ปีนี้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเพื่อความกระจ่างใสมีอัพเดทกันมากมายให้สมกับเป็นช่วงฤดูร้อนหน่อย ล่าสุด Estee Lauder ก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่แต่ก็ประหลาดใจที่ไม่ได้มาในกลุ่ม Crescent White อย่างที่คิด แต่มาอยู่ในกลุ่ม Perfectionist Pro แทน

ผลิตภัณฑ์ล่าสุดอย่าง Estee Lauder : Perfectionist Pro Rapid Brightening Treatment with Ferment² + Vitamin C ก็เคลมว่าเป็นทรีตเมนต์ที่ดูแลแบบองค์รวมในสารพัดกลไกการทำงานของผิวเพื่อความกระจ่างใสยิ่งกว่าที่เคยโดยชูส่วนผสมหลักอย่าง Vitamin C และ Ferment² สารที่ได้จากการหมักบ่มสองชนิด

บอกตามตรงว่าในตอนแรกเราคิดว่ามันก็คงหนีไม่พ้นจะคล้ายกับแบรนด์น้องสาวอย่าง Clinique ที่ออกมาก่อนหน้า แต่ปรากฏว่าเราคิดผิด!!! เพราะสารแอคทีฟหลักมีความแตกต่างกันอยู่เหมือนกัน และเนื้อสัมผัสนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ว่าได้ แถมผลที่ได้ก็เด่นไปต่างกัน แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นเรามาอ่านแบบละเอียดกันต่อดีกว่า

Product’s Formula

Estee Lauder : Perfectionist Pro Rapid Brightening Treatment with Ferment² + Vitamin C (30ml / 3,200 BAHT , 50ml / 4,900 BAHT) นั้นนำเสนอส่วนผสมที่ทำงานในกลไกที่ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความกระจ่างใส แต่ยังดูเหมือนกันจะเสริมในเรื่องของ Anti-Aging และความชุ่มชื้นของผิวเข้าไปด้วยพอสมควร

Ascorbyl Glucoside คือซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินซีเสถียรที่นิยมใช้กันในผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้อยู่แล้ว วิตามินซีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระลดการออกซิเดชั่นในการกระบวนผลิตเมลานิน ตัวนี้ไม่อธิบายมาก

Ferment² ในที่นี้ทางแบรนด์ระบุว่าเป็น Yeast Extract และ Molasses Extract ซึ่งก็เป็นส่วนผสมที่ถูกระบุไว้ในสิทธิบัตรของทางเอสเต้ลอเดอร์เองว่าช่วยในเรื่องของการลดเมลานินได้ และพอมีข้อมูลจากแหล่งอื่นอยู่บ้างว่าสารบางอย่างในยีสต์มีคุณสมบัติในการเป็นไวท์เทนนิ่งผ่านการขัดขวางเอนไซม์ไทโรซิเนสและยีนที่เกี่ยวข้อง ส่วน Molasses หรือกากน้ำตาลนั้นก็เต็มไปด้วยสารมากมาย มีการศึกษาเอาไว้เหมือนกันว่ามีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์และสาร Lariciresinol 4-O-β-D-glucoside ในกากน้ำตาลอาจนำมาใช้เป็นไวท์เทนนิ่งได้ด้วยคุณสมบัติในการต้านไมโรซิเนสที่เหนือกว่า Arbutin ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจว่าสิ่งที่ปกติเป็นของเหลือจากการผลิตน้ำตาลอาจมีมูลค่าสูงในเครื่องสำอางได้ แต่ยังไม่มีการศึกษาที่ทดสอบในมนุษย์ตีพิมพ์ออกมา

(Source :  The Roles of Vitamin C in Skin HealthQuasi-Drugs Developed in Japan for the Prevention or Treatment of Hyperpigmentary DisordersEffect of melanogenesis inhibition by a yeast extract in comparison to that by other food extracts, and its mechanism of action, Antioxidant and tyrosinase inhibitory constituents from a desugared sugar cane extract, a byproduct of sugar production. Effects of the nonsugar fraction of brown sugar on chronic ultraviolet B irradiation-induced photoaging in melanin-possessing hairless mice.)

แต่นอกเหนือจากสาร 3 ชนิดที่กล่าวมา ในผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนผสมของสารที่มีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนนิ่งที่น่าสนใจอีกหลายชนิด

Resveratrol เป็นสารที่ดังเป็นพลุแตกหลายปีก่อนเนื่องจากมันเป็นสารหลักที่มีในไวน์แดงและเป็นเหตุผลที่ทำให้ไวน์แดงดีต่อสุขภาพกว่าไวน์ขาว สารตัวนี้ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เป็นส่วนผสมที่ถูกนำใช้เป็น Aging และมีข้อมูลอยู่บ้างว่าสาร Resveratrol นี้ช่วยต้านการผลิตเมลานินได้โดยมีคุณสมบัติในหลายกลไกทั้งการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ รวมไปถึงการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส และโปรตีนที่เกี่ยวข้อง

Oryzanol เป็นสารที่พบได้มากในรำข้าว และถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางกันอย่างแพร่หลายในสูตรสารสกัดจากข้าว มีการศึกษาทั้งในไทยและต่างประเทศถึงคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอย รวมไปถึงการเป็นไวท์เทนนิ่งผ่านการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสและกลไกที่เกี่ยวข้องผ่านยีน MITF

Hydrolyzed Prunus Domestica คือส่วนผสมที่มีชื่อว่า Clariju ของบริษัท ICHIMARU PHARCOS ซึ่งเคลมว่าช่วยขัดขวางไม่ให้เซลล์ผิวดูดกลืนเมลานินเข้าไป จึงช่วยเสริมกลไกของการเป็นไวท์เทนนิ่งได้

(Source : Human Skin Lightening Efficacy of Resveratrol and Its Analogs: From in Vitro Studies to Cosmetic Applications, Anti-aging efficacy of topical formulations containing niosomes entrapped with rice bran bioactive compounds., Dual inhibition of γ-oryzanol on cellular melanogenesis: inhibition of tyrosinase activity and reduction of melanogenic gene expression by a protein kinase A-dependent mechanism.)

ส่วนผสมที่เหลือก็จะมี Acetyl Glucosamine เป็นสารกลุ่มน้ำตาลที่ทางเครือเอสเต้ลอเดอร์ ได้ทำการตีพิมพ์การศึกษาและจดสิทธิบัตรว่ามีคุณสมบัติในการเสริมการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติและเสริมเรื่องความชุ่มชื้นให้กับผิว ส่วนผสมของ Salicylic Acid จริง คือช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ แต่ปริมาณในนี้ไม่น่าจะเยอะเท่าไหร่ Dipotassium Glycyrrhizate เป็นสารที่ได้จากรากชะเอมเทศ ช่วยต้านการระคายเคืองและเสริมการเป็นไวท์เทนนิ่งได้ Avena Sativa (Oat) Kernel Extract ก็เป็นตัวต้านการระคายเคืองอีกเช่นกัน

ส่วนผสมมอบความชุ่มชื้นในที่นี้ก็มีทั้ง Sodium Hyaluronate กับ  Hydroxyethyl Urea รวมไปถึงสารกลุ่ม Natural Moisturizing Factor อย่าง Sodium PCA และ Sodium Lactate นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่มกรดไขมันที่ได้จาก Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract และ Hordeum Vulgare (Barley) Extract ที่ช่วยเสริมปราการปกป้องผิวด้วย

โดยรวมแล้วส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งจึงไปตั้งแต่การต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระเพื่อลดความเสียหายของผิวที่จะไปส่งสัญญาณให้เกิดการผลิตเมลานิน ส่วนผสมยังทำงานกับเอนไซม์ไทโรซิเนสกับโปรตีนที่เกี่ยวข้องในการสังเคราะห์เมลานิน วิตามินซีลดการออกซิเดชั่นไม่ให้เมลานินเข้มข้น มีส่วนผสมที่ช่วยลดการส่งเมลานินไปยังเซลล์ผิว มีส่วนผสมที่ช่วยเสริมการผลัดเซลลืผิวเพื่อเร่งเอาความหมองคล้ำออกไป และมีส่วนผสมที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและชุ่มชื้นของผิวเพื่อให้ผิวเรียบเนียน โดยรวมก็ถือว่าทำงานในหลายกลไกดีทีเดียว

Ingredients : Water\Aqua\Eau, Butylene Glycol, Glycerin, Glycereth-26, Isononyl Isononanoate, Dimethicone, Propanediol, Ascorbyl Glucoside, Algae Extract, Sucrose, Acetyl Glucosamine, Hydroxyethyl Urea, Lens Esculenta (Lentil) Fruit Extract, Citrullus Lanatus (Watermelon) Fruit Extract, Pyrus Malus (Apple) Fruit Extract, Molasses Extract\Saccharum Officinarum\Extrait De Melasse, Myrtus Communis Leaf Extract, Avena Sativa (Oat) Kernel Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract, Hordeum Vulgare (Barley) Extract\Extrait D’Orge, Cladosiphon Okamuranus Extract, Salicylic Acid, Hydrolyzed Prunus Domestica, Caffeine, Sodium Lactate, Dipotassium Glycyrrhizate, Squalane, Oryzanol, Resveratrol, Sodium Hyaluronate, Sodium PCA, Ethylhexylglycerin, Bis-PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Tocopheryl Acetate, PEG-75, Oleth-3 Phosphate, Sorbitol, Caprylyl Glycol, Oleth-3, Sodium Polyaspartate, Oleth-5, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Propylene Glycol Caprylate, Dextrin, Yeast Extract\Faex\Extrait De Levure, Choleth-24, Carbomer, Sodium Hydroxide, Ceteth-24, Xanthan Gum, Fragrance (Parfum), Glyceryl Acrylate/Acrylic Acid Copolymer, Citric Acid, Sodium Citrate, Disodium EDTA, BHT, Potassium Sorbate, Sodium Benzoate, Phenoxyethanol. <ILN46476>

Usage & Result

เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เป็นเซรั่มเบสน้ำที่ค่อนข้างเหลว ให้ความชุ่มชื้นปานกลาง น่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบเซรั่มที่เป็นเบสซิลิโคนลื่น ฟู (ตัวนี้ก็มีซิลิโคนในรูปแบบ Dimethicone ซึ่งเป็นตัวเคลือบผิวและพบได้ในมอยซ์เซอไรเซอร์บำรุงผิวทั่วไป ไม่ใช่ซิลิโคนเนื้อฟู ) มีสีเหลืองอ่อน จากส่วนผสมของสารแอคทีฟต่าง ที่ใส่มา ส่วนผสมของน้ำหอมแต่กลิ่นไม่แรงหรือหนักมากนัก ค่อนข้างใช้ง่ายเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น ของแบรนด์นี้ที่เราลองมา ดังนั้นในแง่ของ Sensory ถือว่าทำมาได้โอเคนะ

ในแง่ของประสิทธิภาพ ปูเป้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นเวลา 15 วัน สิ่งที่เห็นคือโทนแดงของผิวลดลงทำให้ผิวดูกระจ่างขึ้น ในเรื่องของจุดด่างดำที่มีอยู่เดิม ส่วนที่เป็นกระนั้นยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ในระหว่างที่ทดลองผลิตภัณฑ์มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่มากขึ้นบริเวณรอบปากซึ่งเซรั่มตัวนี้พอจะช่วยลดให้เกิดรอยแดงหลังอักเสบที่ค่อนข้างมากไม่เป็นรอยดำเข้มนัก

แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงก็คือผิวมีความเรียบเนียนละเอียดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณหางตาและใต้ตา น่าจะมาจากผิวที่อิ่มเอิบขึ้น และอาจเป็นเพราะส่วนผสมของ Resveratrol ที่มีคุณสมบัติในการเป็น Anti-Aging ด้วยก็เป็นไปได้

Conclusion

โดยสรุปแล้ว ปูเป้มองว่า Estee Lauder : Perfectionist Pro Rapid Brightening Treatment with Ferment² + Vitamin C นั้นเด่นในเรื่องของการปรับโทนผิวและทำให้ผิวดูสว่างขึ้น และยังให้คุณสมบัติในเชิงของ Anti-Aging เสริมไปเข้าเพื่อให้ผิวที่เรียบเนียนขึ้น ดังนั้นจึงน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นเรื่องจุดด่างดำ แต่อยากให้โทนผิวกระจ่างใสขึ้นไปพร้อมกับต้องการดูแลเรื่องการต่อต้านริ้วรอยแรกเริ่มให้ผิวเรียบเนียนละเอียดขึ้นในตัวเดียว

ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ถือเป็นคอกเทลที่เบลนด์ส่วนผสมต่างๆได้ครอบคลุมกลไกที่หลากหลายดี แค่ส่วนผสมบางตัวยังอาจจะมีข้อมูลไม่มากนักเมื่อเทียบกับสารไวท์เทนนิ่งอื่น ๆ ที่ใช้กันในท้องตลาด แต่โดยรวมก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบที่เราชอบ ไม่หนัก ไม่เป็นซิลิโคนลื่นๆ และให้ความชุ่มชื้นกำลังดี และต้องขอบคุณที่กลิ่นน้ำหอมก็ไม่ได้รบกวนใจเราจนเกินไปในขณะใช้ แต่ถามว่าถ้าไม่มีน้ำหอมเราจะรักมากกว่านี้ไหม?  ก็แน่นอนสิ!!!

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Estee Lauder : Perfectionist Pro Rapid Brightening Treatment with Ferment² + Vitamin C
Price :  30ml / 3,200 BAHT , 50ml / 4,900 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Brightening / Skin Smoothing / Anti-Aging / Hydration

Estee Lauder : Perfectionist Pro Rapid Brightening Treatment with Ferment² + Vitamin C
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ส่วนผสมเน้นกลไกที่หลากหลาย ให้คุณสมบัติทั้งการเป็นไบร์ทเทนนิ่งและต่อต้านร้ิวรอยอ่อน ๆ
  • เนื้อสัมผัสที่บางเบา ชุ่มชื้น ไม่เป็นซิลิโคนลื่น ๆ
  • โทนผิวกระจ่างขึ้น และผิวมีความเนียนละเอียดขึ้น
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
3.9Overall Score

Related Posts