ปัญหาเรื่องผมร่วง ผมบาง หรือหนังศีรษะล้านเป็นหย่อม เป็นปัญหาที่พบได้มากขึ้นในปัจจุบัน และกลุ่มคนที่มีปัญหาก็มีแนวโน้มที่จะมีอายุเฉลี่ยที่น้อยลงอีกด้วย แม้ว่าส่วนตัวปูเป้จะไม่มีความกังวลในเรื่องนี้แต่ก็มีคนมาขอคำปรึกษาเรื่องผมร่วงและผมบาง ในระยะหลังก็เห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ดูแลปัญหาผมร่วงกันมากขึ้น ล่าสุดทาง Eucerin ได้ส่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Dermo Capillaire อันประกอบไปด้วยแชมพูและทรีตเมนต์แบบไม่ต้องล้างออกเพื่อช่วยดูแลปัญหาผมบางและขาดหลุดร่วงง่าย ซึ่งปูเป้ได้ลองดูที่ส่วนผสม หาข้อมูลเพิ่มเติม และก็ได้พบข้อมูลและการศึกษาที่น่าสนใจ เกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะล้าน และหลายประเด็นเป็นสิ่งที่ปูเป้ยังไม่เคยทราบมาก่อน เอามาเล่าสู่กันฟังเผื่อคนที่กำลังมีปัญหานี้จะได้เก็บไปเป็นข้อมูลในการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น
 

ภาวะผมร่วง ผมบาง ไปจนถึงปัญหาหนังศีรษะล้าน หรือ Alopecia  มีด้วยกันหลากหลายแบบและมีสาเหตุที่ต่างกัน แบบหนึ่งที่พบเจอกันได้บ่อยทั้งในชายและพบได้ในผู้หญิงเช่นกันคือ Androgenetic Alopecia ซึ่งว่ากันว่ามาจากปัญหาพันธุกรรม ซึ่งปูเป้เคยให้ข้อมูลไว้ใน Blog เก่า ๆ ก่อนหน้านี้ โดยสรุปแล้วคือเป็นที่ยอมรับกันว่าปัญหามาจากการที่ในหนังศีรษะมีปริมาณของเอนไซม์ที่มีชื่อว่า 5α-reductases ในปริมาณที่มากผิดปกติ ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้จะเปลี่ยนฮอรโมนเพศชาย Testosterone ไปเป็น Dihydrotestosterone หรือ  DHT ซึ่งส่งผลให้เกิดการ  Miniturization หรือการลดทั้งขนาดของโครงสร้างรูขุมขน และส่วนฐานของโพรงขนก็อยู่ตื้นขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง จำนวนน้อยลง และนำไปสู่ปัญหาหนังศีรษะล้านในที่สุด และความเสียหายนี้อาจเป็นความเสียหายถาวรหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รับการดูแลรักษา

หนึ่งในการรักษาที่เป็นมาตรฐานของปัญหา Androgenetic Alopecia ที่ใช้มากว่า 30 ปี คือยาทา Minoxidil ซึ่งมีโครงสร้างของ Nitrix Oxide ที่ช่วยขยายหลอดเลือด ส่งผลให้มีสารอาหารไปเลี้ยงและสร้างพลังงานให้กับรากผมมากขึ้นจึงเสริมการงอกเพิ่มขึ้นของเส้นผม นอกจากนี้การหาสารที่มีหน้าที่ในการยับยั้งเอนไซม์ 5α-reductases เพื่อลดการสร้าง Dihydrotestosterone ก็เป็นอีกกลไกหนึ่งที่มักถูกพูดถึงกันบ่อย ๆ เพราะในทางทฤษฏีแล้วเมื่อสามารถลดการสร้าง DHT ได้ก็เท่ากับน่าจะตัดปัญหาที่สาเหตุไปได้ แต่ในความเป็นจริงอาจไม่สวยงามอย่างในทฤษฏีเสมอไปก็ได้ สารที่ใช้ในการดูแลปัญหาเรื่องผมบางหลุดร่วงหลายตัวจัดเป็นยา จึงมีข้อจำกัดแลข้อควรระวังในการใช้พอสมควร ในส่วนของผลิตภัณฑืเครื่องสำอางหรือเวชสำอางก็มีความพยายามหาส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนและช่วยดูแลปัญหาผมบาง ผมหลุดร่วง และสามารถใช้ร่วมไปกับการรักษาด้วยตัวยาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ได้ ซึ่งเท่าที่ปูเป้เคยทำข้อมูลมาก็มีทั้งสารสกัดที่ช่วยเรื่องของการยับยั้งเอนไซม์ 5α-reductases ส่วนผสมต้านการระคายเคือง

ทีนี้เมื่อปูเป้ดูในส่วนผสมของ Eucerin : Dermo Capillaire Thinning Hair Treatment นั้นพบส่วนผสมที่เน้นหลักเรื่องการต้านการอักเสบ ต้านการระคายเคือง และส่วนผสมที่เน้นการเมตาบอลิซึมของพลังงานในเซลล์มากกว่า ก็คิดว่าน่าสนใจ ทำไมกลไก  5α-reductases กลับไม่ถูกพูดถึงเหมือนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ล่ะ? หรือว่าการอักเสบเป็นกลไกสำคัญที่ส่งผลในเรื่องนี้มากกว่ากันแน่นะ?

ปูเป้ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจทีเดียว ว่าลำพังการเน้นไปที่ประเด็นเรื่องฮอร์โมนเพศชาย และกลไกของ 5α-reductases นั้น กลับให้ผลที่ไม่ดีอย่างที่คิด ปัจจุบันข้อมูลทั้งหมดก็ชี้มาในทิศทางที่ว่าฮอร์โมนอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของปัญหาผมบางหลุดร่วงและหนังศีรษะล้านแบบ Androgenetic Alopecia ก็ได้ แต่มีปัจจัยแวดล้อมอื่นที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่เรื่อง  Microinflammation หรือการอักเสบในระดับเซลล์ที่อาจจะไม่แสดงผลชัดเจนแต่หากไม่ได้รับการดูแลก็จะก่อความเสียหายต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของโพรงขนจนเกิดปัญหาผมหลุดร่วงตามมาได้ ซึ่งสาเหตุของการเกิด Microinflammation ก็มีการค้นพบมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ความเครียด สารก่ออาการแพ้ มลพิษจากภายนอก ความไม่สมดุลของ  Microbiota หรือเชื้อประจำถิ่นบนหนังศีรษะ จนเกิดการระคายเคือง การอักเสบ ที่ผลสุดท้ายส่งผลให้โครงสร้างของโพรงขนอ่อนแอนั่นเอง

(Source : Androgenetic alopecia: a review., Androgenetic alopecia: an evidence-based treatment update., The effectiveness of treatments for androgenetic alopecia: A systematic review and meta-analysis, Androgenetic alopecia and microinflammation, Evaluation of the relationship between androgenetic alopecia and demodex infestation)

การศึกษาที่น่าสนใจมีการทำการทดสอบเทียบประสิทธิภาพระหว่างการใช้ตัวยา Minoxidil กับตัวยา Minoxidil ที่ผสมควบคู่ไปกับส่วนผสมที่ช่วนต้านการอักเสบ หรือส่วนผสมที่ช่วยต้านจุลชีพ พบว่ากลุ่มที่ทดลองใช้ Minoxidil ที่ผสมมากับตัวยาต้านการอักเสบนั้นให้ผลในการรักษาที่ดีกว่ากลุ่มที่ใช้ Minoxidil อย่างเดียว ข้อมูลล่าสุดดูเหมือนว่าตัว  Minoxidil เองก็อาจมีกลไกที่เกี่ยวข้องในกระบวนการการอักเสบของเซลล์ด้วย แต่ลำพังตัวของมันก็ไม่ดีเท่าการผสมหรือใช้ควบคู่กับส่วนผสมหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต้านการอักเสบเสริมเข้ามา

(Source : Preparation and evaluation of a multimodal minoxidil microemulsion versus minoxidil alone in the treatment of androgenic alopecia of mixed etiology: a pilot study)

ข้อมูลใหม่ที่เราพึ่งรู้เลย คือมีรายงานว่าการใช้ตัวยา Ketoconazole ซึ่งถูกใช้ต้านเชื้อราในการลดปัญหารังแคนั้นให้ผลในการรักษาการหลุดร่วงของเส้นผมด้วย ซึ่งมีคนตั้งสมมุติฐานว่ามันอาจจะไปลดพวกเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบบนหนังศีรษะลง และการทดสอบในหนูทดลองที่ไม่ได้มีความไวต่อฮอร์โมนเพศก็ให้ผลในการลดการหลุดร่วงของเส้นขนเช่นกัน ดังนั้น Ketoconazole นั้นให้ผลแบบ androgen-independent แต่เรายังไม่มีข้อมูลถึงกระบวนการทำงานที่แท้จริง แต่ทำให้เราตระหนักว่า ปัญหารังแค ปัญหาหนังศีรษะคัน อักเสบ ที่ส่วนตัวปูเป้กำลังต่อสู้อยู่ หากไม่ดูแลให้ดี การอักเสบในระยะยาวอาจจะทำให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้

(Source : Ketoconazole shampoo: effect of long-term use in androgenic alopecia., Pilot Study of 15 Patients Receiving a New Treatment Regimen for Androgenic Alopecia: The Effects of Atopy on AGA, Promotive Effect of Topical Ketoconazole, Minoxidil, and Minoxidil with Tretinoin on Hair Growth in Male Mice)

จากข้อมูลทำให้เราพอเห็นภาพว่า ปัญหาหนังศีรษะล้าน ปัญหาผมบาง ผมขาดหลุดร่วง นั้นมีหลายรูปแบบ และ Androgenetic Alopecia  ก็มีสาเหตุมากกว่าแค่หนึ่งเดียว นอกเหนือจากพันธุกรรมและฮอร์โมนแล้ว ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิด Microinflammation นั้นก็มีส่วนสำคัญ ตัวยา Minoxidil ยังคงเป็นตัวสำคัญที่แพทย์ยอมรับในการใช้รักษา แต่การใช้ควบคู่ไปเมื่อใช้ร่วมกับส่วนผสมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบหรือลดปัจจัยที่ก่อการอักเสบร่วมไปด้วย จะให้ผลในการรักษาที่ดียิ่งกว่าการใช้ Minoxidil  เพียงลำพัง

 เกริ่นมาซะยาว เรามาดูตัวผลิตภัณฑ์กันดีกว่า Eucerin : Dermo Capillaire Thinning Hair Treatment (100ml / 620 Baht) นั้นประกอบไปด้วยส่วนผสมหลัก 4 ชนิด คือ Carnitine กับ Creatine และ Glycyrrhiza Inflata Root Extract ตามมาด้วย Panthenol หรือ Pro-Vitamin B5 

ทาง Beiersdorf AG ได้มีการการทำการศึกษาและเผยแพร่เป็นโปสเตอร์ในงานประชุมทางวิชาการ  European Academy of Dermatology and Venereology ปี 2012 เกี่ยวกับผลในการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ โดยการการทดสอบแบบ In-Vitro พบว่าส่วนผสม Carnitine เพิ่ม Beta-Oxidation ใน Outer Root Sheath Cells ซึ่งแสดงถึงการเพิ่มเมตาบอลิซึ่มพลังงานของเซลล์ที่มากขึ้น ส่วน Creatine ช่วยเพิ่มปริมาณ Anagen Phase ซึ่งเป็นช่วงการเติบโตของเส้นผม และ Glycyrrhiza Inflata Root Extract หรือ Licochalcone A ช่วยต้าน Microinflammation ได้ ส่วนผสมของ Panthenol ไม่ได้ถูกพูดถึงในการศึกษานี้ แต่โดยหลักแล้วถูกใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและเส้นผมได้

ในการศึกษานี้มีการทดสอบในมนุษย์ด้วย โดยกลุ่มทดสอบหญิง 93 คน และชาย 60 คน ใช้ผลิตภัณฑ์แบบแบ่งครึ่งศีรษะ ครึ่งหนึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ Eucerin : Dermo Capillaire Thinning Hair Treatment และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือไม่ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นตัวควบคุม ผลพบว่าในระยะเวลา 3 และ 6 เดือนหลังการใช้ มีจำนวนเส้นผมที่เพิ่มขึ้นและขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมก็มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับฝั่งควบคุมที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งฟังดูน่าสนใจทีเดียวว่าลำพังการใช้เพียงตัวผลิตภัณฑ์ก็ช่วยลดปัญหาผมบางได้แล้ว แต่โน๊ตเอาไว้ว่าการศึกษานี้ทำโดยบริษัท Beiersdorf AG ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์  Eucerin นั่นเอง

(Source : Fighting Hair Thinning with an Energizing and Anti-Inflammatory Hair Tonic)

ผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบโทนิคน้ำใสสีเหลืองอ่อน มีบอดี้ที่ข้นกว่าน้ำเพียงเล็กน้อย บางเบาไม่หนึบหนับ ไม่เพิ่มความมันบนหนังศีรษะ และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สามารถใช้ได้ทั้งตอนที่หนังศีรษะเปียกหมาด ๆ หรือตอนที่แห้ง

ส่วนตัวปูเป้ไม่ได้มีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรม จึงไม่สามารถที่จะตัดสินผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์นี้ได้ด้วยตัวเองในแง่ของการลดปัญหาผมหลุดร่วง แต่การหาข้อมูลในครั้งนี้ช่วยเปิดหูเปิดตาและทำให้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นถึงปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผมบางและผมหลุดร่วงจากพันธุกรรมมากขึ้น ว่าการดูแลที่ดีนั้นต้องดูแลอย่างครอบคลุมในหลายแง่มุม และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยต้านการอักเสบ หรือลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดการอักเสบแต่เริ่มต้นก็มีส่วนสำคัญในการลดปัญหาผมหลุดร่วงได้ ความเข้าใจตรงนี้ทำให้เราสามารถที่จะอุดช่องว่างในการดูแลที่ขาดไปของเราได้

Ingredients : Aqua, Alcohol Denat., Carnitine, Creatine, Glycyrrhiza Inflata Root Extract, Laureth-9, Panthenol, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, 1-Methylhydantoin-2-Imide, Hydroxyethylcellulose, Sodium Citrate, Parfum.

ใครที่เริ่มมีปัญหาหรือมีความกังวลเรื่องผมบาง ผมขาดหลุดร่วงมากผิดปกติ ปูเป้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยสาเหตุจะดีที่สุดครับ นอกเหนือจากการใช้ตามสั่งของแพทย์แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดูแลในชีวิตประจำทั่วไป เช่นแชมพู ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ก็มีส่วนสำคัญ เราสามารถนำส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ให้คุณหมอเช็คว่าสามารถใช้ร่วมกับการรักษาหลักได้หรือไม่ รวมไปถึงการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด

ทั้งหมดนี้ทำให้ปูเป้รู้สึกว่าเราไม่ควรชะล่าใจในการดูแลปัญหาหนังศีรษะ เพราะหนังศีรษะที่มีการระคายเคือง มีรังแค คัน ก็นำไปสู่การอักเสบและส่งผลต่อสุขภาพของหนังศีรษะและโครงสร้างของโพรงขนจนอาจทำให้เกิดการหลุดร่วงและผมบางลงในที่สุด จะว่าไปปูเป้ก็พบว่าทาง Eucerin มีทรีตเมนต์สำหรับหนังศีรษะแห้งและระคายเคืองเหมือนกัน แต่ยังไม่มีขายในไทย ปูเป้ว่าตัวนั้นน่ะตอบโจทย์ปัญหาที่ตัวเองมีแบบสุด ๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองใช้ตัวนั้นดูเหมือนกันล่ะ

หากใครอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมและหนังศีรษะจากยูเซอริน สามารถคลิกได้ที่ http://bit.ly/2ERrhki

 

Products Sponsored by  Eucerin Thailand