หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่งดูนิ่ง ๆ มาสักระยะ ในปี 2019 นี้ปูเป้ทราบมาว่ามีการเปิดตัวสารไวท์เทนนิ่งใหม่กันหลายตัวทีเดียว และหนึ่งในเจ้าแรก ๆ ที่เปิดตัวไปแล้วนั่นก็คือผลิตภัณฑ์ Eucerin : UltraWhite+ Spotless ซึ่งใช้ THIAMIDOL™ (ไทอามิดอล™) สารไวท์เทนนิ่งตัวใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาส่วนผสม 50,000 ชนิดที่ทำการทดสอบการต่อต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Eucerin : UltraWhite+ Spotless นั้นเปิดตัวมาด้วย 3 ผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ครีมบำรุงผิวในตอนกลางวันที่มีสารป้องกันรังสี UV กับครีมบำรุงในตอนกลางคืน และเจลแต้มจุดด่างดำ การเปิดตัวสารไวท์เทนนิ่งใหม่นี้ทาง Beiersdorf AG ซึ่งเป็นเจ้าของ Eucerin ก็ทุ่มทุนสร้างเต็มที่และตีพิมพ์ผลการศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างและหลักในการทำงานของสารไวท์เทนนิ่งใหม่ตัวนี้เอาไว้เมื่อปี 2018 นี้เอง โดยเขาเน้นย้ำในเรื่องการทดสอบสารไวท์เทนนิ่งตัวใหม่เทียบกับสารไวท์เทนนิ่งยอดนิยมในท้องตลาด รวมไปถึงสารไวท์เทนนิ่งในผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนของ Eucerin เอง โดยการนำมาทดสอบกับเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ ไม่ใช่เอนไซม์ของเห็ดอย่างที่ส่วนใหญ่มักทำกัน ซึ่งปูเป้ได้ลองอ่านแล้วขอจับประเด็นที่น่าสนใจเอามาสรุปด้านล่างนี้
คือปกติแล้วเวลาบริษัทเครื่องสำอางหรือนักวิจัยจะค้นหาส่วนผสมใหม่ๆ เพื่อช่วยในเรื่องอะไรสักอย่าง ก็จะทำการ Screening Test เพื่อเช็คว่าส่วนผสมไหนให้ผลที่น่าสนใจและเลือกนำมาพัฒนาหรือทำมาทดสอบในขั้นต่อไป การค้นหาสารไวท์เทนนิ่งที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำก็เช่นกัน ส่วนใหญ่จะถูกสกรีนเบื้องต้นก่อนด้วยการทดสอบกับเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์ตัวสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ซึ่งโดยทั่วไปก็จะทดสอบกับเอนไซม์ไทโรซิเนสของเห็ด Agaricus bisporus เพราะสามารถสกัดและผลิตออกมาจำหน่ายให้ซื้อมาทดสอบกันได้ แต่เอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์นั้นมีความซับซ้อนและได้มายากกว่านั้น ดังนั้นการทำการสกรีนสารกว่า 50,000 ชนิดกับเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ก็ถือเป็นการลงทุนที่มากพอสมควรเพราะกระบวนการในการพัฒนามันซับซ้อนและมีราคาที่ไม่ถูกเลย และก็ทำการตีพิมพ์ผลการศึกษาลงใน Journal of Investigative Dermatology ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์แบบ Peer-Reviewed ที่มีความน่าเชื่อถือสูงในวงการด้านผิวหนัง
ทีนี้การทดสอบสารไวท์เทนนิ่งทั้งใหม่และเก่ากับทั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์และของเห็ดทำให้พบข้อมูลที่น่าสนใจคือ สารที่ให้ผลในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซินเนสจากเห็ดไม่ได้แปลว่าจะให้ผลดีในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์น่ะสิ!!!
หนึ่งในสารไวท์เทนนิ่งที่ถูกใช้กันมานานและเป็นที่รู้จักกันอย่าง Kojic Acid นั้นยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสของเห็ดได้ดี แต่พอเป็นเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์นั้นกลับให้ผลน้อยกว่า และส่วนผสมที่เป็น Gold Standart อย่าง Hydroquinone ที่ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสของเห็ดได้ดีมาก แต่กลับด้อยประสิทธิภาพสุด ๆ เมื่อเจอกับเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ชี้ว่า Hydroquinone นั้นมีความเป็นพิษหรือ Cytotoxic กับเซลล์เมลาโนไซต์อย่างมาก การใช้ Hydroquinone แล้วปริมาณเมลานินน้อยลงจึงน่าจะเป็นผลจากการทำความเสียหายกับเซลล์เมลาโนไซต์มากกว่าการไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสภายในเซลล์ และในทางตรงกันข้าม สาร THIAMIDOL™ (ไทอามิดอล™) นั้นให้ผลที่ไม่ดีนักกับเอนไซม์ไทโรซิเนสของเห็ด แต่ให้ผลในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ได้ดีที่สุด เหตุผลมาจากโครงสร้างของกรดอะมิโนที่ประกอบกันเป็นเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์และของเห็ดนั้นมีความต่างกัน ทำให้จับกับโครงสร้างของสารไวท์เทนนิ่งนั้นก็ต่างกันด้วยเช่นกัน
ในแง่ของการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์นั้น THIAMIDOL™ ก็ให้ผลที่ดีที่สุดในความเข้มข้นที่ใช้น้อยกว่า ซึ่งดีกว่า 4-Butyleresorcinol ซึ่งเป็นสารไวท์เทนนิ่งรุ่นเก่าของ Eucerin ถึง 10 เท่าทีเดียว (ต้องใช้ปริมาณต่างกัน 10 เท่าเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เท่ากัน)
ทาง Beiersdorf AG ได้ทำการทดสอบ THIAMIDOL™ 0.2% ในกลุ่มตัวอย่าง 17 คน และ 0.1% ในกลุ่มตัวอย่าง 19 คน โดยเทียบกับ Vehicle ที่ไม่มีสารแอคทีฟ ซึ่งผลที่ได้ในการใช้ 4 กับ 8 และสิ้นสุดที่ 12 สัปดาห์ให้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก และในแง่ของความปลอดภัยนั้น การทดสอบกับเซลล์เมลาโนไซต์พบว่า THIAMIDOL™ ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสแบบ Reversible นั่นก็คือไม่เกิดความเสียหายถาวรกับเซลล์ ซึ่งความเสียหายถาวรที่เกิดกับเซลล์ผลิตเม็ดสีอาจทำให้เกิดปัญหาเป็นด่างขาวได้
นี่คือข้อมูลแบบสรุปของ THIAMIDOL™ สารไวท์เทนนิ่งตัวใหม่ที่การทดสอบกันเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์พบว่าเจ้าตัวนี้แหล่ะยับยั้งได้ดีที่สุด และให้ผลการทดสอบในการใช้กับผิวหนังมนุษย์ได้อย่างน่าพอใจ แต่อย่างไรก็ดี กลไกในการสร้างเม็ดสีเมลานิน และช่องทางการส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีเมลานินยังมีอีกมากมายก่ายกอง นอกจากเอนไซม์ไทโรซิเนสแล้ว ปัจจุบันก็มีอีกหลายกลไกที่นำเข้ามาเสริมไม่ว่าจะเป็นการต้านการอักเสบ ลดการส่งสัญญาณจากเซลล์ผิวไม่ให้เข้ามาสั่งเมลาโนไซต์ให้ผลิตเมลานินแต่แรก การลดการส่งผ่านเมลานินไปยังเซลล์ผิว และอีกหลายช่องทาง ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ดีจึงจะต้องทำงานในหลายกลไกและมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่จะเข้ามาเสริมประสิทธิภาพด้วย ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันว่าผลิตภัณฑ์ของเขาจะใส่ส่วนผสมตัวไหนมาด้วย
(Source : Inhibition of Human Tyrosinase Requires Molecular Motifs Distinctively Different from Mushroom Tyrosinase., Structure-Activity Relationships of Thiazolyl Resorcinols, Potent and Selective Inhibitors of Human Tyrosinase.)
ปูเป้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ออกใหม่ทั้ง 3 ตัว และตัวที่หยิบขึ้นมารีวิวก็คือ Eucerin : UltraWhite+ Spotless Day Fluid UVA/UVB SPF30 (1,890 Baht / 50ml) เพราะพูดถึงตัวนี้ ก็จะครอบคลุมส่วนผสมหลักเกือบทุกตัวในทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์แล้วล่ะ
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะไม่มีค่า PA ระบุมาด้วยแต่สารกันแดดที่ใช้ก็บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ปกป้องผิวจาก UVA ได้ดีทีเดียว โดยมี Butyl Methoxydibenzoylmethane (Avobenzone) เป็นสารกัน UVA หลัก โดยมี Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine หรือ Tinosorb S ซึ่งเป็นสารกัน UVA/UVB ช่วยเสรมิความเสถียร สารกันแดดอื่นที่ใส่มาอย่าง Homosalate กับ Ethylhexyl Salicylate กับ Ethylhexyl Triazone และ Phenylbenzimidazole Sulfonic Acid นั้นเน้นที่การป้องกัน UVB เป็นหลัก ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ไม่ทำปฏิกิริยาหรือลดความเสถียรของ Avobenzone โดยรวมในแง่ของสารกันแดดก็ถือว่าทำมาได้ดี กันครบ และเสถียร
นอกจากสารกันแดดแล้วนางเอกก็คงจะหนีไม่พ้น THIAMIDOL™ หรือ Isobutylamido Thiazolyl Resorcinol ซึ่งปูเป้ได้ให้ข้อมูลไว้ด้านบนแล้วว่าเป็นสารไวท์เทนนิ่งที่ต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ได้ดีมาก
ส่วนผสมอื่น ๆ ก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง Glycyrrhiza Inflata Root Extract หรือ Licochalcone A ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และช่วยปกป้องผิวที่ทางเครือนี้ลงทุนในการทำการศึกษาประโยชน์ในแง่ต่าง ๆ ออกมาหลายชิ้น ข้อมูลในปี 2015 ยังพบว่า Licochalcone A ยังสามารถกระตุ้นกระบวนการปกป้องตัวเองของเซลล์ผ่านการเสริมการสร้างโมเลกุลต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อผสมกับ Glucosylrutin ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ต้านอนุมูลอิสระที่เข้ากันกับผิวได้เป็นอย่างดีแล้ว จะเพิ่มประสิทธิภาพในการลดผลกระทบจากแสงแดดได้ ส่วน Isoquercitrin ก็เป็นฟลาโวนอยด์ต้านอนุมูอิสระอีกเช่นกัน และทาง Beiersdorf AG ก็จดสิทธิบัตรในการใช้เอาไว้แล้วด้วย สารต้านอนุมูลอิสระตัวสุดท้ายก็คือวิตามินอีในรูป Tocopherol
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่เป็นน้ำหอมที่ไม่มี Common Fragrance Allergen ตามกฏหมายของยุโรป ก็ถือว่าปลอดภัยขึ้มาอีกระดับหนึ่ง
(Source : Polymorphous light eruption (PLE) and a new potent antioxidant and UVA-protective formulation as prophylaxis., [Alpha-glucosylrutin, a highly effective flavonoid for protection against oxidative stress]., Alpha-glucosylrutin plus licochalcone A: Enhanced protective efficacy in PLE, Licochalcone A activates Nrf2 in vitro and contributes to licorice extract‐induced lowered cutaneous oxidative stress in vivo, Stabilization of formulations containing alpha-glucosyl rutin, Cosmetic or dermatological preparation containing isoquercitrin as antioxidant and radical scavenger, useful for protection of skin or hair)
Ingredients : Aqua, Homosalate, Alcohol Denat., Butyl Methoxydibenzoylmethane, Ethylhexyl Salicylate, Ethylhexyl Triazone, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Butylene Glycol Dicaprylate-Dicaprate, Tapioca Starch Distarch Phosphate, C12-15 Alkyl Benzoate, Phenylbenzimidazole Sulfonic Acid, Isobutylamido Thiazolyl Resorcinol, Glycyrrhiza Inflata Root Extract, Tocopherol, Glucosylrutin, Isoquercitrin, Glycerine, Cetyl Alcohol, Stearyl Alcohol, Sodium Chloride, Xanthan Gum, Carbomer, Sodium Hydroxide, Glyceryl Stearate, Sodium Stearoyl Glutamate, Dimethicone, Phenoxyethanol, Trisodium EDTA, Parfum.
เนื้อฟลูอิดมีสีอมเหลืองอ่อน ๆ และเนื่องจากไม่ใช้สารกันแดดแบบ Physical จึงไม่ทำให้ผิวขาวลอย ใช้ได้กับทุกสีผิวได้อย่างสบายใจ ให้ควาชุ่มชื้นบางเบาและเซ็ทตัวแบบไม่มันวาวแต่ก็ไม่ได้แมทหรือแห้ง ในแง่ของประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดด เรามองว่านี่เป็นสกินแคร์สำหรับใช้ประจำวันที่ไม่ต้องโดนแสงแดดเยอะ
กลิ่นของน้ำหอมก็ถือว่ามีอยู่ในระดับหนึ่งเลยล่ะ ตรงนี้จะแอบ Bias นิดนึงเพราะโทนกลิ่นคล้ายกลิ่นคล้ายแพร์ ซึ่งเป็นกลิ่นที่เราชอบอยู่แล้ว เราจึงรู้สึกโอเคที่จะใช้ แต่ก็คิดว่าถ้าสามารถลให้กลิ่นน้อยลงกว่านี้ได้ก็น่าจะดีกว่า
สำหรับผลในการใช้ ปูเป้ได้เกริ่นเอาไว้ข้างบนแล้วว่าได้ลองผลิตภัณฑ์ครบทั้ง 3 ตัว แต่หลัก ๆ ที่จะใช้คือเป็นตัว Day SPF30 และ Night มากกว่า ในระยะเวลาเกือบเดือนที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเซรั่มไวท์เทนนิ่งเพิ่มเติมเลยก็รู้สึกว่าผิวดูกระจ่างขึ้น ทั้งที่จากเดิมเราก็คิดว่าผิวเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอใช้แล้วมันสามารถที่จะดูไบรท์ขึ้นได้อีกล่ะ
โดยสรุปแล้ว Eucerin : UltraWhite+ Spotless Day Fluid UVA/UVB SPF30 เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ผสมสารกันแดดสำหรับตอนกลางวันที่ทำออกมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปได้เป็นอย่างดี สารกันแดดสามารถกัน UVA/UVB ได้ครบและเสถียร พร้อมกับส่วนผสมที่ช่วยเสริมกับสารกันแดดในการปกป้องและลดผลกระทบจากรังสี UV และปัจจัยลบอื่น ๆที่เข้ามากระทบผิว และไปเสริมกลไกของ THIAMIDOL™ ซึ่งเป็นสารไวท์เทนนิ่งใหม่ที่น่าสนใจได้เป็นอย่างดี และเราก็รออัพเดทว่านอกเหนือจากการเป็นตัวต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ที่ทรงพลังแล้วมันอาจจะทำงานในกลไกอื่นได้อีกหรือไม่ อนาคตจะมี combination อะไรที่เข้ามาเสริมให้มันยิ่งดีขึ้นไปอีก
เนื้อสัมผัสโดยรวมทำออกมาให้ใช้ได้ง่ายกับสภาพอากาศในบ้านเรา บรรจุภัณฑ์ก็เป็นขวดปั้มที่สะอาดและช่วยเก็บรักษาตัวผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่เราไม่มีข้อมูลเรื่องคุณสมบัติในการกันน้ำหรือกันเหงื่อของผลิตภัณฑ์ เพราะสภาพอากาศเราค่อนข้างร้อนชื้น ถ้ามีคุณสมบัติตรงนี้ด้วยก็น่าจะเหมาะ โดยส่วนตัวกำลังรอเซรั่มของไลน์นี้อยู่ เพราะเซรั่มที่มี THIAMIDOL™ เข้มข้นกว่ามอยซืเจอไรเซอร์ อยู่ในรูปแบบที่บางเบาและมีระบบนำพาที่ดี น่าจะยิ่งให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปอีกล่ะ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
Eucerin : UltraWhite+ Spotless Day Fluid UVA/UVB SPF30
Price : 1,890 Baht / 50ml
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Everyday Sun Protection / Whitening / Skin Protecting / Light-Weight
- สารกันแดดกัน UVA/UVB ได้ครบ เสริมด้วยส่วนผสมที่น่าสนใจในการต้านผลกระทบจากแสงแดดและอนุมูลอิสระในตอนกลางวัน
- เนื้อสัมผัสบางเบา เข้ากับทุกสีผิว
- ช่วยให้โทนผิวโดยรมดูกระจ่างขึ้น
- มีส่วนผสมของน้ำหอม