนอกของเซลล์กลับมาเข้ามาทางท่อน้ำเหลือง (Lymph Vessel) และก็ยังเป็นระบบที่นำพาโปรตีนเสื่อมสภาพ หรือสิ่งแปลกปลอมอย่างแบคทีเรีย ไวรัส ลำเลียงไปยังตับเพื่อทำการแตกตัว  Beakdown หรือไปยังไตเพื่อทำการขับออกจากร่างกาย ระบบน้ำเหลืองยังทำหน้าที่ในการลำเลียงฮอร์โมน กรดไขมันเข้าสู่ระบบไหวเวียนโลหิตอีกด้วย 

สิ่งที่แตกต่างสำคัญคือ ระบบน้ำเหลืองไม่มีปั้มของตัวเอง ดังนั้นระบบน้ำเหลืองจะเคลื่อนไหวได้ผ่านแรงของการบีบตัวของหลอดเลือด และการบีบและคลายตัวของกล้ามเนื้อ ดังนั้นผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย รวมไปถึงไม่ค่อยได้มีการนวดกระตุ้นการไหลเวียน จะทำการไหลเวียนของน้ำเหลืองไม่ดี และเกิดการคั่งค้างของของเหลวส่วนเกินและของเสียที่สะสมอยู่ได้ การกินอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงอย่างอาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูป ก็ทำให้เกิดการบวมน้ำมากขึ้นเพราะร่างกายจะพยายามรักษาระดับของโซเดียมไม่ให้เข้มข้นเกินไปโดยการสะสมน้ำเข้าไปเจือจาง

พวกของเหลวส่วนเกินก็มาจากระบบไหลเวียนโลหิตของเรานั่นแหล่ะ เส้นเลือดฝอยที่ทำหน้าที่ลำเลียงสารสำคัญเหล่านี้ไปยังเซลล์นั้นมีขนาดเล็กมาก มีความบางเพียง 1 ชั้นเซลล์เท่านั้น และท่อลำเลียงนี้ก็มีช่องว่างขนาดเล็กที่ทำให้โมเลกุลของเหลวอย่างน้ำและอื่น สามารถไหลออกไปได้ ซึ่งของเหลวที่รั่วออกไปเหล่านี้จะถูกดูดกลับไปโดยระบบน้ำเหลืองเพื่อนำกลับเข้าไปใช้ หรือขับออกจากร่างกาย

โปรตีนเสื่อมสภาพต่าง นั้นไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เซลล์ผลิตหรือส่วนที่เป็นโครงสร้างต่าง ๆใต้ชั้นผิวและในร่างกายของเราอันมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการเสื่อมและผลิตทดแทนกันอยู่แล้ว นอกจากนี้เวลามีสิ่งแปลกปลอม มีเชื้อโรคเข้ามา ระบบภูมิคุ้มกันก็จะเข้าไปจับก่อนที่จะจัดการแล้วก็ตายไปนั่นก็เป็นของเสียเช่นกัน โดยทั้งของเหลวส่วนเกิน โปรตีนส่วนเกินและของเสียหรือสารแปลกปลอมที่ต้องถูกกำจัด จะไหลเข้าไปในท่อน้ำเหลือง ผ่านระบบน้ำเหลือง ซึ่งในต่อมน้ำเหลือง หรือ Lymph Node ตามจุดต่าง ๆ ก็มีเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันที่คอยจับกับสารแปลกปลอมต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่ง และระบบที่เกี่ยวข้องยังมีการคัดแยก ทำลาย แตกตัวโมเกลกุลต่าง ๆ โดยบางส่วนก็นำกลับไปรีไซเคิลไปใช้ในร่างกาย บางส่วนก็ถูกขับออก

การนวดเพื่อกระตุ้นการขับของเสียและของเหลวส่วนเกินไม่ใช่สิ่งใหม่ มีสารพัดเทคนิคที่นำมาใช้กัน และใครที่เคยมีประสบการณ์กับการนวดแบบนี้ ก็จะต้องสังเกตได้ว่าเวลาหลังจากนวดเสร็จเราจะปวดเข้าห้องน้ำแม้ว่าก่อนนวดจะเข้าห้องน้ำมาแล้วก็ตาม (ซึ่งการบอกว่า Detox ในบริบทนี้ คำว่า Toxin ที่สินค้าและบริการต่าง ๆ อ้างอิงถึง ก็จะหมายของเสียและของเหลวส่วนเกินใต้ผิวนั่นเอง ไม่ใช่สารพิษอย่างพวกโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง หรือมลพิษอะไรนั่น)

(Source : Lymphatic System Flows, Anatomy of the Lymphatic and Immune Systems, Lymphatic Vessels, Inflammation, and Immunity in Skin Cancer

Lymphatic System and Skin Aging

ที่กล่าวไปข้างบนคือสิ่งที่ปูเป้เข้าใจเกี่ยวกับระบบน้ำเหลืองและเชื่อว่าหลายคนก็เข้าใจในคอนเซปต์ของมันประมาณนี้แหล่ะ แต่สิ่งที่ปูเป้พึ่งทราบในการหาข้อมูลครั้งนี้ก็คือ ท่อน้ำเหลืองใต้ผิวนั้นเสื่อมประสิทธิภาพและเกิดการรั่วได้ อันมาจากวัยที่เพิ่มขึ้นและการถูกทำร้ายโดยรังสี UV

ทำให้ต่อให้เราออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีการนวดกระตุ้นการไหลเวียนอยู่เรื่อย แต่ท่อน้ำเหลืองที่ถูกทำลายจนเกิดการรั่ว ก็จะมีประสิทธิภาพด้อยลงในการระบายของเสียออกจากระบบ และก่อให้เกิดการอักเสบใต้ผิว ส่งผลทำให้การทำงานของผิวแย่ลง และทำให้เกิดริ้วรอยได้ ซึ่งกลไกนี้เป็นสิ่งที่พึ่งถูกค้นพบเป็นครั้งแรกโดยทีมวิจัยของเครือชิเซโด้ และตีพิมพ์เอาไว้ตั้งแต่ช่วงปี 2009-2012

โดยสรุปง่าย คือการรังสี UVB นั้นทำให้ผิวเกิดความเสียหายในระดับเซลล์ของผิว และส่งผลต่อระดับของ Vascular Endothelial Growth Factor (VEGF) โดยรังสี  UVB จะเพิ่มปริมาณ VEGF-A แต่ลดปริมาณของ VEGF-C ซึ่งส่งผลให้โปรตีน Claudin‐5 ซึ่งช่วยทำให้การยึดเกี่ยวของเซลล์ที่ประกอบกันเป็นท่อน้ำเหลืองนั้นน้อยลง และเกิดการรั่วไหลของท่อน้ำเหลืองนั่นเอง

นอกจากนี้เขายังพบว่าอีกโปรตีนที่สำคัญอย่าง Tie2 (Endothelium-Specific Receptor Tyrosine Knase 2) ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นโปรตีนยึดเกี่ยวที่ทำให้ท่อน้ำเหลืองแข็งแรงนั้นก็ลดน้อยไปตามวัยเช่นกัน

โมเลกุลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นั้นรับรู้กันมาก่อนหน้าแล้วว่ามีผลต่อความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของระบบหลอดเลือด แต่เครือชิเซโด้ได้ค้นพบเป็นครั้งแรกว่าโมเลกุลเหล่านั้นมีผลต่อระบบท่อน้ำเหลืองเช่นกัน จึงเป็นกลไกใหม่ที่ถูกค้นพบ และได้จดสิทธิบัตรส่วนผสมที่กระตุ้นโปรตีน Tie2 เพื่อการเสริมพลังให้กับระบบน้ำเหลืองเพื่อช่วยขับของเสียและเป็นอีกกลไกในการดูแลปัญหาผิวจากวัยที่เพิ่มขึ้นและการทำร้ายจากรังสี  UV ซึ่งสิทธิบัตรพึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2019 นี่เอง และการวิจัยที่กล่าวมาพึ่งได้รับรางวัลจากการนำไปเสนอในงาน China Cosmetics Academic Research Conference เมื่อปี 2018 ด้วย  ถือว่าเป็นการศึกษาที่ทำมาเป็นสิบปี กว่าที่จะเห็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้แนวคิดนี้จะออกมาสู่มือผู้บริโภคอย่างเรา

เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่เบิกเนตรมาก คือนึกไม่ถึงมาก่อนจริง ว่าระบบน้ำเหลืองมันเสื่อมทั้งจากวัยที่เพิ่มขึ้นและจากการทำร้ายจากปัจจัยภายนอกด้วย และการด้อยประสิทธิภาพในการขับของเสียใต้ผิวนั้นก็ส่งผลให้เกิด Inflammation ที่ทำให้ผิวเสีย ไม่สดใส ริ้วรอย และการบวมที่ทำให้กรอบหน้าไม่ได้รูปชัดนั่นเอง

(Source : A Novel Mechanism of Cutaneous Photo-Aging Mediated by the Impairment of Lymphatic Function and the Protective Role of a Lymphatic-promoting Compound, The Molecular Basis of Skin Aging Triggered by Lymphatic and Blood Vascular Dysfunction, Promotion of lymphatic integrity by angiopoietin-1/Tie2 signaling during inflammation., Claudin-5 haploinsufficiency exacerbates UVB-induced oedema formation by inducing lymphatic vessel leakage., Shiseido Wins First Prize and Two Second Prizes for Excellent Research Papers at the 12th China Cosmetics Academic Research Conference, Antiedema effects of Siberian ginseng in humans and its molecular mechanism of lymphatic vascular function in vitro., Stabilizer for lymph vessel, Tie2 ACTIVATOR AND LYMPH VESSEL STABILIZER, Tie2 activation agent, agent for maturing, normalizing or stabilizing blood vessel, agent for stabilizing lymphatic vessel, wrinkle-preventing and improving agent and dropsy-improving and preventing agent, Tie2 ACTIVATOR, VASCULAR ENDOTHELIAL GROWTH FACTOR (VEGF) INHIBITOR, ANTI-ANGIOGENIC AGENT, AGENT FOR MATURING BLOOD VESSELS, AGENT FOR NORMALIZING BLOOD VESSELS, AGENT FOR STABILIZING BLOOD VESSELS, AND PHARMACEUTICAL COMPOSITION)

Product’s Formula

ในแง่ของส่วนประกอบนั้น ผลิตภัณฑ์ IPSA : Serum 0 (50ml / 3,500 BAHT)ตัวนี้มีแอคทีฟที่เรียบง่ายมากดยมีตัวหลักแค่ 3 ตัวเท่านั้น โดยตัวสำคัญที่สุดในนี้ก็คือ Averrhoa Carambola Leaf Extract หรือสารสกัดจากใบมะเฟือง ซึ่งจากการค้นข้อมูลพบว่าทางทีมวิจัยไม่ได้มีสิทธิบัตรอะไรในสารสกัดตัวนี้ แต่เลือกใช้สารสกัดจากใบมะเฟืองของบริษัท Maruzen เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตส่วนผสมเครื่องสำอางชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งจดสิทธิบัตรสารสกัดจากมะเฟืองในรูปแบบต่าง ว่าเป็น Tie2 Activator หรือเพิ่มปริมาณของโปรตีน Tie2 จึงช่วยในการเสริมความแข็งแรงของระบบการขจัดของเสียใต้ผิว

Houttuynia Cordata Extract หรือสารสกัดจากต้นพลูคาวหรือผักคาวตอง ถูกใช้เป็นพืชสมุนไพรในหลายแง่ และมีการทำเป็นชาสมุนไพรเพื่อดีท็อกหรือขับพิษกันมาแต่โบราณ พืชตัวนี้มีโปแตสเซียมสูงซึ่งตามหลักการก็ช่วยลดการบวมน้ำผ่านการไปแทนที่เกลือโซเดียม แต่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ทาง Shiseido ได้มีการจดสิทธิบัตรเอาไว้ว่าเป็น APJ Activator ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญในการกระตุ้นให้หลอดเลือดฝอยมีความแข็งแรง โดยการศึกษาว่ายังมีคุณสมบัติเป็น VE-cadherin Activator ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญที่ทำให้โครงสร้างหลอดเลือดฝอยแข็งแรงอีกด้วย

แม้ว่าทาง IPSA จะไม่ได้เคลมเอาไว้ แต่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็ช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งการศึกษาของ Shiseido ได้แสดงให้ห็นว่า โครงข่ายเส้นเลือดฝอยมีผลต่อความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว โดยในคนผิวอายุน้อยที่มีเส้นเลือดฝอยใต้ผิวที่หนาแน่นและแข็งแรงกว่า จะมีความกระชับของผิวที่มากกว่า  การค้นพบนี้ทำได้เพราะการพัฒนาเทคนิคการแสดงภาพระบบหลอดเลือดใต้ผิวแบบ 3D ที่เครือ Shiseido เป็นผู้พัฒนานั่นเอง

Camellia Sinensis Leaf Extract ทางแบรนด์บอกว่าเป็นสารสกัดจากใบชาจีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และไปจัดการกับผลกระทบที่มาจาก inflammation ไม่ว่าจะจาก UV หรือที่เกิดขึ้นในผิว อันนี้เป็นสิ่งที่รู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว

Ingredients : Water, Alcohol, Dipropylene Glycol, PEG/PPG-17/4 Dimethyl Ether, Glycerin, PEG-8, Sodium Chloride, PEG-32, PEG-6, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Phenoxyethanol, Gellan Gum, Sodium Citrate, Hydroxyethyl Urea, Hydrogenated Dimer Dilinoleyl PEG-44/Poly(1,2-Butanediol)-15 Dimethyl Ether, Disodium EDTA, Butylene Glycol, Lactic Acid, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Calcium Chloride, Menthol, Citric Acid, Sodium Metabisulfite, Ammonium Lactate, Potassium Hydroxide, Averrhoa Carambola Leaf Extract, Camellia Sinensis Leaf Extract, Houttuynia Cordata Extract, Tocopherol.

Usage & Result

ในแง่ของเนื้อสัมผัสนั้นเป็นเซรั่มที่มีความหยุ่นเล็กน้อย ค่อนข้างบางเบา และไม่เพิ่มความหนักบนผิวเท่าไหร่  ส่วนตัวได้ลองตั้งแต่ยังไม่เห็นส่วนผสมอะไรเลยแต่สัมผัสได้ว่ากลิ่นของ Menthol ที่ปกติจะไม่อยากให้ใส่มา เพราะไม่ชอบอะไรเย็น บนหน้า แต่ตัวนี้ลองแล้วไม่รู้สึกว่ามันเย็น มันวาบ หรืออะไรบนผิวเท่าไหร่ เพราะว่าสกินแคร์ที่ใช้ก็ค่อนข้างฉ่ำผิวอยู่แล้วเลยไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างอะไรมาก แต่ถ้าลองบนหลังมือที่แห้ง ๆ แล้วทิ้งไว้สักพักก็จะพอจับความรู้สึกเย็น ๆ บนผิวได้อยู่บ้าง แต่โดยรวมคือมันไม่เย็นผิวมากเท่าไหร่ ก็เลยใช้มาจนครึ่งขวดโดยไม่พบปัญหาอะไร ส่วนตัวจึงไม่ซีเรียสตรงนี้นัก 

ตอนมาอ่านส่วนผสมก็ได้เห็นว่าตัวนี้มีแอลกอฮอล์เป็นลำดับที่สองซึ่งไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่เนื่องจากเนื้อเซ็ทตัวได้เบามาก แต่เนื่องจากมีการใส่ตัวให้ความชุ่มชื้น มี Hydroxyethyl Urea รวมไปถึงการใช้คู่กับ IPSA : ClearUp  Lotion สูตรเบอร์ 2 ที่เน้นความชุ่มชื้นและชดเชยน้ำมันบางส่วน รวมกับขั้นตอนการบำรุงผิวโดยรวม ก็ไม่พบว่าผิวแห้งหรือกร้านขึ้น 

วิธีในการใช้คือ 3 ปั้มทาให้ทั่วผิวหลังจากเช็ดโลชั่นเช็ดหน้า ก่อนใช้เอสเซนส์น้ำหรือเซรั่มตัวอื่น ประคบให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ซึ่งหลังจากทาทั่วแล้วก็มีท่านวดกระตุ้นการไหลเวียนใต้ผิวแบบ ZERO Method แบบในภาพด้านบน ที่ทำได้ง่ายมาก แถมใช้เวลาแค่นิดเดียว น้อยกว่าวิธีที่ปกติเราทำอยู่เยอะทีเดียว

1. ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้คีบปลายคางไว้ ก่อนออกแรงกดเบๆ ส่งผ่านทางหัวแม่มือระหว่างที่ลากไปตามกรอบหน้าจนถึงตำแหน่งใต้ใบหู (ทำซ้ำ ครั้ง)

2. กำมือ และแตะลงตรงใต้โหนกแก้มตำแหน่งใกล้ปีกจมูก จากนั้นจึงออกแรงกดระหว่างดันกำมือตรงขึ้นไปหาสันแก้ม ต่อเนื่องจนถึงด้านหน้าใบหู (ทำซ้ำ ครั้ง)

3. ใช้นิ้วกลางแตะลงตรงตำแหน่งต่อมน้ำเหลืองด้านหน้าใบหู  แล้วออกแรงกดเบา ๆ ระหว่างเคลื่อนมือไปสู่ด้านหลังใบหู ก่อนลากนิ้วลงไปตามลำคอลงสู่ตำแหน่งต่อมน้ำเหลืองตรงไหปลาร้า (ทำครั้งเดียว)

หรือจะดูในวีดีโอที่ปูเป้ทำเป็นตัวอย่างไว้ก็ได้ครับ

ผลที่ได้จากการใช้มาประมาณครึ่งขวด ทำให้เราก็รู้สึกว่าเออเวลาตื่น แล้วอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านช่วงสาย ๆ หรือตอนบ่าย หน้าเรามันบวมน้อยน้ำน้อยลง และโครงหน้าชัดขึ้น แต่ก็ยังคิดว่าเรารู้สึกไปเองรึเปล่า คือโดยปกติเป็นคนที่มีออกกำลังกายบ้าง เวลาทาสกินแคร์ก็จะมีการนวดกดจุดเพื่อไล่การบวมอยู่แล้ว แต่เรื่องกินอาหารขยะ กินจังค์ฟู้ด กินขนมเนี่ยไม่เคยเลี่ยงเลย ทำให้โครงหน้าของเราที่แน่นอนว่าเรียวและเล็กลงกว่าสมัยก่อนมากจากการจัดฟัน (ตอนนี้ฟันเหลือ 24 ซี่) แต่จะเห็นว่าแนวกรามจะมีการบวมอยู่บ้าง และเห็นรองแก้มจาง ๆ ซึ่งเราก็คิดว่านั่นคือที่ดีที่สุดที่เราจะเป็นได้แล้ว (แบบรูปซ้าย)

แต่พอดีวันนึงไปงานอีเวนต์ตามปกติแล้วได้รูปภาพจากที่ช่างภาพถ่ายมา (รูปขวา) มันเห็นชัดมากกว่ากรอบหน้าเราชัดกว่าแต่ก่อนจริง ๆ แนวขากรรไกรคมขึ้น ช่วงแก้มบวม คือลดลงไปเลย และสิ่งที่สังเกตเห็นอีกอย่างคือร่องแก้มดูน้อยลงด้วย และช่วงที่ลองใช้คือมีคนทักจริง ๆ ว่าหน้าเราดูเล็ก ดูเรียวไปอีก น้ำหนักลดรึเปล่าซึ่งน้ำหนักเราไม่ได้ลดลงเลย

แม้ว่าส่วนตัวจะมีความรู้สึกที่ปะปนกันว่ากรอบหน้าที่ดูชัดขึ้นมันก็ดีในแง่นึงในการถ่ายรูป คือเห็นเหนียงน้อยลง ส่วนเรื่องร่องแก้มที่ดูน้อยลงเราก็แฮปปี้ทีเดียวเพราะมันคือสิ่งที่กังวลอยู่พอดี แต่เรื่องแก้มที่เดิมมันเคยดูเต็มเพราะบวมน้ำ (ที่เราเข้าใจไปเองว่ามันคือเบบี้แฟต) ทำให้หน้าดูกลม ดูเด็ก มันหายไป ก็รู้สึกว่าเอ๊ะ แก้มเริ่มตอบไปรึเปล่า พอหน้าหายบวม หน้าดูเรียว ก็กลายเป็นมีอันนี้คือกลายเป็นความกังวลใหม่ขึ้นมาแทนซะนั่น!!!

Conclusion

โดยรวมแล้ว IPSA : Serum 0 เป็นเซรั่มที่ส่วนผสมเรียบง่ายมาก แต่แนวคิดเบื้องหลังนั้นเปิดโลกความเข้าใจของกลไกผิวที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งยอมรับตรงนี้เลยว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรกับสิ่งนี้เลยตอนที่ได้มาลอง แต่สำหรับเรามันได้ผลแบบที่เราและคนอื่นสังเกตเห็นจนมาทัก โดยรวมเราแฮปปี้นะ แต่เราคงต้องหาทางเพิ่มวอลลุ่มของแก้มแทนที่การบวมน้ำที่หายไปด้วยวิธีอื่น เพื่อให้โครงหน้าดูชัดแต่แก้มดูไม่ซูบไปกว่านี้

เรามองว่าสำหรับใครที่มีความกังวลเรื่องการบวมใต้ผิว และมีการนวดกระตุ้นการไหลเวียนอยู่แล้วด้วยตัวเองหรือเข้าสปา ผลิตภัณฑ์นี้จะทำให้คุณเห็นผลที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และสำหรับใครที่มีปัญหาที่กล่าวมา แล้วเกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ก็ต้องเข้าใจว่าระบบน้ำเหลืองไม่มีปั้ม แม้ว่าเราทำให้ท่อน้ำเหลืองแข็งแรงทำงานได้ดี แต่ไม่ขยับร่างกาย ไม่ออกกำลังกาย ไม่ทำท่านวดกระตุ้น มันก็จะไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะได้อีกเช่นกัน

มันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับคนขี้เกียจแบบทาแปะ ลวก อย่างเดียวแล้วจะเห็นผลอ่ะ แต่สำหรับคนขยันอยู่แล้ว มันจะยิ่งทำให้ความขยันของคุณได้ผลมากขึ้นไปอีก และต้องเข้าใจว่าสิ่งที่ส่งผลต่อโครงรูปหน้ามีหลายปัจจัย ถ้าปัญหาของโครงรูปหน้าที่มีมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเหลวส่วนเกินใต้ผิว การบวมน้ำ แต่เป็นเรื่องไขมัน เป็นเรื่องรูปกระดูก  ก็จะไม่ได้ช่วยอะไรจ้า

สำหรับในแง่ของส่วนประกอบนั้น เราก็เข้าใจแหล่ะว่ามันใส่มาตามเท่าที่จะเคลมจริง ๆ และเราก็แปลกใจที่ส่วนผสมแค่นี้กับวิธีการใช้มันทำให้เราเห็นผลได้ แต่ก็แอบรู้สึกว่าอยากได้อะไรเยอะ ๆ มีส่วนผสมแฟนซี ๆ ใส่กว่านี้อีกหน่อย แล้วส่วนตัวก็มองว่า Menthol มันไม่ได้จำเป็นต้องใส่ก็ได้ทั้งถ้าใส่มาแค่นิดเดียว ไม่รู้สึกเย็นเท่าไหร่

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

IPSA : Serum 0
Price :  50ml / 3,500 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Skin-Depuffing, Fragrance-free

IPSA : Serum 0
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • แนวคิดและกลไกในการทำงานไม่เหมือนใคร
  • ส่วนตัวที่ใช้เป็นประจำพร้อมกับการนวดตามขั้นตอนทุกครั้ง ได้ผลดีอย่างน่าประหลาดใจ
  • ผิวดูบวมน้อยลง ร่องแก้มดูดีขึ้น โครงหน้าคมชัดขึ้น
CONS
  • มีส่วนผสมของเมนทอล (แต่ไม่รู้สึกเย็นผิวเลย)
  • เทคโนโลยีใหม่มากและเฉพาะตัว ยังหาข้อมูลจากแหล่งอื่นได้น้อย ข้อมูลและงานวิจัยที่ตีพิมพ์ส่วนใหญ่ทำโดยผู้ผลิตเอง
3.7Overall Score