ปัญหาเรื่องผมร่วงหรือเส้นผมบางเป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความกังวลของเราเลย เนื่องจากกรรมพันธุ์ที่ถูกส่งต่อมาทำให้หัวเราผมดกดำแน่นหนา อยู่บ้านหันไปมองบิดามารดาที่อายุเลข 6 กลางๆ กับใกล้เลข 7 แล้วยังไม่มีใครหัวล้านกันเลยสักคนทำให้เรายิ่งวางใจว่าเราจะไม่มีปัญหานี้ ทำให้เราไม่ได้สนใจกับหมายเชิญจากทาง Svenson ซึ่งเป็นสถาบันที่เชี่ยวชาญด้านปัญหาผมร่วงและสุขภาพหนังศีรษะแต่อย่างใด
แต่พอดีเราไปเจอเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันโดยบังเอิญและเขาถามพร้อมกับความมั่นใจว่าเราน่าจะให้คำแนะนำเขาได้ว่าเขาเริ่มมีปัญหาผมบางแล้วจะทำยังไง เราก็พบว่าเราไม่ได้มีความรู้ตรงนี้เท่าไหร่เลย ทั้งที่เส้นผมก็เป็นเรื่องของความงามและภาพลักษณ์ที่ส่งผลกับความมั่นใจของคนเราไม่แพ้กับผิวพรรณที่ดูดีเลย ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะต้องเพิ่มความรู้ของตัวเองให้มากขึ้นจึงตอบตกลงไปเก็บข้อมูลกับทาง Svenson เพื่อมาแชร์ข้อมูลให้กับคนที่สนใจกันซะหน่อย
วันที่ทางทีมงานนัดไปปูเป้ก็ได้พบกับคุณ Deborah Whelan เธอเป็น Trichologist ผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปี โดย Trichologist ก็คือผู้ที่ศึกษาและเชี่ยวชาญเกี่ยวกับปัญหาหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับเส้นผมและหนังศีรษะ นั่นเอง ซึ่งเธอจะเป็นผู้ที่ช่วยวิเคราะห์ปัญหาและแนะนำวิธีรักษาผ่านการทำทรีตเมนต์ในคลีนิค รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับไปใช้ที่บ้าน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องของการรับประทานอาหารอีกด้วย ซึ่งปูเป้ได้อัดเสียงตอนพูดคุยกับเธอและมาสรุปให้เป็นหัวข้อตามนี้
– ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การออกกำลังกายที่มากเกินส่งผลกับเรื่องของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมน Cortisol และเรื่องของ Micro-Inflammation ซึ่งทำให้การทำงานของเซลล์ไม่ดี การไหลเวียนโลหิตย่ำแย่ การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ทำได้ด้อยลง ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อสุขภาพของรากผม เส้นผม และหนังศีรษะ
– ฮอร์โมน Estrogen ทำให้วัฏจักรของเส้นผมในช่วงเจริญเติบโตอยู่ได้ยาวนานขึ้นและยืดเวลาในช่วงที่เส้นผมพักตัวให้อยู่นานขึ้น ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงถึงมีปัญหาผมร่วงผมบางหลังวัยทองที่ฮอร์โมนตัวนี้น้อยลง แต่ถ้ามีมากไปก็ทำให้มีปัญหาผมร่วงได้อีกเช่นกัน ดังนั้นระดับฮอร์โมน Estrogen ที่พอดีจะดีที่สุด
– DHT หรือ Dihydrotestosterone เป็นหนึ่งในฮอร์โมนเพศที่สำคัญของร่างกาย แต่ในบางรายที่มีพันธุกรรมไวต่อ DHT เป็นพิเศษก็จะทำให้เกิดปัญหาผมหลุดร่วงได้ง่ายโดยเฉพาะในเพศชาย เนื่องจาก DHT จะไปลดระยะเวลาในวัฏจักรช่วงการเจริญเติบโตของเส้นผมให้สั้นเรื่อย ๆ จนผมแทบจะไม่ขึ้นใหม่อีกเลย การแก้ปัญหาตรงนี้จะต้องใช้ส่วนผสมที่ช่วยต้านการทำงานของ DHT หรือใช้ส่วนผสมที่ลดการทำงานของเอนไซม์ 5-Alpha-Reductase ไม่ให้แปลง Testosterone ไปเป็น Dihydrotestosterone ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้มีทั้งในรูปแบบของยาและสารที่สกัดได้จากพืชธรรมชาติ
– การกินของเรามีส่วนมากเหมือนกัน ถ้ามีปัญหาหนังศีรษะมันมากหรือผมร่วง ให้ลดการรับประทานผลิตภัณฑ์นมลง และแม้ถึงว่าอะโวคาโดกับแซลมอนจะเป็นแหล่งของน้ำมันที่ดี แต่การกินมากไปก็ไม่ดีเช่นกัน โปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผมดังนั้นการได้โปรตีนที่เพียงพอจึงจำเป็นมาก มื้ออาหารที่จำเป็นที่สุดคือมื้อเช้า รองลงมาคือมื้อกลางวัน อาหารค่ำคือกินไม่ต้องมากก้ได้
– ถ้ามีปัญหาเรื่องผมบางหรือผมร่วงไม่ควรดื่มชาในระหว่างที่เรากินอาหารเพราะว่าชาจะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแร่ธาตุจำเป็นอื่น ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นในการผลิตพลังงานของเซลล์ ซึ่งเส้นผมเป็นหนึ่งในส่วนที่มีการสร้างและทำงานเยอะที่สุดในร่างกาย ดังนั้นเส้นผมจึงป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นปัญหาของร่างกายและสุขภาพได้ค่อนข้างชัดเจนเมื่อมีอะไรที่มากไปหรือน้อยไปในร่างกาย
– คุณ Deborah พบว่าคนเอเชียโดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะบอกว่าตัวเองมีปัญหาเส้นผมมัน หนังศีรษะมันเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้น และบางส่วน โดยเฉพาะผู้ชายจะสระผมมากถึงวันละสองครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังพยายามเอาน้ำมันออกจากเส้นผมและหนังศีรษะออกมาให้มากที่สุดด้วยการใช้น้ำที่ร้อนในการสระผม รวมถึงการเกาหนังศีรษะอีกด้วย
– น้ำมันจำเป็นต่อสุขภาพของหนังศีรษะ และในทุกรูขุมขนบนหนังศีรษะจะมีต่อมไขมันอยู่ซึ่งเส้นผมจะช่วยดูดซับน้ำมันเหล่านี้ไปด้วย น้ำมันเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่ดี และเมื่อรวมกับชั้นของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพที่ทับถมกันเป็นชั้นหนาผสมเข้ากับน้ำมันจนทำให้เกิดความเหนอะหนะที่นำไปสู่การอาการคันศรีษะ และปัญหาผมร่วงตามมาได้
– การสระผมควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ คืออุ่นกำลังดี ไม่ร้อนไป และไม่เย็นจัด เนื่องจากความเย็นที่มากไป ความร้อนที่สูงไปทำให้หนังศีรษะ (และผิวหนัง) ของเราระคายเคืองได้
– การสระผมที่ถูกต้องคือห้ามเกา ห้ามใช้เล็บ แต่ใช้แค่ปลายนิ้วนวดเบา ๆ ลงบนหนังศีรษะ การเกา การขยี้แรง ๆ เป็นการทำให้หนังศรีษะระคายเคือง และกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากเกินไปได้
– แชมพูอย่าเลือกชนิดที่มีซิลิโคนมากเกินไปเพราะมันสะสมบนหนังศีรษะได้และก่อปัญหาตามมาทีหลัง อย่าใช้แชมพูที่ดึงน้ำมันออกจากหนังศีรษะมากเกินไปเช่นเดียวกัน
– การใช้คอนดิชันเนอร์ที่ถูกต้องนั้น ต้องบีบน้ำออกจากเส้นผมหลังสระด้วยแชมพูก่อนลงคอนดิชันเนอร์เพื่อให้คอนดิชันเนอร์ทำงานได้ดีขึ้น ลงคอนดิชันเนอร์เน้นปลายผม ไม่จำเป็นต้องลงที่หนังศีรษะ
– ห้ามเกา เพราะการเกาจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง เป็นแผล ยิ่งลอก ซึ่งทำให้อากาคันยิ่งแย่ลงไปอีกซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของรากผมด้วย
– วิธีแก้คัน ให้ใช้ด้านหลังของข้อนิ้ว (มะเหงก) ของเราแทนปลายนิ้วที่เราใช้จิ้ม หยิบจับสารพัดในระหว่างวันทำให้มีแบคทีเรียเยอะมาก ใช้หลังข้อนิ้วกดและวนเบา ๆ บริเวณที่คันสักครู่ จะช่วยลดอาการคันไปได้
– ถ้ามีปัญหาคันหนังศีรษะเป็นจุด ๆ แต่ยังไม่ถึงกับลอกเป็นขุย ให้ลองใช้ Glycerin บริสุทธิ์ แต้มลง ๆ ลงบนจุดที่คันในขณะที่หนังศีรษะยังเปียก จะช่วยลดอาการคันได้
– ถ้าหนังศีรษะคันและเป็นขุย จะต้องมีการใช้แชมพูที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือทำทรีตมนต์ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวสะสมออกจากหนังศีรษะ
จะเห็นได้ว่าปัญหาของหนังศีรษะและเส้นผม โดยเฉพาะผมร่วงนั้นมาทั้งจากปัจจัยด้านพันธุกรรมเองก็ดี รวมไปถึงปัจจัยด้านสุขภาพและสภาพแวดล้อม รวมไปถึงพฤติกรรมของเราอีกด้วย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาอย่างได้ผลจึงต้องแก้ที่ตรงจุดซึ่งการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะช่วยทำให้เรารู้สาเหตุของปัญหาเราได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
พร้อมกันนี้คุณ Deborah Whelan ยังแนะนำว่าหากคุณกังวลเรื่องปัญหาผมร่วง หรือมีแนวโน้มทางกรรมพันธุ์ว่าจะมีปัญหาศีรษะล้าน คุณควรจะมารับคำปรึกษาเพื่อดูแลและป้องกันปัญหาผมร่วมก่อนที่จะเป็นหนัก เพราะการป้องกันนั้นทำได้ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่าการแก้ไขมากนัก
ได้ยินเกี่ยวกับสถาบัน Svenson มานาน แต่เราไม่เคยสนใจมาก่อนเลย จะด้วยเพราะตัวเราเองไม่มีความกังวลเรื่องผมร่วงหรืออะไรก็ตาม วันนี้เราพึ่งรู้ว่า Svenson เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1956 และมีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก โดยผู้บริหารในภาคพื้นเอเชียได้เปิดสาขาไปใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย อินโดนีเซียและเมืองมาเก๊า โดยทุกที่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ คอยให้คำปรึกษา
ปูเป้ได้พูดคุยกับทางผู้บริหารเพื่อสอบถามเป็นข้อมูลว่าตลาดและกลุ่มผู้ที่มาใช้บริการเป็นคนกลุ่มใดก็ได้รับข้อมูลว่ากลุ่มผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และช่วงอายุที่มาใช้บริการกันเยอะจะอยู่ในช่วง 30+ เพราะอยู่ในช่วงวัยที่ภาพลักษณ์ยังมีส่วนสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวันและอาจรวมถึงในหน้าที่การงานที่บุคลิกเป็นเรื่องสำคัญในทุกวันนี้ ในปัจจุบันนี้แนวโน้มของผู้ที่มารับคำปรึกษาและรับบริการจะมีแนวโน้มอายุน้อยลงเรื่อยๆ อาจเป็นเนื่องจากปัญหาความเครียดที่มีเพิ่มขึ้น รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญไม่ว่าจะการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรือแม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากไป ทำสีหรือเคมีมากไปจนหนังศีรษะระคายเคืองและอ่อนแอลง
ซึ่งทาง Svenson ได้นำเสนอโปรแกรม Comprehensive Hair Disgnostic ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ส่งเส้นผมเข้าตรวจในห้องแล็บ ที่ประเทศอิตาลีในการตรวจวิเคราะห์ปัญหาด้วยการวิเคราะห์เส้นผมในระดับเซลล์เพื่อดูสาเหตุของปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องพันธุกรรม ระดับฮอร์โมน ความเครียด ปริมาณแร่ธาตุ และภาวะอักเสบในโพรงเส้นผมที่มีผลต่อหนังศีรษะและเส้นผมด้วยเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
ไหน ๆ ก็ลองมาแล้วปูเป้จึงลองทำทรีตเมนต์ดูด้วย เพราะส่วนตัวแม้จะไม่มีปัญหาเรื่องของผมร่วง แต่มีปัญหาเรื่องหนังศีรษะที่คัน และเป็นรังแคได้ง่าย ซึ่งทรีตเมนต์ที่ได้ลองก็ใช้เครื่องมือช่วยในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบอัลตร้าโซนิคในการช่วยเอาเซลล์ผิวเสื่อมสภาพบนหนังศีรษะออกไปอย่างอ่อนโยน และใช้เครื่องมือในการผลักทรีตเมนต์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติในการช่วยผ่อนคลายและลดการอักเสบบนหนังศีรษะซึ่งรู้สึกสบายมากจนหลับคาเก้าอี้ไปเลยล่ะ
การมารู้จักกับ Svenson ในครั้งนี้ค่อนข้างเปลี่ยนแนวคิดของเราไปหลายเรื่อง และพบว่าการกระทำในชีวิตประจำวันของเรานั้นก็ทำให้ปัญหาหนังศีรษะของเราแย่ลง (ห้ามเกาหัวด้วยปลายนิ้วและเล็บอีกต่อไป) และที่ Svenson นี้ไม่มีบริการปลูกผมล่ะ เขามองว่าสิ่งนั้นก็ช่วยได้นะ แต่ถ้าคุณยังดูแลปัญหาอื่น และดูแลหนังศีรษะอย่างไม่ถูกวิธี เส้นผมที่ปลูกใหม่มันก็จะอ่อนแอและก็หลุดร่วงไปอีกอยู่ดี ดังนั้นถ้ามาดูแลก่อนที่ปัญหาจะเกิดและดูแลตลอดไปเราก็ไม่ต้องไปปลูกผมให้เจ็บตัวตั้งแต่แรกแล้ว หรือถ้าปัญหาเกิดขึ้นมาแล้วและต้องไปปลูกผมก็ยังต้องดูแลเส้นผมและรากผมที่ปลูกใหม่เป็นอย่างดีเพื่อรักษามันให้อยู่กับเรายาว ๆ ไปต่อ ไม่ต่างอะไรกับการไปทำเลเซอร์ ไปดึงหน้ามา แล้วก็ยังต้องใช้สกินแคร์ที่ดีและบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องเพื่อคงผลของการลงทุนให้อยู่ได้ยาวที่สุดนั่นเอง